[WN]Konbini gōtō kara tasuketa jimi ten’in ga, onaji kurasu no ubude kawaii gyarudatta – ตอนที่ 6

ชื่อเรื่อง:Konbini gōtō kara tasuketa jimi ten’in ga, onaji kurasu no ubude kawaii gyarudatta

ตอนที่ 6

 

 

พอเห็นท่าทางครุ่นคิดของผมโฮชิมิยะก็หน้าแดงแล้วรีบร้อนแก้ตัว

 

“อ่ะ ค คือว่า…ไม่ได้มีเหตุผลลึกซึ้งอะไรเป็นพิเศษหรอกนะ!”

 

“รึก็คือโฮชิคาวะเป็นแกลบิชที่เอาผู้ชายเข้าห้องโดยที่ไม่มีเหตุผลอะไรสินะ?”

 

“โหดร้าย! ไม่ใช่บิชสักหน่อย!”

 

“ล้อเล่นต่างหากละ ที่มาเสนอให้ไปค้างเพราะว่าเป็นห่วงใช่มั้ยละ?”

 

คงอยากจะจับตาดูว่าผมจะฆ่าตัวตายรึเปล่างั้นสินะ

 

“เอ่อ..ไอ้นั่นเองก็ใช่อยู่หรอก…”

 

“ขอโทษเรื่องน้ำเสียงทีนะ  เมื่อวานก็บอกแล้วนี่ว่าฉันไม่เป็นไรไม่ต้องใส่ใจก็ได้”

 

“แต่ว่า วันนี้คุโรมิเนะคุงฝืน…..อ อืออ จริงๆแล้วเค้าเองก็มีปัญหาอะ”

 

“มีปัญหาเหรอ?”

 

“อือ คือช่วงนี้เหมือนโดนสตอล์กเกอร์ยังไงไม่รู้ มันน่ากลัวอะ…คุโรมิเนะคุงเองก็เหมือนจะอยู่คนเดียวด้วยถ้ามาค้างที่บ้านเค้าคงจะไม่มีปัญหาอะไรน่ะ..ไม่ได้เหรอ?”

 

โฮชิมิยะถามพร้อมด้วยชำเลืองมองมาเพื่อดูอารมณ์ ….สตอล์กเกอร์เหรอ โฮชิมิยะน่ารักด้วยสิ ไม่แปลกที่จะมีผู้ชายแบบนั้นปรากกฏตัวออกมา

 

“ก็ใช่ว่าสงสัยหรอกนะ แต่ไม่ได้คิดไปเองใช่มั้ย?”

 

“มั้งนะ..ไม่ได้เห็นแบบตรงๆหรอกแต่รู้สึกเหมือนโดนตาม…แล้วก็นะ ชุดชั้นในที่ตากเอาไว้มันหายไปตัวหนึ่งอะ ถึงจะปฏิเสธที่ว่าลมอาจจะพัดไปไม่ได้ก็เถอะนะ”

 

“แจ้งตำรวจรึยัง?”

 

“ไปปรึกษามาแล้วครั้งหนึ่งแต่ไม่ค่อยจะเป็นมิตรเท่าไหร่เลยน้า ถึงจะอ้อมๆแต่ก็ถูกบอกว่าให้มาหลังจากที่มีหลักฐานจนมั่นใจแล้วน่ะ”

 

“นั่นมัน..แย่เลยนะ”

 

พอพูดไปโดยที่ไม่ได้ปิดซ่อนความเห็นใจ โฮชิมิยะเองก็พยักหน้าด้วยสีหน้าหมองๆแล้วพูดว่า “อือ แย่มากเลย…”

ตำรวจเองก็มีเรื่องราวกับจุดยืนด้วย ถ้าเหตุเกิดมันต่ำก็คงจะเคลื่อนไหวอะไรไม่ได้….ถึงจะไม่ค่อยรู้อะไรเท่าไหร่ก็เถอะ

 

“ถ้าเกิดคุโรมิเนะคุงไม่ชอบก็ปฏิเสธได้นะ เรื่องสตอล์กเกอร์คงจะคิดมากไปเองด้วย”

 

“อาจจะคิดมากไปเองก็ได้ แต่ก็อาจจะเป็นจริงก็ได้ใช่มั้ยละ?”

