[WN]Konbini gōtō kara tasuketa jimi ten’in ga, onaji kurasu no ubude kawaii gyarudatta – ตอนที่ 17

ระหว่างทางกลับก็แวะร้านสะดวกซื้อกับโฮชิมิยะ พอซื้อของเสร็จเรียบร้อยแล้วผมก็เดินไปรอบๆร้านเพื่อหาโฮชิมิยะ

 

“โอ๊ะ อยู่นี่เอง”

 

กำลังอ่านนิตยสารที่มุมหนังสืออย่างตั้งอกตั้งใจ ไม่มีคนอยู่รอบๆ มีแค่โฮชิมิยะอยู่คนเดียว

ผมเข้าไปใกล้แล้วก็คุย

 

“อ่านอะไรอยู่เหรอ?”

 

“หืม? นิตยสารแฟชั่นน่ะ แค่ดูก็สนุกแล้วล่ะน้า~”

 

เสาอากาศแกลของโฮชิมิยะเหมือนจะกางแล้วเรียบร้อย จำได้ว่าชุดที่เคยเห็นก่อนหน้านี้เองก็ค่อนข้างน่ารัก

 

“นี่คุโรมิเนะคุง มีชุดที่อยากจะให้เค้าใส่รึเปล่า?”

 

“อืม~ ชุดเมด…แหละมั้ง?”

 

“คอสเพลย์ไม่ใช่รึไง ที่เค้าพูดมันไม่ใช่แบบนั้นสักหน่อย”

 

“ไม่ๆ เมดน่ะเป็นความปรารถนาชั่วนิรันดร์ของชายหนุ่มนะ”

 

“เป็นแบบนั้นเหรอ? จะเก็บไปคิดสักหน่อยก็ได้”

 

เอ๊ะ จะใส่เหรอ?

แค่จะล้อเล่นเท่านั้นเอง….

 

“จะใส่ชุดที่ฉันขอเหรอ?”

 

“อือ เท่าที่อยู่ในขอบเขตน่ะ วันหยุดครั้งหน้า— อ๊ะ ชุดนี้น่ารักมั้ย?”

 

โฮชิมิยะชี้ไปที่ชุดในนิตยสารแล้วถามความเห็น

ผมสับสนอยู่หน่อยๆกับระยะห่างที่เป็นธรรมชาติจนเกินไป

 

“….พวกเราอย่างกับคบกันอยู่เลยนะ”

 

“เอ๊ะ! จู่ๆก็พูดอะไรน่ะคุโรมิเนะคุง!?”

 

“ก็คิดว่ามันประมาณนั้นน่ะ”

 

ถูกฮารุโนะเข้าใจผิดด้วยแถมเพื่อนของโฮชิมิยะก็ออกความเห็นแบบล้อเล่นอีก

แล้วบทสนทนาก่อนหน้านี้ก็ด้วย อย่างกับบรรยากาศคู่รัก ….ถึงจะไม่รู้ว่าสังคมคู่รักเป็นความรู้สึกแบบใหนก็เถอะ ถูกฮารุโนะสลัดรักแล้วด้วย ทุกครั้งที่นึกขึ้นมาก็ทำให้หดหู่ มีแค่ฮารุโนะเท่านั้นที่ไม่อยากจะถูกปฏิเสธ

 

“โฮชิมิยะ?”

 

“……”

 

โฮชิมิยะมองลองไปในนิตยสารไม่พูดไม่จา

แต่ที่หูกลายเป็นสีแดง

หยุดทีเถอะ ถ้าตอบสนองขนาดนั้นกระทั้งผมก็เหมือนจะหน้าแดงเอา

ถึงจะป่านนี้แล้วก็เถอะ แต่โฮชิมิยะหน้าแดงง่ายจังเลยนะ

 

“ถ ถ้าแบบนั้น….มาคบกันจริงๆเลยมั้ย?”

 

โฮชิมิยะพูดโดยที่ไม่ได้มองมาที่ทางนี้

 

“แบบนั้นน่ะ…ไม่เอาหรอก”

 

“….. ฮ ฮ่ะๆ นั้นสิน้า~ เป็นไปไม่ได้สินะที่พวกเราจะคบกัน”

 

“เปล่า ไม่เกี่ยวกับคบหรือไม่คบ เพียงแค่ว่าติดกับการคบแบบง่ายๆแค่นั้นเอง”

 

“….เอ๊ะ?”

 

“ฉันอาจจะคิดมากเกินไปก็ได้ แต่ถ้าจะคบล่ะก็…อยากจะทำ….หลังจากที่สารภาพรักน่ะ?”

 

นี่เราพูดอะไรด้วยท่าทางจริงจังละเนี่ย

ระหว่างที่พูดจู่ๆก็รู้สึกอายแล้วเสียงก็เบาลง

 

“ถ ถ้างั้น…จากมุมมองของคุโรมิเนะคุง….เค้าเป็นผู้หญิงที่อยากจะสารภาพรักด้วย…แล้วรึยัง?”

 

โฮชิมิยะที่เสียงสั่นด้วยความเขิน เงยหน้าออกจากนิตยสารแล้วช้อนตามองมาที่ผม ใบหน้าที่แดงก่ำนั้นดูเหมือนกำลังคาดหวังอะไรสักอย่างอยู่ นี่มัน….ต้องตอบแบบใหนถึงจะถูกละ?

ถ้าตอบ[อือ]แล้วพยักหน้า ก็เหมือนกับสารภาพรักเลยสิ

กลับกันแล้วถ้าปฏิเสธด้วยการตอบ[อื้อ]ก็เหมือนกับบอกว่าโฮชิมิยะไม่มีเสน่ห์

 

“ย ยังไงเหรอ? จำเป็นต้องคิดขนาดนั้นเลยเหรอ?”

 

ทำแก้มพองและบ่นด้วยความไม่พอใจ

 

“นั่นสินะ…. ฉันน่ะ….”

 

หลังจากนั้นผู้หญิงที่ใส่สูทที่กำลังเดินไปด้วยใช้มือถือไปด้วยก็ชนกับโฮชิมิยะ

 

“อ—”

 

“อ๊ะ ขอโทษค่ะ!”

 

ผมจับโฮชิมิยะที่เสียการทรงตัวและกำลังจะล้มลงมาไว้ที่อกอย่างรวดเร็ว

 

“ขอโทษจริงๆนะคะ! เป็นอะไรรึเปล่าคะ!?”

 

“ไม่เป็นไรครับ โฮชิมิยะเองก็ไม่ได้รับบาดเจ็บใช่รึเปล่า?”

 

“….อ อือ”

 

“ขอโทษจริงๆนะคะ! รีบไปหน่อย….”

 

“ทางนี้ไม่เป็นไรด้วย ช่างเถอะครับ”

 

นอกจากนี้ดูเหมือนจะไม่ได้ชนกันแรงอะไร

ที่โฮชิมิยะถูกชนคงเพราะลดความระวังลง

หลังจากที่ก้มหัวอยู่หลายครั้ง ผู้หญิงในชุดสูทก็รีบออกจากร้านไปอย่างรวดเร็ว

….ผู้ใหญ่เนี่ย ลำบากแย่เลยน้าา

 

“โฮชิมิยะ เป็นอะไรรึเปล่า?”

 

“……”

 

เพราะอะไรสักอย่างโฮชิมิยะเลยยังยืนพิงผมอยู่

ตอนนี้ผมเลยดูเหมือนกอดโฮชิมิยะอยู่

 

“…..คือว่า?”

 

กำลังจับเครื่องแบบของผมที่แถวๆหน้าอกและก้มหัวเพื่อซ่อนใบหน้าอยู่

เกิดอะไรขึ้นกันนะ?

 

“….คือว่า ที่รับเอาไว้…ขอบคุณนะ”

 

ในที่สุดโฮชิมิยะก็ปล่อยแต่ก็ยังก้มหน้าทั้งๆแบบนั้น พูดขอบคุณด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา

 

“ได้เวลาออกแล้วล่ะ”

 

“อ โอ้….”

 

โฮชิมิยะหยิบนิตยสารที่วางอยู่บนพื้นแล้วไปที่เครื่องคิดเงิน ….ซื้อให้เรียบร้อยสินะ ถึงอย่างนั้น ท่าทางก็ยังดูแปลกๆ การเคลื่อนไว้ดูเงอะงะ

อย่างที่คิด คงจะบาดเจ็บอยู่สักที่สินะ? หรือไม่ก็….คิดถึงเราอยู่?

 

“จะใช่ได้ยังไง”

 

ตัดความคิดอ่อนหัดออกไปด้วยคำพูดของตัวเอง สมมุติว่าต่อให้นึกถึงก็คงไม่ใช่ความรู้สึกรักใคร่ เพราะความต้องการของผมเลยทำให้เข้าใจผิดไปแบบนั้น …..ความต้องการ? นี่เราอยากจะให้โฮชิมิยะชอบงั้นเหรอ? 

 

“คุโรมิเนะคุง? เป็นอะไรไปเหรอ?”

 

“เปล่า………”

 

พอมองหน้าของโฮชิมิยะที่ถามแบบใสซื่อ ก็คิดว่าน่ารักจังนะ….แล้วก็ใจมันก็สั่นระรัว ผมคิดว่าอยากจะอยู่เคียงข้างกับโฮชิมิยะเพื่อที่จะปกป้องคนที่ช่วยชีวิตเอาไว้แต่ว่าจริงๆแล้วอาจจะไม่ใช่ก็ได้ พอมองย้อนไปสองสามวันมานี้ ทุกๆอย่างเริ่มต้นจากการที่ถูกโฮชิมิยะช่วย ตั้งแต่นั้นก็ได้รับรอยยิ้มที่ไร้ซึ่งความกังวลหลายต่อหลายครั้ง กระทั้งการใช้ชีวิตประจำก็ยังได้รับการสนับสนุน โฮชิมิยะนั้นอ่อนโยนกับผมโดยที่ไม่ได้หวังผลตอบแทนอะไรเลย

 

“……”

 

หลังจากที่รู้สึกตัวไปแล้วครั้งหนึ่งมันก็หยุดไม่ได้ ผมอาจจะชอบโฮชิมิยะแล้วก็ได้ ไม่ชอบก็แปลกแล้วล่ะ เพื่อที่จะตอบแทนเลยตั้งใจจะปกป้องโฮชิมิยะแต่ว่าจริงๆแล้วเป็นความคิดของตัวเราเองรึเปล่านะ

 

“คุโรมิเนะคุ-ง หน้าแดงแล้วแหนะ?”

 

“ม ไม่มีอะไร…..รีบกลับกันเถอะ” 

 

“อือ…..?”

 

พอถูกเห็นหน้าก็เลยรู้สึกอายเลยชวนออกไปข้างนอก โฮชิมิยะเอียงคอด้วยท่าทางสงสัย คงจะรู้สึกว่าปฏิกิริยาของผมแปลกๆสินะ เพราะรู้สีกว่ารีแอ็คชั่นนั่นน่ารัก ตอนนี้เราอาจะอาการหนักสุดๆเลยก็ได้

 

 

“กอดกันด้วย—!”

 

ฉันกำลังแอบมองอยู่ที่ด้านหลังเสาไฟ

จ้องมองทั้งสองคนที่อยู่ที่มุมหนังสือของร้านสะด้วกซื้อจากข้างนอก

 

“หงุดหงิด…..หงุดหงิดแบบสุดๆเลย…!”

 

รู้สึกหงุดหงิดจนพูดอะไรไม่ออก

แล้วยังถึงขั้นกัดฟันโดยที่ไม่รู้ตัว

 

“อ๊ะ….”

 

พอเห็นทั้งสองคนออกมาจากร้านสะดวกซื้อก็รีบซ่อนตัวที่หลังเสาไฟ

พอจ้องแผ่นหลังของทั้งสองที่เดินเป็นแถวที่ทางเท้า ก็ใจเย็นลงมานิดหน่อย

 

“…..อ้าว? ทำไมถึงได้รู้สึกหงุดหงิดขนาดนั้นกันละ”

 

ทั้งที่ริคุงจังแค่ไปสนิทกับผู้หญิงคนอื่นเองแท้ๆ

พอนึกย้อนไปตอนที่เจอทั้งสองคนในเมืองหน้าอกมันก็กระวนกระวายไม่หายเลย

ภาพที่ริคุจังกอดอายานะจังติดอยู่หัวอยู่ตลอด

และก็ยัง—กอดกันอีกแล้ว

…………

 

“อ๋า โธ่ หงุดหงิด!”

 

เพราะอะไรไม่รู้ถึงได้รู้สึกโกรธจนทนไม่ได้ ไม่ว่ายังไงก็ทำใจให้เย็นไม่ได้ แล้วก็รู้สึกกังวลกับการกระทำของทั้งสองคนมากๆและพอรู้สึกตัวก็กำลังเลียนแบบอยู่

 

“ริคุงจัง…กำลังทำหน้าอ่อนโยนแบบสุดๆอยู่ ทั้งๆที่ใบหน้านั้นมีแค่ฉันที่เคยเห็นแท้ๆ…!”

 

เพื่อนสมัยเด็กคนสำคัญกำลังใช้เวลาเพื่อเติมเต็ม

นั่นเป็นเรื่องที่ดีน่าดีใจสุดๆ

ทั้งๆที่ควรจะเป็นแบบนั้นแท้ๆ ทำไมกันละ…?

ไม่อยากจะมอง—ริคุงจังในตอนนี้เลย

ไม่ชอบเลยที่ริคุจังสนุกกับผู้หญิงคนอื่นที่ไม่ใช่ฉัน

แต่มันก็อดสงสัยไม่ได้ว่าทั้งสองกำลังทำอะไรอยู่

 

“สองคนนั่น กำลังไปที่ใหนกันน่ะ ตรงนั้นเป็นสถานีสินะ?”

 

จะว่าไปแล้วอายานะจังมาโรงเรียนด้วยรถไฟรึเปล่านะ?

นี่หรือว่า—

 

“จะต้องทำให้แน่ใจ”

 

กำลังอยู่ด้วยกัน—นั่นเป็นเพียงสิ่งเดียวที่ไม่ควรจะเกิดขึ้น

ไม่อยากจะคิดถึงมันเลย แต่ก็ถามริคุงจังไปตรงๆไม่ได้

แต่ว่าอยากจะให้มันชัดเจนไปเลย

แล้วฉันก็สลัดความรู้สึกแย่ๆออกไปและไล่ตามทั้งสองคนอีกครั้ง

======จบตอน======

ทางข้างหน้ามีแต่ภาพบาดตานะเพื่อนสมัยเด็กจัง//คอมเม้นกันอย่ารุนแรงจนเกินไปนะครับ

ーーーーーーーーーーーー

ติดตามผลงานอื่นๆกับสนับสนุนผู้แปลได้ที่

ดอกไม้ไฟ | Facebook

[WN]Konbini gōtō kara tasuketa jimi ten’in ga, onaji kurasu no ubude kawaii gyarudatta

[WN]Konbini gōtō kara tasuketa jimi ten’in ga, onaji kurasu no ubude kawaii gyarudatta

Status: Ongoing
อ่านนิยาย [WN]Konbini gōtō kara tasuketa jimi ten’in ga, onaji kurasu no ubude kawaii gyarudattaไม่ไหวแล้วตายดีกว่า ฤดูใบไม้ผลิของมัธยมปลายปี2 ฉัน[คุโรมิเนะ ริคุ]สารภาพรักกับเพื่อนสมัยเด็กที่เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยเด็กๆ―――――แล้วถูกสลัดรักแบบง่ายๆ จนถึงประถมต้นเราอาบน้ำด้วยกันและให้คำมั่นจนกว่าจะถึงอนาคต ม.ต้นและม.ปลายเองก็เหมือนกันเราไปและกลับจากโรงเรียนด้วยกัน เราที่อยู่ด้วยกันมักจะถูกปฏิบัติเหมือนเป็นคู่รักจากคนรอบข้างอยู่ตลอด

Recommended Series

Comment

Options

not work with dark mode
Reset