(wnแปล)Shimotsuki-san wa mobu ga suki – ตอนที่ 69

“อะ อาสึสะไม่ได้อ้อนโอนี่จังซักหน่อย ชิโมสึกิซังเข้าใจผิดไปเองแล้วนะ!”

 

“ทำไมถึงหงุดหงิดแบบนั้นล่ะ ไม่เห็นเป็นอะไรเลยนี่ น้องสาวก็มีชีวิตอยู่เพื่ออ้อนพี่ชายอยู่แล้ว ไม่เห็นมีอะไรน่าอายเลย อา น่าอิจฉาจัง……เพราะแบบนั้น โคทาโร่คุง? จากนี้ไปฉันจะเป็นน้องสาว ฝากตัวด้วยนะ?”

 

ถึงมาฝากตัวกันผมก็ทำอะไรไม่ถูกนะ

เอาเถอะ ทั้งๆที่เป็นพวกใจเสาะแท้ๆนะ แต่เพราะเป็นประเภทที่ค่อนข้างจะได้ใจกับคนที่เธอไว้ใจไปหน่อย ต่อให้บอกว่าไม่ชอบก็คงไม่ฟัง

 

อืม ช่วยไม่ได้แหละนะ

 

“อาสึสะ ช่วยเอากับเธอหน่อยเถอะ ชิโฮะเองก็ไม่ได้คิดร้ายอะไรด้วย”

 

“โอนี่จังจะอ่อนข้อให้เธอเกินไปแล้วนะ!? ดูสิ กำลังทำสีหน้าได้ใจด้วย! หยุดทำหน้าแบบนั้นเถอะ อยากจะอ๊วก”

 

“อุฟุฟุ เสียใจด้วยนะ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นโคทาโร่คุงก็อยู่ฝั่งฉันเสมอน่ะ แล้วฉันก็จะเป็นน้องแล้วด้วยนะ? อาสึเนียน จุดยืนของตัวเองกำลังถูกคุก(โอบิคะยะ)……คุก(โอบิคะสะ)? ต้องพูดว่าอะไรนะ?”

 

บางทีน่าจะหมายถึง’ถูกคุกคาม(โอบิคะซาเรรุ)’หรือป่าวนะ? [ไม่รู้จะแปลไงดี เอาแบบนี้ละกัน]

เพราะเธอฝืนใช้คำยากมา ก็เลยไม่ค่อยจะรู้ว่าเธอตั้งใจจะพูดอะไร

 

“อย่างไงก็เถอะ! เพราะแบบนั้น ตั้งแต่นี้ไปฉันคือน้องสาวของโคทาโร่คุงค่ーา ฝากตัวด้วยนะ โคทาโร่โอนี่จัง อ๊ะ แล้วก็อยากให้เรียกชื่อเล่นเหมือนครอบครัวด้วย เรียกว่าชีจังสิ?”

 

“อืม ฝากตัวด้วยนะ…….ชะ ชีจัง?”

 

…..น่าอายจังเลยนะ

แต่ว่า ชิโฮะดูจะพึงพอใจอย่างมาก

เธอยิ้มอย่างสนุกสนานและนั่งข้างอาสึสะ

 

“โคทาโร่โอนี่จัง แคะหูให้หน่อยซี่~”

 

จากนั้นคำขอแรกของเธอก็ยากเอาเรื่องเลย

 

“เดี๋ยวก่อนนะ! น้องสาวไม่ได้ทำแบบนั้นซักหน่อยนะ!? ไม่อยากให้เข้าใจผิดว่าน้องสาวเป็นสิ่งมีชีวิตแบบนั้นนะ”

 

“งะ งั้นเหรอ? คิดมาเสมอว่าทำกันแบบนี้ตลอดซะอีก…….ดูน่าเศร้าจังเลยนะ ฉันจินตนาการมาตลอดถึงชีวิตที่ขี้อ้อน กลางคืนก็นอนด้วยกัน ตื่นเช้าด้วยกัน ตอนกลางวันก็นั่งบนตัก เลยนะ”

 

“……..ระ เรื่องแบบนั้น มะ มะมะมะมะไม่ได้ทำซักหน่อย เนอะ โอนี่จัง!?”

 

อืーม

อาสึสะหน้าดูร้อนรนและขอคำเหห็นชอบจากผม

ก็จริงอยู่นะ ที่พักนี้ไม่ได้มีแบบนั้นเลย

แต่พอลองลำลึกถึงช่วงม.ต้นดู ก็รู้สึกว่าไม่ได้ต่างจากที่ชิโฮะจินตนาการไว้เลย

 

“……ไม่กี่ปีก่อน ก็มีนอนด้วยกันอยู่ล่ะน้า”

 

เพราะไม่ชอบโกหก เลยตอบไปตรงๆ

พอทำแบบนั้น อาสึสะก็หน้าแดงกร่ำ จากนั้นชิโฮะก็หน้าถอดสีเลย

 

“มะ ไม่ใช่ซักหน่อย ตอนนั้น ยังเด็กอยู่ ในช่วงนั้นแค่ยังเด็กอยู่ ไม่ได้มีเจตนาซักหน่อย”

 

“ขี้โกง ฉันยังไม่เคยได้นอนด้วยกันแท้ๆ กะแล้วเชียวใช้ประโยชน์จากตำแหน่งน้องสาวอ้อนจริงๆสินะ!? ไม่ได้นะ เพราะเขาเป็นสมบัติของฉันคนเดียว จะอดีตปัจจุบันอนาคตเวลาไหนก็ห้ามแตะต้องนะ”

 

มาหึงกับสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตเนี่ย……เอาเถอะ ช่างมัน เพราะชิโฮะเป็นพวกรักสุดๆด้วย ยอมแพ้ดีกว่า

 

“เพราะแบบนั้น อาสึเนียนจงกลายเป็นน้องสาวของฉันเท่านั้นนะ? น้องสาวของโคทาโร่คุงฉันจะเป็นเอง สบายใจได้ ไม่ต้องห่วงนะฉันทำหน้าที่น้องสาวได้ดีกว่าเธออยู่แล้ว”

 

“……..บ้าไปแล้ว โอนี่จัง เธอต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ! จะพูดให้ในฐานะครอบครัวนะ คิดว่าอย่าแต่งงานกับเธอจะดีกว่า……ซักวัน โอนี่จังอาจจะถูกจับใส่ปลอกคอและถูกขังไว้ห้องใต้ดินก็ได้นะ!?”

 

ไม่ใช่แบบนั้นหรอกーมันเป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ของชิโฮะ ที่พูดออกมาไม่ได้

ถ้าเกิดแบบนั้นขึ้น……อืม ก็ถือว่าช่วยไม่ได้ละกัน

 

“ตอนนั้นมันก็คือตอนนั้นแหละ”

 

“โอนี่จังอ่อนข้อกับเธอเกินไปจริงๆนั่นแหละ! อาสึสะ ไม่เอาด้วยนะ!? หนูไม่อยากเห็นซากกระดูกของโอนี่จังที่ถูกฆ่าเพราะรักเกินไปหรอกนะ!?”

 

“อุฟุฟุ ถ้าเป็นโคทาโร่คุงฉันรักไปยันโครงกระดูกเลยล่ะ”

 

“ดูสิ! ได้ยินใช่มั้ย!? ซักวันเธอต้องทำแน่ๆเลยนะ อาสึสะเตือนแล้วนะ? ไม่รู้เรื่องของทั้ง2คนด้วยแล้วนะ”

 

ーก็เป็นบรรยากาศที่ต่อเนื่องมากจากตอนปิดเทอม

ชิโฮะกับอาสึสะถ้าให้พูดก็ดูเข้ากันได้…….เธอเชื่อใจกัน ขนาดที่สามารถต่อว่ากันได้โดยที่ไม่มีความลังเล

 

เพราะสิ่งนั้น ทำให้ตอนนี้อาสึสะฟื้นฟูมาถึงจุดที่เธอสามารถส่งเสียงดังออกมาได้แล้ว

 

ถ้าให้พูดตรงๆ……สภาพของเธอหลังจากเข้าค่ายเจ็บปวดถึงขั้นทนดูไม่ได้ เมื่อเทียบกันกับตอนนั้น เธอสดใสขึ้นมากเลย

 

อย่างที่คิด ในฐานะมีชายก็มีความรู้สึกอยากเห็นเธอมีความสุขจริงๆนั้นแหละ

ถึงครั้งนึงจะเคยถูกตัดขาดไปแล้วก็ตาม แต่ผมก็ไม่สามารถเกลียดเธอขนาดตัดความเป็นพี่น้องกันได้หรอก

 

ถึงเป็นสิ่งที่ถูกหรือผิดนั้น ตอนนี้ยังไม่สามารถให้คำตอบนั้นได้

แต่ว่า มีสิ่งหนึ่งที่สามารถพูดได้ในตอนนี้ คือที่อาสึสะกลับมาร่าเริงได้อีกครั้ง ผมรู้สึกดีใจมาก……

(wnแปล)Shimotsuki-san wa mobu ga suki

(wnแปล)Shimotsuki-san wa mobu ga suki

Status: Ongoing
อ่านนิยายเรื่อง (wnแปล)Shimotsuki-san wa mobu ga sukiผมนั้น ก่อนที่จะขึ้นชั้นมัธยมปลาย ไม่เคยคิดเลยว่าตนเองเป็นตัวประกอบ ไม่สิ ผมคิดว่าตัวเองคือสิ่งมีชีวิตที่ถูกเรียกว่า’ตัวเอก’ด้วยซ้ำ แต่ทว่า ตั้งแต่ที่ขึ้นชั้นมัธยมปลายและได้พบกับหมอนั่น ผมก็รู้ตัวทันทีว่าผมเป็นเพียงแค่ตัวประกอบ

Recommended Series

Comment

Options

not work with dark mode
Reset