(Yaoi) ใต้ม่านรัตติกาล – ตอนที่ 163 วังหลัง / ตอนที่ 164 พร้อมที่จะจบ

ตอนที่ 163 วังหลัง

 

 

ตกดึก ฮ่องเต้ไปยังวังอวี้หลิงของพระชายาหลิ่ว สีหน้ากลัดกลุ้ม

 

 

“ฮ่องเต้มีเรื่องใดกังวลใจหรือเพคะ เหตุใดถึงไม่มีความสุขเช่นนี้” พระชายาหลิ่วเข้ามาปรนนิบัติฮ่องเต้ ยี่สิบกว่าปีแล้ว ขอเพียงมีเรื่องไม่สบายใจฮ่องเต้ก็จะมายังวังอวี้หลิง พระชายาหลิ่วรู้ข่าวตอนออกว่าราชการเมื่อเช้านี้ จึงรอการมาเยือนของฮ่องเต้นานแล้ว

 

 

“วันนี้หัวหน้าทัพฝ่ายกำลังทหารหลิวฉี วางแผนกระทำมิดีมิร้าย คิดจะให้ข้าปลดองค์ชายรัชทายาท แต่งตั้งองค์ชายเก้าเป็นผู้สืบทอดบัลลังก์ โชคดีที่ท่านที่ปรึกษาออกหน้า ถึงจัดการเรื่องราวได้”

 

 

“เช่นนั้นฮ่องเต้จัดการอย่างไรหรือเพคะ”

 

 

“ข้าถอดถอนหลิวฉีออกจากตำแหน่งปัจจุบันแล้ว”

 

 

“เช่นนั้นเหตุใดต้องกลัดกลุ้มเช่นนี้เพคะ”

 

 

“องค์ชายเก้าฉีจิ่งเย่อหยิ่งลำพองตนเกินไป อีกทั้งยังริอ่านหวังครองตำแหน่งองค์ชายรัชทายาท แม้ข้าจะกักบริเวณเขาแล้ว แต่ก็ไม่รู้จะทำเช่นไร”

 

 

“องค์ชายเก้าแม้จะเย่อหยิ่งลำพองตน แต่ก็ยังมีข้อที่น่าเอาเป็นแบบอย่าง องค์ชายเก้าเฉลียวฉลาดเป็นทุนเดิม เรื่องหนังสือเพลงกลอนก็มีการตีความที่โดนเด่นไม่เหมือนใคร สมกับเป็นผู้มีความสามารถคนหนึ่ง” พระชายาหลิ่วพูดอธิบายแทนฉีจิ่ง

 

 

“ลำบากเจ้าต้องมาปกป้องเขา มารดาเขาจากไปเร็ว หลายปีมานี้ก็เป็นเจ้าที่ดูแลเขา” ฮ่องเต้แสดงความซาบซึ้งใจต่อพระชายาหลิ่วที่เข้าใจเรื่องเช่นนี้

 

 

“ก็เพราะเป็นเด็กที่ชีวิตน่าสงสารเพคะ หม่อมฉันดูเขามาตั้งแต่เด็ก เขาเองก็เชื่อฟัง หวังให้เขาโตขึ้นเป็นผู้ที่มีประโยชน์ต่อราชสำนักเพคะ แต่น่าเสียดายที่ช่วงนี้ยิ่งไม่ได้ความขึ้นเรื่อยๆ” พระชายาหลิ่วเสียใจ พลางรู้สึกเสียดาย

 

 

“เกิดอะไรขึ้น เขาทำอะไรอีก”

 

 

“ที่จริงก็ไม่มีอะไรเพคะ เพียงได้ยินนางกำนัลบางคนพูดว่าจวนองค์ชายเก้าร่ำดนตรีทุกคืน อีกทั้งยังรับอนุอีกหลายคน นี่ยังไม่เท่าไร มีบางครั้งยังออกมาโดยใช้ข้ออ้างพบปะมิตรสหาย ไปหาความสุขใส่ตัวกับชายหนุ่ม ได้ยินว่าภายในจวนก็ยังเลี้ยงดูแลชายผู้เป็นที่โปรดปรานเอาไว้ด้วยเพคะ”

 

 

“ช่างไม่เหมาะสมเสียจริง เป็นถึงองค์ชายกับมั่วสุมกับบุรุษ ลองดูว่าข้าจะไม่ไปจับให้เห็นกับตา” ฮ่องเต้พูดจบก็เดินออกไปข้างนอก พระชายาหลิ่วรีบขวางไว้

 

 

“ฮ่องเต้เพคะ พระองค์อย่าได้บุ่มบ่าม นี่เพียงได้ยินบรรดานางกำนัลพูดกันเท่านั้นเพคะ อาจจะไม่เป็นเรื่องจริงก็ได้นะเพคะ”

 

 

“** กระจายมาถึงหูนางกำนัลแล้ว ยังจะต้องพูดอะไรอีก อย่าขวางข้า”

 

 

“กลางคืนลมแรง พระองค์ต้องดูแลพระพลานามัย ให้หม่อมฉันไปกับพระองค์เถิดเพคะ” พระชายาหลิ่วคลุมเสื้อตัวหนึ่งให้ฮ่องเต้ ออกไปพร้อมเขา

 

 

ทั้งสองคนนั่งเกี้ยวไปจนถึงจวนองค์ชายเก้า ฮ่องเต้ไม่ได้ให้คนรายงาน ตรงเข้าไปในห้องนอนฉีจิ่ง

 

 

เมื่อยืนอยู่หน้าประตูก็สามารถได้ยินเสียงรื่นรมย์จากภายใน อีกทั้งเป็นผู้ชาย ฮ่องเต้โมโหถีบประตูเดินเข้าไป เห็นสภาพไม่น่ามองบนเตียง

 

 

ได้ยินเสียงเคลื่อนไหว ฉีจิ่งพ่นคำด่าออกมาประโยคหนึ่ง เมื่อหันกลับไปมองก็ต้องตกใจจนปีนขึ้นมาจากเตียงในทันใด เสื้อผ้าก็ถูกสวมใส่ด้วยความลนลาน

 

 

“เสด็จพ่อ พระองค์เสด็จมาได้อย่างไรพ่ะย่ะค่ะ”

 

 

“หึ! ดูท่าบทลงโทษที่ให้เจ้าวันนี้คงยังไม่พอกระมัง ยังจะมาหาความสุขใส่ตัว ไม่รู้จักสำนึก”

 

 

“เสด็จพ่อ มิใช่อย่างนั้นพ่ะย่ะค่ะ ล้วนเป็นเขาที่ยั่วยวนหม่อมฉัน เสด็จพ่อ ขอให้พระองค์เชื่อลูกด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ ลูกรู้ผิดแล้ว”

 

 

“นับแต่วันนี้ไป องค์ชายเก้าฉีจิ่งลดศักดิ์เป็นคนธรรมดา ไม่อาจย้อนกลับมาในราชสำนักได้ตลอดชีวิต” ฮ่องเต้ประกาศราชโองการที่สำหรับฉีจิ่งแล้วไม่ต่างอะไรกับโทษประหารชีวิต จากนั้นก็สะบัดแขนเสื้อจากไป ฉีจิ่งพูดอ้อนวอนขอร้องอย่างสุดชีวิตอยู่ข้างหลัง

 

 

ภายในห้องนอนของฉีจิ่ง พระชายาหลิ่วยืนอยู่ตรงนั้น ชายผู้เป็นที่โปรดปรานที่แต่เดิมอยู่บนเตียงก็แต่งกายเรียบร้อย ยืนอยู่เบื้องหน้าพระชายาหลิ่ว

 

 

“เจ้าทำได้ดีมาก พ่อและน้องสาวของเจ้า ข้าได้รับพวกเขาออกมาจากคุกและจัดการอย่างเหมาะสมแล้ว เจ้าไม่ต้องกังวลไป”

 

 

“ขอบพระทัยพระชายาหลิ่วพ่ะย่ะค่ะ” ชายหนุ่มผู้นั้นไม่รู้ว่าเอาขวดยาหยิบออกมาจากที่ใด ดื่มหมดในรวดเดียว จากนั้นก็ตายไปเพราะพิษยา

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 164 พร้อมที่จะจบ

 

 

ด้านราชสำนักได้รับสิทธิ์ทางการทหาร เตรียมพร้อมเรียบร้อยแล้ว ขาดเพียงคำสั่งของเจ้าเท่านั้น หลานเฟิงเล่าให้หลานเยี่ยฟังจนจบ ความคิดของหลานเยี่ยกลับหยุดอยู่ที่คนผู้นั้น

 

 

“สุดท้ายแล้วบุรุษผู้นั้นเหตุใดถึงกลายเป็นเช่นนี้”

 

 

“ทั้งครอบครัวของชายผู้นั้นถูกฉีจิ่งทำลาย ทุกคนถูกส่งเข้าคุกทั้งหมด มีเพียงเขาคนเดียวที่หนีมาได้ พระชายาหลิ่วตามหาเขาพบ ให้เขาจัดการเรื่องแทนตนเอง พระชายาหลิ่วช่วยครอบครัวของเขาให้ออกมา”

 

 

“ฉะนั้นเขาจึงส่งตัวเองไปบนเตียงฉีจิ่ง ช่วยให้พระชายาหลิ่วสำเร็จแผนการ”

 

 

“ใช่”

 

 

“เช่นนั้นสุดท้ายเขาก็ไม่จำเป็นต้องตายก็ได้นี่”

 

 

“นี่คือวิธีการจัดการเรื่องของพระชายาหลิ่ว สามารถอยู่ในวังหลังมาได้นานหลายปีนี้กลับไม่ล้มลง นางมีจุดเ**้ยมโหดของนางเอง ล้วนโหดเ**้ยมต่อคนอื่นและรวมถึงคนของตนเอง”

 

 

“ลำบากนางแล้วที่ไม่บีบคออวี่มั่วให้ตายเสียแต่ตอนนั้น” หลานเยี่ยทอดถอนใจ หลานเฟิงไม่พูดอะไร เพียงแค่หัวเราะออกมา

 

 

“ฉะนั้นท่านประมุขตระกูล ออกคำสั่งเถิด ขั้นต่อไปควรทำเช่นไร”

 

 

หลานเยี่ยครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง

 

 

“ก่อนอื่น ข้าอยากจุมพิต” หลานเยี่ยผงกหัวขึ้น หลับตาลง หันไปทางหลานเฟิง หลานเฟิงเห็นหลานเยี่ยมีท่าทีเช่นนี้ก็หัวเราะออกมา จุมพิตลงไปบนริมฝีปากหลานเยี่ยทีหนึ่ง หลานเยี่ยถึงได้พูดต่อไปด้วยความพอใจ

 

 

“แหล่งข่าวที่ชิวอวี้ถือครองเอาไว้มีเต็มไปทั่วใต้หล้านี้ คิดจะทำเรื่องภายใต้ลมหายใจเขาไม่ง่ายนัก” หลานเยี่ยพูดไปมอง เล่นผมหลานเฟิงไปพลาง เล่นไปเล่นมาผมของหลานเฟิงก็พันกัน หลานเยี่ยคิดจะปลดออกอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่ดึงจนหลานเฟิงขมวดคิ้วมุ่น

 

 

“ทางด้านชิวอวี้ไม่ต้องเป็นกังวล ก่อนหน้านี้สายสืบในจิ่วหลิวพูดว่า เส้นสายของตระกูลเยี่ยภายในจิ่วหลิวล้วนนิ่งเงียบแล้ว ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ อีกทั้งตอนที่หลานอวี่แย่งชิงสิทธิ์ทหารมานั้นก็ไม่ได้มีแรงขัดขวางใดทั้งสิ้น ดูท่าชิวอวี้คงจะปล่อยวางเป็นการชั่วคราว หรือบางทีอาจจะปล่อยวางแหล่งข่าวที่เขาถือครองไปตลอดกาล” หลานเฟิงจับมือหลานเยี่ย ตนเองค่อยๆ คลายผมออก

 

 

“เหตุใดต้องทำเช่นนี้”

 

 

“เพราะจุดประสงค์ของเขาไม่ใช่ใต้หล้า ฉะนั้นเมื่อบรรลุถึงเป้าหมายหรือไร้ซึ่งความหวังก็จะยอมแพ้”

 

 

“ตอนนี้ภายในตระกูลเยี่ยยังคงมีข่าวคราวของชิวอวี้หรือไม่”

 

 

“ไม่มีแล้ว แม้ก่อนหน้านี้ชิวอวี้จะไม่ปรากฏหน้าออกมาให้เห็น แต่ยังคงมีข่าวอยู่บ้าง ตอนนี้ทางด้านราชสำนักบอกว่าฉีเย่ว์ก็หายตัวไปเช่นเดียวกัน ฉะนั้นข้าจึงเดาว่าพวกเขาน่าจะออกจากตระกูลเยี่ยแล้ว”

 

 

“ดูท่านายน้อยผู้นั้นจะปล่อยวางใครบางคนเสียแล้ว” หลานเยี่ยพูดด้วยน้ำเสียงหึงหวง “เจ้าเป็นที่นิยมเช่นนี้ ข้าจะทำเช่นไร ดูท่าต้องคอยจับตาดูเจ้าแล้ว” หลานเยี่ยเอียงหัวมองหลานเฟิง ทั่วร่างระเบิดความหึงหวงออกมา

 

 

“ไม่ต้องกังวล ข้ารักเจ้าเพียงคนเดียวก็พอแล้ว เรื่องอื่นไม่ต้องไปสนใจ หากเจ้าพูดเช่นนี้ข้าเองก็ต้องพูดเช่นนี้กับเจ้าเหมือนกันใช่หรือไม่” หลานเฟิงมองหลานเยี่ยด้วยอาการเย้าหยอก

 

 

“ข้าทำไมหรือ ข้าไม่มีคนอื่นมาชอบเสียหน่อย”

 

 

“เช่นนั้นหรือ” หลานเฟิงหยิบถุงหอมถุงหนึ่งออกมาจากชั้นเสื้อผ้าที่อยู่ด้านข้าง นำเศษกระดาษแผ่นหนึ่งที่อยู่ภายในส่งให้หลานเยี่ย บนนั้นเขียนเอาไว้อย่างหนักแน่น พี่เยี่ย ใจข้าชื่นชอบท่าน หรูเอ๋อร์

 

 

หลานเยี่ยมองด้วยความประหลาดใจ

 

 

“เจ้าจำไม่ได้ก็ไม่แปลก ตอนแรกถ้าไม่ใช่เพราะข้าหยิบถุงหอมใบนี้ไป เจ้าคิดจะทำเช่นไร”

 

 

“ยังจะทำเช่นไรได้เล่า ในอดีตข้าคงเห็นหรูเอ๋อร์เป็นน้องสาว อีกอย่างตอนนี้ข้าก็มีเจ้าแล้วมิใช่หรือ ยิ่งไม่มีทางไปตอบรับนางได้”

 

 

“ตอนนี้เจ้าคิดจะรับปากก็ไม่อาจสำเร็จแล้ว ตอนนี้นางผูกสมัครสานสัมพันธ์กับหลานเม่ยแล้ว” หลานเฟิงพูดออกมาอย่างไม่ใส่ใจ แต่กลับเรียกความแปลกใจจากหลานเยี่ย หลานเฟิงกลับไม่บอกเขา

 

 

“ฉะนั้น พูดเข้าเรื่องกันเถิด ท่านประมุขตระกูล”

 

 

“ไม่มีแหล่งข่าวของชิวอวี้ นี่ยังไม่ง่ายที่จะทำ พวกเราไปราชสำนักรอดูละครฉากสนุก ดึงอวี่มั่วไปด้วย ทำเช่นนี้”

 

 

“ได้”

(Yaoi) ใต้ม่านรัตติกาล

(Yaoi) ใต้ม่านรัตติกาล

Author:
ความลับมากมายเวียนวนอยู่รอบตัว หลานเยี่ย มาโดยตลอด ความลับที่แม้แต่ตัวเขาเองก็ยังไม่รู้ ทั้งบุรุษในความฝันที่เขามักจะได้พบอยู่ทุกค่ำคืน ทั้งสมบัติวิเศษแสนล้ำค่าที่แม้ชื่อเขาก็ไม่เคยยินมาก่อน…ยังมีความลับอีกมากเท่าไรหลบซ่อนตัวอยู่ในความทรงจำที่ขาดหาย หรือ หลานเฟิง องครักษ์หน้านิ่งที่เขาหลงรักผู้นี้เองก็เก็บซ่อนบางอย่างเอาไว้เช่นกัน ถึงไม่เคยตอบรับรักเขาเลยสักที… หนึ่งสมบัติวิเศษแสนล้ำค่า เชื่อมโยงสองดวงวิญญาณที่ถูกปิดผนึก และความทรงจำอันทุกข์ระทมที่มิอาจหวนนึกถึง ความลับอะไรกันแน่ที่แอบซ่อนอยู่ภายใต้ม่านรัตติกาลนี้ ใต้หล้านี้ดูเหมือนจะสงบสุข แต่ลับหลังนั้นมีเรื่องวุ่นวายมากเพียงใด ความสงบสุขกว่าพันปีจะต้องถูกทำลายลงอีกครั้งจริงหรือ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset