(wnแปล)Shimotsuki-san wa mobu ga suki – ตอนที่ 40

พระเอก ริวซากิพูดเอาไว้แบบนี้

‘ถึงเวลาแล้วล่ะ ชั้นเองก็ไม่พอใจกับการเป็นแค่เพื่อนสมัยเด็กแล้วล่ะ’

อีกด้าน นางเอกรองอาสึสะพูดแบบนี้

‘ไม่ยอมแพ้ชิโมสึกิซังหรอก เพราะงั้นจะสารภาพรักกับเรียวมะโอนี่จัง’

แล้วก็ นางเอกหลักชิโมสึกิพูดแบบนี้

‘ถ้าสร้างความทรงจำดีๆกับนากายะมะคุงได้คงจะดีนะ’

ความคิดของแต่ละคนปะปนรวมกันมั่ว

ถ้าแบ่งเป็น*คิโชเท็นเค็ทสึ4ส่วนแล้วล่ะก็คงจะตรงกับส่วน’เท็น’ แต่ถ้าคิดถึง*โจฮะคิว3ส่วนแล้วล่ะก็ คงจะตรงกับส่วน’ฮะ’ ในที่สุดเนื้อเรื่องส่วนนี้ก็เริ่มขึ้นแล้ว

(เดี๋ยวมีอธิบาย*อยู่ล่างสุด)

สุดท้ายแล้ว ผลลัพธ์มันจะออกมาเป็นแบบไหนกันนะ

ถ้าคิดแบบโง่ๆแล้วล่ะก็…….คิดว่าส่วนนี้ริวซากิคงจะได้พัฒนาความสัมพันธ์กับชิโมสึกิไปอีกก้าว

เพื่อนสมัยเด็กที่เงียบและไม่เปิดใจมาตลอด ในที่สุดก็รู้สึกถึงความรู้สึกของพระเอก ที่เก็บซ่อนเอาไว้ในใจมาตลอดตั้งแต่ตอนเด็ก

‘ฉันเองก็ชอบริวซากิคุงเหมือนกัน’

ด้วยคำสารภาพรักจากสาวที่ชอบ ริวซากิกับนางเอกหลักจะได้อยู่ด้วยกัน

ส่วนสิ่งที่จะนำพามาสู่สิ่งนั้นได้คือ ‘คำสารภาพรัก’ของนางเอกรองอาสึสะ

พระเอกที่หัวทึบมาตลอดนั้น รับรู้ว่านางเอกรองอาสึสะชอบตัวเองจากคำสารภาพรัก แต่ว่า พระเอกนั้นมีคนที่อยู่ในใจอยู่แล้ว จึงปฏิเสธคำสารภาพรักของอาสึสะ

ในที่สุด พระเอกที่หัวทึบและไม่รู้ไม่ชี้อะไรเลยก็จะรู้สึกตัวซักที

ถึงริวซากิมันจะบอกว่า ไม่พอใจกับการเป็นแค่เพื่อนสมัยเด็กแล้วก็เถอะ……แต่ก็คิดว่า หมอนั่นมันคงไม่สารภาพรักอยู่ดี ถ้าไม่มีอะไรมากระตุ้น

ก็เพราะถ้าพูดถึงพระเอกฮาเร็มเกี่ยวกับความรักแล้วล่ะก็ ‘หัวทึบ’ ‘ตัดสินใจไม่เด็ดขาด’ ‘ไม่ทำอะไรเลย’ 3สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลย อย่าพูดถึงเรื่องสารภาพรักเลย แค่เรื่องสื่อความรู้สึกก็คงทำไม่ได้

แต่ว่า คำสารภาพรักของอาสึสะจะจุดไฟในตัวพระเอกและบอกกับตัวเองว่า ‘จะอยู่เฉยๆต่อไปไม่ได้แล้ว’ และจะต้องคิดว่า ‘เพราะชั้นปฏิเสธอาสึสะไปแล้ว ดังนั้นถ้าไม่สารภาพรักกับชิโฮะแล้วจะเสียมารยาทกับอาสึสะ!’แน่ๆ

ถึงอย่างนั้น อาสึสะที่ถูกปฏิเสธไปแล้วก็จะให้กำลังใจตัวเองว่า’เพิ่งโดนปฏิเสธแค่รอบเดียวเอง จะไม่ยอมแพ้จนกว่าซักวันเรียวมะโอนี่จังจะมาชอบ!’และหวังว่าในอนาคตความสัมพันธ์จะเปลี่ยนไป

และแล้ว เรื่องราวของริวซากิก็จบลงแบบนี้

ได้อยู่กับเพื่อนสมัยเด็กอย่างชิโมสึกิ เป็นแฮปปี้เอนดิ้ง

แต่ว่า นั่นก็เป็นเพียงแค่ฉากจบของ’บทที่1′

คิดไว้แล้วว่ามันจะต้องมีตอนต่อ เลิฟคอมเมดี้ของริวซากิเรียวมะอยู่แน่นอน

เพราะว่า มันยังมีอะไรหลายอย่างที่ยังไม่ถูกเปิดเผยออกมาเลย

เรื่องราวของสมาชิกฮาเร็มของหมอนั่นยังหลงเหลืออยู่

ดังนั้นในบทที่1พระเอกจะมีรักที่บริสุทธิ์ แต่ว่าตั้งแต่บทที่2พระเอกจะค่อยๆถูกเสน่ห์ของเหล่านางเอกรองดึงดูเรื่อยๆ นางเอกหลักในบทที่1ที่ทำหน้าที่ของตัวเองเสร็จแล้ว จะการเป็น’ภรรยาหลัก’ ที่จะคอยสนับสนุนพระเอก และยอมทนกับสาวคนอื่น

จากนั้นในที่สุด เรื่องราวของริวซากิเรียวมะก็จบลง

จบดั่งสายฟ้าแลบ แบบที่ยังคงเป็นฮาเร็มอยู่

ーーผมจินตนาการถึงเรื่องราวที่น่าเศร้าแบบนั้น

ถ้าคิดไปแบบโง่ๆแล้วล่ะก็ จะกลายเป็นแบบนี้ก็ไม่แปลก

แต่ทว่า ในเรื่องราวของริวซากินั้น……มีแค่อย่างเดียว ที่ไม่ได้เป็นไปตามองค์ประกอบอยู่

นั่นก็คือนางเอกหลัก ชิโมสึกิ

ทั้งๆที่เธออยู่ในตำแหน่งนางเอกหลัก แต่เธอไม่ได้สนใจพระเอกเลยแม้แต่น้อย

ด้วยเหตุนั้น ทำให้เนื้อเรื่องเกิดความซับซ้อน

มันเบี่ยงเบนไปจากมาตรฐานที่ควรจะเป็น ในทางกลับกันจะกลายเป็นจุดเริ่มต้นของความแปลกประหลาด

นอกเหนือจากตัวละครหลักและตัวละครรองนั้น ยังมีอีก1ตัวตนที่รวมอยู่ในนั้นด้วย

นั่นก็คือーตัวประกอบหรือผมนั่นเอง

สุดท้ายแล้วตัวประกอบนั้น จะยังคงเป็นตัวประกอบไปได้ตลอดมั้ย

สิ่งนั้น คนที่เป็นคนบรรยายอย่างผมเองก็ตอบไม่ได้……..

*******

อธิบายเพิ่มเติมจากข้างบนครับใครไม่ได้สนใจก็ข้ามไปได้เลย

*อย่างแรกคิโชเท็นเค็ทสึ(起承転結)เป็นการนำคันจิทั้ง4ตัวมาประกอบเข้าด้วยกัน เป็นการพูดถึงเนื้อเรื่องที่แบ่งออกเป็น4ส่วน

– 起 (คิ) จะเป็นส่วนของการเปิดเรื่องราว,บทนำ ของเนื้อเรื่องนั้นๆครับ

– 承 (โช) จะเป็นส่วนการดำเนินเนื้อเรื่องไปตามปกติครับ

– 転 (เท็น) จะเป็นส่วนที่เนื้อเรื่องจะมาถึงจุดพีค,จุดไคลแม็กซ์ ที่เปลี่ยนแปลงเนื้อเรื่องไปให้เข้มข้นขึ้นครับ

– 結 (เค็ทสึ) ส่วนสุดท้ายเป็นส่วนบทสรุป,ฉากจบ ของเนื้อเรื่องนั้นๆครับ

*อย่างที่2โจฮะคิว(序破急) อันนี้จะใช้แบ่งอะไรได้หลายอย่างเลยที่แบ่งออกเป็น3ส่วน แต่ในกรณีนี้จะพูดถึงแค่ใช้กับเนื้อเรื่องนะครับ

– 序 (โจ) เป็นการเปิดเรื่องราวโดยการพูดถึงฉาก ตัวละคร บลาๆ เป็นการเกริ่นในเนื้อเรื่องครับ

– 破 (ฮะ) เป็นส่วนหลักของเนื้อเรื่องที่เป็นส่วนดึงดูดผู้ชม ให้สนใจครับ

– 急 (คิว) เป็นส่วนจบ,บทสรุปของเนื้อเรื่องครับ