 

“ก็ใช่แหละ..”

 

ก็อาจจะคิดไปเองแต่การที่ผู้หญิงอยู่คนเดียวก็คงจะกลัวละมั้ง

 

“เอาล่ะเข้าใจแล้ว เอาสิ ตั้งแต่วันนี้เดี๋ยวจะไปค้างที่บ้านของโฮชิมิยะนะ”

 

“เอ๊ะ จะดีเหรอ?”

 

“ชีวิตนี้ถูกโฮชิมิยะช่วย เพื่อโฮชิมิยะแล้วจะทุ่มสุดตัวเลย…!”

 

“ไม่สิ ไม่ได้ขอถึงขนาดนั้นสักหน่อย”

 

ก็อาจจะพูดเกินจริงไปหน่อย

จะแข็งแกร่งขึ้นอีกสักหน่อยแล้วกัน

 

“แต่ว่านะคุโรมิเนะคุง ขอถามหน่อยนะ ถ้าเกิดว่ามีสตอล์กเกอร์อยู่จริงๆ…จะไม่อันตรายเหรอ?”

 

“ถ้าแบบนั้นโฮชิมิยะที่อยู่คนเดียวไม่อันตรายกว่าเหรอ”

 

“นั่นมันก็ใช่…”

 

“ไม่เป็นไรหรอก เห็นแบบนี้ฉันก็พอตัวอยู่”

 

“เอ๊ะ งั้นเหรอ?”

 

“อา ถึงจะปิดเอาไว้ แต่ตอนม.ต้นน่ะเคยหวังว่าจะได้แข่งคาราเต้งานใหญ่ๆเยอะๆถ้าเกิดได้แชมป์ก็คงดีแท้ๆน้า”

 

“ก็แค่ความปราถนานี่นา! เอ๊ะ จะไม่เป็นไรจริงๆเหรอ!?”

 

“ไว้ใจได้เลย ต่อให้ชีวิตนี้จะถูกเป็นก็จะปกป้องโฮชิมิยะ”

 

“ก็บอกว่าไม่ไดขอถึงขนาดนั้นไง…แต่ คือว่า ขอบคุณนะ”

 

ถึงเมื่อกี้จะล้อเล่นแต่คงต้องแบ่งเรื่องคิดจริงๆจังๆแล้วล่ะ

ได้ค้างที่ห้องผู้หญิงด้วยล่า~ใช่เรื่องน่ายินดีตรงใหนฟะ

ใช้วิธีรับมือทั้งหมดที่จะทำได้ ที่เหลือก็ภาวนาให้สตอล์กเกอร์เป็นแค่เรื่องคิดไปเองเท่านั้น

 

 ◯

 

“แล้วก็มาค้างจริงๆจนได้”

 

พอเห็นอพาร์ตเม้นที่โฮชิมิยะอาศัยอยู่แล้วก็บ่นพึมพัม

ผมกำลังสพายเป้อยู่ เพื่อที่จะเตรียมตัวค้างเลยกลับบ้านไปครั้งหนึ่ง รอบนี้มาด้วยรถไฟแทนจักรยาน

ผมเดินขึ้นบันไดที่เป็นสนิมเหมือนเมื่อคืนนี้แล้วไปที่หน้าห้องของโฮชิมิยะ

ถึงจะประหม่าอยู่หน่อยๆแต่ก็กดกริ่งไป

 

“ค่า”

 

“ฉันเอง คุโรมิเนะครับ”

 

“จะไปเดี๋ยวนี้แหละ”

 

เสียงสดใสจังนะ

ต่อจากนี้ไม่คิดเลยว่าจะเป็นเด็กสาวที่ชักชวนชายหนุ่ม ไอ้นี่คือแกลที่พูดถึงกันงั้นเหรอ

เป็นความรู้สึกที่ชั่วชีวิตนี้คงจะไม่มีวันเข้าใจ

มีเสียงแกร๊กดังขึ้นแล้วประตูก็เปิดออก

โฮชิมิยะที่ใส่ชุดที่ให้อารมณ์เหมือนเสื้อที่ใส่อยู่บ้านหลวมๆปรากฏตัวออกมา

 

“ขอบคุณที่มานะจ๊ะ คุโรมิเนะคุง”

 

“ถ้าถูกโฮชิมิยะเรียกต่อให้เป็นอีกซีกโลกก็จะไปด้วยความเร็วมัคเลย”

 

“เหมือนจะเข้าใจบุคลิกของคุณโรมิเนะคุงแล้วยังไม่รู้สิน้า ชอบขี้เล่นใช่มั้ยละ?”

 

“ก็นิดๆหน่อยๆมั้งนะ”

 

เข้าไปในบ้านโดยที่มีโฮชิมินะที่ยิ้มเจื่อนๆนำ

พอผ่านครัวที่สะอาดสะอาดก็จะเป็นห้องที่เป็นพื้นที่อยู่อาศัย

 

“โอ๊ะ ยินดีต้อนรับจ้าริคุคุง”

 

“….อิหยังวะ”

 

มอนโด จิฮารุ—-มอนมอนอยู่ด้วย

ทำท่าผ่อนคลายที่โต๊ะเล็กๆแล้วกำลังซดเบียร์กระป๋องที่มืออยู่ด้วย

ทั้งหน้าทั้งน้ำเสียงนั่นดูจะสนุกแบบเสียเปล่าอยู่

 

“เอ๊ะ ที่ฉันอยู่มันไม่ดีเหรอ? คิดว่าจะได้ทำไอ้นั่นกับอายานะจังได้ง่ายๆรึไง–!”

 

“นี่ โฮชิมิยะ คนๆนี้โยนออกนอกบ้านได้เลยมะ?”

 

“ม ไม่ได้นะ เอ่อ น่าจะบอกไปว่าคุณจิฮารุอยู่คงจะดีกว่าสินะ?”

 

“เปล่า ไม่ใช่ แค่แปลกใจนิดหน่อยน่ะ”

 

จริงๆแล้วแปลกใจแบบสุดๆเลยต่างหาก

เพราะคิดว่าจะไม่ได้เจอกันอีกเป็นครั้งที่สองแล้วไงละ

พอคิดๆแล้ว ที่มาค้างที่บ้านของโฮชิมิยะคงเลี่ยงที่จะเจอเธอที่ห้องข้างๆไม่ได้หรอก

 

“ได้ยินเรื่องราวจากอายานะจังแล้วล้า- โชเน็นคุงที่หนีออกจากบ้านปกป้องสาวแกลจากสตอล์กเกอร์ใช่มั้ยละ?”

 

“ก็ คงประมาณนั้นแหละมั้งครับ”

 

เหมือนว่าจะถามจากโฮชิมิยะ

หรือว่า มอนมอนกำลังคิดว่าผมเป็เด็กหนุ่มที่กำลังหนีออกจากบ้านน่ะ

ดูท่าจะต้องให้โฮชิมิยะมาคุยกันแล้วล่ะ

 

“ว่าแต่ ริคุคุง”

 

“…ว่าไงครับ”

 

ทุกๆครั้งที่คนๆนี้เปิดปากเหมือนถูกบังคับให้ประหม่าเลย ยังไงก็คงพูดแต่เรื่องไร้สาระละมั้ง? คงเกี่ยวกับเรื่องใต้สะดือแหละ

 

“เตรียมทำไอนั่นยัง?”

 

ไงละซื้อหวยไม่เคยจะถูกแบบนี้เลย

 

“พวกเธอยังอยู่มัธยมปลายกันอยู่นะ เวลาจะทำไอ้นั่นกันอะไม่เตรียมไม่ได้หรอกนะ”

 

“อ้าว? คุณจิฮารุ ไอ้นั่นที่ว่าเนี่ยคืออะไรเหรอคะ?”

 

“แน่นอนว่าถุง—”

 

“เดี๋ยวจะฟ้องเลยนะหล่อน เอาจริงนะ”

 

โยงไปเรื่องใต้สดือทันทีทันได้เลยเฮ้ย ประมาทไม่ได้เลย

 

“ไม่เอาสิๆริคุคุง เรื่องนี้น่ะสำคัญสุดๆเลยนา เธอน่ะรับผิดชอบได้เหรอ?”

 

“ไอ้เรื่องแบบนั้นมันไม่เกิดขึ้นหรอกครับ”

 

“หืม? ทั้งสองคนพูดเรื่องอะไรกันน่ะ? พูดให้เค้าเข้าใจได้รึเปล่า?”

 

“โฮชิมิยะ…ช่วยเป็นอย่างที่เธอเป็นทีเถอะนะ”

 

“เอ๋?”

 

สาวแกลใสซื่อบริสุทธิ์ที่ไม่รู้จักสิ่งสกปก

จะว่าใสซื่อบริสุทธิ์รึขาดความรู้เยอะเกินไปดีละ

ยังไงก็ความรู้สึกช้ากับเรื่องทางนั้นเกินไปแล้ว

 

“อ๊ะ ขอโทษนะ เค้าใกล้ได้เวลาทำพาทไทม์แล้วอะ ขอไปเตรียมตัวก่อนนะ”

 

พอพูดแบบนั้นแล้วโฮชิมิยะก็รีบเข้าไปที่ที่ล้างหน้า

เห๋ เอาจริงดิ

อยู่สองต่อสองกับมอนมอนจนได้

พออยู่กับคนๆนี้แล้วก็ตกไปอยู่สถานะถูกอยอกล้อไม่ถนัดเลยน้า

 

“ริคุคุง หรือว่าไม่ถนัดรับมือฉันเหรอ?”

 

“ไม่ใช่หรือ แต่ไม่ถนัดเลยครับ”

 

“’งั้นเหรองั้นเหรอ ถ้างั้นเพื่อที่จะเป็นหลักฐานแห่งมิตรภาพจะให้ไอ้นี่ล่ะกัน มาสนิทกันเถอะเน๊าะ”

 

มอนมอนยิ้มกว้างแล้วเอาหนังสือออกมาจากถุงที่วางไว้

ผมถูกยื่นหนังสือให้ด้วยท่าทางที่เป็นธรรมชาติ

จากนั้นก็ก้มดูปก—-เสียใจภายหลังโคตรๆ

 

“อะไรน่ะครับ ไอ้นี่”

 

“เหะๆ ไม่ต้องขอบคุณหรอก ใช้มันให้ดีๆด้วยละ”

 

“ใช้เนี่ย…ไอ้นี่มันหนังสือโป้ไม่ใช่เหรอครับ แถมยังมีแกลเป็นนางเอกอีก”

 

เป็นแกลแต่งตัวไม่เรียบร้อยผมสีน้ำตาลพูดว่า “มาเล่นอะไรไม่ดี..กันมะ?” แล้วก็กลั้นหัวเราะ

โคตรจะแย่

หลักฐานแห่งมิตรภาพอยู่เลเวลที่เริ่มสงครามโลกได้เลย

 

“งั้นไปก่อนนะ”

 

แล้วโฮชิมิยะก็เข้ามาในห้อง ผมทำการซ่อนหลังสือโป้ไว้ในเสื้อ

 

“หืม? เป็นอะไรเหรอคุโรมิเนะคุง?”

 

“ไม่มีอะไร ยิ่งกว่านั้นทางโฮชิมิยะต่างหากละเป็นอะไร ยังอยู่ในโหมดเรียบๆอยู่เลยนะ”

 

โฮชิมิยะในตอนนี้ล้างเครื่องสำอางออก และแก้โพนี่เทล

แถมยังใส่แว่นทรงกลมด้วย

 

“โหมดเรียบๆเนี่ย…เมื่อก่อนถูกลูกค้าโกรธเพราะแต่งตัวสุดตาน่ะ”

 

“งานบริการเนี่ยลำบากแย่เลยนะ”

 

“อ่ะฮ่ะฮ่ะ แต่ก็มีคนใจดีอยู่เยอะเลยแล้วก็สนุกด้วย ถ้างั้นไปก่อนนะ”

 

โฮชิมิยะยิ้มอย่างร่าเริงแล้วโบกมือให้พวกผมครั้งหนึ่งก่อนจะมุกไปที่ประตูทางเข้า

 

“อายานะจังเนี้ยเป็นเด็กดีจริงๆเลยน้า~”

 

“นั่นสินะครับ”

 

“อย่างที่คิด จะทำไอ้นั่นใช่มะ?”

 

“กลับไปเลย”

 

จะพูดไว้เผื่อความแน่ใจล่ะกัน

ผมน่ะปฏิบัติต่อผู้ที่อาวุโสกว่าด้วยความเคารพ

ที่พูดไปหยาบๆแบบนั้นเพราะอีกฝ่ายคือมอนมอนไงละ

ครั้งนี้เป็นการเจอกันครั้งที่สองแต่จุดยืนของเธอในตัวผมนั้นถุกตัดสินใจแล้ว

 

“ริคุคุง เป็นเรื่องจริงจังนะ อย่าทำให้อายานะจังต้องเสียใจละ”

 

“…คุณมอนโด”

 

นั่นมันไม่ได้ให้ความรู้สึกเหยาะแหยะเหมือนก่อนหน้านี้เลย

คุณมอนโดจ้องมาทื่ตาผมด้วยสายตาที่จริงจังมากๆ

 

“ถึงเธอจะมีปัญหาอยู่หลายๆอย่างก็เถอะ แต่อายานะจังเองก็มีปัญหาอยู่เยอะเหมือนกัน”

 

“เหมือนจะแบบนั้นนะครับ สตอล์กเกอร์จากพาทไทม์”

 

“ไม่ใช่เรื่องนั้นหรอกนะ”

 

“เอ๊ะ?”

 

ไม่เห็นจะเข้าใจที่พูดอยู่เลย

มีอะไรอย่างอื่นอีกเหรอ?

 

“เจอกัน ฉันเองก็กลับล่ะ  อ๊ะ แล้วก็ตอนที่อายานะจังไม่อยู่น่ะ จะสอบชั้นในไม่ได้นะจ๊ะ”

 

“ก็บอกว่าไม่ทำไงครับ”

 

สุดท้ายก็เป็นมอนมอนตั้งแต่ต้นจนจบ

พอเห็นมอนมอนกลับบ้านไปผมก็ปิดประตูแล้วกลับมาที่ห้องพร้อมกันถอนหายใจ

อยู่ลำพังแล้วสิ เอาล่ะ ทำอะไรดี

แล้วจะเอาไงกับหนังสือโป้ที่อยู่ในมือผมดีละเนี่ย

 

“จะว่าไป ที่ไม่ตามโฮชิมิยะไปนี่จะดีเหรอ?”

 

กังวลเรื่องสตอล์กเกอร์อยู่ไม่ใช่เหรอ?

อยู่ด้วยกันจะไม่ดีกว่าเหรอ?

เอาเถอะ ดูรีบร้อนด้วยสิ อาจจะลืมไปแล้วก็ได้

ตอนนี้ก็ติดต่อโฮชิมิยะแล้วกัน

พอเสร็จงานพาทไทม์ก็ไปรับล่ะกัน

พอคิดแบบนั้น ใหนตอนที่หยิบมือถือขึ้นมา ก็มีสายมาจากคนๆหนึ่ง

 

“….ฮารุโนะ”

 

เป็นสายที่มาจากเพื่อนสมัยเด็กนั่นเอง

======จบตอน======

เป็นเรื่องที่ยาวไม่แผ่วเลยสักตอน

[WN]Konbini gōtō kara tasuketa jimi ten’in ga, onaji kurasu no ubude kawaii gyarudatta

[WN]Konbini gōtō kara tasuketa jimi ten’in ga, onaji kurasu no ubude kawaii gyarudatta

Status: Ongoing
อ่านนิยาย [WN]Konbini gōtō kara tasuketa jimi ten’in ga, onaji kurasu no ubude kawaii gyarudattaไม่ไหวแล้วตายดีกว่า ฤดูใบไม้ผลิของมัธยมปลายปี2 ฉัน[คุโรมิเนะ ริคุ]สารภาพรักกับเพื่อนสมัยเด็กที่เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยเด็กๆ―――――แล้วถูกสลัดรักแบบง่ายๆ จนถึงประถมต้นเราอาบน้ำด้วยกันและให้คำมั่นจนกว่าจะถึงอนาคต ม.ต้นและม.ปลายเองก็เหมือนกันเราไปและกลับจากโรงเรียนด้วยกัน เราที่อยู่ด้วยกันมักจะถูกปฏิบัติเหมือนเป็นคู่รักจากคนรอบข้างอยู่ตลอด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset