(Yaoi) ใต้ม่านรัตติกาล – ตอนที่ 69-70

ตอนที่ 69 ตำนานรักพันปีตอนพิธีวิวาห์

 

 

กลุ่มคนทั้งขบวนเดินทางกลับไปยังเขาเทียนปี้ตามเส้นทางที่ได้วางแผนกันเอาไว้ ตามขนบธรรมเนียมแล้วอวิ๋นซูควรจะต้องบอกลาพ่อแม่ของนาง

 

 

“จัดการเรียบร้อยแล้วหรือยัง?” หลานเซียวถามขึ้น

 

 

“จัดการเรียบร้อยแล้ว ชายแก่นั่นกำลังนั่งรออย่างสงบเสงี่ยมอยู่ในห้องเอก”

 

 

กลุ่มคนเดินทางมาถึงวังเอกเขาเทียนปี้ อวิ๋นเฉินพ่อของอวิ๋นซูกำลังนั่งรออย่างสงบเสงี่ยมอยู่ในห้อง

 

 

“ซูเอ๋อร์ เจ้ากลับมาแล้ว เจ้า…” ยังไม่พูดจบ คนที่ยืนอยู่ข้างเขาตลอดก็เอามือมาแตะไหล่เขาเอาไว้

 

 

“ท่านพ่อ ลูกขอโทษท่าน แต่ลูกไม่อยากแต่งงานเข้าตระกูลเยี่ยจริงๆ ลูกมีใจสมัครรักใคร่ผู้อื่นอยู่นานแล้ว ต้องขอให้ท่านพ่อเห็นด้วยด้วยเถิด” อวิ๋นซูน้ำตาคลอพูดออกมา

 

 

อวิ๋นเฉินโกรธอยู่ไม่น้อยที่เห็นอวิ๋นซูสวมใส่เฟิ่งกวานเสียเพ่ยเครื่องยศสตรี พลางมองไปด้านหลัง ทันใดนั้นก็สังเกตเห็นหลานเซียวและชิวจือเว่ย พลันเข้าใจขึ้นมาในบัดดล

 

 

“ท่าน ท่านประมุขเยี่ย ทำไมพวกท่านถึงอยู่ที่ ที่นี่”

 

 

“ท่านลุง ไม่ใช่ว่าท่านฝากให้ข้าตามหาซูเอ๋อร์หรอกหรือ? ข้าก็ตามหาให้ท่านจนพบแล้วนี่อย่างไร” หลานเซียวหน้านิ่งพูดออกมา

 

 

“ข้า…”

 

 

“เอาเถิด เวลาไม่คอยท่า พวกเราควรออกเดินทางแล้ว ให้องค์ชายเจ็ดรอนานได้อย่างไร”

 

 

หลานเซียวขัดคำพูดของอวิ๋นเฉิน

 

 

“องค์ชายเจ็ด พวกเจ้า…” คนที่อยู่ข้างหลังอวิ๋นเฉินออกแรงทำให้เขาสลบไป

 

 

หลานเซียวปิดผ้าคลุมหน้าให้อวิ๋นซู แบกอวิ๋นซูขึ้นหลังตั้งแต่วินาทีที่ออกจากวังเอก

 

 

เมื่อมาถึงปากอุโมงค์ก็ได้พบกับฉีฮวนที่รออยู่ตรงนั้น เมื่อเห็นว่าพวกเขามาแล้วหญิงแก่ที่ถือตะกร้าหวายโปรยใบชา ถั่วลิสง พุทรา เมล็ดถั่วออกไปทั่วรอบนอกและภายในเกี้ยว

 

 

หลานเซียวแบกอวิ๋นเซียวขึ้นเกี้ยว ด้านล่างเกี้ยวมีเตาถ่านอยู่อันหนึ่ง เผาสิ่งอัปมงคลทั้งหมดให้มอดไหม้ไป

 

 

“ยกเกี้ยว” เสียงร้องตะโกนดังขึ้น หลานเซียวและชิวจือเว่ยก็ใช้กระแสพลังปิดผนึกปากทางอุโมงค์เอาไว้ จากนั้นก็เดินตามสองข้างของเกี้ยวไป

 

 

ระหว่างทางบ่าวรับใช้หญิงที่เดินอยู่ด้านหน้าเกี้ยวโปรยดอกไม้แดง เงินทองไม่หยุด เดินทางไปได้ครึ่งหนึ่งทุกคนก็หยุดลง พลางนั่งพักผ่อนอยู่ภายในบ้านขนาดเล็กที่ถูกสร้างขึ้น หลานเซียวส่งน้ำแก้วหนึ่งให้อวิ๋นซู​จากนั้นก็มุ่งหน้าเดินทางต่อ

 

 

