Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 385 ที่รัก….คืนนี้คุณดูแปลกๆ นะ

เฉินตงไม่รู้สึกว่าที่ตัวเองทำแบบนี้ มันจะผิดอะไร

ตอนนั้นที่หวางหนันหนันและคนในครอบครัวทำเรื่องเหล่านั้น พวกเขารู้สึกผิดมั้ย?

ตอนนี้เขามีชีวิตใหม่แล้ว เขาเกิดใหม่แล้ว จะไม่มีทางยอมให้ระหว่างเขากับกู้ชิงหยิ่ง เกิดเรื่องหรือมีตำหนิใดๆ อีก

คลับสี่ยิ่น ในลานป่าไผ่

ฟ่านลู่ได้ทำกับข้าวเสร็จแล้ว

กู้ชิงหยิ่งกำลังตั้งใจดูทีวีอยู่ในห้องนั่งเล่น

ท่านหลงกับคุนหลุนอยู่มองดูอยู่ด้านข้าง เบื่อเล็กน้อย

รายการในทีวี ทำให้ผู้ชายอย่างเขาทั้งสองคนหัวโต

“คุณนายน้อย คุณดูรายการสอนถักเสื้อทำไม?” ท่านหลงถาม

“เรียนรู้ไง”

กู้ชิงหยิ่งที่ตั้งใจดู ตอบกลับ “ฉันอยากจะถักเสื้อให้กับลูกน้อยไงล่ะ”

“ถักเสื้อ?”

ท่านหลงกับคุนหลุนตกใจพร้อมกัน

คุนหลุนพูดโดยไม่คิด “คุณนายน้อย คุณเป็นคุณนายน้อยของตระกูลเฉิน และเป็นคุณหนูของตระกูลกู้ เสื้อของลูกไม่ต้องให้คุณถักด้วยตัวเองหรอก”

อันที่จริงเขาอยากจะพูดว่าไม่ขาดแคลนเงินทอง อย่าว่าแต่ชุดทารกทั่วไปเลย ต่อให้ชุดหยกเลี่ยมทอง ก็สามารถหาซื้อมาได้ง่ายๆ

เพียงแต่คำพูดนี้ไม่ค่อยจะเหมาะสม เขาจึงได้เปลี่ยนเป็นคำพูดอื่น

กู้ชิงหยิ่งส่ายหัว “ฉันรู้ว่าสามารถซื้อได้ แต่ฉันรู้สึกว่าหากฉันสามารถถักเสื้อให้ลูกสักตัว มันจะความหมายมากเลย”

ขณะที่พูด เธอก็หันไปพูดกับคุนหลุน “พี่คุนหลุน รบกวนพี่ไปช่วยฉันซื้อเส้นไหมพรมหน่อยจะได้มั้ย เอาไหมแท้นะ เบาและหนุ่มกว่า น่าจะเหมาะกับผิวเด็กมากกว่า”

คุนหลุนอึ้งไปเลย

หลังจากที่เห็นสัญญาณจากสายตาของท่านหลงแล้ว จึงหันหลังเดินออกไป

เพิ่งจะเดินมาถึงที่ลาน คุนหลุนก็ได้เจอกับเฉินตงที่กลับมา

“คุนหลุน ทำไมรีบร้อนจัง จะไปไหน?” เฉินตงถามอย่างสงสัย

คุนหลุนยักไหล่ “คุณนายน้อยจะฝึกถักเสื้อ อยากจะถักเสื้อให้กับลูกที่อยู่ในท้องของเธอ”

“ถักเสื้อ?”

เฉินตงประหลาดใจไปครู่หนึ่ง ก็ยิ้มแล้วกล่าว “งั้นพี่รีบไปเลย ซื้อมาเยอะหน่อย ซื้ออย่างที่ดีที่สุด”

“คุณชาย คุณก็จะให้คนนายน้อยถักเสื้อเหรอ?”

คุนหลุนที่อยู่ต่อหน้าเฉินตง ไม่ได้กังวลอะไร ก็พูดอย่างตรงไปตรงมา “คุณนายน้อยเป็นลูกคุณหนู จะทำงานหนักแบบนี้ได้ยังไงล่ะ ตอนนี้ยังท้องอยู่ คุณก็ไม่รู้จักห้ามปรามเลย”

“สิ่งที่เสี่ยวหยิ่งอยากจะทำ ฉันก็ต้องสนับสนุนอยู่แล้ว”

เฉินตงยิ้มๆ แล้วพูด “พี่คุนหลุน พี่ยังไม่แต่งงาน พี่นั้นไม่เข้าใจความสุขที่มีคนยินดีเปลี่ยนแปลงเพื่อพี่หรอก”

คุนหลุนนิ่งไปครู่หนึ่ง

ส่ายหัวอย่างจนใจ หันหลังเดินจากไป

ตอนที่ใกล้จะถึงประตู เฉินตงก็ได้ตะโกนตามมา “ต้องซื้ออย่างดีที่สุดนะ!”

เฉินตงเดินเข้าไปในห้องนั่งเล่น เห็นกู้ชิงหยิ่งกำลังดูคลิปวิดีโอสอนถักเสื้อทางทีวีด้วยสีหน้าที่จดจ่อ อดไม่ได้ที่จะรู้สึกอบอุ่นหัวใจ

ยัยเด็กโง่คนนี้ เปลี่ยนไปมากจริงๆ

ในความงุนงง เขาคิดถึงเรื่องของหวางหนันหนัน อดไม่ได้ที่จะรู้สึกผิดต่อกู้ชิงหยิ่งมากเข้าไปอีก

“คุณชาย”

ท่านหลงลุกขึ้นกล่าว

เฉินตงพยักหน้า นั่งลงข้างกายกู้ชิงหยิ่ง “เรียนรู้ไปถึงไหนแล้ว?”

“พอประมาณแล้ว คืนนี้สามารถลองกับคุณก่อน” กู้ชิงหยิ่งพูด

“ได้สิ คืนนี้อยากทานอะไร ผมจะทำให้คุณทาน” เฉินตงถาม

กู้ชิงหยิ่งตอบไปอย่างส่งๆ “อยากกินกุ้งแดงเสฉวน”

“ได้สิ”

เฉินตงลุกขึ้นเดินไปในครัว

เมื่อกู้ชิงหยิ่งรู้สึกตัว มองเห็นเฉินตงเดินเข้าไปในห้องครัว ก็บ่นอย่างสงสัย “เจ้าทึ่มวันนี้เป็นอะไรอีกเนี่ย?”

ท่านหลงที่อยู่ด้านข้างใบหน้าเต็มไปด้วยความตะลึง รีบตะโกนเรียก “คุณชาย คนท้องกินกุ้งแดงไม่ได้”

เฉินตงที่เพิ่งจะก้าวเข้ามาในห้องครัว ก็อึ้งไปทันที

จากนั้นเขาก็หันหน้ามาเกาหัวอย่างซื่อๆ แล้วพูด “ฮ่าๆ ผมสะเพร่าไปแล้ว เสี่ยวหยิ่งเปลี่ยนเมนูหน่อย”

“อยากกินไข่ผัดมะเขือเทศ” กู้ชิงหยิ่งระงับความสงสัยไว้ในใจ แล้วตอบ

“ได้”

เฉินตงยิ้มพร้อมกับพยักหน้า ก็เข้าไปทำกับข้าวในครัว

ในห้องนั่งเล่น

กู้ชิงหยิ่งกับท่านหลงต่างมองหน้าซึ่งกันและกัน

“ท่านหลง คุณรู้สึกว่าวันนี้เฉินตงแปลกๆ มั้ย?”

กู้ชิงหยิ่งพูดอย่างสงสัย “เขาไม่ได้ทำอาหารให้ฉันทานนานแล้ว เมื่อกี้ก็ดูใจลอยๆ ด้วย”

ท่านหลงก็พยักหน้า รับปากจะทำกุ้งแดงเสฉวนให้คนท้องกิน มันช่างไม่สมเหตุผลเลย

“บางทีคุณชายอาจอยู่ภายใต้ความกดดันที่มากเกินไป ใจเลยว่อกแว่ก”

มันคือความเป็นไปได้ที่ท่านหลงคิด “และตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่านายท่านอยู่ไหน”

กู้ชิงหยิ่งพยักหน้า สองมือกุมแก้มไว้ กล่าวอย่างเศร้าๆ “น่าเสียดายที่ฉันช่วยอะไรเขาไม่ได้เลย”

เมื่อคุนหลุนซื้อเส้นไหมพรมเนื้อนุ่มกลับมาเป็นจำนวนมาก ทุกคนก็เริ่มทานอาหารค่ำ

กู้ชิงหยิ่งกินไข่ผัดมะเขือเทศไปจานใหญ่ แม้แต่น้ำขลุกขลิกก็ไม่ให้เหลือ ชื่นชมฝีมือการทำอาหารของเฉินตงอย่างซ้ำๆ

ในใจเฉินตงรู้สึกผิด ก็ไม่มีกะจิตกะใจกินข้าว เอาแต่จ้องมองกู้ชิงหยิ่ง

และภาพนี้ ถูกทุกคนที่ทานข้าวอยู่มองเห็นอย่างชัดเจน

ต่างแสดงความสงสัยออกมา

หลังจากทานอาหารค่ำเสร็จ เฉินตงกับกู้ชิงหยิ่งเดินย่อยไปครู่หนึ่ง กู้ชิงหยิ่งก็บ่นอยากจะกลับไปถักเสื้อที่ห้องแล้ว

เฉินตงทำได้เพียงตกลง

ในห้องนอน สว่างไสวไปด้วยแสงไฟ

เฉินตงนั่งอยู่ด้านข้าง มองกู้ชิงหยิ่งที่จัดเส้นไหมพรมกับเข็มถักโคเชต์อย่างใจจดใจจ่อ

เรื่องเย็บปักถักร้อย สำหรับคนทั่วไป มันช่างง่ายดายนัก

แต่กู้ชิงหยิ่งตั้งแต่เล็กจนโตก็ถูกเลี้ยงเหมือนไข่ในหิน มือไม่เคยเปื้อน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงงานเย็บปักถักร้อยที่ต้องใช้ความละเอียดแบบนี้เลย

ยิ่งมองท่าทางของกู้ชิงหยิ่งที่กำลังใจจดใจจ่ออยู่ตอนนี้ เฉินตงก็ยิ่งรู้สึกว่าการปรากฏตัวของหวางหนันหนัน ช่างผิดต่อกู้ชิงหยิ่งนัก

เพียงแค่เอาไหมพรมสอดกับเข็ม กู้ชิงหยิ่งก็ใช้เวลาไปเกือบห้านาที

หลังจากที่เตรียมทุกอย่างพร้อมแล้ว

กู้ชิงหยิ่งก็กวักมือเรียกเฉินตง “ที่รักมานี่”

“อะไร?” เฉินตงก็รู้สึกตัว ถามอย่างสงสัย

“ถักเสื้อไง เพื่อลูกน้อย คุณทนหน่อยให้ฉันฝึกมือก่อน”

กู้ชิงหยิ่งจัดระเบียบชุดนอนแล้ว ก็ลุกขึ้นดึงเฉินตงมานั่งข้างเตียง

“คุณนั่งให้ดี ฉันจะเริ่มถักแล้วนะ”

เฉินตงขมวดคิ้ว รู้สึกว่าเหมือนมันมีบางอย่างที่ผิดปกติ

จนกระทั่ง สัมผัสถึงเสียงฉึกๆ ที่ดังขึ้นด้านหลัง

จากนั้น ก็มีความเจ็บปวดเกิดขึ้น

ในที่สุดเขาก็รู้แล้ว ว่ามันผิดปกติตรงไหน!

“ที่รัก คุณใช้ผมในการฝึกถักเสื้อ คือถักโดยตรงบนตัวเลยเหรอ?”

เฉินตงฉีกปากและสูดลมหายใจเข้า จากนั้นหันหน้ามาพูดกับกู้ชิงหยิ่ง

กู้ชิงหยิ่งมองเขาอย่างกะพริบตา ใบหน้าเต็มไปด้วยความงุนงง “ทำแบบนี้ไม่ถูกเหรอ?”

“มันต้องใช้สายวัดมาวัดขนาดของตัวผมก่อน จากนั้นก็ใช้ไหมพรมถักไม่ใช่เหรอ?”

เฉินตงหัวโตทันที การวัดตัวพร้อมกับถักเสื้อแบบนี้ ผมเพิ่งจะเคยเห็นครั้งแรกจริงๆ

กู้ชิงหยิ่งรู้ตัวแล้ว ก็รีบตบหน้าผากตัวเองไปสองสามที “ใช่ๆ ทำไมฉันถึงคิดไม่ถึงเลยนะ”

เฉินตง “………..”

ในไม่ช้า กู้ชิงหยิ่งก็จัดไหมพรมกับเข็มของเธอใหม่ จากนั้นก็นั่งขัดสมาธิถักเสื้ออย่างใจจดใจจ่ออยู่บนเตียง

เฉินตงแอบโล่งอก นั่งมองดูอยู่อย่างเงียบๆ

ในที่สุดตอนนี้ภรรยาก็มีท่าทางของการถักเสื้อแล้ว

“ที่รัก ฉันรู้สึกว่าคืนนี้คุณดูแปลกๆ นะ” กู้ชิงหยิ่งจู่ๆ ก็ถามโดยที่ไม่ได้เงยหน้าขึ้น

เฉินตงอึ้งไปครู่หนึ่ง แววตาตื่นตัวเล็กน้อย

“ไม่นี่ แปลกตรงไหนเหรอ?”

กู้ชิงหยิ่งยังคงไม่เงยหน้าขึ้น กำลังตั้งใจถักทีละเข็ม พลางพูดขึ้น “ก็รู้สึกว่าใจไม่อยู่กับร่องกับรอย เรื่องที่คนท้องกินกุ้งแดงไม่ได้ก็ไม่รู้ ยังมีอีก คุณไม่ได้ทำกับข้าวให้ฉันนานแล้ว วันนี้จู่ๆ ก็ทำกับข้าวให้ฉัน ฉันรู้สึกว่าคุณต้องมีเรื่องปิดบังฉันอยู่”

คำพูดประโยคสุดท้าย ราวกับเข็มได้ทิ่มแทงเข้าไปในหัวใจของเขา

ทันใดนั้นทำให้ใจของเฉินตงว้าวุ่นอย่างมาก แววตาเหม่อลอย

แบบนี้ก็มองออกเหรอ?

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset