ตอนที่ 71 ตำนานรักพันปีตอนเมืองหลวง
เมื่อเดินทางมาถึงประตูด่านเมืองหลวง ชิวจือเว่ยลงไปตะโกนประกาศด้วยตนเอง
“เจ้าหัวขโมยเขาเทียนปี้ทั้งหลาย เปิดประตูเมืองให้ข้าเข้าไป”
หลานเซียวมีสีหน้าดูถูกเขา คำพูดที่ไร้รสนิยมและศิลปะ คำพูดที่หากเป็นฝ่ายศัตรูเอ่ยออกมาจะต้องตายเป็นแน่ ช่างทนฟังไม่ได้เสียจริง
หากคนบางคนยังหันหน้ามาถามเขาด้วยสีหน้าพึงพอใจว่าตนเองตะโกนเป็นอย่างไร
“ก็ดี รักษาเอาไว้ต่อไป”
“จริงหรือ ข้าเองก็คิดเช่นนั้น”
“คนที่อยู่ในเมืองจงฟังคำข้าเอาไว้ ดูกองทัพของพวกเจ้า ไม่มีองค์กร ไม่มีกฎระเบียบ อย่างไรก็ต้องพ่ายแพ้ให้กับข้า ข้าว่าพวกเจ้ายอมแพ้เร็วก็จะพบเจอกับความทรมานน้อย ยมบาลเองจะได้เบางานมีเวลาว่าง”
อีกหนึ่งประโยคลอยมา หลานเซียวเอามือจับหน้าผากเป็นการบ่งบอกว่าตนเองไม่รู้เรื่องอะไรด้วย
“ใช่หรือไม่เหล่าพี่น้อง พวกเจ้ายอมหรือไม่”
“ไม่ยอม” ทุกคนตอบรับชิวจือเว่ยพร้อมกัน
“ในเมื่อทุกคนไม่ยอม ก็ทำให้พวกเขาได้เห็นว่าพวกเราแท้จริงแล้วไม่ยอมอย่างไร”
ชิวจือเว่ยพาหลานเซี่ยวถอยออกไปอยู่อีกฝั่ง เซ่าเยี่ยซือนำคนบุกโจมตีประตูเมืองทีละระลอกตามที่ได้จัดระเบียบและวางแผนกันมา
เสียงระเบิดดังสนั่น ไม่นานประตูเมืองก็ถูกโจมตีลง
“ไม่ได้บอกว่าประมุขตระกูลเยี่ยเป็นคนบัดซบ กำลังทหารย่ำแย่ไม่ใช่หรือ ทำไมเพิ่งผ่านไปไม่นานประตูเมืองถึงถูกทำลายลง”
“ข้าน้อยเองก็ไม่ทราบขอรับ คนของพวกเราที่ออกไปสืบข่าวพูดเช่นนี้ขอรับ”
“ตกหลุมพรางเสียแล้ว ถอย”
คนและม้าของกองทัพราชสำนักรีบถอยออกไปอย่างบ้าคลั่ง ทหารพลังตระกูลเยี่ยที่เพิ่งขึ้นหน้าต่อสู้เมื่อครู่นี้ถอยออก คนด้านหลังเสริมเข้าไปแทน ม้าเร็วตามขึ้นมากำจัดกวาดล้างกำลังทหารและม้าศึกของราชสำนักเสียหมดสิ้น
ในขณะเดียวกันภายในพระราชวัง องครักษ์ที่คุ้มครองราชวังจู่ๆ ก็เริ่มก่อกบฏ บุกเข้าไปฆ่าถึงห้องพระบรรทมฮ่องเต้
“ภรรยา เจ้าจะดูพวกเขาก็ยังต้องใช้เวลาอีกมาก ไม่สู้ว่าพวกเราทำเรื่องน่าสนุกสักนิดเป็นอย่างไร?”
หลานเซียวมองเขาด้วยความหวาดกลัวอย่างมาก ที่เป็นเป็นพื้นที่โล่ง เขาคิดจะทำอะไร
เห็นหลานเซียวมีปฏิกิริยาเช่นนี้ ชิวจือเว่ยก็หัวเราะออกมา
“ภรรยา คิดอะไรอยู่เล่า สามีเป็นคนเช่นนั้นหรือ?”
หลานเซียวมีสีหน้าเห็นด้วยว่าเขาเป็นคนเช่นนั้น
“ข้าพาเจ้าไปที่แห่งหนึ่ง”
ตอนที่ชิวจือเว่ยกำลังพาหลานเซียวออกไปนั่นเอง มีบางคนปรากฏตัวขึ้นมาอย่างผิดเวลา
“ท่านประมุข ทางนี้จบลงแล้วขอรับ ทางพระราชวังยังไม่มีข่าวส่งมาขอรับ”
“ทำไมเป็นเจ้าอีกแล้ว เซ่าเยี่ยซือชิวฉาน จะบีบให้เจ้าเรียกชื่อใช่หรือไม่ ไม่รู้ว่าพ่อของเจ้าทำไมต้องตั้งชื่อเช่นนี้ให้เจ้าด้วย”
“พ่อข้าบอกว่าข้าเกิดหน้าร้อน ดังนั้นเลยชื่อว่าชิวฉาน”
“ดีๆๆ เจ้าพูดถูกหมด ให้หัวหน้าทัพพาทหารที่ได้รับบาดเจ็บกลับไป เจ้าพาคนอื่นไปที่พระราชวัง ข้ากับฮูหยินยังมีเรื่องต้องทำ เข้าใจหรือไม่?”
“เข้าใจขอรับ”
“อีกอย่าง รอที่นี่จบลงแล้ว ข้าจะให้วันหยุดกับเจ้า เจ้าไปนัดบอดเสีย หาคนเคียงข้างสักคนเข้าใจหรือไม่?”
“เข้าใจขอรับ” ชิวฉานหน้าแดงระเรื่อ
ชิวจือเว่ยรีบพาหลานเซียวออกไป บุคคลที่เป็นตัวขัดขวางความสัมพันธ์เช่นนี้เขาไม่อยากจะเห็นอีก
ทั้งสองคนมาถึงภูเขาขนาดย่อมหนึ่งเดียวของตระกูลเยี่ย
“นี่เป็นสุสานตระกูลเยี่ยของข้า ข้าพาเจ้ามาที่นี่เพราะอยากให้เจ้าได้เจอกับพ่อแม่ข้า”
หลานเซียวแอบรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย ตนเองเห็นเขาเป็นเพียงหมากตัวหนึ่ง ตอนนี้กลับต้องมาเจอพ่อแม่เขา อย่างไรก็เกิดความรู้สึกผิดอยู่บ้าง
“ท่านพ่อ ท่านแม่ ลูกมาหาพวกท่านแล้วขอรับ วันนี้ไม่ได้เอาเหล้ามาให้พวกท่าน แต่พาคนคนหนึ่งมาหา ภรรยาของข้า ลูกสะใภ้ของพวกท่าน” ชิวจือเว่ยยิ้มพลางดึงหลานเซียวมาข้างหน้า
“ดูลูกสะใภ้พวกท่านสวยงามเพียงใด แม้หลังจากนี้จะไม่อาจมีหลานให้พวกท่านได้ แต่คนตระกูลเยี่ยมีมากขนาดนี้ ยังจะเครียดว่าไม่มีผู้สืบทอดอีกหรือ? ชิวฉานเจ้าเด็กคนนั้นก็ดีอยู่”
“ไม่พูดเรื่องนี้แล้ว ตอนนี้ลูกกำลังรวบรวมแผ่นดินให้เป็นหนึ่งเดียว เพราะพวกท่านเองก็ทราบ ตระกูลหลานและตระกูลเยี่ยทั้งสองตระกูลไม่อาจแต่งงานกันได้ ดังนั้นแผ่นดินเป็นหนึ่งเดียวก็จะไม่มีเรื่องตระกูลเข้ามาเกี่ยวข้องอีก พวกเราสามารถอยู่ด้วยกันอย่างเปิดเผย”
“ท่านทั้งสองคนจากข้าไปตั้งแต่ข้ายังเด็ก คนในตระกูลล้วนดีต่อข้า ท่านทั้งสองไม่ต้องเป็นกังวล ลูกสบายดีมาก พวกท่านอยู่ทางนั้นจะต้องมีชีวิตที่ดีเช่นกันนะขอรับ” เสียงของชิวจือเว่ยต่ำลง
หลานเซียวยกมือขึ้นมาอย่างไม่ตั้งใจ นิ่งค้างอยู่กลางอากาศ แข็งเกร็งไปครู่หนึ่งสุดท้ายก็วางลงบนไหล่ชิวจือเว่ย
ชิวจือเว่ยหันกลับมาสบตาเขา รอยยิ้มนั่นทำให้หัวใจของหลานเซียวต้องสับสน
ตอนที่ 72 ตำนานรักพันปีตอนสั่นคลอน
“วางใจ ข้าไม่เป็นอะไร ทางด้านเมืองหลวงน่าจะจบลงแล้ว พวกเรากลับกันเถิด ไปดูรางวัลจากการศึกเสียหน่อย” ชิวจือเว่ยกลับมาทำหน้าทะเล้นเหมือนที่เคยเป็นมา
“…”
รอจนพวกเขากลับไปถึงก็ต้องพบว่าทุกอย่างถูกจัดการอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย คงเป็นเพราะชายแก่เหล่านั้นเป็นคนจัดการอย่างแน่นอน
“ท่านประมุข ครั้งนี้ได้รับผลพลอยได้เยอะอย่างมาก” เซ่าเยี่ยซือชิวเหลียงพูดกับชิวจือเว่ย
“พ่อเฒ่าจัดการได้ดีนี่ เช่นนั้นงานเก็บกวาดและรับมือของเขาเทียนปี้ก็มอบให้ท่านแล้ว พวกเราไปเดินเล่นก่อนแล้ว”
พูดจบก็จะออกไป แต่จู่ๆ ก็หยุดลงอีกครั้ง
“อย่าลืมเสียล่ะ ต้องจัดการถอนรากถอนโคนเสียให้สิ้น ข้าไปแล้ว”
พลางมอบเรื่องทั้งหมดให้เขาจัดการ ชิวฉือโกรธจนพ่นลมใส่หนวด ถลึงตาโต คนคนนี้มีเมียแล้วลืมแม่จริงๆ
แต่เมียคนนี้ก็ไม่ใช่คนขี้หงอเลยจริงๆ
“จือเว่ย ไปเยี่ยมดูอวิ๋นซูดีหรือไม่”
พวกเขาเดินเล่นไปทั่วตระกูลเยี่ย จู่ๆ หลานเซียวก็พูดกับชิวจือเว่ย
ชิวจือเว่ยไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่มองเขาอยู่ครู่หนึ่ง ยิ้มแล้วส่ายหน้า
“ข้าไม่ไปจะดีกว่า พวกเขาแม้จะถูกปิดบังข่าวสาร แต่หากพวกเขาถามขึ้นมา ข้าจะพูดเช่นไร? พูดว่าข้าฆ่าบิดามารดาของเขา ฆ่าทั้งครอบครัวของเขา ทำลายทั้งตระกูลของเขาอย่างนั้นหรือ? หรือจะบอกว่าทุกอย่างเรียบร้อยดี ไม่จำเป็นต้องกังวล”
ชิวจือเว่ยพูดออกมาเรียบๆ แต่ทำให้หลานเซียวรู้สึกว่าเป็นความผิดของตน หากว่าตนเองยอมวางทุกอย่างเพื่ออยู่กับเขา เช่นนั้นก็ไม่ต้องทำเรื่องมากมายเช่นนี้ และไม่ต้องแบกรับเรื่องมากมายเช่นนี้
เมื่อคิดถึงตรงนี้จู่ๆ หลานเซียวก็ยืนไม่ไหวอีกต่อไป ตนเองเป็นอะไรไป? ตนเองสั่นคลอนแล้วอย่างนั้นหรือ? เป็นไปไม่ได้ สิ่งที่ตนต้องการคือแผ่นดินนี้ ไม่อาจถูกผูกมัดอยู่ที่นี่ แต่ได้แผ่นดินมาแล้วเป็นอย่างไร? ทำไมข้าถึงต้องการแผ่นดิน ข้าลืมอะไรไปหรือไม่? ข้าเป็นอะไรไป…
“ภรรยาๆ เจ้าเป็นอะไรไป ภรรยาๆ?”
หลานเซียวได้สติกลับมา เห็นชิวจือเว่ยเขย่าเขาด้วยสีหน้าร้อนใจ
“ข้า…” ยังไม่ทันพูดจบ จู่ๆ หลานเซียวก็รู้สึกว่าเบื้องหน้าดำสนิท เป็นลมสลบไป ก่อนที่สติสัมปชัญญะจะหายไปทั้งหมด เขาเหมือนเห็นใบหน้าที่ใกล้จะร้องไห้ออกมา
“ไอยา ท่านอา ภรรยาเป็นอะไรกันแน่?”
“ท่านประมุขไม่ต้องเป็นกังวล คุณชายหลานเพียงแค่ไฟร้อนโจมตีหัวใจเท่านั้นเอง ไม่ได้เป็นอะไรมาก”
“ไฟร้อนโจมตีใจ ทำไมถึงได้ไฟร้อนโจมตีใจเล่า ภรรยาจะตื่นขึ้นมาเมื่อไร”
“ท่านประมุขเปิดลมปราณให้คุณชายหลานเสียหน่อยก็จะตื่นขึ้นมาเอง”
“จริงหรือ?”
“ท่านประมุขไม่ต้องเป็นกังวล ข้าขอตัวก่อน”
รอจนเหลือคนเดียวอยู่ภายในห้อง ชิวจือเว่ยก็ขับกระแสพลังถ่ายให้หลานเซียว แต่เพิ่งจะส่งกระแสพลังเข้าภายในร่างกายหลานเซียว หลานเซียวก็ขมวดคิ้วมุ่น ชิวจือเว่ยรีบหยุดมือในทันใด พลางเอากระแสพลังที่ส่งไปในร่างหลานเซียวออกมา ด้วยความไม่ทันระวังจึงดูดกระแสพลังของหลานเซียวออกมาด้วย ทันใดนั้นก็ต้องรู้สึกถึงความทรมานอย่างมาก
“กระแสพลังต่อต้านซึ่งกันและกัน ทำไมถึงเป็นเช่นนี้ ปกติตอนที่ทำก็ไม่เห็นว่าจะมีเหตุอันใด ทำไมถึง หรือปกติภรรยาจะอดทนตลอดอยู่อย่างนั้นหรือ น่าจะไม่ใช่ ภรรยาไม่ได้แสดงท่าทีทรมานออกมาเลยแม้แต่น้อย ทำได้เพียงลองดูเสียหน่อยทำให้ภรรยาระเบิดออกมา”
ตอนที่หลานเซียวฟื้นขึ้นมาก็เห็นว่าชิวจือเว่ยกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ตนเอง
ทันใดนั้นต้องตกตะลึงไป
“เจ้าคิดจะทำอะไร?”
“ท่านอาบอกว่าภรรยาเจ้าไฟร้อนโจมตีหัวใจ ข้าช่วยเปิดลมปราณขับพลังให้เจ้า แต่ก็ต้องพบว่าพลังของพวกเราต่อต้านกัน ทำได้เพียงเปลี่ยนวิธีให้ระเบิดออกมา” ชิวจือเว่ยเหมือนเด็กที่ทำความผิด
หลานเซียวรู้สึกอบอุ่นใจขึ้นมา
“เข้ามา” ชิวจือเว่ยเดินเข้าไปหาอย่างเชื่อฟัง
หลานเซียวจุมพิตลงบนหน้าผากของเขา
“ขอบคุณสามีมาก” ที่จริงยังมีอีกประโยคที่ไม่ได้พูดออกมา
แต่ขอโทษด้วย
ชิวจือเว่ยได้ยินหลานเซียวเรียกตนเช่นนี้ก็นิ่งงันไป ผ่านไปนานถึงได้สติกลับมา
“ภรรยา เมื่อครู่เจ้าเรียกข้าว่าสามีแล้ว ในที่สุดก็เรียกข้าว่าสามีแล้ว” ชิวจือเว่ยอุ้มหลานเซียวมาไว้ในอ้อมกอดพลางออดอ้อน หลานเซียวยิ้มอย่างขมขื่น