(wnแปล)Shimotsuki-san wa mobu ga suki – ตอนที่72

อาสึสะตั้งใจจะยกที่นั่งให้คิราริที่โดนแมรี่ซังแย่งไป

 

อาจจะคิดกันว่าーーเป็นแค่ที่นั่งเอง ทำเป็นเรื่องใหญ่ไป

แต่ว่า ในเลิฟคอมเมดี้สิ่งที่เรียกว่าที่นั่งนั้นสำคัญมาก โดยเฉพาะฮาเร็มเลิฟคอมเมดี้ ที่ถึงจะเล็กน้อยแต่นางเอกยิ่งได้นั่งใกล้พระเอกยิ่งได้ประโยชน์ ดังนั้นที่นั่งข้างกันถือว่าดีอย่างไม่ต้องสงสัย

 

เพราะว่า ยิ่งมีนางเอกหลายคนโอกาสของตัวเองก็จะลดลงไป ดังนั้นการเข้าหาแม้จะเล็กน้อย แต่ถ้าเข้าไปเป็นส่วนนึงในชีวิตประจำวันของพระเอกได้ ก็เป็นส่วนตัดสินแพ้ชนะได้เหมือนกัน

 

ดังนั้น อีกนัยนึงการ’เปลี่ยนที่นั่ง’ก็เหมือนกับเป็นการต่อสู้ของพวกเธอ

 

“อาสึสะ หรือว่าจะเห็นใจเรางั้นหรอ? คิดว่าน่าสงสารหรอ? ถ้าเป็นแบบนั้น หยุดเถอะ……เดี๋ยวมันจะดูน่าสมเพชเอา”

 

คิราริที่รู้ว่าแยกออกมามันเศร้า เลยไม่สามารถตอบตกลงได้ เธอปฏิเสธอย่างชัดเจน

 

“……….อว”

 

อาสึสะที่แต่เดิมเป็นคนขี้กลัวนั้นแพ้ทางให้กับอารมณ์ที่รุนแรง

เธอมองมาทางผม เหมือนกับต้องการความช่วยเหลือ

 

…..ถึงที่โรงเรียน ผมจะช่วยเธอแบบเปิดเผยไม่ได้ก็เถอะ

แต่ว่า…..เอาเถอะนะ ถ้าขยับเข้าไปใกล้เธอขึ้นซักหน่อย ก็คงไม่เป็นไร

 

ถึงผมจะทำอะไรไม่ได้……..แต่ถ้าแค่อยู่ใกล้ๆกันก็ทำได้

 

ด้วยเหตุผลนั้น ผมเข้าไปใกล้คิราริกับอาสึสะ แต่เดิมที่เคยเป็นตัวประกอบทำให้ตัวตนค่อนข้างจาง ทั้งคิราริ ริวซากิ และก็แมรี่ซัง ต่างก็ไม่รับรู้ถึงตัวผม (เอ็งเป็นตัวประกอบหรือนักฆ่าวะเนี่ย555)

 

นั่นถือเป็นเรื่องที่สะดวกดี

 

(พยายามเข้านะ)

 

ผมส่งคำเชียร์อยู่ในใจ

 

“…..ฟู่ว”

 

อาสึสะมองมาที่ผม และผ่อนคลายความเครียดของเธอ

เธอสูดหายใจลึกๆ1ครั้ง จากนั้นเธอก็มองคิราริอีกรอบ อาสึสะพูดต่อโดยไม่ล้มเลิก

 

“ไม่ได้เห็นใจหรอกนะ คือว่านะ…….เรื่องที่อาสึมะสารภาพรัก รู้ใช่ไหม?”

 

อาสึสะพูดออกมาเบาๆที่มีเพียงแค่คิราริได้ยินคนเดียว

เพราะผมเข้ามาใกล้เลยได้ยินอยู่ แต่แมรี่ซังกับริวซากิอยู่ค่อนข้างห่างเลยไม่ได้ยิน

 

“…….ก็รู้อยู่นะ”

 

“ถ้างั้น รู้เรื่องที่ถูกปฏิเสธรึป่าว?”

 

“อะ อืม…….ทะ ทำไมล่ะ? อยากจะพูดอะไรกันแน่?”

 

อาสึสะไม่เหลือความกลัวอีกแล้ว

เธอมองคิราริที่กำลังสับสน ด้วยเจตจำนงที่แรงกล้า

 

“เพราะอย่างนั้น ถ้านั่งตรงนั้นแล้วมันอึดอัดล่ะ……ไม่ต้องสนใจเรื่องของอาสึสะหรอกนะ? ถึงจะเคยสัญญาว่าจะสู้กันอย่างยุติธรรม……แต่อาสึสะ พยายามต่อไปไม่ไหวแล้วล่ะ”

 

อาสึสะยิ้มหัวเราะ เทะเฮะเฮะอย่างไร้พลังออกมา

จากคำนั้น ในที่สุดก็ดูเหมือนคิราริจะเข้าใจถึงสิ่งที่อยากจะสื่อแล้ว

 

“เดี๋ยว นั่นน่ะ……ดีจริงๆหรอ!? ทั้งๆที่ ที่ผ่านมาพยายามมาตั้งขนาดนั้นแท้ๆ……ผิดพลาดแค่ครั้งเดียวและยอมแพ้แบบนั้นเสียของจะตาย! อาสึจัง…..พอใจกับผลลัพธ์แบบนั้นหรอ?”

 

นี่เป็นสายสัมพันธ์ของนางเอกที่ ต่อสู้ด้วยด้วยกันมาตลอด

เพราะอย่างงั้น คิราริจึงทำหน้าดูเศร้าออกมา ไม่สิ ดูเหมือนโกรธมากกว่า

 

“เดี๋ยวนะ เกิดอะไรขึ้น!? เห้ย คิราริ…….อาสึสะป่วยอยู่นะ อย่ารุนแรงนักสิ”

 

เพราะได้ยินเหมือนทะเลาะกันอยู่ ริวซากิจึงสอดปากเข้ามาเพื่อจะไกล่เกลี่ย

แต่ว่าถึงอย่างงั้นคิราริก็เหมือนจะไม่เอาด้วย

 

“หนวกหู! ริวคุงเงียบไปเลย”

 

คิราริรู้สึกเศร้ากับอาสึสะ ถึงขั้นตวาดใส่ริวซากิสุดที่รักของเธอ

 

“อาสึจัง…..จะขอถามอีกครั้งนะ คิดว่าดีแล้วหรอ? เธอพอใจแค่นี้จริงๆหรอ?”

 

เหมือนกับว่า……ให้อาสึสะทวนถึงตัวเองในอนาคตอีกครั้ง

คิราริทำหน้าเศร้าออกมา

 

แต่ว่า คำตอบของอาสึสะก็ไม่เปลี่ยนไป

 

“อืม แบบนี้แหละ ดีแล้ว……คิราริจังพยายามเข้านะ ถึงจะไม่ได้มีความรู้สึกแบบเดียวกันแล้วก็ตาม แต่ก็จะเป็นกำลังใจให้นะ”

 

“ーーอุก!”

 

คิราริทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ออกมา กับคำเชียร์อย่างเข้มแข็ง

แต่นั่นก็แค่แป๊ปเดียว

 

“……..หรอ ถ้างั้นก็รู้สึกขอบคุณที่สละที่นั่งให้นะ ขอบคุณ อาสึจัง…….เราน่ะ จะพยายามนะ จะไม่เป็นแบบเธอแน่นอน”

 

ครั้งนี้เธอพูดออกมาเบาๆ

หลังจากตอบมาด้วยระดับเสียงที่ริวซากิจะได้ยินป่าวก็ไม่รู้ เธอก็หอบข้าวของตัวเองไปที่ที่นั่งของอาสึสะ

 

“อืม….ขอโทษนะ”

 

ด้านหลังของเธอ อาสึสะขอโทษออกมาด้วยสีหน้าเศร้า แต่คิราริก็ไม่หันกลับมาอีก

 

“หะ เห้ย! พูดเรื่องอะไรกัน?เสียเบาเลยไม่ค่อยได้ยินน่ะ……”

 

และก็ดูเหมือนพระเอกจอมหูหนวกจะไม่ได้ยินสิ่งที่พูดกันด้วย

ถ้าตั้งใจฟัง…..ไม่สิ มันเป็นระดับเสียงที่สามารถได้ยินได้ หากมีสมาธิฟัง

 

เพราะอย่างงั้น นายน่ะไม่ได้เรื่อง

 

(ชิ……อย่าทำให้หงุดหงิดสิฟร่ะ)

 

ผมเดาะลิ้นอยู่ในใจ

ไอ้ตัวตนที่ทำตัวเย่อยิ่งและเหยียบย่ำความรู้สึกของเหล่าสาวๆที่แสดงความรักออกมากะนได้ชัดเจนขนาดนั้น โครตจะชวนไม่สบอารมณ์เลยว่ะ

 

ตอนนี้ นางเอกที่เคยรักนายมากนั้น เดินลงมาจากเวทีแล้วนะ รู้ป่าว?

เธอล้มเลิกที่จะมีความสุขกับเลิฟคอมเมดี้ของนาย และออกมาข้างนอกของเรื่องราวแล้วนะ รู้ป่าว?

 

ถึงอย่างนั้น แล้วก็จะสามารถหัวทึบและไม่รู้ตัวต่อไปได้เนี่ย…….พระเอกโครตหยิ่งจริงๆเลย

 

ผมคิดอย่างลึกซึ้งเลยล่ะ

ผมน่ะ โครตเกลียดนายจริงๆนั่นแหละ…….

(wnแปล)Shimotsuki-san wa mobu ga suki

(wnแปล)Shimotsuki-san wa mobu ga suki

Status: Ongoing
อ่านนิยายเรื่อง (wnแปล)Shimotsuki-san wa mobu ga sukiผมนั้น ก่อนที่จะขึ้นชั้นมัธยมปลาย ไม่เคยคิดเลยว่าตนเองเป็นตัวประกอบ ไม่สิ ผมคิดว่าตัวเองคือสิ่งมีชีวิตที่ถูกเรียกว่า’ตัวเอก’ด้วยซ้ำ แต่ทว่า ตั้งแต่ที่ขึ้นชั้นมัธยมปลายและได้พบกับหมอนั่น ผมก็รู้ตัวทันทีว่าผมเป็นเพียงแค่ตัวประกอบ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset