บทที่ 62-63 : เธอทําอะไรโง่ๆ
“อ้าาาากส์?” ผู้นําซอมบี้ลอยกลับไปอย่างสับสน หลินเสี่ยวดู ซูบผอมและวิ่งบนพื้นได้เท่านั้นเมื่อหลบหนีดังนั้นผู้นําซอมบี้จึงสัน นิษฐานว่าการเตะของเธอจะไม่รุนแรงเท่ากับการเตะของมันเอง ดังนั้นจึงเตะเธออย่างไม่ใส่ใจ แต่แล้วพบว่ามันไม่ได้เป็นอย่างที่คิด
เป็นผลให้มันถูกเตะโดงออกมาเช่นนี้
หลินเสี่ยวรู้อยู่เสมอว่าเธอมีความแข็งแกร่งมาก แต่เธอไม่คิด ว่าจะเตะผู้นําซอมบี้ไปได้ไกลขนาดนี้ ดังนั้นเธอจึงหยุดชะงักชั่วค ราวด้วยความตกใจเช่นกัน แต่ในวินาทีถัดไป เธอพุ่งเข้าหาหัวหน้าซอมบี้ที่กําลังลอยด้วยความเร็วที่สูงขึ้นพร้อมกับยกมือทั้งสองข้างขึ้นเพื่อเชือดหัวของมัน
“อ๊ากกกส์!” ผู้นําซอมบี้รู้สึกได้ถึงอันตราย ขณะที่มันรีบพลิก ตัวกลับไปในอากาศหลบกรงเล็บของเธอหลังจากลงจอดบนพื้น ดิน มันคํารามใส่เธอด้วยความโกรธจากนั้นเอาขาของมันกระแทกกับพื้นและกระโดดตะครุบตัวเธอซึ่งยังอยู่กลางอากาศ ชุดใบมี ดน้ําแข็งถูกปล่อยออกมาจากฝ่ามือของมันบินไปที่หลินเสี่ยวจากทุกทิศทาง
เมื่อเห็นใบมีดน้ําแข็งเหล่านั้น หลินเสี่ยว รู้ว่าตอนนี้ผู้นําซอมบี้ โกรธมาก ใบมีดน้ําแข็งนับร้อยตกลงมาจากเหนือศีรษะของเธอ ทําให้เธอไม่มีทางหลบ ดังนั้น เธอจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องกลับไปที่พื้นที่อวกาศของเธอ
วินาทีต่อมา หลินเสี่ยวหายไปในอากาศบาง ๆ ก่อนที่ใบมีดน้ํา แข็งจะแทงเข้าไปในร่างกายของเธอ ก่อนที่เธอจะกลับมาที่พื้น ฝนของใบมีดน้ําแข็งตกลงบนพื้นทําให้เกิดรูนับร้อยบนต้นไม้ในบริเวณนี้
“อ้ากกกส์!” หลินเสี่ยวหายตัวไปอีกครั้ง ผู้นําซอมบี้แหงนหน้า แยกเขี้ยวและเปล่งเสียงคํารามอย่างโกรธเกรี้ยวขึ้นไปบนท้องฟ้า จากนั้น มันก็หันกลับไปขูดตะกุยต้นไม้และโขดหินโดยรอบอย่างดุร้ายสร้างความหายนะอีกครั้ง
หลินเสี่ยวปรากฏตัวในพื้นที่ราบริมทะเลสาบหลังจากเข้ามาใน พื้นที่ของเธอ เธอยืนอยู่ที่นั่นและหลับตาเพื่อรับรู้สถานการณ์ข้างนอก เมื่อผู้นําซอมบี้ปลดปล่อยอารมณ์โกรธกับหิน เธออดไม่ได้ที่จะหัวเราะ
ผู้นําซอมบี้ไม่สามารถเข้าไปในพื้นที่อวกาศของเธอได้ไม่ว่ามันจะ โกรธแค่ไหนก็ตาม เธอมีพื้นที่เป็นของตัวเองเธอจะไปกลัวใครล่ะ?
แต่ในไม่ช้า เธอก็เริ่มรู้สึกอารมณ์เสีย เธอสามารถหนีเข้ามาใน อวกาศของเธอได้ แต่เธอจะกลับออกไปอย่างไร? ตอนนี้เธอตระหนักแล้วว่าเธอได้ทําอะไรโง่ ๆ ซึ่งกําลังจะออกไปจากพื้นที่ของ เธอผู้นําซอมบี้ดูเหมือนจะเรียนรู้แล้วว่าเธอจะปรากฏตัวอีกครั้งใน จุดเดิมที่เธอหายตัวไป ถ้าไม่รู้ทําไมมันถึงรอบนทางด่วนได้นานข นาดนั้น? ก่อนหน้านี้ หลินเสี่ยวปรากฏตัวอีกครั้งบนทางหลวงเธอพิสูจน์การเดาของผู้นําซอมบี้ด้วยการทําเช่นนั้นไม่ใช่หรือ?
เมื่อคิดอย่างนั้น หลินเสี่ยวก็อยากจะตีอกชกหัวตัวเอง เธอทํา อะไรลงไป? เธอผลักดันตัวเองเข้าสู่สถานการณ์ที่ลําบาก เธอกังวลเกี่ยวกับครอบครัวของเธอมากเกินไป ดังนั้นเธอจึงไม่สนใจ รายละเอียดอื่น แต่ตอนนี้ เธอกลับมามีสติและพบว่าเธอคิดผิด มันสายไปแล้ว
เธอเฝ้าดูผู้นําซอมบี้ระบายความโกรธ จากนั้นมันกระโดดขึ้น ไปบนต้นไม้ที่สูงมากและนั่งยอง ๆ อยู่ข้างบนอย่างเงียบ ๆ มันรอ อยู่ที่นั่นอย่างสงบ เหมือนนักล่าที่อดทนรอให้เหยื่อของมันมาปรากฏตัว
เห็นได้ชัดว่ากําลังรอให้เธอออกไป! ดูเหมือนว่าเธอประเมิน IQ ของผู้นําซอมบี้ต่ําไปมาก
เมื่อนั้นเธอก็ลืมตาขึ้น
เธอหวังว่าจะสามารถเข้าสู่สภาวะ ”ผีเดินทาง” นั้นได้อีกครั้งห รือไม่ก็ฝัน ฝันที่เคลื่อนไหว” อีกครั้งเพื่อออกจากพื้นที่อวกาศแห่
นึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นไม่กี่ครั้งที่ผ่านมาเมื่อเธอเปลี่ยนสถานที่โดยไม่ ออกไปจากอวกาศ เธออยากจะทํามันอีกครั้งแต่ไม่รู้ว่าทําอย่าง ไร เธอไม่รู้ว่าจะร่ายทักษะนั้นยังไง! เธอควรรอช่วงเวลาแบบไหน?
ในขณะที่เธอพยายามคิดว่าจะนําทักษะนั้นมาใช้ได้อย่างไร ทัน ใดนั้น เธอก็รู้สึกว่าศีรษะของเธอหนักขึ้นจากนั้นเมื่อเธอรู้สึกว่ามี บางอย่างเรียกเธอมา เธอเริ่มหมดสติ นี่เป็นสถานะที่แน่นอนที่เธอเข้ามาในครั้งสุดท้าย อย่างไรก็ตาม เธอไม่ได้ปรากฏตัวที่ด้านนอกในฐานะร่างโปร่งแสงในครั้งนี้ แต่ร่างกายของเธอกลับโป ร่งใสในอวกาศโดยตรง
อู่เย่วหลิงมองไปที่หลินเสี่ยวจากระยะไม่ห่างกันมาก เธอเรามรู้ สึกแปลกๆ ตั้งแต่ที่จู่ๆหลินเสี่ยวก็ปรากฏตัวขึ้นที่ริมทะเลสาบและยืนนิ่งอยู่ที่นั่น ในไม่ช้าเธอก็เห็นว่าร่างกายของหลินเสี่ยวค่อยๆเปลี่ยนเป็นโปร่งใส แต่ไม่ได้หายไปอย่างสมบูรณ์
อย่างน้อยเธอก็ยังสามารถมองเห็นร่างโปร่งใสของหลินเสี่ยว
เธอเบิกตากว้างเพื่อจ้องไปที่หลินเสี่ยว ใบหน้าของเธอเต็มไป ด้วยความอยากรู้อยากเห็น เธอไม่กังวลหรือกลัวเพราะมีเรื่อง แปลก ๆ เกิดขึ้นมากมายตั้งแต่เธอได้พบกับซอมบี้ตัวนั้น เธอได้ เรียนรู้ว่าเธอไม่ควรมองว่าคนหลังเป็นซอมบี้พื้นๆ ทั่วไป
อู่เย่วหลิงไม่รู้ว่าจะอธิบายความจริงที่ว่า “ไม่ควรเห็นหลินเสี่ยว เป็นซอมบี้ธรรมดา” ได้อย่างไร กระนั้นจิตใจที่เรียบง่ายของเธอก็เข้าใจดีว่าอย่างหลังนั้นไม่เหมือนกับซอมบี้ตัวอื่น ๆ และเธอเป็นซอมบี้เพียงตัวเดียวที่จะไม่แสดงหน้าตาที่น่ากลัวแบบ ” ฉัน – อยาก – กิน – เธอ” ให้เธอเห็น
ดังนั้น เธอมองไปที่หลินเสี่ยวที่โปร่งใสและมองดูเธอเดินลงไป ในทะเลสาบอย่างช้าๆ ขณะที่เธอเดินลึกเข้าไปในทะเลสาบเรื่อย ๆ น้ําไหลท่วมหัวเข่าต้นขา แล้วก็เอว แต่ดูเหมือนเธอจะไม่อยากหยุด เธอเคลื่อนไหวไปเรื่อย ๆ และน้ําก็มาถึงหน้าอก คอ ปาก จมูกแล้วก็ตา
จากนั้นไม่นานหลินเสี่ยวก็หายไปในทะเลสาบ
“มันลงไปทําอะไรที่นั่น?” อู่เย่วหลิงสงสัย
ตอนแรกอู่เย่วหลิงแค่อยากรู้ว่าหลินเสี่ยวลงไปในทะเลสาบเพื่ อทําอะไร เธอเดาว่าอาจจะเป็นซอมบี้ลงไปจับปลาและสงสัยว่ามันจะกลับมาพร้อมปลาตัวใหญ่และทําปลาย่างให้เธอ
ระหว่างที่รอหลินเสี่ยวขึ้นจากน้ํา เธอมองอย่างเงียบ ๆ ว่าซอม บี้หายไปไหน ด้วยความคิดทั้งหมดที่แวบเข้ามาในใจ
อย่างไรก็ตาม เธอเริ่มรู้สึกไม่สบายใจเมื่อไม่เห็นหลินเสี่ยวขึ้นมา จากน้ําหลังจากรอมานานเมื่อเวลาผ่านไปอย่างช้าๆ อู่เย่วหลิงรู้สึกว่าเธอไม่สามารถนั่งนิ่งได้อีกต่อไป เธอจึงลงจากเตียงอุ้มกระต่ายแล้วเดินไปที่ทะเลสาบ
“ทําไมมันไม่ออกมา? ทําไมถึงยังไม่ออกมา? ทําไม? ออกมา นะ! “อู่เย่วหลิงตะโกนในใจของเธอ
หลังจากเดินลงไปในน้ําในสภาพที่เต็มไปด้วยโคลน หลินเสี่ยวต ระหนักว่าเธอกําลังทําอะไรอย่างไรก็ตามทันใดนั้นเธอก็พบว่า เธอไม่สามารถควบคุมร่างกายได้ แม้ว่าจิตใจของเธอจะชัดเจนอีกครั้งก็ตามเธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเฝ้าดูตัวเองเดินลึกลงไปใน ทะเลสาบและดูน้ําไหลท่วมหัวของเธอหลังจากนั้นเธอไม่หยุด แต่ยังคงมุ่งหน้าไปที่ใจกลางทะเลสาบ
“เกิดอะไรขึ้น? เหตุใดจึงเกิดขึ้นแบบนี้? เกิดอะไรขึ้นอีก? “เธอ
สงสัย
หลินเสี่ยวรู้สึกเหมือนเป็นคนนอกที่เฝ้ามองร่างกายของลรี่เถียน หยี่เดินลึกลงไปเรื่อย ๆ ในขณะเดียวกันเธอก็เห็นโลกใต้น้ํา เธอเป็นซอมบี้ ดังนั้น เธอจะไม่ขาดอากาศหายใจ และสามารถเคลื่อนที่ได้อย่างอิสระใต้น้ํา
เมื่อร่างกายของเธอเข้าไปลึกขึ้นและน้ําก็ไหลเข้าตาเธอ เธอ เห็นแสงสีเขียวใต้น้ํา
ผิวน้ําดูลึกและมืดแต่มีแสงสีเขียวส่องสว่างอยู่ข้างใต้ หลินเสี่ยว ตาบอดสีในฐานะซอมบี้ดังนั้นเธอจึงตกใจมากเมื่อเธอจําสีเขียวของแสงได้
หลังจากที่เธอกลายเป็นซอมบี้ ทุกสิ่งที่เธอเห็นเป็นภาพขาวดํา น่าเบื่อและจืดชืด อย่างไรก็ตามทําไมเธอถึงเห็นแสงสีเขียวลึกลับนี้ในตอนนี้? และที่สําคัญมันคืออะไร?
บทที่ 63 : สิ่งแปลกประหลาดที่เกิดขึ้นใต้ก้นทะเลสาบ
ก่อนที่เธอจะรู้ว่าแสงสีเขียวนั้นคืออะไร เธอรู้สึกว่าเท้าของเธอ ถูกบีบ แล้วก็มีอะไรบางอย่างขดอยู่ที่ขาส่วนล่างของเธอ เธอตระหนักว่าเธอได้รับการควบคุมร่างกายของเธอกลับคืนมา
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เธอจะตอบสนอง เธอรู้สึกว่าสิ่งที่ขดอยู่ รอบขาของเธอกําลังไต่ขึ้นอย่างรวดเร็วบนร่างกายของเธอ
เธอก้มศีรษะลงเพื่อมองดู แล้วเธอก็ตกใจ
เธอเห็นเถาวัลย์สีเขียวเรืองแสงจํานวนนับไม่ถ้วนเลื้อยขึ้นพัน รอบขาเหมือนงู ไม่นานก็โอบขาและเอวของเธอ
“เวรล่ะ! นี่มันบ้าอะไรกัน! เธอกรีดร้องในหัว
หนังหัวของเธอชาเมื่อมองสิ่งเหล่านี้ เธอพยายามดิ้นรน แต่ไม่ สําเร็จ เธอพบว่าเถาวัลย์เหล่านี้ไม่ได้พันรักเธอแน่นเกินไปแม้ว่า มันจะดูน่ากลัวก็ตาม แต่น่าแปลกที่เธอไม่สามารถปลดปล่อยตัวเอ งจากพวกมันได้
เธอพยายามดึงมันออก เถาวัลย์เหล่านี้นุ่มและลื่นและค่อนข้า งยืดหยุ่น เธอไม่สามารถแกะหรือดึงออกจากกันได้และไม่สามารถแม้แต่จะตัดมันออกด้วยเล็บอันแหลมคมของเธอได้!
เธอไม่รู้สึกอึดอัดที่ถูกเถาวัลย์พันทับ แค่รู้สึกแปลก ๆ เท่านั้น เธอรู้สึกว่าเสื้อผ้าของเธอละลาย เพราะเถาวัลย์ดูเหมือนจะเกาะอยู่บนผิวหนังของเธอโดยตรง
เธอรู้สึกว่าผิวของเธอชาและคันเล็กน้อย
เธอมีความรู้สึกจริงๆ! ในฐานะซอมบี้ตอนนี้เธอรู้สึกมันและ คันจริงๆ! ทําไมจึงเกิดขึ้นแบบนี้? เถาวัลย์เหล่านี้มีอะไรบนโลก?
ก่อนที่เธอจะได้คําตอบ เถาวัลย์เหล่านี้ก็มาถึงหน้าอกและคอ ของเธอจากนั้นไม่นานก็พันศีรษะของเธอเหลือเพียงดวงตาสีเข้มคู่หนึ่งของเธอที่ไม่ได้ปิดกั้น
หลังจากถูกเถาวัลย์พันรอบตัวแล้ว เธอรู้สึกว่าตัวเองอยู่ในสถา นะ ผีเดินทาง” อีกครั้ง แต่คราวนี้จิตใจของเธอยังคงรู้แจ้ง
รู้สึกชาและคันเล็กน้อย เธอค่อยๆผ่อนคลายแขนขาของเธอ จากนั้นอาการชาและคันค่อยๆซึมเข้าสู่กล้ามเนื้อจากผิวหนังของเธอ
ตอนนี้เธอรู้สึกแปลกมาก เธอรู้สึกว่าจิตใจของเธอล่องลอยดูเห มือนจะลอยขึ้น เธอรู้สึกเหมือนกําลังนอนอยู่บนก้อนเมฆนุ่ม ๆ รู้ สึกสบายมาก
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เธอจะเพลิดเพลินไปกับความรู้สึกนั้น ทัน ใดนั้น เธอก็รู้สึกถึงความเจ็บปวดเล็กน้อยจากสมองของเธอ ความเจ็บปวดระลอกแรกไม่ได้เลวร้ายนัก แต่ทุกคลื่นที่ตามมาเลวร้าย ยิ่งกว่าครั้งก่อนไม่นานเธอก็เลิกคิ้วและตื่นจากความรู้สึกสบาย ๆ
เธอรู้สึกว่าสมองของเธอสั่นสะท้านทุกครั้งที่เกิดความเจ็บปวด ความเจ็บปวดแย่ลงเรื่อย ๆ และเธอรู้สึกอึดอัดมากขึ้นเรื่อย ๆ
อย่างไรก็ตาม เธอไม่สามารถทําอะไรได้เหมือนกับที่เธอไม่สา มารถเคลื่อนไหวได้ ไม่มีทางเลือกอื่นเธอต้องทนกับความเจ็บปวดอันแปลกประหลาดนั้น
เธอไม่มีความกลัวอยู่ในหัว และเธอไม่สามารถจัดการความคิด มากมายในจุดนี้ได้ เพราะจิตใจของเธอถูกครอบงําด้วยความเจ็บปวดและไม่สามารถแตกความคิดอื่น ๆ
ไม่เหมือนครั้งก่อนๆที่ผ่านมาเมื่อเธอปวดหัว คราวนี้ความเจ็ บปวดเกิดขึ้นอย่างช้าๆ คลื่นที่ละลูก ราวกับว่ามันทําให้เธอมีเวลาปรับตัว เพื่อที่เธอจะได้ไม่รู้สึกใกล้จะตายเหมือนสองสามครั้งที่ ผ่านมา
เมื่อเวลาผ่านไป เธอเริ่มรู้สึกว่าหัวของเธอกําลังจะระเบิด ใบห น้าของเธอบิดเบี้ยวและอ้าปากค้างเผยให้เห็นฟันอันแหลมคมและเขี้ยวของเธอ
เธออยากจะกรีดร้องเพื่อบรรเทาความเจ็บปวดในสมองของ เธอ แต่เธอไม่สามารถเปล่งเสียงได้ดังนั้น เธอทําได้เพียงตะโกนอย่างเงียบ ๆ
“มันเจ็บ! มันเจ็บมาก! อูย! ฉันต้องตายแน่!?
ต่อมาร่างกายของเธอเริ่มกระตุก อย่างไรก็ตาม เธอไม่สา มารถขยับหรือดิ้นได้เพราะเถาวัลย์เหล่านั้นโอบรัดเธอไว้แน่น
เธอรู้สึกเหมือนจะขาดใจเพราะความเจ็บปวด แต่ก็ทําไม่ได้ เธอ ไม่สามารถบอกได้ว่าเธอต้องเจ็บปวดไปนานแค่ไหนแต่เธอไม่เคยผ่านไปเลยแม้แต่ในขณะที่ดวงตาของเธอสูญเสียโฟกัสและไม่ได้ยินเสียง
เมื่อเธอกําลังจะถูกผลักไสด้วยความเจ็บปวดจนลืมชื่อตัวเอง ความเจ็บปวดที่น่ากลัวก็หายไปในทันทีและเส้นประสาทที่ตึงเค รียดของเธอก็คลายลง
เธอลืมตาขึ้นด้วยความสับสนก่อนที่จะตระหนักว่าเกิดอะไรขึ้น ทันใดนั้น แสงสีเขียวก็สว่างวาบไปทั่วดวงตาของเธอและหายไปมันเหมือนงูตัวน้อยจอมซนที่กําลังเล่นซ่อนหากับเธอ
ในขณะนั้นเถาวัลย์ที่พันรอบตัวของเธอก็คลายออกอย่างช้าๆ และเริ่มถอยกลับ
ในที่สุด เธอก็กลับมามีสติสัมปชัญญะ เธอกระพริบตาและเห็ นว่าแสงสีเขียวสว่างขึ้นกว่าเดิมแต่แล้วก็หายไปเฉยๆ
สีหน้าบิดเบี้ยวหายไปในขณะที่เธอถอนหายใจยาว ๆ ด้วยความ โล่งอก เธอลดศีรษะลงโดยอัตโนมัติเพื่อมองไปที่เท้าของเธอเห็นขาที่เปลือยเปล่าของเธอเธอกําลังยืนอยู่ในความเขียวชอุ่มเหยียบลงบนพื้นดินสีดําลึกลับ
เถาวัลย์สีแดงเรืองแสงเหล่านั้นหายไปหมดแล้วในตอนนี้ ดูเห มือนพวกเขาจะออกมาจากพื้นก่อนหน้านี้และถูกดึงกลับลงไปแล้วในตอนนี้
เธอมองไปรอบ ๆ แต่ไม่พบเถาวัลย์เหล่านั้นจากนั้นเธอก็เงยหน้าขึ้นมอง
อย่างไรก็ตาม เธอไม่เห็นอะไรเลยนอกจากความเขียวขจี
เธอขยับมือและรู้สึกได้ทันทีว่ามีบางอย่างยื่นมือขึ้นมา เธอคุ้น เคยกับความรู้สึกนั้นซึ่งเกิดจากการลอยตัวของน้ํา
หลังจากขยับแขนขาและไม่พบอะไรแปลก ๆ เธอก็หันกลับไปว่า ยน้ําขึ้นสู่ผิวน้ํา
ไม่นานเธอก็โผล่หัวขึ้นมาจากน้ํา จากนั้นมองไปรอบ ๆ และพบ ว่าเธออยู่กลางทะเลสาบ
ทะเลสาบ
เธอยังพบว่าอู่เย่วหลิงยืนอยู่ริมทะเลสาบ จ้องมองเธอด้วยดวง ตาที่เปลี่ยนเป็นสีแดงเล็กน้อย
“เยี่ยมมาก! เธอออกมาแล้ว! ทําไมเธอยังอยู่ที่นั่น? ทําไมตอนนี้ เธอไม่ว่ายน้ํากลับมาล่ะ? : หลินเสี่ยวสัมผัสได้ถึงความคิดของอู่เย่วหลิงจากระยะไกลรู้สึกประหลาดใจ จากนั้นเธอก็ว่ายน้ําเข้าหาเด็กน้อย
เธอไม่คิดว่าเด็กหญิงตัวน้อยๆ จะเป็นห่วงเธอมากขนาดนี้
เมื่อเห็นว่าหลินเสี่ยวเริ่มว่ายน้ํากลับเข้ามาที่ริมทะเลสบอู่เย่วหลิ งก็ถอนหายใจยาวๆ ด้วยความโล่งอกในใจก็เลิกกังวลในที่สุด
ในขณะที่ว่ายน้ําหลินเสี่ยวก็รู้สึกแปลกๆ
ดูเหมือนเธอจะรู้สึกทุกอย่างในอวกาศของเธอได้อย่างชัดเจน แต่น้ําในทะเลสาบ ..
เธอไม่รู้ว่าจะอธิบายความรู้สึกนั้นอย่างไร มันเหมือนกับว่าเธอมี ช่องว่างในใจ และทําให้เธอเห็นและสัมผัสได้ถึงทุกสิ่งในพื้นที่ของเธอพร้อมกับทุกการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นที่นี่
ดังนั้น เธอจึงสามารถรับรู้ตําแหน่งของอู่เย่วหลิงได้อย่างชัดเจน ในขณะนี้ แม้ว่าเธอจะปิดตาก็ตาม เธอยังสัมผัสได้ถึงต้นหญ้าต้นสตรอเบอร์รี่และชิ้นส่วนเฟอร์นิเจอร์ที่วางแบบสุ่ม เธอพบว่ากระต่ายและหนูสองสามตัวที่เธอหาไม่พบก่อนหน้านี้ได้ลงไปอยู่ใต้ดนหมดแล้ว!
อย่างไรก็ตาม เธอรู้สึกได้ถึงกลิ่นอายแปลก ๆ จากทะเลสาบ แต่เธอไม่รู้ว่ามันคืออะไร
ในที่สุด เมื่อเธอว่ายน้ําขึ้นฝั่งและเดินขึ้นจากน้ํา เธอก็รู้ว่าเธอ เปลือยเปล่า
เธอก้มหัวลงมองร่างของเธอ แล้วเธอก็ตะลึงอีกครั้ง
“ฉิบหายแล้ว! นี่มันอะไร? เกิดอะไรขึ้นกับฉันในน้ําตอนนี้! ” เธอกรีดร้องในใจ