ตอนที่มาถึงจวนของฉีฮวนในเมืองหลวงก็ตรงกับช่วงเวลาฤกษ์ยามพอดี

 

 

“วางเกี้ยว” หญิงแก่คนนั้นโปรยสิ่งของเหล่านั้นรอบเกี้ยวอีกครั้งหนึ่ง

 

 

เพราะไม่สะดวกที่จะเปิดเผยจึงไม่มีการจุดพลุประกาศก่อนที่จะวางเกี้ยว

 

 

เด็กน้อยน่ารักคนหนึ่งเขย่าชายเสื้อของอวิ๋นซูสามที อวิ๋นซูถึงถูกแม่สื่อประคองลงมาจากเกี้ยว หลังจากเข้าประตูไปก็ต้องเดินข้ามเตาไฟหนึ่งอัน เป็นความหมายโดยนัยว่าเผาสิ่งสกปรกทั้งหลายให้หมดไป

 

 

จากนั้นฉีฮวนก็รับมือของอวิ๋นซูไปจับไว้ พลางเดินเข้าไปในโถงหลักด้วยกัน ภายในโถงหลักมีเพียงเก้าอี้สองตัว ไม่มีใครนั่งอยู่

 

 

“เจ้าบ่าวเจ้าสาวถึง…”

 

 

“จุดธูป…” ฉีฮวนและอวิ๋นซูต่างจุดธูปสามดอกบูชาป้ายวิญญาณ

 

 

“คำนับครั้งที่หนึ่ง…”

 

 

“คำนับอีกครั้ง…”

 

 

“คำนับครั้งที่สาม…”

 

 

“กราบไหว้ฟ้าดิน…”

 

 

“คำนับฟ้าดิน…” ทั้งสองคนหมุนตัวหันไปด้านนอก คำนับลง

 

 

“คำนับพ่อแม่” ทั้งสองคนค้อมตัวคำนับเก้าอี้สองตัวที่ว่างเปล่า

 

 

“คำนับซึ่งกันและกัน…”

 

 

“ส่งตัวเข้าห้องหอ…”

 

 

“พิธีสมบูรณ์” ฉีฮวนเดินนำหน้า อวิ๋นซูเดินตามหลัง เข้าห้องไปพร้อมกัน

 

 

ผ่านไปครู่หนึ่งฉีฮวนก็ออกมา หลานเซียวและชิวจือเว่ยรอพวกเขาอยู่ด้านนอกตลอดเวลา

 

 

“วันนี้ฉีฮวนจ้องขอบพระคุณบุญคุณที่ยิ่งใหญ่ของท่านพี่ทั้งสอง”

 

 

“รีบลุกขึ้นมา” หลานเซียวประคองฉีฮวนให้ลุกขึ้น

 

 

“อวิ๋นซูมีที่พักพิงที่ดีข้าเองก็ยินดีด้วย หวังว่าพวกเจ้าจะปฏิบัติต่อนางเป็นอย่างดี และขออวยพรให้เจ้าถือไม้เท้ายอดทอง กระบองยอดเพชร มีความสุขสมบูรณ์ พรุ่งนี้เช้าให้ออกเดินทางไปจี้จี้ฮวาสือ ข้าเองจะส่งคนมาคุ้มกันพวกเจ้า ที่นั่นมีม่านพลังของพวกข้า ปลอดภัยอย่างมาก ไปถึงแล้วก็ไม่ต้องกลับมาอีก พวกข้าไปแล้ว”

 

 

“ฉีฮวนย่อมทำไม่ผิดคำฝากฝัง”

 

 

หลานเซียวและชิวจือเว่ยเดินทางออกจากเมืองหลวง ย้อนกลับไปทางเดิม

 

 

“ทางออกนี้ต้องซ่อนเอาไว้ถึงจะดี อุโมงค์ใต้ดินนี้ก็ไม่อาจเก็บไว้ได้อีก ปิดผนึกเถิด”

 

 

“รอพวกเรากลับไป ข้าจะให้คนมาจัดการ”

 

 

“เจ้าว่า จวนของฉีฮวนจะไม่มีไส้ศึกใช่หรือไม่ คนของราชสำนัก”

 

 

“ภรรยาจงวางใจเถิด ไส้ศึกที่มีอยู่ก่อนนี้ถูกข้าจัดการกวาดล้างไปนานแล้ว ต่อให้มีก็เป็นคนของข้า”

 

 

“…”     

 

 

“ภรรยาเจ้ารีบเดินเช่นนี้ไปทำไม รอข้าด้วย”

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 70 ตำนานรักพันปีตอนไม่คิดพัฒนา

 

 

“ท่านประมุข พวกเราจะออกเดินทางเมื่อไร?” เซ่าเยี่ยซือถามขึ้น

 

 

“รอคนครบแล้วจึงออกเดินทาง”

 

 

“แต่คนครบแล้วนี่ขอรับ” ไม่รู้ว่าทำไมชิวจือเว่ยถึงได้รู้สึกว่าตอนนี้เซ่าเยี่ยซือจู่ๆ เกิดปะทุนิสัยบื้อใบ้ขึ้นมา

 

 

“ข้าบอกว่ายังไม่ครบก็คือยังไม่ครบ เจ้าพูดมากขนาดนี้คงต้องหาคนมารักษาเจ้าแล้วใช่หรือไม่”

 

 

“เหมือนกับท่านประมุขหลานรักษาท่านอย่างนั้นหรือ?”

 

 

“…”

 

 

“ท่านประมุขหลานอะไรกัน เรียกว่าฮูหยิน”

 

 

“…” หลานเซียวที่เพิ่งก้าวเข้ามาทันได้ยินประโยคนี้พอดี สีหน้านั้นดำคล้ำไม่ปกติ หน้าของคนคนนี้ถูกล้างจนหายสิ้นไปแล้วหรืออย่างไร

 

 

“พูดอีกครั้งซิ ได้ยินไม่ชัด”

 

 

“ภรรยาเจ้ามาแล้วหรือ ข้ากำลังสั่งสอนเขาอยู่เลย หลังจากนี้คนตระกูลเยี่ยล้วนเรียกเจ้าว่าฮูหยิน”

 

 

“โอ้ ของตรงนี้ทำไมถึงไม่มีแล้วเล่า?” หลานเซียวลูบใบหน้าชิวจือเว่ย

 

 

“หา?”

 

 

“แม้แต่ของกำนัลยังไม่ทันจะได้มอบให้ ก็เรียกว่าฮูหยินเสียแล้ว”

 

 

“ข้าเรียกเจ้าว่าฮูหยินอยู่ตลอดเวลาเจ้าเองก็เออออไม่ใช่หรือ? เรียกฮูหยินย่อมเหมือนกัน”

 

 

หลานเซียวเกือบจะเอาขลุ่ยหยกในมือเคาะหัวเขา ตอนแรกเป็นใครกันที่แบกหน้าไม่สนใจเรียกตนเองว่าภรรยาเล่า! ตอนนี้ยังคิดได้คืบจะเอาศอกอีก

 

 

“ไม่ต้องพูดเรื่องไร้สาระแล้ว ออกเดินทางเถิด ถ้ายังไม่ไป ฟ้าจะมืดแล้ว”

 

 

“ขอรับ ฮูหยิน”

 

 

“…”

 

 

 ชิวจือเว่ยนำขบวนอยู่ด้านหน้า ทัพขบวนใหญ่ตามมาด้านหลัง หลานเซียวและชิวจือเว่ยนั่งอยู่บนหลังม้าตัวเดียวกัน เดินไปพลาง ชิวจือเว่ยหยอกเย้าหลานเซียวไปพลาง

 

 

“ภรรยา ครั้งนี้ทำศึกกลับไปเจ้าจะตกรางวัลข้าอย่างไร?”

 

 

ชิวจือเว่ยเอาหัวไปวางไว้บนไหล่หลานเซียว

 

 

“เจ้าอยากได้ของรางวัลอะไร?” หลานเซียวหันหน้าไป พลางมอบจูบให้เขาทีหนึ่ง

 

 

“อืม ให้ข้าคิดก่อน” ชิวจือเว่ยครุ่นคิดด้วยท่าทีเหม่อลอย

 

 

“เจ็ดครั้งในหนึ่งคืน ปลดท่าทางที่มากขึ้น เจ้าย้ายมาที่ชุนอวี้หว่าน” ชิวจือเว่ยพูดรวดเดียวออกมาสามอย่างทำให้หลานเซียวเกิดความคิดอยากให้เขาตายคาเตียง

 

 

“เจ้าคิดว่าข้าอยู่มานานเกินไป อยากให้ข้าตายคาเตียงอย่างนั้นหรือ ยังจะมาเจ็ดครั้งในหนึ่งคืน รอดูซิว่าข้าจะไม่ตีขาเจ้าให้หัก”

 

 

“ไอยา แต่ภรรยาเจ้าพูดเองนะว่าให้ข้าเลือกเอง เจ้าอย่าได้มาบิดพลิ้วเป็นอันขาดเชียว” ชิวจือเว่ยพูดออกมาด้วยความน้อยใจ

 

 

“ได้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น”

 

 

“อืมๆ เช่นนั้นก็อย่างเดียว”

 

 

“ปลดท่าทางที่มากขึ้น” ใบหน้าของหลานเซียวแดงก่ำขึ้นมาในทันใด

 

 

“ภรรยาเจ้าดีที่สุดเลย สามีจะต้องพยายามมากกว่านี้แล้ว”

 

 

“ถ้าพูดอีกข้าจะฉีกปากเจ้า”

 

 

“หึๆ”

 

 

ทั้งสองคนเปิดเผยทำตามอำเภอใจ เซ่าเยี่ยซือที่เดินตามอยู่ข้างหลังนั้นหน้าแดงไปหมด

 

 

“เจ้าเป็นอะไร หน้าแดงเสียขนาดนั้น”

 

 

“ข้าน้อยไม่เป็นอะไรขอรับ ขอบพระคุณท่านประมุขที่เป็นกังวล”

 

 

“เจ้าไปหาคนพวกนี้ ทำตามที่ข้าพูด…”

 

 

“ขอรับ”

 

 

“เจ้าพูดกับเขาว่าอะไร”

 

 

“ถึงเวลาเจ้าก็จะรู้เอง”

 

 

พวกเขามุ่งเดินทางต่อไป ไม่นานกลุ่มคนที่ถูกส่งออกไปก็กลับเข้ามา

 

 

ผ่านไปอีกครู่หนึ่ง ตามทางมีประชาชนที่หลีกหนีจากภัยพิบัติเดินทางผ่านมา เหลือบตามองพวกเขา ในตอนนี้นี่เองจู่ๆ ชิวจือเว่ยก็จับศีรษะของหลานเซียวให้หันมาพลางจูบเข้าไป แล้วยังกดศีรษะของหลานเซียวเอาไว้เป็นแม่นมั่น

 

 

“ชิ่ว…เจ้าทำอะไร?”

 

 

“ใครกัน รีบไปซะ อย่าหยุดมองมั่วซั่ว” ทหารนายหนึ่งเอ่ยขึ้น

 

 

ผู้คนเหล่านั้นรีบเดินจากไป

 

 

ชิวจือเว่ยถึงได้ปล่อยหลานเซียว

 

 

“ชิวจือเว่ย จู่ๆ เจ้าทำอะไรกัน?”

 

 

“ทำอะไร? ก็จูบไงเล่า” ชิวจือเว่ยเริ่มสวมบทเสเพลอีกครั้ง

 

 

……

 

 

“ท่านแม่ทัพ เป็นตามที่บรรดาประชาชนเหล่านั้นพูด ประมุขตระกูลเยี่ยไม่คิดพัฒนา กล้าโอบกอดชายงามระหว่างการเดินทางทัพทหารอย่างเปิดเผย อีกทั้งขบวนทหารก็เอื่อยเฉื่อย ไม่เป็นระเบียบ”

 

 

“ฮ่าๆ ดูท่าท่าตระกูลหลานก็ไม่ได้เรื่องเช่นกัน กลับแพ้ให้กับของเช่นนี้ ครั้งนี้จะต้องทำให้ตระกูลเยี่ยแพ้ราบคาบ จากนั้นก็เป็นตระกูลหลาน เขาเทียนปี้ไม่ได้เรื่อง แผ่นดินนี้ก็จะเป็นหนึ่งเดียว ฮ่าๆๆ”

 

 

“ยินดีกับท่านแม่ทัพ”

(Yaoi) ใต้ม่านรัตติกาล

(Yaoi) ใต้ม่านรัตติกาล

Author:
ความลับมากมายเวียนวนอยู่รอบตัว หลานเยี่ย มาโดยตลอด ความลับที่แม้แต่ตัวเขาเองก็ยังไม่รู้ ทั้งบุรุษในความฝันที่เขามักจะได้พบอยู่ทุกค่ำคืน ทั้งสมบัติวิเศษแสนล้ำค่าที่แม้ชื่อเขาก็ไม่เคยยินมาก่อน…ยังมีความลับอีกมากเท่าไรหลบซ่อนตัวอยู่ในความทรงจำที่ขาดหาย หรือ หลานเฟิง องครักษ์หน้านิ่งที่เขาหลงรักผู้นี้เองก็เก็บซ่อนบางอย่างเอาไว้เช่นกัน ถึงไม่เคยตอบรับรักเขาเลยสักที… หนึ่งสมบัติวิเศษแสนล้ำค่า เชื่อมโยงสองดวงวิญญาณที่ถูกปิดผนึก และความทรงจำอันทุกข์ระทมที่มิอาจหวนนึกถึง ความลับอะไรกันแน่ที่แอบซ่อนอยู่ภายใต้ม่านรัตติกาลนี้ ใต้หล้านี้ดูเหมือนจะสงบสุข แต่ลับหลังนั้นมีเรื่องวุ่นวายมากเพียงใด ความสงบสุขกว่าพันปีจะต้องถูกทำลายลงอีกครั้งจริงหรือ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset