แมรี่ ปาร์คเกอร์
เธอมีชื่อแบบนั้น เพราะดูเหมือนจะเป็นนักเรียนที่มาจากอเมริกา
เธอเล่าว่า เพราะชอบวัฒนธรรมญี่ปุ่น ตั้งแต่เด็กก็เลยมาเที่ยวญี่ปุ่นบ่อยๆ
เพราะอย่างงั้น จึงได้คล่องภาษาญี่ปุ่นด้วย เธอชอบดูอนิเมะมาตั้งแต่เด็กและไปถึงระดับมาสเตอร์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ผมสีทองตาสีฟ้า เส้นผมมีความหยักโศกให้ความรู้สึกเป็นสาวงามสไตล์ตะวันตกและยังมีบุคลิกที่ร่าเริงอีกด้วย ซึ่งหาพบได้ยากจากคนญี่ปุ่น
เธอที่ปล่อยบรรยากาศที่ไม่ธรรมดาออกมา ไม่ว่ามองอย่างไง ก็ไม่ได้ให้ความรู้สึกว่เป็นตัวรองหรือตัวประกอบเลย
เธออาจจะเป็นตัวละครเสริม ที่ถูกเพิ่มมาให้เป็นตัวหลักก็ได้
ผมตีจินตนาการไว้แบบนั้น และก็ถูกเผงเลย
“หืーม นายชื่อว่าเรียวมะสินะ? เมื่อเช้า แต่งกิ้วนะ♪ เพราะแบบนั้น ถึงจบลงโดยไม่ต้องเสียครอบครัวไป อืม ถึงจะเป็นหมา แต่เพราะอยู่ตรงกีนมาตลอดก็เหมือนครอบครัวล่ะนะ!”
เป็นตอนหลังจากแนะนำตัวเสร็จทันที
ที่นั่งของแมรี่ซังที่จริงควรจะเป็นที่นั่งว่างหลังห้อง แต่เธอปรารถนาที่จะนั่งข้างริวซากิ
ที่นั่งกลางห้องของริวซากินั้น ถูกรายร้อมไปด้วยฮาเร็มของเขาอยู่
อาจารย์ซุซุกิก็ให้ความสำคัญกับนักเรียนที่ย้ายมาใหม่มากกว่า ก็เลยขอร้องใครสักคนในฮาเร็ม
แน่นอนว่า สมาชืกฮาเร็มนั้นไม่มีใครคิดจะไปไหนทั้งนั้น……จากนั้นผู้โชคร้ายที่ตกเป็นเหยื่อก็คือหญิงสาวที่มีผมสีเดียวกับเธอ
“เอาอย่างไงดีน้าー?อะ จริงด้วยสิ สาวน้อยผมทองตรงนั้นน่ะ ยกที่นั่งให้ฉันหน่อยนะ คาแรคเตอร์ของเธอมันหลอกลวงน่ะ อาจจะมีปัญหาก็ได้”
“….หา?”
ผู้หญิงที่ย้อมผมเป็นสีทองนั้น ก็คืออาซากุระคิรารินั่นเอง อดีตเพื่อนของผมอย่างเธอนั้น ดูจะไม่พอใจกับคำพูดของแมรี่ซัง
“ทำไมต้องเป็นเราด้วย?”
“ก็เพราะ ตาของเรียวมะจะเสียเอา! อีกอย่าง ถ้าเป็นคนญี่ปุ่นก็ต้องผมสีดำแท้ๆ ถ้าฝืนย้อมไป สีทองมันก็ไม่เหมาะกับเธอหรอกนะ”
“หะ หา!? ทำไมเจอกันครั้งแรกแล้วเธอถึงต้องพูดแบบนั้นออกมาด้วยล่ะ”
คำพูดของคิราริก็มีเหตุผล
แต่ว่า แมรี่ซังก็คงไม่ได้จะคิดร้ายอะไรล่ะมั้ง เธอยิ้มอย่างสดใส ระหว่างล้อเลียนคิราริ
“นิฮิฮิ โมโหซะแล้ว? น่าน่า ใจเย็นๆด้วยนะขอร้าบ~”
…..น้ำเสียงดูไม่ค่อยเข้าที่ คงเพราะด้นสดมา ถึงคาแรคเตอร์จะดูไม่ค่อยเข้าที่เข้าทาง แต่เธอที่มาในฐานะนางเอกคนใหม่ คงจะต้องถูกพระเอกต้อนรับเป็นอย่างดี
“คิราริ ใจเย็นๆก่อน เธอเพิ่งจะย้ายมา แมรี่คงกลุ้มใจอยู่แน่นอน……โทษนะ เธอช่วยยกที่ให้เธอได้มั้ย?”
แสดง’ความใจดี’ที่เป็นสกิลติดตัวของพระเอก ที่ใครก็ไม่มีทั้งนั้น
แต่ว่าเรื่องนั้น การที่ไม่เอาใจใส่คนที่อยู่ข้างกันมาตลอดนับว่าเป็นสิ่งที่น่าหดหู่มาก
คิราริทำหน้าที่ดูเหมือนช็อคอย่างหนัก
“อึก…..ริวคุง แบบนั้นดีแล้วหรอ? ผู้หญิงคนนั้นดีกว่าเรางั้นหรอ? งะ งั้นก็ได้……ริวคุงน่ะไม่รู้ด้วยแล้ว”
คิราริลุกยืนขึ้น และหันหน้าหนีเหมือนว่าเธองอน เธอขนข้าวของของตัวเองด้วยความฉุน และไปที่ที่แมรี่ซังควรจะนั่ง
…..ดูเหมือนว่า ลำดับขั้นของนางเอกจะเปลี่ยนไปเล็กน้อย
“สาวน้อยขี้โมโห แต้งกิ้วค่ーา♪ แต่ว่านะ ถ้าโกรธมาก ใบหน้าที่น่ารักจะเสียของเอาน้าー!”
แล้วใครล่ะที่ทำให้เธอโกรธ
จะว่าไงดี…….เป็นผู้หญิงที่มีคาแรคเตอร์ที่สุดจัดมากๆ
เพื่อที่จะได้อยู่ข้างริวซากิ เธอก็สามารถคิดทำอะไรอย่างอิสระได้สุดขั้วไปเลย
ตัวละครที่มีคาแรคเตอร์ใหม่แบบนี้ แน่นอนว่ามีผลกับเรื่องราว
ถ้าเป็นเรื่องราวเป็นไปปกติ ผมก็คงจะได้แสดงพลังในฐานะตัวร้ายออกมาได้เต็มที่เลยล่ะมั้ง
แต่ว่า เลิฟคอมเมดี้ของริวซากิตอนนี้มันกำลังออกนอกลู่นอกทางอยู่
ดังนั้น แมรี่ซังที่ดูมีเล่ห์เหลี่ยมนั้น…..รู้สึกเหมือนว่าเธอได้รับตำแหน่งมาเพื่อนำเรื่องราวกลับเข้าลู่เข้าทาง
หลักฐานนั้นก็ ริวซากิที่มีสีหน้ามืดมนมาตลอดนั้น เริ่มสดใสขึ้นมานิดหน่อยแล้ว
“แมรี่ โทษทีนะ คิราริเห็นเป็นแบบนั้นแต่ก็ใจดี ใช้เวลาซักหน่อยเดี๋ยวเธอก็เปิดใจให้”
หมอนั่นกำลังจดจ่อกับนางเอกใหม่ แบบไม่แยแสนางเอกรอง
“จากนี้ไปฝากตัวด้วยนะ? ถ้ามีปัญหาตรงไหน พูดมาได้เลยไม่ต้องเกรงใจ จะช่วยแมรี่เอง”
ริวซากิยื่นมือออกไปและยิ้มอย่างอบอุ่น
แมรี่ยิ้มกว้างให้เขา…..และจู่ๆก็เข้าไปกอดสุดกำลัง
“เดี๋ยว แมรี่!?”
ริวซากิตกใจ แต่เธอก็ไม่ได้ฟังที่พูดและจุ๊บไปที่แก้ม
จากนั้น เธอก็ยิ้มอีกครั้งด้วยใบหน้าที่แดงเล็กน้อย
“นิฮิฮิ~ นี่เป็นการทักทายแบบตะวันตกน้าー สไตล์ญี่ปุ่นก็ดีอยู่หรอก แต่ฉันชอบแบบนี้มากกว่าจริงๆนั่นแหละ!”
….อุหวา แข็งแกร่งมาก
พอมองเธอ ผมก็แทบจะกุมขมับ
ตัวละครใหม่แบบนั้น แถมยังมีแนวโน้มไปในทางที่สุดจัดเอาเรื่องอยู่ด้วย
มันเหมือนกับ เธอสามารถเอาที่นั่งตำแหน่งนางเอกหลักไปกินได้ในพริบตาเลย…..รู้สึกได้ถึงบุคลิกที่สุดจี๊ดแบบนั้น
เป็นเพราะแมรี่ซัง ทำให้เรื่องราวของริวซากิเรียวมะกลับมาเคลื่อนไหวอีกครั้ง
เฮ่อ……ช่วยปล่อยผมไปเถอะ