ตอนที่ 767 ช็อก! เขาคือพ่อแท้ๆ ของลูก (7)
หลังจากนั้นคุณหญิงลู่ก็รู้สึกถึงบรรยากาศคลุมเครือภายในห้อง ใครไม่เคยผ่านช่วงการเป็นวัยรุ่นบ้างล่ะ คุณหญิงลู่คิดๆ ดูก็เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
เธอเบิกตาจ้องลู่เสวี่ยเฉิน “พึ่งคลอดลูกได้ไม่เท่าไหร่เอง แกวุ่นวายอะไร ไม่ว่ายังไงก็รอให้พ้นหนึ่งเดือนไปก่อน”
ตอนแรกหลินจยาอวี่แค่เขินอายนิดๆ หน่อยๆ แต่คราวนี้จากที่หน้าแดงระเรื่อก็กลายเป็นแดงแจ๋ทันที เธออุ้มเสี่ยวเล่อเล่อแล้วนั่งลงอีกด้านเพื่ออยากหาหลุมเพื่อหลบซ่อน
ลู่เสวี่ยเฉินกระแอมไอแล้วไล่แม่ของเขาออกไป
หลินจยาอวี่มองเขาด้วยสีหน้าไม่พอใจแล้วบ่นเงียบๆ “คุณไปนอนห้องข้างๆ เลยนะ วันนี้เล่อเล่อจะนอนกับฉัน”
ก่อนหน้านี้ที่โรงพยาบาล ลู่เสวี่ยเฉินเห็นหลินจยาอวี่ให้นมลูก
มีครั้งแรกก็ต้องมีครั้งที่สอง ทุกครั้งที่เสี่ยวเล่อเล่อกินนม ลู่เสวี่ยเฉินจะต้องมานั่งข้างๆ ให้ได้ ตอนแรกเธอก็ทำตัวไม่ถูก แต่ภายหลังก็เริ่มชินเสียแล้ว
ในขณะที่หลินจยาอวี่กำลังให้นมผู้เป็นบุตรชาย ลู่เสวี่ยเฉินก็ขึ้นไปนอนที่เตียงอีกฝั่ง
ศีรษะของลู่เสวี่ยเฉินวางบนไหล่ของหลินจยาอวี่ มองกันโต้งๆ แบบนี้ หลินจยาอวี่ทนได้ที่ไหน “คุณไปอีกฝั่งเลยนะ อย่ามอง”
เสี่ยวเล่อเล่อที่กำลังกินนมอยู่ส่งสายตามองลู่เสวี่ยเฉินไปทั่ว ลู่เสวี่ยเฉินสบถทันที “มองอะไรเล่าเจ้าแสบ รีบโตไวๆ หน่อยแล้วรีบหย่านมด้วย”
หลินจยาอวี่ทั้งโกรธทั้งขำ
ถ้าหากว่าลูกไม่ได้กำลังกินนมตรงหน้า เธออยากเตะเขาแรงๆ สักที
แต่ถึงอย่างไรเขาก็ปฏิบัติต่อเสี่ยวเล่อเล่อราวกับลูกแท้ๆ ของเขาจริงๆ ผู้หญิงล้วนแล้วแต่มีอารมณ์อ่อนไหว หากผู้ชายดีต่อเธอ เธอก็ย่อมต้องการดีกับผู้ชายเป็นธรรมดา
“หรือว่าคุณชอบลูกสาวมากกว่า”
“ชอบลูกสาวที่เหมือนคุณ” ชายหนุ่มถือโอกาสสารภาพความในใจ จะบอกเรื่องลูกกับเธอหรือไม่มันไม่สำคัญอีกแล้ว เพราะตอนนี้พวกเขาถือว่าเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว
เขากุมมือเธอและประสานกันเอาไว้ “รอลูกครบหนึ่งเดือนเมื่อไหร่ เราไปฮันนีมูนด้วยกันนะครับ”
ตอนที่แต่งงานกันเธอก็ท้องแล้ว พวกเขาจึงลดทอนรายการนี้ไป ตอนนี้คลอดลูกแล้วเขาต้องเติมเต็มให้อย่างแน่นอน
“แล้วเสี่ยวเล่อเล่อล่ะ”
“ให้แม่เลี้ยงดีกว่าคุณนะครับ”
“แต่ว่า…”
เธอกำลังอยากพูดอะไรบางอย่าง แต่ลู่เสวี่ยเฉินกลับหอมแก้มเธอดังฟอด “อย่ามีแต่เลยนะครับ ผมจะจัดการให้เอง”
หลินจยาอวี่ลังเลครู่หนึ่ง ก่อนจะยิ้มและพยักหน้า
เวลาช่างผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในที่สุดเธอก็อยู่ไฟครบหนึ่งเดือนพอดี
หลินจยาอวี่แช่อยู่ในห้องน้ำนานกว่าสองชั่วโมงแล้ว และทำการอาบน้ำให้สะอาดสะอ้านตั้งแต่หัวจรดเท้า
เธอมีกลิ่นหายหอมออกมาจากห้องน้ำ ยังไม่ทันได้สูดหายใจให้สบายๆ ก็ถูกเขากอดเอาไว้เสียแล้ว
เธอตกใจเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้หลีกเลี่ยง เธอกำลังอ้าปากจะพูดบางอย่างเพื่อคลายบรรยากาศอันน่าตื่นเต้น
เธอมักจะรู้สึกแปลกๆ ราวกับว่ามันไม่มีอยู่จริง การที่จิตใจไม่อยู่กับร่องกับรอยทำให้อยู่เหนือการควบคุม
แต่ว่าเธอเหนื่อยมากแล้ว
เธอไม่อยากคิดอะไรมากแล้วเธอก็ไม่มีแรงแล้ว เพียงแค่อยากนอนเท่านั้น
ตอนที่ 768 ช็อก! เขาคือพ่อแท้ๆ ของลูก (8)
ถึงแม้ว่าช่วงที่อยู่เดือนอาบน้ำไม่ได้จะเป็นเรื่องที่ยากลำบาก แต่กลับเป็นช่วงเวลาที่หลินจยาอวี่มีความสุขมากที่สุดในรอบสองปีมานี้
ความพิถีพิถันของคุณหญิงลู่ ความเอาใจใส่อย่างอ่อนโยนของลู่เสวี่ยเฉิน ความรักและความห่วงใยทำให้เธอรู้สึกว่าตัวเองเป็นลูกรักพระเจ้าราวกับล่องลอยอยู่เหนือเมฆโดยไม่รับรู้สิ่งใด
พรุ่งนี้ก็จะเป็นงานเลี้ยงครบรอบหนึ่งเดือน หลังจากเสร็จงานนี้เธอก็จะเริ่มไปเที่ยวฮันนีมูนกับลู่เสวี่ยเฉิน นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของความสุข
เธอตื่นเต้นมากจริงๆ
หนึ่งเดือนที่ผ่านมาเสี่ยวเล่อเล่อโตขึ้นมาก ผิวขาวเนียนนุ่มฟู ดวงตาก็กลมโตขึ้นมาบ้างแล้ว นัยน์ตาไข่มุกสีดำขลับกลิ้งกลอกไปมาเป็นประกายสดใส
เด็กน้อยติดหลินจยาอวี่ผู้เป็นมารดามากและชอบให้เธออุ้ม กลางคืนก็นอนกับเธอ เหตุผลนี้จึงทำให้ลู่เสวี่ยเฉินงอนสุดๆ
สองวันก่อนเขายังหึงลูกอยู่เลย ขู่ว่าจะไม่จัดงานเลี้ยงครบรอบหนึ่งเดือนให้ลูก คุณหญิงลู่โมโหจนด่าเขาไปชุดใหญ่
พอมีหลานก็ลืมลูกชายไปซะแล้ว คุณหญิงลู่เป็นตามแบบฉบับ เมื่อก่อนลู่เสวี่ยเฉินเป็นสุดที่รัก แต่ตอนนี้ลู่เสวี่ยเฉินกลับอยู่ในอันดับท้ายสุดเลยก็ว่าได้
เธอตั้งใจเตรียมงานเลี้ยงครบรอบหนึ่งเดือนให้เสี่ยวเล่อเล่อมาก
แม้จะจ้างพี่เลี้ยงเด็กแล้ว แต่หากไม่ใช่หลินจยาอวี่อุ้มก็ต้องเป็นคุณหญิงลู่ผู้เป็นย่าที่คอยอุ้มลูก เพราะเธอรักหลานคนนี้ยิ่งกว่าสิ่งใด
ลู่เสวี่ยเฉินออกไปรับหลินกั๋วเฟิงและภรรยาในช่วงบ่าย ส่วนหลินจยาอวี่และคุณหญิงลู่นั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นเพื่อเปลี่ยนผ้าอ้อมให้เสี่ยวเล่อเล่ออีกรอบ
ผ่านมาหนึ่งดึ่งเดือนแล้ว หลินจยาอวี่ก็ยังเปลี่ยนผ้าอ้อมให้ลูกไม่ค่อยเป็นสักเท่าไหร่
คุณหญิงลู่อดทนเป็นอย่างมากเพื่อสอนเธอเองกับมือทีละขั้นตอน “ไม่กังวล ค่อยเป็นค่อยไปนะ เมื่อก่อนตอนแม่คลอดพี่แกก็เป็นแบบนี้แหละ จนสองสามเดือนแล้วก็ยังทำไม่เป็นเลย อาบน้ำให้พี่แกก็ไม่เป็น ตอนนั้นต้องขอบคุณยายของพวกเธอ”
คนที่คุณหญิงลู่พูดถุงคือลู่จิ้งอี ลูกคนแรกของเธอ
เมื่อเอ่ยถึงโจโฉ โจโฉก็มา
ทั้งสองกำลังพูดถึงลู่จิ้งอีพอดี ลู่จิ่งอีก็เปิดประตูเข้ามาซะแล้ว
หลินจยาอวี่ลุกขึ้นอย่างลืมตัว “พี่คะ พี่มา…”
เสียงหยุดกะทันหันก่อนที่เธอจะพูดจบ ลู่จิ้งอีไม่ได้มาคนเดียว แต่เหวินซินเหมยก็มากับเธอด้วย ร่างกายของหลินจยาอวี่แข็งทื่อและใบหน้าของเธอก็ขาวซีดราวกับหิมะในทันที
ไหนลู่เสวี่ยเฉินบอกเธอแล้วไงว่าเหวินซินเหมยจะไม่มาเหยียบบ้านนี้อีก
แล้วเธอมาได้ยังไง
เมื่อเห็นสีหน้าของหลินจยาอวี่เป็นเช่นนี้ เธอก็นึกถึงท่าทีของอวี๋กานกานก่อนหน้า ลู่จิ้งอีก็เชื่อคำพูดของเหวินซินเหมยไปครึ่งหนึ่งแล้ว
ในขณะที่คุณหญิงลู่เห็นเหวินซินเหมยสีหน้าก็เรียบนิ่งทันที
เธออุ้มเสี่ยวเล่อเล่อให้พี่เลี้ยงเพื่ออุ้มไปนอนในห้อง จากนั้นจึงหันมาพูดกับลู่จิ้งอี “จิ้งอี แม่บอกแกแล้วไงว่าต่อไปนี้ไม่ต้องไปเจอเธออีก ทำไมแกถึงพาเธอกลับเข้ามาในบ้านด้วย”
“หนูรู้ค่ะแม่ แต่พอหนูได้ฟังในสิ่งที่เหวินซินเหมยเล่ามาหนูก็นึกสงสัยในใจอยู่บ้าง”
“สงสัยอะไร”
แม่ได้ดูผลตรวจดีเอ็นเอวันนั้นอย่างละเอียดถี่ถ้วนหรือเปล่าคะ”
คุณหญิงลู่พยักหน้า ลู่จิ้งอีถามเธออีก “รวมถึงตอนเก็บตัวอย่างไปตรวจด้วยหรือเปล่าคะ”
ที่เธอถามเหตุผลสำคัญนี้ นั่นเป็นเพราะได้ยินเหวินซินเหมยเล่าว่าตอนเก็บตัวอย่างพวกเธอไม่ได้อยู่ด้วย
คุณหญิงลู่ส่ายหน้า “หรือว่าลู่เสวี่ยเฉินปลอมแปลงผลตรวจ”
“แม่ รู้จักผู้ชายน้อยเกินไปแล้ว หากชอบผู้หญิงสักคนก็จะบ้าถึงขีดสุดไปเลย” ลู่จิ้งอีชี้แนะ สายตาของเธอมองไปที่หลินจยาอวี่ด้วยความคลางแคลงใจ “จยาอวี่ เธออย่าโทษพี่เลยนะ แต่เรื่องที่เกี่ยวข้องกับสายเลือด ฉันว่าพวกเราทำให้มันชัดเจนไปเลยดีกว่า ดังนั้นฉันก็อยากถามเธอจริงๆ อีกครั้งว่าใช่ลูกของลู่เสวี่ยเฉินหรือไม่”