Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 417 สงสัย

ใกล้ถึงเวลาปิดตลาด

เฉินตงปิดคอมพิวเตอร์

แล้วนั่งรอฟังข่าวจากฉินเย่อย่างเงียบๆ

แน่นอนว่า ฉินเย่โทรมาอย่างรวดเร็ว

“พี่ตง ดูเหมือนวันนี้จะขาดทุนไปพันล้าน”

“ดีมาก”

เฉินตงยิ้มแล้วพยักหน้า ตอนนี้ ใบหน้าของเขาไม่ปรากฏความเคร่งเครียดอีกต่อไป

ฉินเย่รีบพูดขึ้นอีกว่า “พรุ่งนี้ก็จบเกมได้แล้ว”

“อืม พรุ่งนี้เช้าจบเกมทุกอย่างให้หมด ไม่ต้องเล่นต่อแล้ว หากเล่นนานเกินไป เกรงว่ามือฉมังอย่างเงินทุนจงเคอและการลงทุนซื่อหวาจะไหวตัวทันเสียก่อน”

เฉินตงกำชับด้วยความระมัดระวัง

คราวนี้สามารถมองเห็นแสงสว่างได้ นับว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

สามารถพลิกสถานการณ์ได้ในตอนสุดท้าย และทวงคืนสิ่งที่สูญเสียกลับคืนมาได้ ยิ่งไม่ใช่เรื่องง่าย

การรู้จักพอ เขาเข้าใจดี

หากไม่รู้จักพอ ก็เหมือนงูที่กลืนช้างเข้าไป สุดท้ายคนที่ต้องตายก็คือตัวเอง

วางสายโทรศัพท์

เฉินตงหาข้อความของกู้โก๋ฮั๋วเจอ จากนั้นจึงส่งข้อความกลับไปว่า “ขอบคุณครับพ่อ”

เฉินตงมองดูรูปกู้ชิงหยิ่งบนหน้าจอโทรศัพท์ ก็รู้สึกอบอุ่นขึ้นมาในใจ

สามารถหาภรรยาแบบนี้ได้ ถือว่าสวรรค์เมตตาต่อฉันจริง!

หากอาศัยเพียงแค่การช่วยเหลือจากหงหุ้ยและจุนหลิน กรุ๊ป เฉินตงคงไม่อาจคิดวิธีเช่นนี้ออกมาได้

เพราะเขารู้ดีว่า เรื่องของจุนหลิน กรุ๊ป ตอนนี้เป็นเพียงแค่การคาดเดา ก่อนที่จะแน่ใจ ก็ยังถือเป็นเรื่องที่ไม่แน่นอน

ส่วนหงหุ้ย เย่หยวนชิวรับปากที่จะช่วยเหลือ แต่เฉินตงก็ไม่คาดหวังว่าหงหุ้ยจะยอมลงแรงทั้งหมดที่มี

แต่ข้อความที่กู้ชิงหยิ่งส่งมาในตอนบ่าย กลับทำให้เขามั่นใจมากขนาดนี้ และได้วางแผนการที่จะปล่อยสายเบ็ดให้ยาวเพื่อล่อปลาใหญ่ให้มาติดกับอย่างเช่นตอนนี้

เป็นเพราะ

กู้ชิงหยิ่งบอกเขาว่า ได้ช่วยเขาติดต่อพ่อตาเรียบร้อยแล้ว บริษัทชิงหยิ่งจะเข้าตลาดเพื่อช่วยฉินเย่ดันราคาในช่วงจังหวะที่สำคัญ

หากมีเสาหลักอย่างพ่อตาอยู่ ก็จะมีวิธีเล่นที่มากขึ้น

Rothschild ถอนทุนออกไปแล้ว ทุนของเงินทุนจงเคอและการลงทุนซื่อหวายังอยู่ ดังนั้นเงินที่ขาดทุนไปจึงจำเป็นต้องหาคืนจากทั้งสองบริษัทนี้ ถึงขั้นอาจหาคืนมาให้ได้มากกว่าเดิมสักหน่อย!

การตัดสินสถานการณ์

เมื่อสถาพการต่างกัน วิสัยทัศน์และความคิดก็ต่างกัน

เฉินตงไม่ได้มีนิสัยอ่อนแอและสามารถรังแกได้ง่ายๆ เมื่อเกิดข้อผิดพลาดขึ้นก็รู้จักที่จะป้องกันตัว แต่เมื่อไหร่ที่ได้เปรียบ ก็ถึงเวลาที่จะคิดบัญชีทั้งหมด!

ออกจากบริษัท และเดินไปถึงชั้นล่าง

เฉินตงเห็นเย่หลิงหลงหมุนไปหมุนมาอยู่ที่หน้ารถของเธอ

เขาไม่ได้สนใจ แล้วเดินตรงไปยังรถของตนเอง

“นี่! หงหุ้นเราช่วยเหลือคุณมากมายขนาดนั้น คุณเห็นฉัน ก็จะไปเดินไม่ทักทายสักคำเลยหรือ?”

เฉินตงเพิ่งจะเดินไปถึงด้านข้างรถ ก็มีเสียงของเย่หลิงหลงดังขึ้นข้างๆ “จะไม่ขอบคุณสำหรับเรื่องนี้หน่อยหรือ เชิญฉันกินข้างสักมื้อ อย่างน้อยคุณก็ควรเห็นแก่ที่ฉันให้คุณยืมใช้รถ กล่าวทักทายฉันสักคำแล้วค่อยไปไม่ได้หรือ?”

เขาหันกลับไปมองเย่หลิงหลง “หรือจะให้ผมหยิบป้ายออกมา แล้วบังคับให้คุณคุกเข่าเรียกผมว่าผู้อาวุโสล่ะ?”

“คุณ……”

ใบหน้าอันงดงามของเย่หลิงหลงแดงก่ำขึ้นมา

เมื่อเธอเผชิญหน้ากับเฉินตง เธอมักจะรู้สึกว่าตนเองนั้นพร้อมจะจุดติดไฟ และระเบิดได้ทุกเวลา

เพราะการหยุดนิ่งในช่วงสั้นๆ เมื่อครู่ของเธอ ด้วยความงดงามของเย่หลิงหลง ทำให้ดึงดูดสายตาของผู้คนจำนวนมากให้หยุดดู

ตอนนี้เมื่อเห็นสาวงามคนหนึ่งยืนคุยกับชายหนุ่ม

ผู้ที่พบเห็นต่างก็อดไม่ได้ที่จะมองเฉินตงด้วยความอิจฉา

เมื่อรับรู้ได้ถึงสายตาแหลมคมที่จับจ้องมา เฉินตงก็ขี้เกียจที่จะสนใจเย่หลิงหลง จึงขึ้นนั่งบนรถทันที

เมื่อรถสตาร์ท ก็มีรูปร่างอันงดงามมายืนขวางหน้ารถเอาไว้

เฉินตงมีท่าทีเย็นชาลงทันที

นี่มันเกินไปแล้ว

“เฉินตง คุณลงมาเดี๋ยวนี้!”

เย่หลิงหลงยืนนิ่งตรงกระโปรงหน้ารถ

ภาพนี้ ทำให้ผู้พบเห็นต่างตกใจ

“ให้ตายเถอะ นี่มันเรื่องอะไรกันแน่?”

“ให้ตายเถอะ ทำไมฉันรู้สึกว่าเรื่องนี้มันชักเกินไปแล้ว?”

“ชายชั่วสลัดรักหญิงสาว ตอนนี้หญิงสาวจึงมาทวงคืนความยุติธรรม?”

……

เสียงวิพากษ์วิจารณ์ดังขึ้น

คนที่มามุงดูเหตุการณ์ ต่างไม่สนใจข้อเท็จจริง จินตนาการเรื่องออกไปต่างๆ นานาจน “ลึกมาก”

เย่หลิงหลงไม่ได้สนใจสายตาและคำวิพากษ์วิจารณ์เลยแม้แต่น้อย

เธอบิดเอวเข้าไปนั่งยังที่นั่งด้านข้างคนขับ

ยกมือขึ้นดึงประตู แต่กลับพบว่าไม่สามารถเปิดประตูรถได้

เย่หลิงหลงขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจเล็กน้อย

เธอโตจนป่านนี้ ยังไม่มีใครกล้าปฏิเสธไม่ให้เธอขึ้นรถ!

เฉินตงบ้า!

ลดกระจกรถลง

เฉินตงพูดกับเย่หลิงหลงอย่างเย็นชาว่า “ออกไป!”

“อะไรนะ?”

ใบหน้าของเย่หลิงหลงเต็มไปด้วยความประหลาดใจ คิดว่าตนเองหูฝาด “คุณว่าอะไรนะ?”

“เชิญคุณถอยออกไป!”

น้ำเสียงเย็นชาดังออกมาจากในรถ

แทบจะในเวลาเดียวกัน เสียงเครื่องยนต์ดังกระหึ่มขึ้น

เฉินตงเหยียบคันเร่ง แล้วขับออกไป ทิ้งให้เย่หลิงหลงยืนอึ้งอยู่ที่เดิม

ฮะ!

ผู้คนต่างตกตะลึง

เสียงอุทานดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง

“ให้ตายเถอะ ช่างไม่รู้จักอ่อนโยนกับผู้หญิงเอาเสียเลย เจ้าหนุ่มนั่นช่างแข็งกระด้างจริงๆ? ผู้หญิงที่สวยขนาดนี้ กลับทำหยาบคายใส่เธอ?”

“โฉมงามกับอสูรจริงๆ ทำไมสาวงามเช่นนี้ถึงไม่สนใจอสูรอย่างฉันบ้าง?”

“เชอะ พวกนายมันตาบอดกันทั้งนั้น ไม่ดูบางเลยว่าผู้ชายคนเมื่อครู่คือใคร นั้นคือเฉินตง เจ้าของบริษัทไท่ติ่งเชียวนะ!”

……

หลังจากเสียงพูดนี้ดังขึ้น สีหน้าของทุกคนก็เปลี่ยนไปทันที

เพราะเย่หลิงหลงนั้นงดงามมากจริงๆ ดังนั้นเมื่อครู่ตอนที่ยืนอยู่ที่รถบีเอ็มดับเบิลยู i8 ก็มีคนจำนวนไม่น้อยที่แอบยกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูป

อีกทั้งภาพระหว่างเฉินตงและเย่หลิงหลงเมื่อครู่ ก็ถูกถ่ายเอาไว้ทั้งหมดแล้ว

เกิดคลื่นลูกใหญ่ขึ้นในจิตใจของทุกคน

ในเมืองนี้ เฉินตงมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักมานานแล้ว

เรื่องที่เฉินตงแต่งงาน เป็นที่โด่งดังไปทั้งเมือง

แต่ภาพที่เกิดขึ้นเมื่อครู่……

กว่าทุกคนจะตั้งสติได้ เย่หลิงหลงก็ขับรถออกไปด้วยความโมโหนานแล้ว

ผู้คนที่หวนคิดถึงเรื่องนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเสียดาย ความงดงามเช่นนี้ ได้เห็นน้อยลงสักหน่อยก็ทำให้รู้สึกเสียดาย

แต่ในขณะที่รู้สึกเสียดายนั้น คนจำนวนหนึ่งที่ถ่ายรูปไว้ ก็อดไม่ได้ที่จะเกิดความคิดพลุ่งพล่านขึ้นมาในหัว

ในยุคที่สื่อพัฒนาไปอย่างก้าวไกล การที่จะกลายเป็นคนดังในโลกอินเทอร์เน็ตนั้นถือเป็นเรื่องง่ายมาก บางครั้งเพียงอาศัยแค่เป็น “ข่าว” สักหนึ่งครั้งก็เพียงพอ

เมื่อกลับไปถึงเขตวิลล่าเขาเทียนซาน

กู้ชิงหยิ่งกำลังจัดเรียงเอกสารอยู่

เมื่อเฉินตงเห็นก็รู้สึกเป็นห่วง จึงเดินเข้าไปใกล้ๆ แล้วพูดว่า “ที่รัก ตอนนี้คุณกำลังท้องอยู่ ต้องพักผ่อนให้มาก อย่าหักโหมเกินไปนัก”

ตอนนี้กู้ชิงหยิ่งเป็นคนดูแลบริษัทวัสดุก่อสร้างยิงลี่มาตลอด โครงการก่อสร้างของไท่ติ่งนั้น ล้วนแล้วแต่อาศัยการจัดหาวัสดุจากบริษัทวัสดุก่อสร้างหยิ่งลี่ทั้งสิ้น

“อีกสองวันพ่อกับแม่ก็จะมาแล้ว ฉันจะต้องจัดการเอกสารให้เรียบร้อยสักหน่อย ถึงตอนนั้นจะได้ให้พวกเขาช่วยฉันตรวจสอบดู?”

กู้ชิงหยิ่งยิ้มหวาน “เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ ไม่ทำให้ฉันเหนื่อยได้หรอกค่ะ ฉันดูแลบริษัทวัสดุก็สร้างยิงลี่ นี่เป็นงานที่ง่ายมาก กลับเป็นคุณต่างหากที่คอยเตือนฉัน แต่ตัวคุณเองก็ต้องรู้จักรักษาสุขภาพให้มากกว่านี้สักหน่อยจึงจะดี”

เฉินตงอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา

ไม่ใช่ว่าเขาเหนื่อยแค่ไหน แต่เป็นเพราะคำพูดของกู้ชิงหยิ่งทำให้เขานึกขึ้นมาได้

ด้วยวุฒิการศึกษาของกู้ชิงหยิ่ง ดูแลบริษัทวัสดุก่อสร้างยิงลี่หนึ่งบริษัท ก็ถือว่าเป็นการใช้คนที่มีความสามารถเหนือกว่างาน

เอกสารที่อยู่ในมือของกู้ชิงหยิ่งเหล่านี้ หากคิดจะจัดการ สำหรับกู้ชิงหยิ่งแล้วถือเป็นเรื่องง่ายมาก

หลังจากบิดขี้เกียจ เฉินตงก็ก้มลงไปจูบหน้าผากของกู้ชิงหยิ่ง “ผมขอตัวขึ้นไปอาบน้ำก่อน เดี๋ยวจะมาช่วยคุณจัดการ”

“ไปเถอะค่ะ”

กู้ชิงหยิ่งยิ้ม

มองดูเฉินตงที่เดินขึ้นไปชั้นบน ดวงตาของเธอก็สั่นเครือ รอยยิ้มบนใบหน้าก็ค่อยๆ จางหายไป

หลังจากเฉินตงขึ้นไปชั้นบนแล้ว

เธอก็พึมพำออกมาด้วยความสงสัยอีกครั้ง “กลิ่นหอมจากธรรมชาตินั่นอีกแล้ว……”

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset