ชื่อเรื่อง:Konbini gōtō kara tasuketa jimi ten’in ga, onaji kurasu no ubude kawaii gyarudatta
ตอนที่ 7
“ฮารุโนะ…”
ไม่อยากรับเลยน้า ก็อยากรับอยู่หรอกแต่ก็ไม่อยากรับอะ
แต่ถึงจะลังเลแต่เพราะช่วยไม่ได้เลยต้องรับ
“ริคุจัง! ตอนนี้มาบ้านฉันมั้ย? นานๆทีมากินข้าวเย็นด้วยกันเถอะ! พวกคุณแม่เองก็รออยู่นะ!”
เชิญอะไรแบบนั้นหรอกเหรอ ถึงจะไม่ใช่ช่วงนี้แต่ตอนม.ต้นเคยได้ไปกินข้าวเย็นที่บ้านของฮารุโนะอยู่ คงจะเพราะเป็นห่วงผมแหละมั้ง
“โทษทีนะแต่วันนี้ไม่ได้”
“…ทำไมละ?”
จากสดใสก็กลับตาลปัตรเหมือนเงาเปร่งจากเสียงของฮารุโนะ
“มีธุระน่ะ”
“ธุระ? จริงเหรอ?”
“ขี้สงสัยจังนะ จริงสิ”
“ก็จนถึงตอนนี้ไม่เคยปฏิเสธคำชวนของฉันเลยแท้ๆ..”
ที่ไม่ปฏิเสธเพราะเป็นคำชวนจากคนที่ชอบไง ให้เป็นสิ่งสำคัญกว่าอะไรทั้งมวลเลย
แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว
ถึงจะชอบแต่เพราะว่าชอบถึงได้ไม่อยากเจอ
“ฮารุโนะ วางสายแล้วนะ”
“เดี๋ยวสิ! อย่างที่คิดโกรธใช่มั้ย? นี่ โกรธอยู่ใช่รึเปล่า?”
“ถ้ายืนกรานตามนั้น ฉันเองก็จะโกรธให้ตามที่หวัง”
“โกรธอยู่จริงด้วย…”
ก็ยืนกรานเองไม่ใช่เหรอ.. เผลอถอนหายใจไปแบบไม่รู้ตัว
แต่ที่ฮารุโนะจะสับสนก็คงไม่แปลกอะไร
จนถึงตอนนี้ผมไม่เคยเย็นชากับเพื่อนสมัยเด็กเลยแม้แต่ครั้งเดียว
ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ปฏิเสธคำชวน
เพีบงแต่พอผมบอกความรู้สึกไปการพูดคุยมันก็เปล่าประโยชน์เท่านั้นเอง
ต้องระวังเรื่องน้ำเสียงที่อ่อนโยนและระวังการใช้คำ
“ฉันไม่ได้โกรธ ตอนนี้กำลังมาทำธุระในที่ไกลๆอยู่น่ะ”
“…จริงเหรอ?”
“อา จนถึงตอนนี้ฉันเคยโกหกสักครั้งมั้ยละ?”
“…ไม่เคย แม้แต่พูดเล่นก็ไม่เคย”
“ใช่มั้ยละ? งั้นพรุ่งนี้ไว้เจอกันที่โรงเรียนนะ”
“พรุ่งนี้มันวันเสาร์นะ”
“งั้นหรอกเหรอ งั้นก็เป็นวันจันทร์นะ”
“วันหยุดก็จะไม่ได้เจอเหรอ?”
“โทษที”
“….เข้าใจแล้ว เจอกันวันจันทร์ ไว้จะไปรับนะ”
ฮารุโนะพูดด้วยท่าท่างเหงาๆแล้วสักพักก็วางสายไป
….อะไรกันนะความรู้สึกนี้ ความรู้สึกที่พูดไม่ได้มันวนเวียนอยู่ในใจ ทั้งที่เจ็บปวดแต่ก็ยังดีใจที่ได้คำชวนจากฮารุโนะ
ยังไงก็เถอะ อยากจะเอาทุกๆอย่างออกมาแล้วเอาหัวโขกกำแพงชะมัด
◯
เดินบนภูเขาที่ไม่มีไฟข้างถนนอยู่พักหนึ่งในที่สุดก็ถึงร้านสะดวกซื้อที่ตั้งอยู่กลางความมืด
ประมาณ10นาทีก่อน ได้ติดต่อไปหาโฮชิมิยะผมเลยได้เดินมารับ
มีกุญแจสำรองใส่อยู่ในกระเป๋ากางเกง
แน่นอนว่าได้รับอนุญาติจากโฮชิคาวะแล้วเรียบร้อย แต่เหมือนตั้งใจจะเอาให้มากกว่า
ไอ้นี่คือที่เขาเรียกว่าอยู่กินด้วยกันใช่มะ?
เหมือนจะรู้สึกถึงวี่แววของสตอล์กเกอร์ได้เฉพาะแค่ตอนกลางคืน
พาร์ทไทม์ของโฮชิมิยะจะเสร็จตอนสี่ทุ่ม
ตอนกลับก็ขี่จักรยานไปตามถนนบนภูเขามืดๆแต่เหมือนบางครั้งก็รู้สึกได้ถึงสายตาจากทางด้านหลัง
“เหนื่อย…อยากได้จักรยาน……”
พอก้าวเข้าพื้นที่ของร้านสะดวกซื้อก็ถอนหายใจออกมา
ไอ้การออกกำลังกายหนักๆนี่ทำเอานึกถึงชมรมกลับบ้านเลย…
เดินผ่านประตูอัตโนมัติเข้าไปในร้าน ไม่มีลูกค้าเลยสักคนเหมือนเดิม
ที่อยู่เครื่องคิดเงิน—ไม่ใช่โฮชิคาวะ แต่เป็นคุณลุงที่กล้ามเป็นมัดๆแทน ทว่าริมฝีปากนั้นเหมือนกับผู้หญิง การแต่งหน้าในระดับที่แก้ตัวนั้นถูกแต่งแต้มบนในหน้าที่ขึงขัง
….สัตว์ประหลาด…ไม่สิ สาวสองเหรอ?
“ยินดีตอนรับจ้า…หืม? เธอ…เด็กตอนที่ถูกปล้นสินะจ๊ะ?”
“ช ใช่ครับ”
พอผมรู้สึกตัวก็ถูกลุงแกจับตามองด้วยสายตาระยิบระยับ หยึ๋ย
“หน้าตาหน้ารักใช้ได้จริงเชียว มาทำงานดูมั้ยจ๊ะ ว่าไงละ?”
“เป็นแมวมองตอนกลางคืนหรอกเราะ ผมมารับโฮชิมิยะน่ะครับ”
“อย่างนี้~นี่เอง ช่วงนี้เหมือนจะมีคนหน้าสงสัยตามอายานะจังด้วยสิ เธอเป็นบอดีการ์ดสินะจ๊ะ”
“ครับ”
มีนิสัยช่างพูดสินะ ทำเอารู้สึกขัดสุดๆที่พูดแบบผู้หญิงแต่เสียงเป็นลุง
ไม่สิจะปฏิเสธที่ว่าเป็นสาวสองไม่ได้แตต่ว่า…..
“ขอบคุณนะจ๊ะที่ปกป้องอายานะจัง”
“ก็แค่เรื่องบังเอิญเท่านั้นแหละครับ”
“อยากจะพูดขอบคุณในฐานะเจ้าของร้านน่ะ ขอบคุณจริงๆนะจ๊ะ”
“…..”
เจ้าของร้านหรอกเหรอ ก็คืออยู่เหนือกว่าผู้จัดการร้านอีกไม่ใช่เราะ!
“อายานะจังตอนนี้กำลังเตรียมกลับที่ด้านหลังจ๊ะ อีกแปปหนึ่งคงออกมาแล้วล่ะ”
“เข้าใจแล้วครับ จะรอครับ”
“ชื่อของเธอรู้สึกว่าจะเป็น..คุโรมิเนะริคุงสินะจ๊ะ”
“ครับ”
“ชื่อน่ารักจังแถมหน้าตาก็ยังน่ารักอีก”
เจ้าของร้านผ่อนคลายปากอย่างสนุกสนานขณะที่พูดอย่างนั้น
….อ้าว นี่ผมกำลังตกเป็นเป้าอยู่ใช่มะ?
“ไม่ลองทำงานที่นี่ดูเหรอจ๊ะ?”
“ถึงจะพูดแบบนั้น…”
“จริงจังนะจ๊ะ มันน่ากลัวที่จะต้องให้อายานะจังอยู่คนเดียว แถมช่วงนี้ก็มีการโจรกรรมอีก…”
“ที่นี่ตกเป็นเป้าได้ง่ายสินะครับ”
อยู่ไกลผู้คนแถมลูกค้าก็ไม่ค่อยมา
“ก็ตามนั้นแหละจ๊ะ นั่นเป็นเห็นผลที่ฉันพยายามเข้ากะดึกเพื่อไล่พวกโจรไป…สุดท้ายตอนอายานะจังอยู่คนเดียวก็ตกเป็นเป้า”
“ก็พูดปกติแท้ๆแต่เรื่องราวมันอันตรายแบบสุดๆเลยไม่ใช่รึไง”
จะให้พูดอีกแบบก็คือเจ้าของร้านคนนี้ไฟว้กับโจรมาหลายครั้งแล้ว อย่างที่คิดเลยสัตว์ประหลาดชัดๆ
“เพราะไม่ค่อยมีลูกค้าเลยอยากจะลดจำนวนพนักงานเท่าที่ทำได้…..แต่ชีวิตของพนักงานคนสำคัญน่ะมันแทนไม่ได้หรอกนะ แล้วคนที่ทำงานที่นี่ทุกคนก็เป็นผู้ยหญิงด้วย”
ก็คือผู้จัดการร้านก็เป็นผู้หญิงด้วยสินะ พนักงานคนอื่นๆที่ไม่เคยเห็นก็เหมือนจะเป็นผู้หญิง
“ว่าไงจ๊ะ?”
“…นั่นสินะครับ…”
“ได้ทำงานที่เดียวกันกับคนรักเหมือนฝันเลยใช่มั้ยละจ๊ะ?”
“เปล่าไม่ใช่คนรักกันสักหน่อยครับ”
“ทั้งที่ไม่ได้เป็นแฟนกัน แต่ก็ยังปกป้องจากการโดนปล้นกับสตอล์กเกอร์งั้นเหรอ?”
“ครับ ก็นะ”
เป็นผู้มีพระคุณน่ะแหละ
เจ้าของร้านที่ไม่รู้สถานการณ์ของฝั่งนี้เหมือนจะประทับใจอยู่
ดัง! กดเครื่องเก็บเงิน ตาก็เปิดกว้างแล้วได้ยินเสียงดัง
“เยี่ยมจริงๆ! นี่แหละหนุ่มชาวญี่ปุ่น! สายเลือดนักรบที่หลับไหลไงละ!”
“เฮ้ย ไม่ได้เป็นสาวสองแล้วหรอกเหรอครับ”
เป็นคุณลุงเข้มงวดซะงั้น
บรรยากาศเหมือนกับกวัดแกว่งหอกยักท่ามกลางสนามรบ
ตอนกำลังตะลึงอยู่ต่อหน้าเจ้าของร้านก็รู้สึกถึงคนที่อยู่ด้านหลัง
“อ๊ะ คุโรมิเนะคุง มารับสินะ ขอบใจ”
“….ขอบคุณที่มานะ”
“เอ๊ะ?”
โฮชิมิยะเอียงหัวแล้วมองมา
ให้ตาย อยู่กับเจ้าของร้านสองต่อสองเนี่ยเป็นภาระทางจิตใจในทุกๆความหมายเลย
“เหนื่อยหน่อยนะคะ เจ้าของร้าน”
“เหนื่อยหน่อยนะจ๊ะอายานะจัง ปล่อยให้แฟนหนุ่มปกป้องเลยนะจ๊ะ”
“ม ม มไม่ใช่แฟนสักหน่อยค่ะ!”
โฮชิมิยะหน้าแดงแล้วหน้าจนแว่นเหมือนจะหลุดเอาให้ได้
….ปฏิเสธกันขขนาดนั้นทำเอาว่างเปล่าเลยแฮะ
ออกจากร้านสะดวกซื้อกับโฮชิมิยะแล้วไปที่ลานจอดรถ แน่นอนว่ามีจักรยานอยู่คันเดียว
“ที่นี่น่ะไอ้นั่นสินะคุโรมิเนะคุง ขี่กันสองคนกันเถอะ”
“นั่นสินะ ไม่อยากเดินแล้วด้วย”
“เอาล่ะ ขึ้นมา”
โฮชิมิยะคร่อมจักรยานอย่างฮึกเหิมแล้วเร่งให้ไปนั่งข้างหลัง
“เอ่อ โฮชิมิยะจะปั่นเหรอ?”
“ก็นะ ไว้ใจได้เลย”
“ไม่สิ…ช่างมันละกัน”
ปกติผู้ชายต้องเป็นคนปั่นไม่ใช่เหรอ? คิดอย่างนั้นขณะที่ขึ้นไปนั่งด้านหลัง
โฮชิมิยะพยายามปั่นจักรยานพร้อมส่งเสียง”อือ~!”ออกมา แต่ก็รักษาสมดุลไม่ได้แล้ววางเท้าลงกับพื้น
“…ไม่ไหวไม่ใช่เหรอ? อย่างที่คิดให้ฉันปั่นเถอะ”
“ไม่เป็นไร! ถึงจะเป็นงี้แต่ประสาทตอบสนองเค้าน่ะดีมากเลยนะ!”
“ถึงจะว่างั้นก็เถอะนะ..”
พยายามปั่นเต็มที่ให้เท้าลอยจากพื้นแต่ว่าจักรยานมันไม่เป็นใจ
น่ากลัวจนผมเกาะเอวโฮชิมิยะเอาไว้ นุ่มแบบสุดๆเลยอะ….
แต่ว่าไม่อยากจะลงจากเขาด้วยวิธีขับอันตรายแบบนี้เลย
“ขอโทษนะโฮชิมิยะ ยังไม่อยากตายด้วยจักรยานอะ”
“ขอโทษ ไม่ค่อยอยากจะรบกวนคุโรมิเนะคุงเท่าไหร่น่ะ…”
“แค่นี้เอง ไม่ได้รบกวนสักหน่อย”
พอโฮชิมิยะนั่งข้างหลัง ผมก็ปั่นไปตามถนนบนภูเขาได้ง่ายๆเลย
ยังไงดีละ แบบนี้ก็ดีเหมือนกันน้าา
ปั่นจักรยานด้วยกันกับเด็กผู้หญิงบนภูเขาตอนกลางคืนเนี่ย
ถ้าเกิดว่าโฮชิมิยะเป็นฮารุโนะล่ะก็—-
“ถึงจะกระทันหันไปหน่อยแต่ว่า เกิดอะไรขึ้นเหรอ?”
“เอ๊ะ?”
นั่นเป็นการถามด้วยความมั่นใจ
“ตอนที่ทำพาร์ทไทม์อยู่น่ะนะ คิดถึงเรื่องของคุโรมิเนะคุงอยู่ตลอดเลยล่ะ”
……เอ๊ะ นี่หรือว่า—–
“ตอนที่เจ็บปวดน่ะชอบทำตัวแปลกๆสินะ?”
“……”
“กำลังหลอกตัวเองอยู่สินะ?”
“ยังไงกันนะ”
“อย่างนั้นแหละ ถ้าเกิดโกหกความรู้สึกตัวเองท้ายที่สุดก็จะพังทลายเอานะ พ่อของเค้าก็ด้วย ตอนที่เหนื่อยหรือไม่ไหวก็จะฝืนยิ้มฝืนหัวเราะ คุโรมิเนะคุงในตอนนี้ก็ให้ความรู้สึกแบบนั้นเหมือนกัน”
“…..”
ผมไม่ได้ตอบแล้วยังคงมองไปที่ความมืดข้างหน้าขนะที่บังคับจักรยาน
“เวลาที่เจ็บปวดจะบอกว่าเจ็บปวดก็ได้นะ ไม่สิ อยากจะให้พูดน่ะ”
แขนเรียวๆทั้งสองโอบกอดมาที่ท้องของผม
มีสัมผัสนุ่มๆอุ่นๆกดลงที่หลัง
กำลังถูกโฮชิมิยะโอบกอดอย่างอบอุ่นอยู่
“……เข้าใจแล้ว แต่ตอนนี้คงไม่ไหว……ไว้จะจัดการให้เหมาะนะ”
“อืม เอาตามย่างก้าวของคุโรมิเนะคุงนั่นแหละดีแล้ว…”
น่าแปลกที่คำของโฮชิมิยะนั้นเข้ามาในใจผมได้อย่างรวดเร็ว
คงเป็นเพราะรู้สึกได้ถึงความอ่อนโยนของเธอบนหลังละมั้ง
จนถึงตอนนี้ผมน่ะ คิดแค่เพียงว่าฮารุโนะอยู่เคียงข้างไม่ว่าอะไรก็ได้ทั้งนั้น อยากจะเป็นผู้ชายเท่ๆต่อหน้าของฮารุโนะฃ
แต่ว่าตอนนี้ผม—-
“จริงด้วย พรุ่งนี้ไปเที่ยวเล่นกันเถอะ”
“เที่ยวเล่น?”
“อือ! ปลดปล่อยตัวเองและเที่ยวเล่นให้เต็มที่! เป็นไง?”
“…..เอาสิ ไปเที่ยวเล่นกัน”
“ตัดสินใจแล้ว จะตั้งตารอพรุ่งนี้เลย”
เอะเหะเหะ ได้ยินเสียงน่ารักๆกระซิบข้างหูด้วยแหละ
ตอนนี้บนใบหน้าของโฮชิมิยะจะต้องมีรอยยิ้มที่น่าหลงไหลอยู่บนหน้าแน่ๆ
คงเพราะคิดถึงเรื่องนั้นผมเลยพูดไปตามใจจริงออกไป
“โฮชิมิยะเนี่ย……เป็นผู้หญิงที่ดีจังเลยนะ”
“เอ๊ะ เอ๋อ๋อ๋อ๋อ๋อ๋อ๋อ๋อ๋อ๋อ๋!? จู่ๆก็อะไรน่ะ!?”
“เปล่า แค่พูดไปตามที่คิดเท่านั้นเอง ไม่ได้หยอกเล่นหรอกนะ”
จะมีผู้หญิงคนใหนที่เข้าใกล้หัวใจของคนอื่นได้ขนาดนี้อีกมั้ยนะ
เพียงแค่ในตอนนี้หัวใจมันสุขล้นซะจนเกินกว่าที่จะพูดว่าชอบออกไป
“ธ โธ่! อย่าพูดอะไรแปลกๆสิ! ตั้งแต่แรกคุโรมิเนะคุงน่ะ—”
“เดี๋ย เดี๋ยว! อย่าอาละวาดสิ!”
ไม่รู้ว้าเพราะอายรึเปล่าแต่โฮชิมิยะที่อยู่ข้างหลังนั้นสั่นไหวหนักมาก อ อันตรายโคตร!
เป็นนรกการปั่นจักรยานยามค่ำคืนอย่างแท้จริงเลยล่ะ
จากนี้จะไม่พูดเรื่องที่ไม่ค่อยเก่งแล้วกัน….
======จบตอน======
ยาวดีจัง~