ตอนที่ 797 ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ (17)
“ผลข้างเคียงอะไรเหรอ”
“มันเหมือนปวดศีรษะ เหนื่อยล้า ประจำเดือนมาไม่ปกติ ฯลฯ ในกรณีที่รุนแรง ตับถูกทำลายอาจทำให้เสียชีวิตได้ ดังนั้นอย่ากินยาลดน้ำหนัก หากเธอต้องการลดน้ำหนัก เธอต้องออกกำลังกายและทานอาหารให้น้อยลง อาหารให้น้อยลงไม่ใช่อดอาหารนะแต่เป็นโภชนาการที่สมดุล”
“ฉันรู้แล้ว เธอวางใจเถอะ ฉันจะไม่กินมันอีกแล้ว”
ในขณะที่ทั้งสองกำลังพูดคุยกันเสียงกริ่งประตูก็ดังขึ้น
ตำแหน่งที่อวี๋กานกานนั่งอยู่ใกล้ประตูเล็กน้อย
เธอจึงลุกขึ้นไปเปิดประตู เมื่อเปิดประตูก็เห็นว่าในมือของลู่เสวี่ยเฉินหิ้วเค้กกล่องเบ้อเริ่มเข้ามา “ลู่เสวี่ยเฉิน นี่คุณ…”
ลู่เสวี่ยเฉินเดินเข้ามามองหลินจยาอวี่ “หลังเที่ยงคืนก็จะเป็นวันเกิดของคุณแล้ว ผมก็เลยลงมือทำเค้กเอง”
อยากจะเซอร์ไพรส์เธอ แต่ความสัมพันธ์ของพวกเขาในตอนนี้เกรงว่าจะไม่เซอร์ไพรส์ เขาหวังว่าจะสามารถใช้เวลาร่วมกับเธอในวันเกิดอย่างอบอุ่นเป็นครอบครัวที่มีความสุข
อวี๋กานกานตอบอ๋อสั้นๆ แล้วมองไปที่หลินจยาอวี่ “วันเกิดเธอทำไมถึงไม่บอกฉัน”
หลินจยาอวี่ “…”
เธออายเล็กน้อยเพราะเธอเองจำไม่ได้
อวี๋กานกานหันไมองลู่เสวี่ยเฉินอีกครั้งแล้วพูดว่า “ว้าว ดูไม่ออกเลยน่ะเนี่ยว่าคุณทำเค้กเป็นด้วย”
“ผมทำได้ตั้งหลายอย่าง”
“คราวหน้าทำให้ฉันบ้างสิ”
“ไปให้ฟังจือหันทำให้เถอะ” ลู่เสวี่ยเฉินปฏิเสธ ถือเค้กเข้าไปในห้องครัวแล้วใส่ตู้เย็นเอาไว้รอเที่ยงคืนค่อยเอาออกมาอีกที
อวี๋กานกานชิชะในใจ อยากให้เธอช่วยแต่แค่เค้กก้อนเดียวยังทำให้ไม่ได้ ไอ้ขี้เหนียว
เธอหยิบกระเป๋าของตนเองแล้วยิ้มให้หลินจยาอวี่ “อวยพรวันเกิดเธอล่วงหน้านะ พรุ่งนี้ค่อยกินข้าวด้วยกัน คืนนี้ฉันต้องกลับก่อนล่ะนะ”
ฟังจือหันของเธอกำลังรออยู่ที่บ้าน ไม่อยู่เป็นก้างขวางคอสองคนนี้แล้ว
หลินจยาอวี่อยากให้อวี๋กานกานอยู่ต่อ แต่มันดึกแล้วจึงไปส่งเธออย่างอ้อยอิ่ง เมื่อหันกลับมาก็เจอสายตาลู่เสวี่ยเฉินที่มองมาพอดี
ลู่เสวี่ยเฉินยกยิ้มอ่อนโยน ถามเสียงแผ่ว “เสี่ยวเล่อเล่อล่ะ กำลังหลับอยู่เหรอครับ”
หลินจยาอวี่ไม่ตอบลู่เสวี่ยเฉินแล้วหันไปด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง เธออยากกลับห้องนอนล็อกประตูไม่สนใจลู่เสวี่ยเฉินอีกต่อไป
ลู่เสวี่ยเฉินรีบก้าวเข้าไปราวกับเสือดาวสง่างามยืนขวางหน้าเธอเอาไว้
บรรยากาศช่างกดดันเหลือเกิน หลินจยาอวี่ถอยหลังไปโดยไม่รู้ตัว แต่เธอถอยหนึ่งก้าวเขากลับประชิดเข้ามาอีกหนึ่งก้าวจนกระทั่งถึงตู้ข้างหลังเธอ
เมื่อไม่มีทางถอยหนี หลินจยาอวี่จึงช้อนสายตาขึ้นมาจ้องเขา “คุณจะทำอะไร”
ลู่เสวี่ยเฉินยกมือขึ้นดันตู้ขังเธอไว้ข้างใน “ไม่ทำอะไร ผมแค่โดนคุณทรมานจนนอนไม่หลับในตอนกลางคืน ผมอยากจะมองคุณให้ชัดๆ”
หลินจยาอวี่หมดคำจะพูด “ลู่เสวี่ยเฉิน คุณทำแบบนี้สนุกมากนักเหรอ”
ลู่เสวี่ยเฉินแววตาเป็นประกายขี้เล่นเจือความรักใคร่ “ผมรู้สึกสนุกมาก”
“คุณ…” หลินจยาอวี่ไม่รู้จะตอบอย่างไรแล้วจึงเบนหน้าหนี “ไสหัวไป!”
