ตอนที่ 805 ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ (25)
“หนีตามกันไปที่ไหน” เขาก็คิดออกมาได้เสียจริง นี่มันสมัยไหนแล้วยังมีบอกว่าหนีตามกันอีก
“คุณอยากไปประเทศไหน พวกเราก็ไปประเทศนั้น หรือว่าไปเกาะส่วนตัวของผม ไม่มีใครตามหาเราเจอแน่นอน หลังจากที่มีลูกแล้วเราค่อยพาพวกเขากลับมาเยี่ยมญาติ ตอนนั้น…”
“ตอนนั้นพวกเขาอยากจะไม่ยอมก็ไม่สำเร็จแล้วใช่ไหมล่ะ” มุมปากของอวี๋กานกานเผลอยกขึ้น “คุณนี่ฝันหวานเสียจริง”
หลังจากกำหนดวันแต่งงานแล้วอวี๋กานกานก็บอกคนใกล้ตัว ตอนที่เธอบอกหลินจยาอวี่ หลินจยาอวี่อึ้งไปครู่หนึ่ง เธอจะแต่งงานแบบนี้เลย? แน่ใจเหรอว่าไม่ต้องให้เขาขอแต่งงาน?
ขอแต่งงาน อวี๋กานกานไม่ได้นึกถึงขั้นตอนนี้เลยเสียจริงๆ
ที่จริงเธอกับฟังจือหันได้รับทะเบียนสมรสมาแล้ว ขอแต่งงานหรือไม่ก็ไม่สำคัญแล้วจริงๆ ความจริงงานแต่งงานเธอก็ไม่ค่อยอยากจะจัดมาก แต่ว่าในชีวิตคนเราก็มักจะต้องผ่านขั้นตอนนี้ไป ถ้าไม่จัดก็เหมือนว่าจะเป็นไปไม่ค่อยได้
ตอนอวี๋กานกานนัดซ่งฉาไป๋ออกมากินข้าว เชิญให้เธอมาเป็นเพื่อนเจ้าสาวของตนเอง
ซ่งฉาไป๋ขับริมฝีปากแล้วพูดเสียงอ่อน “ธรรมเนียมของเมืองไป๋หยางเรา คนที่เพิ่งแต่งงานแล้วเป็นเพื่อนเจ้าสาวไม่ได้”
“ฉันรู้นี่ ดังนั้นฉันเลยไม่ได้ไปหาจยาอวี่ เธอ…” อวี๋กานกานตกใจ เบิกตากว้างในชั่วพริบตาคล้ายกับได้ยินเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ “เธอพูดอย่างนี้หมายความว่าอะไร”
“ฉัน แต่ง งาน แล้ว” ซ่งฉาไป๋พูดพร้อมกับรอยยิ้มทีละคำ “ก็ไม่กี่วันก่อนด้วย ไปขอใบทะเบียนสมรสที่สำนักงานกิจการพลเรือนแล้ว”
อวี๋กานกานตกตะลึงไปหมดแล้ว “เธอพูดจริงเหรอ หรือว่ากำลังล้อฉันเล่นอยู่”
ซ่งฉาไป๋กัดหลอด “เรื่องแต่งงานฉันจะล้อเล่นได้ยังไงกัน”
“งั้น…เธอแต่งงานกับใคร นี่เธออย่าบอกฉันนะว่าเป็นเจี่ยนเหยี่ยน่ะ?”
