นิยาย World domination system
WDS Chapter 164 พบกันอีกครั้ง
WDS Chapter 164 พบกันอีกครั้ง
ทางเหนือของเอลฟาเวน มีอาคารแห่งหนึ่งซึ่งถูกทิ้งร้างไปเมื่อราว 10 ปีก่อน สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ เจ้าของของมันได้กู้เงินที่มีมูลค่าราว 100,000 แลนทอง โดยใช้อาคารแห่งนี้ค้าประกัน
ในท้ายที่สุด มันกลายเป็นว่า อาคารแห่งนี้เป็นของคนอื่นที่อยู่ในชนบท ซึ่งไม่ได้รู้เลยว่าเขาได้รับมันเป็นมรดกมา สุดท้าย รัฐจึงได้เข้ามาแทรกแซงอาคารแห่งนี้ เนื่องจากเจ้าของเดิมได้สละสิทธิ์การเป็นเจ้าของของมัน เพราะไม่ต้องการที่จะมีส่วนร่วมในเรื่องอื้อฉาวดังกล่าว
ในเวลาเที่ยงคืน 2 วันหลังจากการนัดพบที่เอลวิช คาร์นิวัล ผู้หญิงคนหนึ่งเดินอย่างเงียบๆและมองไปรอบๆพระราชวังเพื่อให้แน่ใจว่า ไม่มีใครแอบติดตามเธอมาก่อนที่จะเดินเข้าไปภายในอาคาร
ภายใน ชายอ้วนกําลังนั่งอยู่บนเก้าอี้
มองเห็นเขาผู้หญิงที่เพิ่งจะเดินเข้ามาถอนหายใจก่อนจะเดินไปนั่งเก้าอี้อีกตัว
“ข้าได้รวบรวมข่าวกรองมาแล้วและพบว่า ข้อมูลเกี่ยวกับการนัดพบครั้งแรกรั่วไหลออกไปโดยที่เจ้าไม่ได้ต้องการให้เป็นเช่นนั้น ถูกต้องหรือไม่?”
ได้ยินสิ่งที่ชายคนนั้นกล่าวโดยไม่มีแต่จะทักทาย เอลดร้าก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะกล่าวว่า “ใช่ คนของเจ้าโง่เพียงพอที่จะให้บางสิ่งที่สําคัญในสถานที่ที่ปกคลุมด้วยอุปกรณ์เฝ้าระวังราชินีเห็นข้าเปิดกระดาษแผ่นนั้น ข้าจึงไม่มีทางเลือกนอกจากส่งมอบมัน”
ยิ้มให้ตัวเอง แดนลตระหนักได้ว่า การนัดพบครั้งนี้จะดําเนินไปด้วยดี ในความเป็น จริงเขาได้เลือกสถานที่แห่งนี้ตามค่าแนะนําของโอลแฟกซ์ เนื่องจากมันเป็นสถานที่ที่ไม่ค่อยจะได้รับการลาดตระเวณเพราะอยู่ห่างจากถนนเส้นหลักทุกสาย
เห็นชายคนนั้นยิ้มให้ตัวเองและมองมาที่เธอด้วยดวงตาสีเขียว เอลดร้าก็ตบโต๊ะแล้วกล่าวว่า “เลือกสถานที่ได้ดี หากข้าไม่ได้มาในตอนเช้เพื่อปิดเครื่องประดับเวทมนต์ที่อยู่รอบๆชั่วคราวตอนนี้ เจ้าคงจะได้พบกับราชินีแล้ว”
ขมวดคิ้วของเขา แดนลตระหนักว่า เขาเกือบจะล้มเหลวอีกครั้งแล้ว แน่นอนว่าเขาไม่ได้กังวลมากเกินไปเพราะนี่ก็เป็นร่างโคลน
วางมือลงบนโต๊ะ เขาตัดสินในบางอย่าง
“ข้าต้องการที่จะเลิกแสร้งทําทั้งหมดนี้ อนุญาติให้ข้าแนะนําตัวอีกครั้งด้วย”
ในขณะที่เอลดร้าจดจ้องไปที่เขา ใบหน้าของเธอก็แสดงออกถึงความประหลาดใจ ใบหน้าและร่างกายของชายคนนั้นเริ่มบิดตัว ราวกับมีมดนับล้านอยู่ใต้ผิวหนังของเขาไม่กี่นาทีต่อมาบุคคลที่ไม่คาดฝันก็ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าเธอพร้อมกับสวมชุดหล อมๆของร่างก่อนหน้า
ลุกขึ้นด้วยความตกตะลึง เอลดราชี้นิ้วไปที่เขาและกล่าวเสียงสั่นว่า “เห..เหตุใดท่านถึงมาอยู่ที่นี่?”
ในขณะนั้น สมองของเธอว่างเปล่าเมื่อได้รู้ว่าคนที่ถูกเรียกว่ากบฏก็คือ ราชาแห่งแลนธานอร์
“นั่งลง ข้าจะขอเข้าประเด็นเลย ข้ามีวิธีที่จะทําให้เจ้าเป็นราชินีและข้าต้องการจะทําเช่นนั้น เพราะข้าต้องการที่จะควบคุมเอลดินอร์ ข้ามีข้อตกลงง่ายๆ หากเจ้าให้ข่าวที่สามารถกล่าวหาราชินีองค์ปัจจุบันให้กับข้าได้ ข้าจะทําให้แน่ใจว่า ข่าวนั้นจะเข้าถึงผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งทุกคนในราชอาณาจักรเอลดินอร์ นอกจากนั้น ข้าจะแบกรับค่าใช้จ่ายในการโฆษณาทั้งหมดเพื่อทําให้เจ้ากลายเป็นราชินี ในทางกลับกัน ข้าต้องการให้เจ้าสาบานตนกับข้าว่าเจ้าจะทําตามทุกค่าสั่งของข้า”
ขณะที่เธอฟังรายละเอียดของข้อตกลง เอลดร้าที่นั่งอยู่ก็อดไม่ได้ที่จะสั่นสะท้านหลังจากตระหนักได้ถึงความจริงที่ว่าเธอกําลังสมคบคิดกับประเทศศัตรู
อย่างไรก็ตาม ไม่นานหลังจากนั้น เธอก็ตระหนักได้ว่า มันไม่ใช่สิ่งสําคัญ เหตุผลที่เธอมาที่นี่ก็เพราะเธอต้องการจะหยุดทุกกิจกรรมที่ราชินีกําลังทําอยู่
ในความเป็นจริง หากเธอซื่อสัตย์กับตัวเองอย่างเต็มที่ เธอจะรู้ว่า นี่ไม่ได้เป็นเพียงเหตุผลเดียว ตั้งแต่เท่าที่เธอว่าความได้เธอได้รับการฝึกอบรมจากแม่ของเธอ ให้เข้ามาทําหน้าที่ราชินีแทนเมื่อถึงเวลา
ในการฝึกอบรมนี้ มีหลายครั้งที่เธอถูกทุบตีและถูกต่าหนิอย่างรุนแรง แม้ว่าเธอจะทําได้ดีที่สุดก็ตาม
แม่ของเธอไล่ตามความสมบูรณ์แบบในทุกๆด้าน แม้เอลดราจะมีความสามารถและพยายามได้เป็นอย่างดี แต่เธอก็ยังคงไม่สามารถจะเข้าถึงมาตรฐานระดับสูงที่แม่ของเธอกําาหนดเอาไว้ได้
เมื่อใดก็ตามที่เธออยู่ในสถานการณ์ที่เธอถูกทดสอบเพื่อดูว่า เธอจะทําอย่างไรหากเธอเป็นราชินี เอลดร้าจะจินตนาการว่า ตัวเองอยู่ในตําแหน่งที่เธอสามารถจะทําในสิ่งที่เธอต้องการได้โดยไม่ต้องมีเงาของแม่เธออยู่ด้านหลัง
ในช่วงเวลานี้ ขณะที่เธอไตร่ตรองถึงทางเลือก เธอได้ตัดสินใจแล้วว่า เธอจะไม่ยอมถูกควบคุมอีกต่อไป ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม เธอมีเหตุผลที่เห็นแก่ตัวและไม่เห็นแก่ตัวในการเป็นราชินี เห็นแก่ตัวก็คือ เธอต้องการที่จะตัดสินใจเกี่ยวกับชีวิตของเธอด้วยตัวเอง ไม่เห็นแก่ตัวก็คือเธอสามารถจะหยุดและและเปลี่ยนทุกสิ่งอันเลวร้ายที่แม่ของเธอท่าขณะอยู่บนบัลลังก์
เห็นเธอกําลังคิดอย่างลึกซึ้ง แดนลก็รออยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะโยนเหยื่อสําหรับปิดข้อตกลงออกไป
“อีกด้านข้าจะสาบานตนกับเจ้าว่าข้าจะไม่ออกคําสั่งให้เจ้าทําอะไรบางอย่างที่อาจจะเป็นการทําร้ายเหล่าเอลฟ์โดยปราศจากเหตุผลอันควร”
นี่คือการก้าวถอยหลังของเขา แม้ค่าสาบานตนนี้จะทําให้คลุมเครือเล็กน้อย แต่มันก็ยังคงมีค่า
ได้ยินสิ่งนี้ เอลดร้าก็พบว่ามันตรงกับสิ่งที่เธอคิด เธอชัดเจนกับสิ่งที่เธอต้องการในทันทีที่เธอเห็นข้อความในกระดาษ
แน่นอนว่า แม้สิ่งนี้จะมีความหมายว่า เอลดินอร์อาจจะกลายเป็นหุ่นเชิดภายใต้ประเทศศัตร แต่มันไม่เกี่ยวข้องกับเธอในตอนนี้ สิ่งที่เธอต้องการจะเห็นก็คือ รอยยิ้มของเหล่าเอลฟ์ตัวน้อยที่คิดว่าพวกเขารอดหลังจากที่เธอเปิดประตูเกวียนที่ยังพวกเขาเอาไว้จากเงามืดของแม่เธอ
เงยหน้าขึ้นมองราชาแห่งแลนธานอร์ ที่กําลังรอการตัดสินใจของเธอ
เอลดร้าหยิบเครื่องประดับเวทมนต์ 2 ชิ้น ที่เธอเตรียมเอาไว้ออกมาวางบนโต๊ะก่อนที่เธอจะพยักหน้า
เห็นเช่นนั้น แดนลกประหลาดใจเล็กน้อย
มันเป็นอย่างที่เขาคิด จากทุกสิ่งที่เขาเห็นจากเอลฟ์ตรงหน้าเขา มันทําให้เขารู้ว่าเธอเป็นทําตามอารมณ์มากกว่าเหตุผล
สิ่งนี้สามารถจะเห็นได้ชัดจากทั้งตอนที่เขากดดันเธอในห้องบัลลังก์ จนเธอต้องวิ่งหนีออกมา และในตอนที่โอลแฟกซ์ส่งข้อความให้เธอ
นอกเหนือจากสิ่งเหล่านี้แล้ว การแสดงออกของเธอที่เขาเห็นในเอลวิช คาร์นิวัล ก็ทําให้เขาเชื่อว่าเธอมีเหตุผลเพียงพอที่จะยอมรับข้อตกลงนี้
ทั้งหมดนี้ไม่ได้หมายความว่า เอลดร้าจะเป็นคนง่ายๆที่เขาจะสามารถหลอกลวงได้
ต้องขอบคุณช่วงเวลาที่สมบูรณ์แบบในตอนนี้ ที่ทําให้เขาสามารถใช้อารมณ์ภายในตัวเธอผลักดันให้เธอตัดสินใจในเรื่องนี้
หยิบเครื่องประดับเวทมนต์ขึ้นมา เขาสังเกตเห็นว่า หนึ่งเป็นเครื่องประดับเวทมนต์บันทึกขณะที่อีกหนึ่งเป็นเครื่องประดับเวทมนต์สื่อสาร ฟังข้อความในเครื่องประดับเวทมนต์ชิ้นแรกดวงตาของเขาเบิกกว้างเมื่อรู้ว่ามันเป็นมันทึกเกี่ยวกับอาชญากรรมทั้งหมดของราชินีแห่งเอลดินอร์
หัวเราะเบาๆกับตัวเองแดนลหยิบหินสาบานตนออกมาในทันที เพื่อทําการสาบานตนซึ่งจะเปลี่ยนอนาคตของราชอาณาจักรเอลดินอร์ไปตลอดกาล