(wnแปล)Shimotsuki-san wa mobu ga suki – ตอนที่ 1

เพียงชั่วพริบตาเดียว ก็ถึงเวลาเลิกเรียนแล้ว

ในขณะที่ผมกำลังกลับบ้านคนเดียว ในหัวก็เต็มไปด้วยเรื่องของสาวๆพวกนั้น

 

(พวกอาสึสะ ตอนนี้คงกำลังเดทกับริวซากิสินะ..)

 

ไม่ใช่แค่อาสึสะที่เป็นน้องสาว เพื่อนสมัยเด็กอย่างยุซุกิ และอดีตเพื่อนแสนสนิทอย่างคิราริก็ด้วย ทุกคนกำลังไปช๊อปปิ้งด้วยกันกับริวซากิ ไม่ใช่แค่นั้น เหมือนว่าจะไปลองชุดว่ายน้ำกันด้วย….พอคิดว่าทั้ง3คนจะให้ริวซากิดูตอนสวมชุดว่ายน้ำแล้ว หัวเหมือนจะระเบิดออกมา

 

แต่ก็ ไม่ได้อยู่ในจุดยืนที่จะมาหึงหวงอะไรได้

นี่มันคงเป็นเพียงความชิงชังของตัวประกอบที่น่ารังเกียจ ตัวผมนั้นเทียบไม่ได้กับริวซากิที่สารมารถจัดการกับทุกอย่างอย่างใจเย็นจริงๆนั่นแหละ เพราะแบบนั้นถึง ได้ถูกเรียกว่า ‘พระเอกฮาเร็ม’ หรือเปล่านะ

 

“กลับมาแล้วー”

 

กลับมาถึงบ้านแล้ว ก็แน่นอนว่าตัวคนเดียว

เพราะพ่อแม่อยู่ระหว่างเที่ยวต่างประเทศ ตอนนี้เลยอยู่กับน้องสาวอย่างอาสึสะกันเพียง2คน อาสึสะเคยอยู่ด้วยกันมาตลอด ในฐานะครอบครัวคนหนึ่ง เคยมอบความรักให้กันแท้ๆ…..แต่พอได้พบกับริวซากิ อาสึสะก็เอาแต่หมกมุ่น และกลายเป็นไม่แยแสผมอีกเลย

 

อืม นั่นมันก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้

เพราะถึงวัยรุ่นม.ปลายแล้ว จะพบคนที่ชอบและหลงอยู่กับมันก็ไม่ใช่แปลก

 

คนที่ผิดคือผม

ผมที่ไม่สามารถกุมหัวใจของอาสึสะเอาไว้ได้ จะไปหวังอะไรไม่เข้าเรื่องก็คงไม่ได้

 

เอาล่ะ ว่างทั้งทีทำอะไรดีล่ะ?

จะว่าไป ก็มีการบ้านคณิตศาสตร์อยู่ ดังนั้นเพื่อจะรีบเคลียให้เสร็จผมจึงไปที่ห้องตัวเอง

 

…..เมื่อก่อน ก็เคยมีติวหนังสือด้วยกันกับเพื่อนสนิทอย่างคิราริด้วยสินะ

คืนก่อนสอบ เรา2คนอยู่ในจุดที่กึ่งผ่านไม่ผ่าน ดังนั้นในคืนนั้นจึฃตั้งใจเรียนอย่างหนักทั้งคืน

 

อืม คงไม่มีการร่วมมือกันอีกเป็นครั้งที่2แล้วล่ะ

 

“…อะ ลืมหนังสือเรียน”

 

คงเพราะเอาแต่คิดเรื่องแย่ๆ

เพราะมีแต่เรื่องแย่ๆสุมรวมกันเยอะ เลยไม่ได้เอาหนังสือเรียนคณิตศาสตร์ใส่กระเป๋า แย่เลยนะ….การบ้านเองก็ยากเอาเรื่องด้วย ไม่มีกนังสือเรียนก็ไม่ได้

 

ในสถานการณ์แบบนี้ ถ้าปกติขอยืมยุซุกิที่อยู่ใกล้ๆกันหรืออาสึสะที่เป็นน้องสาวจะดีกว่า แต่ว่าช่วงนี้ไม่เคยได้คุยกันเลย จึงรู้สึกอึดอัด

 

ช่วยไม่ได้ ถึงจะไกลไปหน่อย แต่ไปเอาที่โรงเรียนเลยดีกว่า

พอคิดได้แล้วก็ออกจากบ้าน และไปที่ป้ายรถบัสเพื่อจะขึ้นรถบัส แต่ก็เป็นจังหวะนั้นที่นึกขึ้นได้ว่าลืมกระเป๋าตังไว้ที่บ้าน

 

(ช่างมันแล้ว เดินไปนี่แหละ…)

 

รู้สึกเหนื่อยแปลกๆ ถ้านึกถึงเรื่องเวลา รู้ว่าถ้ากลับไปหยิบกระเป๋าตังจากบ้านมาจะไวกว่า แต่ว่าเพราะรู้สึกว่าอยากเดิน จึงตัดสินใจเดินต่อไปทั้งแบบนั้นเลยดีกว่า

 

โรงเรียนมัธยมปลายชิราคุโมะที่2 ที่ผมไปนั้นใช้เวลาเดินไปประมาณ1ชั่วโมง ไม่ใช่ว่าเดินไปไม่ได้หรอก แต่ตอนที่มาถึงนั้นเป็นเวลา5โมงกว่าแล้ว

 

(ถ้ากลับบ้าน คงเป็นตอน6โมงกว่าๆแล้วสินะ….)

 

ข้าวเย็นวันนี้จะเอาอย่างไงดีล่ะ?

ถ้าเป็นเมื่อก่อน เพื่อนสมัยเด็กอย่างยุซุกิ จะมาทำกับข้าวให้กินถึงที่บ้านเลย แต่ว่าตอนนี้ไม่มีแล้ว อาสึสะเองก็ไปที่บ้านของริวซากิและอยู่ทานมื้อเย็นอยู่บ่อยๆ ทำให้ผมตอนทานข้าวคนเดียวบ่อยครั้ง

 

อืม แค่หาอะไรกินให้เหมาะสมก็พอแล้ว อย่างแย่ที่สุด ถึงจะไม่กินอะไรเลยก็คงไม่ตายหรอก

คิดแบบนั้นก็เสร็จก็มุ่งหน้าไปที่ห้องเรียน ที่โรงเรียนแทบไม่มีนักเรียนเหลืออยู่แล้ว ที่เหลืออยู่มีแต่พวกนักเรียนที่ทำกิจกรรมชมรมกันเท่านั้น

 

(ตอนนี้ พวกอาสึสะเองก็กำลังสนิทสนมกันอยู่สินะ….)

 

ระหว่างที่คิดอย่างนั้น เกิดเปิดประตูห้องเรียน

คิดว่าจะไม่มีคนอยู่ในห้องแล้วซะอีก ในนั้นกลับมีผู้หญิงอยู่คนหนึ่ง

 

(เอ๊ะ? ชิ ชิโมสึกิหรอ……?)

 

ที่นั่งข้างหลังของริวซากิ เรียวมะ

ตรงนั้นมีสาวน้อยผมขาวกำลังนอนหลับอยู่

 

“อืนー….ฟิ่วー”

 

ชิโมสึกิกำลังหลับ พร้อมกับเสียงลมหายใจที่แสนน่ารัก

เธอหลับลึกรึป่าวนะ เสียงตอนนอนก็ค่อยๆเล็ดลอดออกมาด้วย

 

(อะ เอาไงดีเนี่ย……? ถ้าปลุกจะเป็นอะไรมั้ย?)

 

ก่อนอื่นเลย ลองหยิบหนังสือคณิตจากโต๊ะตัวเองดูก่อน

ผมหวังว่าเธอจะตื่นขึ้นเมื่อรู้สึกถึงตัวตนของผม แต่เธอนั้นยังคงหลับอย่างสบายใจ

 

จะทำเป็นไม่เห็นแล้วกลับไปทั้งอย่างนี้เลยได้ไหมนะ

เท่าที่ผมเคยเห็นรีแอคชั่นของเธอ จะเห็นได้ว่าชิโมสึกินั้นไม่ถูกกับการถูกปลุกเท่าไร แม้แต่อีกฝ่ายเป็นริวซากิที่เป็นเพื่อนสมัยเด็กกัน ตอนถูกปลุกก็ไม่ได้รู้สึกดีเลย

 

อืม เพราะเป็นคนที่ไร้อารมณ์ เลยไม่ค่อยรู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่

 

(…เอาเถอะ ถึงจะถูกเกลียดก็ช่าง อย่างไงซะ ก็ตัวประกอบนี่นะ)

 

ถ้าปล่อยไว้แบบนี้ทำให้ผมรู้สึกผิด เลยยอมโดนเกลียดดีกว่า

ถ้ายังปล่อยให้นอนต่อไปแบบนี้ชิโมสึกิคง ต้องกลับบ้านกลางดึกดื่น แล้วถ้าไปโดนคนแปลกหน้า ทำอะไรใส่เข้า……คิดถึงเรื่องชวนไม่สบายใจแบบนี้แหละ

 

อย่างน้อย เท่าที่เห็นด้วยสายตา ชิโมสึกิ ชิโฮะนั้นน่ารัก

แม้แต่ริวซากิที่ไม่ได้มีปัญหาเรื่องผู้หญิง ยังจ้องมองเธอที่มีความงดงามเลย

 

บางที ถ้าเป็นไปได้ เธอควรจะกลับบ้านในตอนที่พระอาทิตย์ยังขึ้นอยู่จะดีกว่า

คิดได้แบบนั้น ผมก็ตัดสินใจปลุกชิโมสึกิ โดยคิดไว้แล้วว่าจะถูกเกลียด

 

“โอ่ーย เลิกเรียนแล้วนะ?”

 

ขั้นแรก ลองใช้เสียงเรียกแบบปกติก่อน

แต่ว่า ชิโมสึกิยังคงนอนอยู่แบบนั้น

 

“มุเฮะเฮะ…..”

 

ดูเหมือนจะเห็นฝันที่ดีมากเชียวนะ ถึงได้ทำหน้ายิ้มไม่เรียบร้อยแบบนั้นออกมา

เป็นรอยยิ้มที่ปกติไม่มีทางได้เห็น เลยทำให้เผลอใจเต้นนิดหน่อย

 

(บ้าเอ้ย แค่มองก็รู้สึกผิดแล้ว…)

 

ไม่ใช่ว่าตั้งใจจะมอง แต่เพราะเห็นหน้าตอนหลับของเธอทำให้รู้สึกขึ้นมา ผมจะรีบปลุกไวเลยยื่นมือออกไป แต่ตอนนั้นออกบางอย่างออกแหละหยุดมือ

 

(จะว่าไป ชิโมสึกินี่ ไม่ถูกกับการโดนแตะต้องตัวสินะ….)

 

ตอนที่ริวซากิพยายามจะลูบหัวเธอ เธอก็แสดงสีหน้ารังเกียจออกมา และปฏิเสธมือนั้นไป

บางที น่าจะไม่ถูกกับการโดนเนื้อต้องตัว เพื่อนสมัยเด็กอย่างริวซากิเอง ยังโดนปฏิเสธ คงจะไม่ชอบมากทีเดียว

 

คิดแบบนั้น ผมเลยตัดสินใจเขย่าโต๊ะแทน

เขย่าเสียงดังพร้อมกับส่งเสียงเรียกเธอ

 

“โอ่ーย ถ้าไม่รีบตื่น พระอาทิตย์จะหายไปแล้วนะ”

 

ครั้งนี้ ใส่โทนเสียงที่หนักขึ้นอีก

ทำแบบนี้ ในที่สุดชิโมสึกิก็เริ่มได้สติขึ้นมาแล้ว

 

“……..เหะ?”

 

ในขณะที่เสียงหลงออกมา เธอก็เงยหน้าขึ้น

น้ำลายที่เหมือนกำลังจะยืดออกมา แต่ในเสี้ยววินาทีนั้นเหมือนเธอจะนึกได้ว่าอยู่ที่โรงเรียน

 

“!!?”

 

เธอปิดปากอย่างรีบร้อน และมองมาที่ผม

ใบหน้านั้น ต่างจากสีหน้าตอนปกติ….มีสีแดง อยู่เล็กน้อย

 

“…..หะ เห็นไหม?”

“…..ผ้าเช็ดหน้า ให้ยืมนะ”

 

ส่งผ้าเช็ดหน้าที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อให้ และเธอก็รับไปอย่างลนลาน และเช็ดปากตัวเอง

 

“ขะ ขอบคุณ……เผลอให้เห็น ตอนน่าอายสะแล้ว”

 

บางทีเธอคงอายอยู่ ชิโมสึกิเบือนหน้าหนี

ระหว่างที่มองเธออย่างนั้น ผมก็กำลังตะลึงอยู่

 

(ชิ ชิโมสึกิ ครั้งแรกเลย ที่เห็นเธอพูดมากกว่า1คำ…..!)

 

ท่าทางของเธอดูแปลก…..หรือจะพูดอีกอย่าง เธอไม่เหมือนกับตอนปกติ

ต่อหน้าริวซากิเป็นสาวน้อยเงียบขรึมโนรีแอคชั่นแท้ๆ ตอนนี้รู้สึกคนละแบบเลย

 

“ทางนี้เองก็ ขอโทษที่ปลุกกระทันหันนะ? แต่ว่า ….มันเลิกเรียนไปแล้วนะ”

“เอ๊ะ? อะ จริงด้วย……ขอโทษนะ ที่ต้องอุตส่าห์มาปลุก”

 

ชิโมสึกิ ก้มหัวอย่างรวดเร็ว

ท่าทางของเธออยู่เหนือความคาดหมาย ทำให้ผมเผลอติดสตั้น

 

ไม่คิดเลยแฮะ ว่าจะได้รับคำขอบคุณ

 

“….? เป็นอะไรมาตั้งแต่เมื่อกี้แล้วน่ะ? เหมือนกำลังตกใจอะไรอยู่นะ”

 

ไม่สิ ก็เธอนะ…..ผมคิดว่าเธอเป็นผู้หญิงเงียบๆมาตลอดเลยนะ

แต่ว่า ความจริงเหมือนจะไม่ใช่แบบนั้น

 

“อุฟุฟุ เป็นใบหน้าที่ตลกจัง ทำหน้ายิ้มแห้งๆเหมือนตอนที่ป่าป๊าถูกบังคับให้กินสเต็กตอนที่เพิ่งตื่นนอนเลยนะ หม่าม้านี่ก็ เพราะรักป่าป๊ามากเกินไป ทุกเช้าเลยมีไฟ ทำกับข้าวจนเยอะเกินไปเลยล่ะนะ? ถ้าฉันได้คบกับใครบ้างจะเป็นแบบนั้นเหมือนกันไหมนะ….”

 

ชิโมสึกิ ชิโฮะนั้น เป็นคนที่พูดเก่งกว่าที่ผมคิดไว้อีก

เรื่องนั้น ทำผมประหลาดใจอย่างมาก…..

(wnแปล)Shimotsuki-san wa mobu ga suki

(wnแปล)Shimotsuki-san wa mobu ga suki

Status: Ongoing
อ่านนิยายเรื่อง (wnแปล)Shimotsuki-san wa mobu ga sukiผมนั้น ก่อนที่จะขึ้นชั้นมัธยมปลาย ไม่เคยคิดเลยว่าตนเองเป็นตัวประกอบ ไม่สิ ผมคิดว่าตัวเองคือสิ่งมีชีวิตที่ถูกเรียกว่า’ตัวเอก’ด้วยซ้ำ แต่ทว่า ตั้งแต่ที่ขึ้นชั้นมัธยมปลายและได้พบกับหมอนั่น ผมก็รู้ตัวทันทีว่าผมเป็นเพียงแค่ตัวประกอบ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset