ーวันต่อมา อาสึสะไปโรงเรียนด้วยกันที่ไม่ได้เกิดขึ้นมานาน
“โอนี่จัง ทำอย่างไงดี…….ประหม่าจังเลย อาสึสะไม่ได้ดูแปลกใช่มั้ย? ทรงผมไม่เป็นอะไรใช่มั้ย?”
“……ถึงจะดูเหมือนตุ๊กตาโคเคชิก็เถอะ เอาเถอะคงไม่เป็นอะไรละมั้ง”
สุดท้ายผมก็เอาอิมเมจของซาชิกิวาราชิออกไปไม่ได้ แต่ยังไงซะ ผมก็สามารถรักษาบาลานซ์ของเส้นผมไว้ได้นั่นแหละ แต่ผมก็ทำอะไรมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว
“อูว……โอนี่จังไม่ได้เรื่อง”
“ถ้าอย่างงั้นไปร้านเสริมสวยก็ได้นิ? มาของร้องพี่มันก็แย่อยู่แล้ว”
“กะ ก็มันน่ารำคาญถ้าต้องออกไปข้างนอกนี่นา”
มันผ่านมาประมาณ2เดือนแล้วรึป่าวนะ
จากการเก็บตัวอย่างหนักของอาสึสะทำให้เธอไปพวกอินดอร์ไปโดยสมบูรณ์
“จะว่าไป ข้างนอกไม่ใช่’นากายะมะคุง’หรอกหรอ? หมดสิทธิ์โอนี่จังด้วยสินะ?”
“…..ระ เรื่องนั้นที่ทำๆป ขอโทษด้วยค่ะ ขอโทษจริงๆนะ? โอนี่จัง..….ฮึก”
“อะ โทษที อย่าร้องไห้สิ ล้อเล่นน่า”
คงจะรู้สึกเสียใจจริงๆนั่นแหละ
เอาเถอะ เพราะตอนนั้นเธอฝืนเป็นคาแรคเตอร์แบบนั้นเป็นนางเอกรองที่มองแค่พระเอกนี่นะ ถ้าจะดูแปลกไป ก็ช่วยไม่ได้
ไม่ใช่ว่าเธอเพิ่งเปลี่ยนไปทันที แต่เดิมเธอก็เป็นน้องสาวแบบนี้อยู่แล้ว
แต่ว่าผลกระทบที่มาจากพระเอก ทำให้วิสัยทัศน์ของเธอแคบลงจนเย็นชากับคนรอบข้าง……มองให้มันเป็นเรื่องดีไปละกัน
ที่จริงแล้ว หลังจากที่เธอเลิกยุ่งกับริวซากิ ก็ทำให้วิสัยทัศน์ของอาสึสะกว้างขวางขึ้นราวกับว่าได้ถอนยาพิษออกไป
และก็เป็นเรื่องดี ที่เธอไม่ดูถูกผม และสนิทกับชิโฮะ
“……เอาล่ะ โอนี่จัง ขอบคุณที่มาโรงเรียนด้วยกันนะ เพราะแบบนั้นทำให้ดึงความกล้าออกมาได้แล้ว! ถ้าอย่างนั้น อาสึสะขอล่วงหน้าไปก่อนนะ?”
แต่ว่า พวกเรามาด้วยกันถึงใกล้ๆบริเวณประตูโรงเรียน
จากตรงนัั้น อาสึสะวิ่งออกไปและโบกมือมาให้
ตรงส่วนนั้น ก็เป็นอีกจุดนึงที่ได้เติบโตขึ้น
ใจจริง เธอคงอยากจะให้อยู่ด้วยกันแน่นอน เธอคงจะกลัวถ้าหากเวลาต้องการความช่วยเหลือแต่ไม่มีใครคอยอยู่ข้างๆ
แต่ว่า เธอก้าวเดินออกไปด้วยตัวเอง โดยไม่พึ่งพาผม
นั่นพูดอีกอย่างก็คือ’ปัญหาที่โรงเรียนจะทำอะไรซักอย่างด้วยตัวเอง’เป็นเครื่องชี้ถึงความตั้งใจแบบนั้น
แค่คอยเฝ้าดูอาสึสะในฐานะโอนี่จังเหมือนที่ผ่านมา ก็เพียงพอแล้ว
ระหว่างคิดแบบนั้น ก็ตามอาสึสะไปห้องเรียน
จากนั้น พอเข้าห้องเรียนーในตอนนั้น อาสึสะถูกให้เข้าไปพัวพันกับเรื่องราวของริวซากิเรียบร้อยแล้ว
“อาสึสะ!? มาโรงเรียนจนได้สินะ……ถึงจะติดต่อไปแต่ก็ไม่ตอบกลับมาเลย……เป็นห่วงนะ? แล้วก็ อยู่ดีๆทรงผมก็เปลี่ยนไป…..เกิดอะไรขึ้นหรอ?”
ริวซากิต้อนรับอาสึสะทันทีที่เข้าไปในห้องเรียน
ข้างๆก็มีตัวละครใหม่อย่างแมรี่ซังอยู่ด้วย
“OH! โคเคชิ! น่ารัก! นิฮิฮิ เธออาจจะไม่เลวก็ได้”
เธอดูท่าจะสนใจอาสึสะที่ดูเหมือนกับตุ๊กตาโคเคชิ
อีกด้าน อาสึสะที่อยู่ดีๆก็โดนคนแปลกหน้ากอด รู้สึกมึนงง
“มะ ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ เพราะร่างกายไม่ค่อยดีก็เลยหยุดพักน่ะ ไม่เป็นอะไรแล้วล่ะ……เอ่อ คะ ใครน่ะ เอ๋? หมายความว่าไง?”
“ฮ่าーย ฉันเป็นนักเรียนที่ย้ายมาเมื่อวาน แมรี่เองนะ! เรียกแมรี่โอเน่จังได้ตามใจชอบเลยนะ”
“…..มะ ไม่ต้องการโอเน่จังซักหน่อย”
ดูเหมือนเป็นเพราะชิโฮะ อาสึสะจะมีภูมิแพ้โอเน่จังเรียบร้อยแล้ว เธอดูจะเกลียดข้อเสนอของแมรี่ซังอย่างชัดเจนด้วย
“อร้า~ย แม้แต่ตอนซึนซึนก็ยังน่ารัก”
เธอคงมองเห็นเสน่ห์ของอาสึสะสินะ แมรี่ซังเลยคลั่ง
แล้วก็ คงเป็นเพราะกอดอาสึสะแน่น ทำให้หน้าอกอวบอิ่มของแมรี่ซังกดทับเธอ ริวซากิที่เห็นแบบนั้น ทำหน้าเคลิ้ม
ดูเหมือนเรื่องราวของริวซากิเรียวมะจะเริ่มต้นขึ้นแล้วล่ะ
ก่อนหน้านี้ริวซากิดูไม่ร่าเริ่ง แต่เป็นผลกระทบมาจากแมรี่ซัง ทำให้หมอนั่นกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง
พระเอกที่ดูกระฉับกระเฉงเล็กน้อย ก็กระตือรือร้นกับอาสึสะเช่นกัน
“ร่างกายไม่เป็นอะไรแล้วใช่มั้ย? ให้ตายสิ ทำให้เป็นห่วงได้นะ……เอาเถอะ ถ้าดีขึ้นแล้วก็ดีนะ! มาบ้านชั้นอีกครั้ง แล้วมากินข้าวด้วยกันสิ!”
อาสึสะกำลังจะโดนลากเข้าเรื่องราวเลิฟคอมเมดี้อีกครั้ง
ก่อนหน้านี้ อาสึสะถูกปฏิเสธไปแล้ว……แต่ว่า ตรงจุดที่สารภาพรักแล้ว ทำให้ตำแหน่งของเธออยู่สูงกว่าคนอื่นๆ
ริวซากิเอง ก็คงสนใจอาสึสะที่มาสารภาพรักกับตัวเองเหมือนกัน หลักฐานก็ ที่นั่งของอาสึสะตอนที่เธอหยุดเรียนไป ตอนนี้ก็ยังคงอยู่ข้างขวาริวซากิตลอด
วันก่อน ที่แมรี่ซังบอกว่าจะนั่งข้างริวซากิ หมอนั่นก็ขอร้องคิราริ ไม่ใช่อาสึสะ นั่นน่ะ คงจะสนใจอาสึสะเป็นพิเศษด้วยสินะ
แต่ว่า…….อาสึสะแบบที่ผ่านมาที่ริวซากิรู้จักน่ะมันได้หายไปแล้ว
“……อาเระ? จะว่าไปแมรี่ซังนั่งตรงนี้นี่เอง…..อาสึสะอยู่ตรงนี้สินะ? ถ้างั้นแล้วคิราริจังล่ะ?”
กะแล้วว่า วิสัยทัศน์การมองสิ่งต่างๆของเธอกว้างขึ้นจริงๆด้วย
เธอรู้ทันทีว่าที่นั่งของคิราริหายไป
“อา เรื่องนั้นหรอ แมรี่เพิ่งย้ายมาใหม่ คงต้องการความช่วยเหลือใช่มั้ยล่ะ? หน้าที่นั้นชั้นเป็นคนรับผิดชอบเอง ก็เลยขอร้องคิราริให้ช่วยเปลี่ยนที่นั่งกันน่ะ”
แน่นอนว่า ริวซากิไม่ได้คิดว่ามันเป็นเรื่องแย่และอธิบายออกมา
แต่ว่า อาสึสะที่เคยเป็นนางเอกรองนั้นรู้ดีว่า เรื่องนั้นมันน่าหดหู่ขนาดไหน
“…..คิราริจัง ดูเศร้าจังเลย”
เธอพึมพำออกมา
อาสึสะมองคิราริที่อยู่ห่างออกไปและแสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน ด้วยสีหน้าเจ็บปวด
“เอ๊ะ? อะไรนะ?”
นั่นแหละ พระเอกที่ชอบหูหนวกนั้นไม่ได้ยินเช่นเคย
“คิราริจัง”
อาสึสะเองก็คงรู้ว่าถึงพูดกับริวซากิไปก็คงไม่ได้อะไรขึ้นมา
เธอจบการสนทนาและเดินไปหาคิราริที่อยู่ห่างออกไป
จากนั้น เธอก็พูดออกมา
“ที่นั่ง เปลี่ยนกันเถอะ อาสึสะน่ะนะ จะสบายใจกว่าถ้าได้นั่งข้างหลัง ขอร้องได้ไหม?”
ขอเสนอนี้ เห็นได้ชัดว่าเป็นผลเสียกับอาสึสะ
ถ้าเธอแยกออกมานั่งตรงนี้แล้ว เธอจะไม่สามารถแสดงจุดยืนที่มีความได้เปรียบในฮาเร็มริวซากิได้อีก ทั้งๆที่พระเอกให้ความสนใจแล้วแท้ๆ แต่อาสึสะตั้งใจจะวางอาวุธนั้นลงด้วยตัวเอง
“…..เอ๊ะ?”
คิราริก็ดูชะงักเนื่องจากความมึนงง
นั่นเองก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ก็เพราะคำพูดนั้น……เหมือนกับว่าอาสึสะตั้งใจจะถอนตัวออกจากฮาเร็ม
(งั้นเหรอ อาสึสะ คงตัดสินใจได้แล้วสินะ…..)
ผมคิดมาตลอดว่าเธอจะทำอย่างไง
อาสึสะที่สารภาพรักล้มเหลว……ดูเหมือนจะตัดสินใจเลิกเป็นนางเอกของริวซากิแล้ว…….