ตอนที่ 763 ช็อก! เขาคือพ่อแท้ๆ ของลูก (3)
อวี๋กานกานใจเต้นรัวแปลกๆ
อยู่ด้วยกันมาตั้งนาน แต่ตอนที่อยู่กับเขาแค่ไม่ขยับทำอะไรก็ยังคงใจเต้นรัวหน้าร้อน
เพราะเสน่ห์อันเหลือล้นของเขา หรือว่าเธอจะไร้ซึ่งความหนักแน่น
อวี๋กานกานลืมตาจ้องมองเขาอยู่หลายวินาทีคิดว่าเขาน่าจะหลับไปอีกแล้วก็อยากเอาแขนเขาออกไปเบาๆ
แต่พอขยับกลับถูกเขากอดรัดแน่นจนแทบหายใจไม่ออก
ชายหนุ่มยังไม่อยากตื่นแล้วอยากให้เธอนอนด้วยกัน
ในเมื่ออวี๋กานกานดึงมือเขาออกไปไม่ได้จึงทำได้เพียงนอนขี้เกียจบนเตียงต่อ “ฟังจือหัน ตอนบ่ายฉันนัดหลินจยาอวี่ ไม่รู้ว่าคุณจะไม่ไปทำงาน ดังนั้นตอนบ่ายฉันอาจอยู่เป็นเพื่อนคุณไม่ได้นะคะ”
น้ำเสียงของฟังจือหันเย็นชาเล็กน้อย “ลู่เสวี่ยเฉินลางานอยู่บ้านไม่ใช่เหรอ มีเขาอยู่กับหลินจยาอวี่แล้วคุณจะไปทำไม”
“ลู่เสวี่ยเฉินอ่ะ…” ช่วงนี้เขาตัวติดกับหลินจยาอวี่ตลอดเวลา เมื่อเธอนึกถึงทุกสิ่งทุกอย่างที่เห็นในโรงพยาบาลวันนั้นก็รู้สึกสบายใจเป็นอย่างมาก “เขาอยู่ดูแลหลินจยาอวี่ตลอดเลยค่ะ มันทำให้ฉันแปลกใจจริงๆ”
น้ำเสียงที่ชื่นชมของเธอทำให้ฟังจือหันพูดด้วยน้ำเสียงปนหึงหวง “แปลกใจอะไร ถ้าเขาไม่ดีกับลูกแท้ๆ แล้วเขาจะดีกับใคร”
อวี๋กานกานไม่ได้ฉุกคิดอะไรมาก เพียงแค่ตอบ “อืม” เบาๆ พอสิ้นเสียงแล้วถึงจะเข้าใจว่าฟังจือหันพูดอะไร เธอเบิกตาโพลง “เมื่อกี้คุณว่ายังไงนะ”
ฟังจือหันหลับตานิ่งไปชั่วขณะ “…”
“ที่คุณพูดเมื่อกี้ หมายความว่าเล่อเล่อคือลูกแท้ๆ ของลู่เสวี่ยเฉินเหรอคะ”
อวี๋กานกานถามขึ้นอีกครั้ง
ฟังจือหันยังคงแน่นิ่งเหมือนนอนหลับไปแล้ว แต่อวี๋กานกานรู้ว่าเขาตื่นมีสติดีจึงยกเท้าถีบแข้งเขาไปหนึ่งทีแล้วยกมือผลักเขาออกไป “คุณบอกมาเดี๋ยวนี้นะ ที่คุณพูดเมื่อกี้หมายความแบบนี้หรือเปล่า”
เธอทั้งจิกทั้งทึ้งผมของเขา ฟังจือหันอยากนอนก็นอนต่อไม่ได้อีกต่อไปจึงลืมตาขึ้นมาอย่างงัวเงีย “ทำไมเหรอ”
อวี๋กานกานแสยะยิ้มเหอะๆ “อย่ามาทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้นะคุณ ฉันรู้ว่าคุณเข้าใจความหมายที่ฉันพูด”
ฟังจือหันจึงกระตุกริมฝีปากอย่างช่วยไม่ได้ จากนั้นก็ตอบ “อืม” เบาๆ “ก็เป็นอย่างที่คุณเข้าใจนั่นแหละ”
อวี๋กานกานช็อกไปแล้ว!
เธอตกตะลึงอ้าปากค้างราวกับฟังนิทานหนึ่งพันราตรี จนเวลาผ่านไปหลายนาทีก็ยังไม่ได้สติกลับมา
“คุณหมายความว่าลู่เสวี่ยเฉินเป็นพ่อแท้ๆ ของเสี่ยวเล่อเล่อ เสี่ยวเล่อเล่อก็คือลูกแท้ๆ ของลู่เสวี่ยเฉิน ถ้าอย่างนั้นหมายความว่าคนที่มีอะไรกันกับหลินจยาอวี่ในคืนวันที่ไปผับวันนั้นก็คือ…ลู่เสวี่ยเฉิน” อวี๋กานกานค่อยๆ เอื้อนเอ่ยออกมา ยิ่งพูดก็ยิ่งช็อก “ดังนั้นที่ลู่เสวี่ยเฉินยื่นข้อเสนอตกลงแต่งงาน ที่จริงแล้วเหตุผลทุกอย่างก็เพื่อลูกในท้องของหลินจยาอวี่ ก็เลย…”
ฟังจือหันเอ่ยขัดจังหวะเธอ “ไม่ใช่ เขาพึ่งจะรู้หลังแต่งงานแล้ว”
อวี๋กานกานยังคงนึกโมโก ห “เขารู้แล้วทำไมถึงไม่บอกหลินจยาอวี่ นี่ก็เท่ากับว่าโกหกหลินจยาอวี่มาตลอด โชคดีที่จยาอวี่เห็นว่าเขาใส่ใจดูแลลูก รู้สึกซาบซึ้งจนสับสนแล้วตัดสินใจฝากฝังชีวิตกับเขาไปจนแก่เฒ่าแล้ว สุดท้ายก็เป็นเรื่องโกหกทั้งหมด เกินไป นี่มันชักเกินไปแล้ว”
เธอนึกถึงก่อนหน้านี้ตอนพบกับลู่เสวี่ยเฉินครั้งแรกที่เมืองไป๋หยาง
ลู่เสวี่ยเฉินมีท่าทีรังเกียจผู้หญิงคนนั้น เหตุผลเพราะเขาบอกว่าตอนนั้นถูกผู้หญิงหน้าตาน่าเกลียดคนหนึ่งขืนใจ
ประกอบกับที่หลินจยาอวี่เล่าให้เธอฟังว่าเพราะอกหักจึงดื่มจนเมามาย จากนั้นก็ถูกผู้ชายแปลกหน้า….ตอนนั้นตรงมุมปากของหลินจยาอวี่ยังไม่หายดี ดูแล้วก็มีความน่าเกลียดน่ากลัวบ้างเล็กน้อย
ดังนั้นผู้หญิงขี้เหร่ที่ลู่เสวี่ยเฉินเอ่ยถึงก็คือหลินจยาอวี่ พวกเขาต่างฝ่ายต่างถูกขืนใจ
ที่จริงหลินจยาอวี่เป็นผู้หญิงที่สวยมากคนหนึ่ง ดังนั้นเธอจึงไม่ได้รวบรวมสิ่งที่ทั้งสองประสบในวันนั้นมาวิเคราะห์รวมเป็นเหตุการณ์เดียวกัน
นี่มันพรหมลิขิตแบบไหนกันเนี่ย…
ตอนที่ 764 ช็อก! เขาคือพ่อแท้ๆ ของลูก (4)
อวี๋กานกานแลตามองฟังจือหัน ชายหนุ่มหัวเราะเสียงเบาก่อนจะหลับตานอนต่อ “คุณยังจะหลับลงอีกหรอ”
“แล้วทำไมผมถึงจะหลับไม่ลงล่ะ” เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับเขา
“คุณรู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมรู้แล้วถึงไม่บอกฉัน ไหนคุณสัญญากับฉันไงว่าต่อไปเวลามีเรื่องอะไรจะบอกฉันทุกอย่าง แต่ตอนนี้คุณกลับปิดบังฉันอีกแล้ว”
“นี่ไม่ใช่เรื่องของเราสักหน่อย ผมคิดว่าจะบอกหรือไม่ก็ไม่มีความเกี่ยวข้องกัน”
“ถึงจะไม่ใช่เรื่องของเรา แต่มันก็เป็นเรื่องสำคัญนะคะ คุณควรจะบอกฉัน” อวี๋กานกานบ่นอย่างไม่พอใจพร้อมเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ของตนเอง
เธอต้องการโทรศัพท์โดยด่วนเพื่อบอกให้หลินจยาอวี่ทราบถึงสถานการณ์
ฟังจือหันคว้ามือเธอเอาไว้เบาๆ ก่อนจะเอ่ยถาม “คุณจะโทรเมื่อไหร่ก็ได้ แต่คุณคิดถึงผลที่ตามมาบ้างไหม”
อวี๋กานกานกะพริบตาปริบๆ
หากโทรไปตอนนี้หลินจยาอวี่ต้องโกรธมากแน่นอน ตามที่เธอเข้าใจตัวตอนของหลินจยาอวี่ เธอต้องโบกมือลาลู่เสวี่นเฉินแน่ๆ
ไม่แน่เลิกกันแล้วก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ได้อยู่ด้วยกันตลอดไปอีก ถึงอย่างไรสิ่งที่หลินจยาอวี่เกลียดมากที่สุดก็คือคนโกหกเธอ ลู่เสวี่ยเฉินไม่ได้เป็นเพียงคนที่ข่มเหงรังแกเธอเท่านั้น แต่จนถึงตอนนี้แล้วลู่เสวี่ยเฉินก็ยังคงปิดบังความจริงกับเธออยู่
หากไม่มีลูกด้วยกันล่ะก็ อวี๋กานกานก็คงรีบไปบอกเธอตั้งนานแล้ว
แต่ตอนนี้ถ้าเธอพูดไปแล้ว สองคนนี้หย่ากันขั้นเด็ดขาด แล้วเสี่ยวเล่อเล่อจะทำยังไง
อวี๋กานกานมีความลังเล
ผ่านไปครู่เดียวก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไงแล้ว ทำได้เพียงเบะปากจ้องฟังจือหัน
เมื่อถูกเธอจ้องเขม็งขนาดนี้แล้วฟังจือหันจะหลับต่อได้ยังไง เขาดึงแขนเธอให้ขึ้นมาทับบนร่างของเขา “เอาล่ะ ให้พวกเขาจัดการกันเองดีกว่านะครับ ตอนนี้ยังเช้าอยู่เลยเรานอนต่อกันอีกสักพักดีกว่า”
อวี๋กานกานวางมือบนแผงอกของเขา แล้วจิ้มอกเขาแรงๆ ไปหลายที
ผลคือกล้ามเนื้อเขาแข็งเกินไป เธอจิ้มไม่ลงแถมยังเจ็บนิ้วอีกต่างหาก จึงอดร้อง “ซี๊ด” ออกมาไม่ได้
ฟังจือหันผงกศีรษะมองสีหน้าทำปากขมุบขมิบของเธอจึงยกยิ้มมุมปากอย่างควบคุมตนเองไม่ได้
ภรรยาของเขา…น่ารักเป็นบ้าเลย ให้ตายสิ!
ในขณะที่อวี๋กานกานกำลังคิดว่าตกลงแล้วจะบอกเรื่องนี้กับหลินจยาอวี่เมื่อไหร่ดี แต่ทันใดนั้นชายหนุ่มก็ประทับรอยจูบอุ่นร้อนที่บริเวณใบหูของเธอแผ่วเบา
เธอหดกายหลบหนีไปข้างหลังโดยไม่ทันตั้งตัว ฟังจือหันพลิกตัวขึ้นมากดทับให้เธอนอนอยู่ใต้ร่าง
“คุณคิดจะทำอะไรอีก”
“ทำเรื่องที่คุณชอบไง” ร่างบดเบียดเข้ามาหนักหน่วงทำให้หญิงสาวรู้สึกถึงความปรารถนาของชายหนุ่มที่ตื่นขึ้นมาในยามเช้า จากนั้นเขาก็กดริมฝีปากลงมาที่ลำคอของเธอ
ชายหนุ่มที่ตื่นตอนเช้าตรู่ บริเวณใต้คางมีหนวดขึ้นสากเล็กน้อยจนทำให้ผิวสัมผัสจั๊กจี้ จึงทำให้หลุดขำออกมาเบาๆ อย่างอดไม่ได้
ทำเรื่องที่เธอชอบอะไรกัน เห็นได้ชัดว่าเป็นเรื่องที่เขาชอบทำต่างหากเล่า
ทั้งสองต่างกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันอยู่นานสองนางถึงจะลุกออกจากเตียง
เมื่อลงมาชั้นล่างอวี๋กานกานก็เจอป้าหูคุณป้าแม่บ้านพอดี แต่กลับไม่เห็นวี่แววของกู้เนี่ยน ป้าหูบอกอวี๋กานกานว่ากู้เนี่ยนตื่นมาไม่รับอาหารเช้าแล้วก็ขอตัวออกไปเลย
หลังจากอวี๋กานกานรับประทานอาหารเช้าเสร็จสรรพก็ลังเลอยู่พักหนึ่ง ในที่สุดก็ตัดสินใจโทรหาหลินจยาอวี่เพื่อบอกว่าวันนี้ไม่ไปหาเธอแล้ว
ที่สำคัญก็คือเธอยังไม่ตัดสินใจว่าจะบอก “ความจริง” ให้หลินจยาอวี่รับรู้หรือไม่ เพราะเธอกลัวว่าเมื่อเจอหน้ากันแล้วตัวเองจะไม่ระวังและเผลอพูดผิดไป
มีบางคราวที่เธอไม่ไปแก้ไขแล้วรอจนกว่าเรื่องราวมันจะคลี่คลายด้วยตัวมันเอง
แต่เรื่องก็ดันเข้ามาหาเธออยู่เรื่อย
แต่คนที่เข้ามาเธอไม่ใช่ลู่เสวี่ยเฉินกับหลินจยาอวี่ แต่กลับเป็นลู่จิ้งอี...พี่สาวของลู่เสวี่ยเฉิน
เหวินซินเหมยไม่พอใจเป็นอย่างมาก
เธอไม่เชื่อผลตรวจดีเอนเอนั่น เธอเชื่อแค่หูตัวเองเท่านั้น ตอนที่หลินจยาอวี่เอ่ยประโยคนั้นออกมาจะต้องไม่รู้ว่าเธอแอบฟังอยู่แน่ๆ
ดังนั้นเป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นเรื่องหลอกลวง