(wnแปล)Shimotsuki-san wa mobu ga suki – ตอนที่ 9

คนชอบพูดอย่างชิโมสึกินั้น น่าเสียดายที่เป็นคนขี้อาย เหมือนอุจิเบ็งเค แทบไม่เคยพูดต่อหน้าคนเลย

 

เริ่มคาบเรียน และก็ถึงเวลาพัก แต่เธอก็ไม่มาทางนี้เลย ที่มาหาผมตอนเช้า คงแค่อยากจะคืนผ้าเช็ดหน้าหรือเปล่านะ พอไม่มีธุระก็ไม่คุยกับผมเหมือนกัน

 

ที่นั่งของผมอยู่หลังสุดฝั่งระเบียง ส่วนที่นั่งชิโมสึกินั้นอยู่ด้านหลังหน้าต่าง ด้านหน้าก็เป็นริวซากิและรอบๆก็เป็นอาสึสะกับยุซุกิ

 

ที่นั่งของชิโมสึกินั้นเป็นตำแหน่งของตัวเอกโดยแท้ อืม ถึงริวซากิจะดูเป็นตัวเอกมากกว่าก็เถอะ แต่ก็เหมือนจะไม่มีผลหรอกเพราะกำหนดการณ์เปลี่ยนที่นั่ง

 

ถึงอย่างนั้น ชิโมสึกิกับริวซากิน่าจะมีความสัมพันธ์ที่เชื่อมกันอยู่ ขนาดที่นั่งยังติดกันแบบนั้น มันประหลาดมาก

เพียงแต่ เพราะชิโมสึกิไม่ชอบริวซากิ เธอเลยไม่ค่อยได้คุยและก้มลงนอนตลอดเวลา

 

ด้วยเหตุนั้น คาบเช้าชิโมสึกิจึงไม่ได้คุยกับผมเลย

แต่ถึงอย่างนั้น ผมก็รู้สึกกังวลถึงสายตาเธอที่แอบจ้องมา……เหมือนมีอะไรจะพูด แต่ไม่มาหาทางนี้ เลยไม่เข้าใจ

 

พอเอียงคอสงสัย ผู้ชายโต๊ะข้างๆก็พูดด้วยอย่างกระทันหัน ฮานะกิชิ โซมะ เพื่อนร่วมชั้นที่รู้จักกันเพราะได้คุยกันเป็นบางครั้ง เขาทำหน้าประหลาดใจ และยื่นกระดาษมาให้1แผ่น

 

“นากายะมะ มันส่งมาจากข้างๆน่ะ ม.ปลายแล้วแท้ๆ ยังใช้จดหมายนี่แปลกใหม่ดีนะ”

 

ระหว่างคาบคณิต ฮานากิชิกระซิบด้วยเสียงเบาๆทำให้อาจารย์จับไม่ได้ จดหมายนี่อะไรหว่า? ไม่รู้ว่าคืออะไร แต่ผมก็ขอบคุณและรับมันมา

 

หยิบจดหมายออกมาจากซองจดหมายที่น่ารัก

ในนั้นเขียนว่า ‘ถึงนากายะมะ'(なかやまへ) ด้วยตัวอักษรที่กลมๆน่ารัก เหมือนกับเด็กประถม

 

จะว่าไป กังวลเรื่องฮิรางานะจัง…..ชื่อของผมก็เขียนใช้แต่คันจิระดับเด็กประถมง่ายๆ เลยไม่คิดว่ามันยากนะ

 

ขณะที่คิดถึงเรื่องนั้นก็ดูตัวอักษรด้านใน

ข้างในเขียนไว้แบบนี้

 

‘อาหารกางวัน ข้าวก่อง ทานกันนะ จากเพื่อนของเทอ'(おひるやすみ、おべんとう、たべよ。あなたのおともだち、より)

 

…..เข้าใจละ คนส่งคือชิโมสึกิสินะ เพื่อนผมมีแค่เธอคนเดียว เลยรู้ทันที

 

แต่ว่านะ อืーม……ม.ปลายแล้วแท้ๆแต่ประโยคมันกะท่อนกะแท่น หรือว่าไงดี แปลกดีนะ คันจิก็ดันทุรังไม่ใช้ รูปประโยคก็ชวนไม่สบายใจ แต่อักษรกลมๆน่ารักดี ถึงจะน่าเศร้าแต่นี่มันไม่รู้สึกถึงความรู้เลย

 

เอาเถอะ แต่ก็เข้าใจที่ต้องการจะสื่ออยู่

ทานอาหารกลางวันด้วยด้วยกันเถอะ เหมือนจะชวนมาแบบนี้

 

แน่นอนว่าโอเคสิ ปกติก็กินขนมปังหวานที่ซื้อมาอยู่ที่โต๊ะตัวเองตลอดอยู่แล้ว เลยไม่มีปัญหา

 

แต่ปัญหาคือจะตอบกลับอย่างไง…..ส่งจดหมายกลับไปดีมั้ย?

 

อย่างที่คิด ยุคนี้แล้วสื่อสารด้วยจดหมายนี่น่าอายชะมัด

ไม่มีวิธีตอบกลับเลยหรอ? พอคิดอย่างงั้นก็มองไปที่เธอ ก็เห็นเวลาเธอส่งสายตามางทางนี้อยู่

 

เธอเอามือเท้าคางไว้ ทำเหมือนกับกำลังตั้งสมาธิกับการเรียน แต่สายตาของเธอนั้นจ้องมาที่ผมทุกวินาที เพราะอย่างนั้นทำให้ผมตอบสบตากับคนที่อยู่ระหว่างผมกับชิโมสึกิ แต่ก็แค่แป๊บเดียวพวกนั้นรีบมองไปทางอื่นทันที น่าสงสัยสุดๆ

 

ในสายตาชิโมสึกิอาจจะดูเพอร์เฟค แต่เธออาจจะมีส่วนที่บ๊องสุดๆอยู่ก็ได้ อย่างน้อยที่สุด ก็ตรงส่วนของความสัมพันธ์กับมนุษย์นี่แหละที่ใช้ไม่ได้หลายจุดเลย

 

เอาเถอะ มองมาทางนี้อยู่เลยทำให้สะดวกดีเหมือนกัน

 

(โอเค)

 

ทำมือโอเคให้เธอดู

ผ่านไปได้แปปนึง ชิโมสึกิก็มองอยู่ตลอด อย่างน้อยก็น่าจะส่งไปถึงแล้ว

 

หลักฐานก็ ชิโมสึกิที่ทำหน้าร่าเริงแบบนั้น ไม่ผิดแน่นอน

ถึงปกติจะเงียบๆ แต่สีหน้าของเธอค่อนข้างจะแสดงอารมณ์ออกง่าย

 

เธอที่ร่าเริงและอารมณ์ดี แค่เพราะจะได้ทานข้าวเที่ยงกับผมเนี่ย….พอเห็นเธอแบบนั้นแล้ว น่ารักจริงๆ…..

(wnแปล)Shimotsuki-san wa mobu ga suki

(wnแปล)Shimotsuki-san wa mobu ga suki

Status: Ongoing
อ่านนิยายเรื่อง (wnแปล)Shimotsuki-san wa mobu ga sukiผมนั้น ก่อนที่จะขึ้นชั้นมัธยมปลาย ไม่เคยคิดเลยว่าตนเองเป็นตัวประกอบ ไม่สิ ผมคิดว่าตัวเองคือสิ่งมีชีวิตที่ถูกเรียกว่า’ตัวเอก’ด้วยซ้ำ แต่ทว่า ตั้งแต่ที่ขึ้นชั้นมัธยมปลายและได้พบกับหมอนั่น ผมก็รู้ตัวทันทีว่าผมเป็นเพียงแค่ตัวประกอบ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset