(Yaoi) ใต้ม่านรัตติกาล – ตอนที่ 177 กวาดล้างพรรคพวก / ตอนที่ 178 จบลงไป

ตอนที่ 177 กวาดล้างพรรคพวก

 

 

“จับไป”​ อวี่มั่วออกคำสั่ง ทันใดนั้นมีคนจำนวนหนึ่งถูกองครักษ์จับไป หลายคนในนั้นเห็นชัดว่ามีพลังกระแสวิญญาณ เป็นคนตระกูลเยี่ย คิดจะขับพลังออกมาต่อต้าน แต่กลับไม่เกิดผล

 

 

“ไม่สามารถใช้พลังกระแสวิญญาณได้ใช่หรือไม่” อวี่มั่วพูดออกมาเรียบๆ หนึ่งประโยค ทำให้สีหน้าของคนเหล่านั้นเปลี่ยนไปในทันใด

 

 

“ตอนที่พวกเจ้าเข้าว่าราชกิจ รู้สึกความผิดปกติบ้างหรือไม่ ในราชสำนักนี้ถูกปกคลุมไปด้วยยา ทำให้พลังกระแสวิญญาณของพวกเจ้าถูกควบคุม ไม่สามารถกระทำการขัดขืนได้อีก”

 

 

หลายคนถือเป็นพวกจงรักภักดีไม่ยินยอม แต่มีคนบางจำพวกที่เพียงหลงเหลือความรู้สึกโชคดี คิดว่าอวี่มั่วไม่รู้ว่าพวกเขาเป็นคนตระกูลเยี่ย

 

 

“ฮ่องเต้ หม่อมฉันผิดไปแล้วพ่ะย่ะค่ะ ฮ่องเต้ ปล่อยข้าพเจ้าไปเถิดพ่ะย่ะค่ะ ฮ่องเต้” ช่างบาดหูเสียจริง เสียงร้องดันน่าเวทนานี้

 

 

“ต่อไปท่านที่ปรึกษาแคว้นจะประกาศอำนาจของตระกูลเยี่ยทั้งหมดในราชสำนัก จากนั้นกวาดล้างให้หมด” หลานอวี่อ่านชื่อออกมาทีละชื่ออย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว เทียนซีนั่งฟังอยู่ข้างหลัง มือจับอกเสื้อเอาไว้แน่น ตระกูลเทียน คงจะปรากฏอยู่ในรายชื่ออย่างไม่ต้องสงสัย

 

 

แต่เมื่อรายชื่อถูกอ่านจนจบ ก็ยังไม่ปรากฏชื่อตระกูลเทียน ในขณะเดียวกันที่เทียนซีผ่อนลมหายใจออกมา ก็รู้สึกสงสัยความเป็นจริงของรายชื่อ

 

 

“ควรทำเช่นไร ทุกท่านคงรู้ดีอยู่แล้วกระมัง ไม่ต้องให้ข้าจัดการทีละอย่างกระมัง ไม่มีเรื่องอื่นแล้ว ก็เลิกว่าราชกิจเถิด”

 

 

“เลิกว่าราชกิจ” พร้อมกับเสียงร้องไห้คร่ำครวญของขันที อวี่มั่วลุกขึ้นไปด้านหลัง คนอื่นก็พากันแยกจากไป

 

 

เห็นเทียนซีที่นั่งอยู่ข้างหลัง อวี่มั่วก้าวขึ้นไปลูบไล้ใบหน้าของเขา

 

 

“เป็นอะไรไปหรือเสี่ยวซี เหตุใดจึงไม่มีความสุข” อวี่มั่วสีหน้าเอ็นดูมองเทียนซี

 

 

“พวกเรากลับกันเถิด”

 

 

“ดี หลังจากนี้ ข้าจะต้องอาศัยอยู่ภายในวังฮองเฮาของข้าแล้ว อย่าได้หน่ายหนีข้านะ” ได้ยินสรรพนามแทนตัวเองของอวี่มั่ว เทียนซีก็ยิ้มอย่างรู้ใจ

 

 

กางแขนทั้งสองข้างออก อวี่มั่วอุ้มเทียนซีขึ้นมาด้วยความรู้ใจ ทั้งสองคนกลับไปยังวังเฟิ่งอวี่

 

 

เมื่อมาถึงหน้าประตู อวี่มั่วมองป้ายเหนือประตูด้านบน พิจารณาอยู่ครู่หนึ่ง หันหลังไปพูดกับขันทีน้อยที่ตามมา

 

 

“เปลี่ยนป้ายนี้ซะ เปลี่ยนเป็นวังซีมั่ว พวกเจ้าก็ไม่ต้องตามมาแล้ว ถอยออกไปเถิด จะทำอะไรก็ไปทำ”

 

 

“รับทราบพ่ะย่ะค่ะ ฮ่องเต้พ่ะย่ะค่ะ เรื่องที่บ่าวควรจะทำคืออยู่ข้างกายพระองค์พ่ะย่ะค่ะ”

 

 

“…”

 

 

“เจ้าไปดูดอกไม้ก็ดี จะไปทำอย่างอื่นก็ดี อย่ามาตามข้าเลย”

 

 

“บ่าวรับทราบพ่ะย่ะค่ะ”

 

 

อวี่มั่วอุ้มเทียนซีเข้าไป จู่ๆ ก็คิดเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้

 

 

“เสี่ยวซี เจ้าว่าฮองเฮาคนก่อนควรจัดการเช่นไร”

 

 

“ฟังเจ้า”

 

 

“เช่นนั้นก็ให้เสด็จพ่อตัดสินใจแล้วกัน แต่เสด็จพ่อย่อมไม่ชอบนางเหมือนกัน ยากเหลือเกิน มิเช่นนั้นให้นางไปเฝ้าสุสานหลวงดีหรือไม่ หากนางยังมัวเมาหลงผิดก็ให้จัดการไปพร้อมกับขุนนางเหล่านั้น” อวี่มั่วอุ้มเทียนซีเข้ามาภายในห้อง วางเทียนซีไว้บนเตียง

 

 

“รายชื่อเมื่อครู่ที่เจ้าให้หลานอวี่อ่าน เป็นจริงหรือ” เทียนซีถามสิ่งที่สงสัยออกไป

 

 

“เป็นเรื่องจริง แต่เพิ่มเข้าไปบางส่วน นอกจากกำลังของตระกูลเยี่ยแล้ว ยังมีอำนาจที่ต่อต้านข้า อำนาจที่ปกป้ององค์ชายอื่น หรือที่สนับสนุนฮ่องเต้องค์เก่าบางส่วน

 

 

“แล้วตระกูลเทียน…”

 

 

“วางใจเถิด เสี่ยวซี ตระกูลเทียนข้าไม่มีทางยุ่ง หลานเยี่ยได้เจรจากับตระกูลเทียนแล้ว หากไม่สำเร็จข้าเองก็ไม่ทำอะไร ข้าจะต้องพยายามปกป้องความปลอดภัยของตระกูลเทียน ปกป้องเจ้า”

 

 

“อวี่มั่ว” เทียนซีดึงอวี่มั่วไปบนเตียง กอดเขาไว้แน่น อวี่มั่วรู้สึกยากที่จะปฏิเสธ จึงพูดประโยคที่น่าโดนตีออกมา แต่เทียนซีกลับไม่ได้ตีเขา

 

 

“เสี่ยวซี ข้าสามารถทำเรื่องที่อยากทำได้หรือไม่” อวี่มั่วพูดจบ เทียนซีก็รู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงของคนบางคน จากนั้นเทียนซีก็กดศีรษะอวี่มั่วไว้ มอบจุมพิตให้แก่เขา

 

 

“ย่อมได้เป็นแน่นอน”

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 178 จบลงไป

 

 

เช้าวันรุ่งขึ้น หลานเยี่ยมาถึงวังซีมั่ว คิดจะมาบอกลาอวี่มั่ว เหตุใดจึงมาวังซีมั่ว หลานเยี่ยไม่ต้องคิดเลยแม้แต่น้อย อวี่มั่วต้องอยู่ที่นี่เป็นแน่

 

 

อวี่มั่วลุกขึ้นมาแล้ว นั่งอยู่หน้าโต๊ะอ่านฎีกา เทียนซียังคงหลับอยู่ ได้ยินว่ามีคนเจ้ามา อวี่มั่วไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้น เหมือนกับหลานเยี่ย คิดยังไม่ต้องคิดก็รู้ว่าเป็นหลานเยี่ย

 

 

“เจ้ามาเพราะเหตุใด”

 

 

“ทำไมหรือ เป็นฮ่องเต้แล้ว ก็วางท่าแล้วหรืออย่างไร”

 

 

“รีบกลิ้งออกไปซะ มีธุระก็พูดมา เสี่ยวซียังไม่ตื่น” อวี่มั่วเหลือบมองข้างในทีหนึ่ง หลังจากมั่นใจแล้วว่าเทียนซียังไม่ตื่น ก็หันมาพูดกับหลานเยี่ยอีกครั้ง

 

 

“เมื่อคืนนี้คงทรมานไม่น้อยกระมัง” หลานเยี่ยนั่งลงพลางยิ้มพูดกับอวี่มั่ว อวี่มั่วเบนตามองเขาทีหนึ่ง

 

 

“ลำบากเจ้าที่วันนี้ยังตื่นขึ้นมาได้” ประโยคเดียวทำให้หลานเยี่ยรู้สึกได้ว่าด้านหลังยังรู้สึกเจ็บอยู่เล็กน้อย

 

 

“พูดเรื่องสำคัญ เจ้าจัดการเป็นอย่างไรบ้าง”

 

 

“เมื่อคืนนี้จัดการหมดแล้ว ควรทำเช่นไรก็ทำเช่นนั้น หลังจากนี้ก็เป็นการเปลี่ยนแปลงวิธีการลงโทษ”

 

 

“ฮองเฮาเล่า”

 

 

“นอนอยู่ข้างใน”

 

 

“…”

 

 

“ฮองเฮาคนเดิมเล่า”

 

 

“ประหารชีวิตแล้ว”

 

 

“เช่นนั้นน่าเสียดายเสียจริง คนงามผู้หนึ่งเลย” หลานเยี่ยพูดหาเรื่อง อวี่มั่วเงยหน้าขึ้นมองด้านนอกทีหนึ่ง ไม่ได้พูดอะไร

 

 

“วันนี้เจ้ามาด้วยเหตุอันใด ไม่ได้มาคุยเล่นกับข้ากระมัง”

 

 

“ข้ามาบอกลาเจ้า”

 

 

“อ้อ”

 

 

“…”

 

 

“ยังมีเรื่องอื่นหรือไม่”

 

 

“…”

 

 

“นำความลับของราชสำนักมาให้ข้าดู”

 

 

“ไม่มี” อวี่มั่วพูดจบ เงยหน้าเห็นหลานเยี่ยที่สีหน้าเต็มไปด้วยความสงสัยกำลังมองตนอยู่

 

 

“ไม่ได้จะทะเลาะกับเจ้า ไม่มีจริงๆ ข้าเองก็หาแล้ว และขอกับฮ่องเต้องค์ก่อนแล้ว ไม่มีจริงๆ ต่อให้มีก็อยู่ที่ตระกูลเยี่ย”

 

 

“…”

 

 

“จะเอาเจ้าไปทำไม” หลานเยี่ยทอดถอนใจ

 

 

“เจ้าหาเรื่องใช่หรือไม่”

 

 

“เจ้าตีข้าซิ”

 

 

“…”

 

 

“รีบไปๆ อย่ามาหาเรื่องข้า”

 

 

“อย่าทำเช่นนี้ ความสัมพันธ์ของพวกเราดีเช่นนี้ เจ้าออกจากตระกูลเยี่ย จะยอมศิโรราบต่อตระกูลหลานหรือไม่”

 

 

“ก่อนอื่น ความสัมพันธ์ของพวกเราก็เท่านั้น อีกอย่างยอมศิโรราบต่อตระกูลหลาน คิดยังไม่ต้องคิด”

 

 

“เช่นนั้นข้าไปแล้ว” หลานเยี่ยลุกขึ้นเดิน เหลือเพียงแผ่นหลังที่สง่างามให้อวี่มั่ว

 

 

“หากมีเรื่องลำบาก ยังสามารถมาหาข้าให้ช่วยเหลือได้” อวี่มั่วทิ้งประโยคเช่นนี้เอาไว้ให้หลานเยี่ย ทำให้หลานเยี่ยต้องหันกลับมาส่งยิ้มชั่วร้ายให้เขา

 

 

“คนของเจ้าผู้นั้นอยู่ด้านนอก รีบไปซะ อย่ายิ้มน่าสะอิดสะเอียนเช่นนั้น”

 

 

“ได้ ข้าไปแล้ว”

 

 

หลานเยี่ยและหลานเฟิงออกจากราชสำนัก ไปยังจิ่วหลิว พักอาศัยที่อิ้งฮวาเว่ย

 

 

“เช่นนั้นก็ถือว่าจบลงไปแล้ว” หลานเยี่ยพูดขึ้น

 

 

“อืม จบลงไปแล้ว”

 

 

“หลังจากนี้ จะต้องยุ่งแล้ว เฮ้อ หลานเฟิง เจ้าคิดว่าเรื่องที่พวกเราทำตอนนี้ผิดพลาดหรือไม่”

 

 

“ไม่คิดเช่นนั้น”

 

 

“เพราะเหตุใด”

 

 

“เพราะการตัดสินใจของเจ้าล้วนถูกทั้งสิ้น”

 

 

“ช่างปากหวานนัก” หลานเยี่ยหัวเราะพูดเย้าออกมาประโยคหนึ่ง ทำให้หลานเฟิงเกือบจะจับเขาทุ่มลง

 

 

“หลังจากนี้คิดจะทำเช่นไร”

 

 

“ตระกูลเยี่ยเป็นกระดูกชิ้นโต ไม่ง่ายจะกัดกิน เจ้ามีวิธีอะไรหรือไม่”

 

 

“เจ้ารู้ทั้งหมดไม่ใช่หรือ” หลานเฟิงเงยหน้าขึ้นมองหลานเยี่ย

 

 

“ฮ่าๆ” หลานเยี่ยหัวเราะอยู่ครู่หนึ่ง หลานเฟิงไม่รู้ว่าเขากำลังหัวเราะอะไร ผ่านไปครู่หนึ่งหลานเยี่ยก็สงบลง

 

 

“กองกำลังเก่าตระกูลเยี่ย ลำบากพวกเขาแล้ว”

 

 

“หากครั้งนี้สำเร็จ เช่นนั้นก็ง่าย หากไม่สำเร็จ เช่นนั้นไม่มีทาง ทำได้เพียงหาช่องทางใหม่แล้ว”

 

 

“ขอเพียงจับทิศทางภูมิประเทศตระกูลเยี่ยได้ชัดเจนก็พอแล้ว เจ้าเคยไปตระกูลเยี่ยมาก่อนใช่หรือไม่ รู้แจ้งหรือไม่”

 

 

“ภูมิประเทศตระกูลเยี่ยผ่านไปไม่กี่วันก็จะเปลี่ยน จำเป็นต้องรีบจัดการให้จบภายในสองสามวัน มิเช่นนั้นจะยากขึ้น”

 

 

“ลงมือเต็มที่ อย่างไรก็เพื่ออนาคตของพวกเรา”

 

 

“วันนี้พักผ่อนให้ดี พรุ่งนี้เริ่มปฏิบัติ”

 

 

“ดี ไม่อนุญาตให้ลงไม่ลงมือกับข้า”

 

 

“นอนอย่างสบายใจเถิด เจ้าเองก็เหนื่อยแล้ว” หลานเฟิงลูบศีรษะหลานเยี่ย

(Yaoi) ใต้ม่านรัตติกาล

(Yaoi) ใต้ม่านรัตติกาล

Author:
ความลับมากมายเวียนวนอยู่รอบตัว หลานเยี่ย มาโดยตลอด ความลับที่แม้แต่ตัวเขาเองก็ยังไม่รู้ ทั้งบุรุษในความฝันที่เขามักจะได้พบอยู่ทุกค่ำคืน ทั้งสมบัติวิเศษแสนล้ำค่าที่แม้ชื่อเขาก็ไม่เคยยินมาก่อน…ยังมีความลับอีกมากเท่าไรหลบซ่อนตัวอยู่ในความทรงจำที่ขาดหาย หรือ หลานเฟิง องครักษ์หน้านิ่งที่เขาหลงรักผู้นี้เองก็เก็บซ่อนบางอย่างเอาไว้เช่นกัน ถึงไม่เคยตอบรับรักเขาเลยสักที… หนึ่งสมบัติวิเศษแสนล้ำค่า เชื่อมโยงสองดวงวิญญาณที่ถูกปิดผนึก และความทรงจำอันทุกข์ระทมที่มิอาจหวนนึกถึง ความลับอะไรกันแน่ที่แอบซ่อนอยู่ภายใต้ม่านรัตติกาลนี้ ใต้หล้านี้ดูเหมือนจะสงบสุข แต่ลับหลังนั้นมีเรื่องวุ่นวายมากเพียงใด ความสงบสุขกว่าพันปีจะต้องถูกทำลายลงอีกครั้งจริงหรือ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset