ตอนที่ 803 ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ (23)
“ตอนนั้นหมอเฉียนคุกเข่าลงกับพื้น ขอร้องฉันกับพ่อแกให้โอกาสเขาอีกหนึ่งครั้ง บอกว่าเขาจำเป็นถึงได้ทำเรื่องเสี่ยงลงไป แต่ว่าสุดท้ายพวกเราก็ไม่ได้เห็นด้วย เขาโดนตัดสินจำคุกสามปี”
“หลังจากนั้นล่ะครับ”
“เขาอยู่ในคุกประพฤติตัวดี ได้ลดโทษครึ่งปี ถูกปล่อยตัวออกมาก่อน แต่ว่าสองปีที่ผ่านมานี้แม่ของเขากับลูกต่างก็เสียชีวิตไป ภรรยาก็หย่ากับเขาแล้ว เขากลับไปบ้านเกิดของตัวเอง และก็ไม่ได้ข่าวใดๆ อีกเลย แต่ว่าก่อนที่เขาจะกลับไปฉันกับพ่อแกบังเอิญเจอกับเขารอบหนึ่งที่โรงแรม เขาเกลียดฉันกับพ่อแกเข้าไส้…”
เจียงซื่อเซิ่งไม่มีทางลืมเรื่องวันนั้น หมอเฉียนในวันนั้นคลุ้มคลั่ง ตะโกนด่าหยาบคาย บอกว่าพวกเขาทำให้ครอบครัวเขาแตกแยก และยังบอกว่าเลือดต้องชดใช้ด้วยเลือด
หลังจากนั้นเขาถึงได้รู้เรื่องที่เกิดขึ้นกับหมอเฉียน
แต่ว่านี่จะมาโทษพวกเขาได้อย่างไรกัน มีเหตุย่อมมีผล จะโทษก็โทษได้แต่ที่ตนเองเดินทางผิดเท่านั้น ทำเรื่องผิดพลาดเหมือนกับเขาในตอนนี้ ทุกอย่างล้วนสมควรแล้ว
ระหว่างทางตอนที่ฟังจือหันกลับไปก็เอาแต่เงียบและทำความเข้าใจกับข้อมูลเหล่านี้ คาดเดาว่าพวกมันจะมีความเป็นไปได้หรือไม่ที่จะเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงนี้
อวี๋กานกานยืนนั่งไม่เป็นสุขอยู่ในบ้านเพราะกังวลและเป็นห่วงฟังจือหัน
พอฟังจือหันกลับมา เธอก็เดินเข้าไปถามเข้าในทันที “เป็นยังไงบ้าง ลุงรองของคุณบอกว่ายังไงบ้าง”
“เขายืนยันได้ว่าไม่เกี่ยวข้องกับเขา” ฟังจือหันนั่งลงบนโซฟา เมื่อคืนเขานอนไปแค่สองถึงสามชั่วโมงจึงนวดระหว่างคิ้วด้วยท่าทางเหนื่อยล้า “คุณกินข้าวรึยัง”
“กำลังรอคุณอยู่” อวี๋กานกานเดินไปที่ด้านหลังของเขาแล้วก้มลงกับโซฟา นิ้วช่วยนวดเบาๆ ตรงที่ขมับของเขา “อีกเดี๋ยวคุณยังต้องกลับไปที่บริษัทไหม”
“ไม่ต้องแล้ว อีกเดี๋ยวจะไปเปิดประชุมวิดีโอที่ห้องอ่านหนังสือ”
การประชุมวิดีโอนี้ไม่ใช่ของบริษัทยาไป๋ฟัง ฟังจือหันเองก็มีบริษัทกับธุรกิจเป็นของตัวเอง อวี๋กานกานพูดอย่างสงสาร “มอบหมายเรื่องให้คนอื่นไม่ได้เหรอ ทำไมรู้สึกว่าเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ก็ให้คุณรับผิดชอบไปหมด”
ฟังจือหันหัวเราะออกมาเบาๆ แล้วจูงมืออวี๋กานกานไปกินข้าว
อาหารจัดวางเต็มโต๊ะ อวี๋กานกานกลับไม่มีความรู้สึกอยากอาหาร เธอขบตะเกียบพร้อมกับถาม “หรือวันนี้ก็ไม่ได้อะไรมาสักนิดเลยเหรอ”
“ก็ไม่ใช่หรอก รู้ว่าพ่อผมเคยมีศัตรูคนหนึ่ง และรู้ว่าฝั่งที่ปล่อยความลับอาจจะไม่ใช่ลุงรอง”
“ไม่ใช่ทางฝั่งลุงรองของคุณ หรือว่าจะเป็นทางฝั่งพวกเรา” อวี๋กานกานเดา “ฉันไม่ได้ทำแน่ ตอนนั้นเพื่อรับมือกับลุงรองของคุณ เคยเอาฉบับล่าสุดให้อาจารย์เหม่ยเหรินอ่าน แต่ว่าคุณได้โปรดเชื่อฉันเถอะ อาจารย์เหม่ยเหรินเป็นหมอ เขามีจรรยาบรรณแพทย์เต็มเปี่ยม ไม่ทำเรื่องแบบนี้เด็ดขาด!”
ในสามคนนี้คนแรกที่ฟังจือหันเชื่อโดยไม่มีเงื่อนไขคืออวี๋กานกาน คนต่อมาคือหลินเซิน สุดท้ายถึงจะเป็นเหอสือกุย แต่ว่าอวี๋กานกานกลับเชื่อใจเหอสือกุยโดยไม่มีเงื่อนไขใด
อวี๋กานกานก็รู้ว่าฟังจือหันรู้ว่าใครเป็นคนสุดท้ายฝั่งเขาที่รู้ตำรับยา
ถ้าไม่ใช่เธอกับอาจารย์เหม่ยเหริน อย่างนั้นก็คือ…เธอมองฟังจือหันด้วยความตกใจ “หลินเซิน? ไม่น่าจะเป็นเขาได้นะ”
เธอรู้ว่าหลินเซินทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยของฟังจือหันมาสามสี่ปีแล้ว มีความซื่อสัตย์และจงรักภักดีมาโดยตลอด
ฟังจือหันยังคงใจเย็นพร้อมกับคีบปลาให้อวี๋กานกานชิ้นหนึ่ง “กังวลกับเดาไปก็ไม่มีประโยชน์ ผมจะสืบให้แน่ชัด ช่วงเวลานี้คุณออกไปข้างนอกก็อย่าไปคนเดียวเลย”
อวี๋กานกานคว่ำปาก บ่นอุบอิบ “ช่วงก่อนหน้าฉันก็ไม่ได้ไปคนเดียวนี่ คุณให้พี่บอดี้การ์ดสาวตามฉันอยู่ตลอด”
ตอนที่ 804 ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ (24)
ฟังจือหันให้คนไปสืบเรื่องหมอเฉียน
17 ปีก่อนตำรวจไขคดีวัคซีนปลอมที่ใช้น้ำเกลือล้างแผลมาปลอมแปลงเป็นวัคซีน มูลค่าโดยรวมที่เกี่ยวข้องกับคดีสูงถึงยี่สิบล้านหยวน
ยี่สิบล้านหยวนของสิบเจ็ดปีก่อนเท่ากับสองร้อยล้านในตอนนี้ เพียงแต่หมอเฉียนไม่ใช่คนต้นคิดก็เท่านั้น ดังนั้นจึงถูกตัดสินโทษไม่หนัก เพียงแค่สามปี
หลังจากสามปีเขาออกจากคุก ทำงานอยู่เมืองหลวงครึ่งปี หลังจากนั้นก็หายสาบสูญไปเลย ต่างก็บอกว่าเขากลับบ้านเกิดแล้ว แต่ว่าก็สืบข่าวคราวที่เกี่ยวข้องกับเขาในบ้านเกิดไม่ได้เลยสักนิด
คนคนนี้เหมือนกับว่าหายไปจากโลก ระเหยไปแล้วอย่างนั้น
คนคนหนึ่งถ้าเคยใช้ชีวิตอยู่ในที่แห่งนี้ไม่มีทางที่จะสืบไม่ได้เรื่องอะไรเลย นอกจากว่าเขา…จะเสียชีวิตไปแล้ว หรือว่าเขาไม่เคยใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นตั้งแต่แรก
“บางทีสูตรยาหลุดออกไปยังมีการเสียชีวิตของเจียงป๋อซื่ออาจจะไม่ได้มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับหมอเฉียนคนนี้เลยล่ะ” มือทั้งสองข้างของอวี๋กานกานประคองหน้าพลางพูดอย่างกลุ้มใจ
ฟังจือหันลูบหัวเธอไปครู่หนึ่ง “มีวิธีหนึ่งที่จะทำให้ความจริงกระจ่าง แต่ว่าต้องการความช่วยเหลือจากคุณ”
อวี๋กานกานรีบถาม “วิธีไหน”
ฟังจือหันตอบ “จัดงานแต่งงาน”
อวี๋กานกานมองเขาอย่างอึ้งๆ ทำความเข้าใจตั้งนานก็ไม่เข้าใจเลยว่าจัดงานแต่งงานกับทำให้ความจริงกระจ่างเกี่ยวข้องอะไรกัน
“คุณไม่อยากช่วย”
“เปล่า ช่วย! งานแต่ง จัด!” อวี๋กานกานมีท่าทางหนักแน่นแล้วรับปากอย่างรวดเร็ว
หลังจากนั้นครู่ใหญ่เธอถึงได้รู้ว่าจัดงานแต่งงานกับไขความจริงให้กระจ่างนั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กันเลย ฟังจือหันแค่รู้สึกว่าถึงเวลาแล้ว ควรจะให้ทุกคนรู้ว่าเธอคือคุณนายฟัง
พอรู้ว่าพวกเขาจะจัดงานแต่ง ตระกูลฟังกับตระกูลเจียงยินดีกันหมด ชายแก่ไม่เพียงหาวันมงคลที่ใกล้ที่สุดด้วยความเร็วที่สุดยังหาทีมวางแผนจัดงานแต่งงานที่ดีที่สุดในเมืองหลวงด้วย
แต่ว่าตระกูลกู้ ตอนที่กู้เชินรู้ว่าอวี๋กานกานกับฟังจือหันเตรียมจะแต่งงานกันและจะจัดงานแต่งในเดือนหน้า
เขาก็ทำหน้าเคร่งขรึมทันที
“พวกเธอสองคนเพิ่งคบกันนานแค่ไหน หรือว่าจะไม่คิดดูให้ดีอีกสักหน่อยเหรอ”
“คบกันมานานมากแล้ว ไม่ต้องครุ่นคิดอีกแล้วค่ะ” เรื่องที่เซ็นใบทะเบียนสมรสตั้งนานนั้นเธอไม่ได้คิดจะบอกอาจารย์เหม่ยเหรินกับกู้เชิน ไม่อย่างนั้นจะต้องเผชิญหน้ากับคำถามจริงจังแน่
“เสี่ยวอวี๋ อย่าโทษว่าพ่อพูดจาไม่น่าฟังเลย พอลูกสาวมีความรักเรื่องที่คิดก็ไม่ต้องมีเหตุผล แต่ว่าเรื่องการแต่งงานไม่อาจใช้ความรู้สึกทั้งหมดได้ ความหมายของพ่อคืออีกสองปีค่อยคุยเรื่องการแต่งงานและถือว่าช่วงเวลานี้ให้พ่อได้ตรวจดูแทนลูกให้ดีก่อน” เพิ่งจะหาลูกสาวเจอก็จะรีบแต่งออกไปแล้ว จะทำใจได้อย่างไรกัน
“ตอนแม่แต่งกับพ่อ คุณตากับคุณยายก็พูดแบบนี้ใช่ไหมคะ งั้นพ่อกับแม่เห็นด้วยไหม”
กู้เชิน “…”
พูดเช่นนี้จริง แต่ว่าเขากับเสี่ยวเหยียนย่อมไม่เห็นด้วยเป็นธรรมดา
ช่างเถอะ ลูกโตแล้ว มีความคิดเป็นของตัวเอง ขอแค่เธอชอบก็พอแล้ว
แต่ว่าในใจยังคงรู้สึกไม่ค่อยดี ความไม่พอใจที่มีต่อฟังจือหันเพิ่มขึ้น เรื่องที่จะแต่งงานทำไมให้เสี่ยวอวี๋มาบอกคนเดียว เขาหนีไปไหนแล้ว ไม่มีความรับผิดชอบเลย
พออวี๋กานกานกลับไป กู้เชินก็โทรศัพท์ไป ตำหนิฟังจือหันอย่างแรงรอบหนึ่ง ทิ้งประโยคสุดท้ายเอาไว้ว่าถ้าแกกล้าทำไม่ดีกับเสี่ยวอวี๋ ฉันจะให้พวกแกหย่ากันทันที
ฟังจือกันตอบรับอยู่แล้ว ไม่งั้นเป็นไปได้อย่างยิ่งที่ภรรยาที่มาถึงปากจะบินหนีไปในทันทีเลย
หลังจากอวี๋กานกานก็ยิ้มแล้วถามฟังจือหัน “ถ้าพ่อฉันหรือว่าอาจารย์เหม่ยเหรินของฉันทำยังไงก็ไม่ยอมให้พวกเราแต่งงานกัน คุณจะทำยังไง”
ฟังจือหันตอบออกมาอย่างรวดเร็วแทบไม่ต้องคิดเลย “พาหนีตามกันไป”