“ผมไม่ไป คุณสอนผมหน่อยสิ” ลู่เสวี่ยเฉินกระตุกคิ้วเล็กน้อย “แต่ว่าตรงพื้นนี้สกปรกไปหน่อน ไปสอนบนเตียงจะดีกว่า”
อีตาบ้า! หลินจยาอวี่จ้องเขาด้วยใบหน้าแดงก่ำ อยากจะด่าเขาแต่เสียงร้องไห้ของเสี่ยวเล่อเล่อที่อยู่ในห้องก็ดังขึ้นมาเสียก่อน
เธอผลักลู่เสวี่ยเฉินออก “ลูกตื่นแล้ว คุณหลีกไปเดี๋ยวนี้”
“ผมไปกล่อมลูกเอง เมียเหนื่อยมาทั้งวันไปพักผ่อนเถอะครับ” ลู่เสวี่ยเฉินยิ้มอย่างห่วงใยแล้วรีบหันกายเข้าห้องนอนทันที
หลินจยาอวี่มองหลังของเขา อ้าปากอยากพูดแต่ไม่รู้จะพูดอะไร….
ตอนที่ 798 ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ (18)
ก่อนที่อวี๋กานกานจะผลักประตูให้เปิดออกก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเวลา ยังเหลืออีก 10 นาทีถึงจะสองทุ่ม เธอเหมือนนักเรียนที่กลับบ้านตรงเวลาเสียจริง
ในบ้านมืดสนิท
พอเปิดไฟ ในบ้านว่างเปล่าไม่มีใคร อวี๋กานกานเรียกฟังจือหันหลายครั้ง แต่ว่าไม่มีใครตอบรับ เดินวนอยู่ภายในบ้านหนึ่งรอบก็ไม่เจอใคร
เห็นเพียงกระดาษที่วางทิ้งไว้บนโต๊ะแคบ บอกว่าเขามีเรื่องด่วนต้องไปบริษัท
เอาแต่ใจให้เธอกลับบ้านสองทุ่ม แต่ว่าตัวเขาเองกลับออกไปข้างนอกแล้ว
และไปครั้งนี้ก็นานมาก จนกระทั่งสี่ทุ่มในตอนกลางคืนก็ยังไม่กลับมาเลย อวี๋กานกานโทรหาฟังจือหัน
“คืนนี้คุณยังจะกลับมาไหม” อวี๋กานกานมีน้ำเสียงแกล้งโมโหอยู่หน่อยๆ เพราะหวังให้ฟังจือหันรีบกลับบ้านมาง้อเธอ
เทียบกับเมื่อก่อนฟังจือหันจะต้องบอกว่าจะรีบกลับแน่ แต่ว่าวันนี้เขากลับตอบว่า “ที่บริษัทเกิดเรื่องนิดหน่อย ยังจัดการไม่เสร็จเรียบร้อย คืนนี้อาจจะไม่กลับแล้ว”
อวี๋กานกานนั่งยืดตัวตรง ถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง “เป็นอะไรไป เกิดเรื่องอะไรขึ้นที่บริษัทเหรอ”
“ผมจะจัดการให้เรียบร้อย คุณรีบพักผ่อนเถอะ”
“ก็ได้ คุณก็อย่าอยู่ดึกเกินไปล่ะ มีอะไรพรุ่งนี้ค่อยจัดการ”
“อืม ฝันดี”
หลังจากคุยโทรศัพท์กับฟังจือหันเสร็จ อวี๋กานกานคิดเอาไว้ว่าจะนอน แต่นอนพลิกตัวไปมาบนเตียงอยู่นาน ไม่เพียงแค่นอนไม่หลับกลับยังหิวขึ้นเรื่อยๆ ด้วย
พอเห็นอวี๋กานกานลงมาข้างล่าง ยาจุดกันยุงก็ตามหลังเธอมา จังหวะก้าวเท้านวดนาดพร้อมกับส่งเสียงร้องเหมียว
อวี๋กานกานอุ้มมันไว้ในอ้อมแขน “แกก็หิวเหมือนกันใช่ไหมล่ะ”
ยาจุดกันยุงส่งเสียง “เหมียว” อีกครั้ง
หลังจากอวี๋กานกานให้อาหารแมวกับยาจุดกันยุงเรียบร้อยก็ไปที่ห้องครัว กับข้าวที่เหลือตอนมื้อกลางวันอยู่ในตู้เย็น เธอลังเลครู่หนึ่งแล้วหยิบแอปเปิลออกมาหนึ่งลูก จากนั้นก็ปิดตู้เย็น
หมุนแอปเปิลในมือแล้วเธอก็เปิดตู้เย็นอีกครั้ง วางแอปเปิลใส่กลับเข้าไป จากนั้นก็ยกข้าวที่เหลือออกมา ทำเป็นข้าวผัดไข่หนึ่งจานแล้วขับรถมุ่งหน้าไปที่บริษัทยาไป๋ฟัง
ด้านนอกฝนตก ถนนอันมืดมิดภายใต้แสงไฟราวกับถูกครอบไว้ด้วยผ้าอีกชั้น ที่ปัดน้ำฟันบนกระจกรถขยับไปมาถึงเห็นทางข้างหน้าได้ชัดเจน
อวี๋กานกานจดรถที่บริษัทยาไป๋ฟัง ถือกล่องเก็บความร้อนเดินเข้าห้องโถง
ในโถงมีพนักงานทำความสะอาดดูมีอายุประมาณ 60 ปี รูปร่างสูงผอมขณะที่ใช้ไม้ถูกพื้นถูไปอย่างยากลำบาก ขาข้างหนึ่งกะเผลก ทุกครั้งดูออกแรงไปเยอะมาก
เห็นอวี๋กานกานเข้ามาทำให้พนักงานทำความสะอาดที่ขวางอยู่กลางทางค่อยๆ ผละตัวไปทางด้านข้าง
จังหวะก้าวขาไม่มั่นคงจึงล้มลงไปกับพื้นในกะทันหัน
อวี๋กานกานตกใจ ก้าวไปข้างหน้าด้วยสัญชาตญาณพร้อมกับเอื้อมมือไปประคองชายแก่เอาไว้ พอนั่งลงบนโซฟาตรงล็อบบี้ก็ถามพร้อมกับสังเกตเขาไปด้วย “คุณเป็นยังไงบ้างคะ”
ชายแก่มีใบหน้าที่เต็มไปด้วยริ้วรอยผ่านวันเวลามานาน ดูมีอายุสุภาพ มีดวงตาใจดี ส่งยิ้มให้อวี๋กานกาน “ไม่เป็นไรๆ โรคเก่าโรคแก่แล้ว”
อวี๋กานกานถาม “โรคไขข้ออักเสบ?”
“ใช่แล้ว โรคไขข้ออักเสบที่เป็นมานานแล้ว พอถึงวันฝนตกก็จะปวดจนแทบไม่ไหว ไปทำงานไม่ได้เลย ทำได้แค่ลาหยุด เดิมทีวันนี้ก็ยังดีๆ อยู่ ใครจะรู้ว่าตอนกลางคืนจู่ๆ ก็ฝนตกได้”
“คุณควรไปหาหมอนะคะ”
“ไปมาแล้ว ยาจีนยาปัจจุบันกินมาเยอะมากก็ไม่ได้ผลอะไร”
อวี๋กานกานลังเลครู่เดียว “ฉันชื่ออวี๋กานกานค่ะ เป็นหมอ คุณลองดูว่าคุณได้หยุดพักวันไหน ไปหาฉันได้ที่สำนักแพทย์หลวง แม้ว่าจะไม่สามารถรับประกันได้ว่าจะรักษาโรคไขข้อของคุณให้หายได้แต่ว่าจะทำให้การเจ็บป่วยของคุณทุเลาลงแน่ค่ะ”