“แฮ่ๆ” ซ่งฉาไป๋หัวเราะคิกคักไม่กี่ที “ถ้าไม่ใช่เทพบุตรของฉัน ฉันจะแต่งงานแบบสายฟ้าแลบได้ยังไงกันล่ะ”
อวี๋กานกานกลืนน้ำลายด้วยความประหลาดใจ “ซ่งฉาไป๋เธอนี่มันคิดน้อยเกินไปแล้วนะ ฉันรู้ว่าเธอชอบพ่อหนุ่มนายทหารรูปหล่อ แต่ว่าเธอจะไปคว้าเอาหนุ่มนายทหารหน้าตาไม่เลวคนหนึ่งแล้วแต่งงานกับเขาทันทีเลยไม่ได้ เธอยังไม่รู้เลยว่าเขาเป็นคนแบบไหน ถ้าเขาเป็นผู้ชายที่นิสัยไม่ดี ถ้าเขาเป็นพวกชอบใช้กำลังหรือถ้าเขา…ถึงอย่างนั้นก็เถอะ แต่งงานสายฟ้าแลบมันไม่ถูก”
“เธอกับฟังจือหันก็ไม่ใช่ว่าแต่งงานสายฟ้าแลบเหรอ”
“ตอนนั้นฉันโดนให้แต่งสายฟ้าแลบและตอนกินข้าวครั้งก่อนฉันก็เล่าให้เธอฟังแล้ว ฉันกับเขาจริงจังกันตั้งแต่เด็ก พวกเราเป็นคู่รักที่รู้จักกันตั้งแต่ยังเล็ก”
“งั้นฉันกับเจี่ยนเหยี่ยก็รู้จักกันมาครึ่งปีแล้ว ครึ่งปีนี้พวกเราพูดคุยกันทุกวัน ฉันว่าฉันรู้จักเขาดีทีเดียว”
นับตั้งแต่เพิ่มวีแชทของเจี่ยนเหยี่ย ซ่งฉาไป๋ก็จะไปคุยกับเจี่ยนเหยี่ยทุกวันหลายๆ ประโยค ต่อมาเจี่ยนเหยี่ยก็เป็นฝ่ายเริ่มส่งข้อความให้เธอ
มีครั้งหนึ่งที่โรงพยาบาลงานยุ่งมากเป็นพิเศษ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องเป็นฝ่ายเริ่มคุยกับเจี่ยนเหยี่ย เธอยุ่งเสียจนไม่มีเวลามาจับโทรศัพท์เลยสักนิด
ทุกวันเวลากลับไปถึงหอพักก็จะล้มตัวลงบนที่นอนแล้วนอนหลับไป วันถัดมาก็โดนปลุกด้วยเสียงโทรศัพท์จากที่ทำงานให้ตื่นในทันที เป็นแบบนี้ติดต่อกันหลายวัน หลังจากอ่านข้อความของเจี่ยนเหยี่ยแล้วก็เริ่มไม่มีเวลาตอบ สุดท้ายก็ยุ่งเสียจนลืมตอบกลับ
มีวันหนึ่งเธอเห็นผู้ชายหล่อเท่ใส่ชุดทหารที่โรงพยาบาล
ดูเหมือนอยากจะปิดบังรังสีอำมหิตกับความโหดเหี้ยมจากชุดทหารจึงมีแว่นกรอบดำอยู่บนสันจมูก ดูแล้วค่อนข้างให้ความรู้สึกสง่างาม
ซ่งฉาไป๋ทั้งดีใจทั้งแปลกใจ ทั้งเขินทั้งอาย มือเท้าไม่รู้จะวางตรงไหน
เธอนึกมาตลอดว่าเจี่ยนเหยี่ยไม่รู้ว่าคนที่คุยอยู่กับเขาเป็นใคร แต่เจี่ยนเหยี่ยกลับเดินเข้ามาตรงหน้าเธออย่างรวดเร็วแล้วถามว่าทำไมเธอถึงไม่ตอบข้อความ
ตอนที่ 806 ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ (26)
ซ่งฉาไป๋ตกตะลึง!
ที่แท้เขารู้มาตลอดว่าเธอเป็นใคร ไม่อย่างนั้นคงไม่สนใจเธอตั้งแต่แรก เธอสับสน พูดจาตะกุกตะกักอยู่นานถึงค่อยบอกว่าเพราะช่วงนี้ยุ่งมากเลย ไม่มีเวลาตอบข้อความ
และเธอแค่ยืนอยู่ครู่เดียวก็โดนแพทย์ประจำเวรเรียกไปแล้ว เธอพูดติดอ่าง ชี้ไปที่เวลางาน น่าจะต้องไปทำงานแล้ว แต่ก็ไม่อยากแยกกับเจี่ยนเหยี่ย
เจี่ยนเหยี่ยเห็นว่าเธองานยุ่งจริงๆ ก็ลูบจมูกดูเหมือนจะค่อนข้างประหม่า เขาไม่ได้พูดอะไรอีก สื่อว่าให้ไปทำงานก่อน
ในด้านความรู้สึก ถ้าชอบเข้าแล้วซ่งฉาไป๋จะเด็ดเดี่ยวและรวดเร็วมากเป็นพิเศษ ในตอนนี้เจี่ยนเหยี่ยมาหาถึงที่แล้ว เธอจะไม่ทำอะไรเลยได้อย่างไรกัน
หลังจากที่ซ่งฉาไปเลิกงานก็โทรศัพท์หาเจี่ยนเหยี่ย มองชุดที่ตนเองใส่สักหน่อย ถอดเสื้อกาวน์สีขาวออก เสื้อสีขาวกับกระโปรงบานสีดำ ดูแล้วสวยอ่อนวัย และวันนี้เธอสวมคอนแทคเลนส์ ไม่ต้องดีมากเกินเลยจริงๆ…แต่ว่าเกิดอะไรขึ้นกับหน้ากัน ทำไมถึงได้ซีดขนาดนั้น
เมื่อกี้เจี่ยนเหยี่ยเห็นแล้วจะรู้สึกผิดหวังมาก คิดว่าเธอน่าเกลียดมากรึเปล่า
ซ่งฉาไป๋แต่งหน้าบางๆ ค่อยออกไปพบเจี่ยนเหยี่ย
ตอนที่เจี่ยนเหยี่ยยืนอยู่ตรงหน้า หัวใจเต้นเร็วมาก ตอนที่เขาส่งยิ้มให้เธอ หัวใจเหมือนจะเด้งออกมาจากลำคอในชั่วขณะอย่างนั้น
ทั้งสองคนหาที่กินข้าว เรื่องที่พูดคุยกันล้วนไม่ได้เกี่ยวกับงานของเธอเลย เกี่ยวกับงานของเขา
หลังจากกินข้าวเสร็จเจี่ยนเหยี่ยก็ไปส่งเธอกลับบ้าน ในซอยเล็กที่เงียบสกัดตอนกลางคืน ซ่งฉาไป๋มองเงาของเธอกับเจี่ยนเหยี่ยข้างหน้า มือของเธอยกขึ้นมาเล็กน้อย เงาก็เป็นคู่รักที่กำลังเดินจูงมือกันคู่หนึ่ง
ในตอนที่คิดเช่นนี้มือของเธอก็ยกขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว
“เหนื่อยไหม” จู่ๆ เจี่ยนเหยี่ยก็พูดขึ้นมา
ซ่งฉาไป๋ตกใจหมด รีบชักมือกลับแล้วยิ้มพร้อมกับส่ายหน้า “ไม่เหนื่อย ไม่เหนื่อยเลยสักนิด”
ในวันปกติรู้สึกว่าระยะทางจากโรงพยาบาลไกลจากหอพักมากเลย วันนี้เธอรู้สึกว่าทำไมถึงได้ใกล้ขนาดนี้กัน จะพาเจี่ยนเหยี่ยอ้อมไปทางไกลได้หรือไม่นะ?
เป็นเพราะระยะทางใกล้มากเกินไปเลยจริงๆ เธอยังไม่ทันได้ตัดสินใจจะเดินอ้อมดีหรือไม่ก็มาถึงชั้นล่างหอพักแล้ว ซ่งฉาไป๋พูดอย่างเศร้าใจ “ถึงแล้ว”
เจี่ยนเหยี่ยรับคำเสียงเรียบ “ช่วงนี้ที่โรงพยาบาลงานยุ่งมาก รีบพักผ่อนเถอะ”
ซ่งฉาไป๋พูดอุบอิบ “ตอนนี้ไม่ได้อยากพักผ่อนมาก…” ไม่ง่ายเลยที่เทพบุตรจะมาหาถึงที่ เธอยังพูดกับเทพบุตรไปไม่กี่ประโยคก็ต้องแยกกันแล้ว เธอไม่ยอมๆ เธอรวบรวมพลังทั้งหมดถ่วงเวลาเอาไว้ “ฉันรู้จักร้านกาแฟดีๆ ร้านหนึ่ง พวกเราไปดื่มอะไรสักหน่อยกันไหม”
เจี่ยนเหยี่ยลังเลครู่หนึ่ง “ครั้งหน้า”
แม้ว่าซ่งฉาไป๋จะค่อนข้างผิดหวังไปบ้าง เป็นเพราะคำว่าครั้งหน้าถึงได้ทำให้เธอรู้สึกมีความสุขทั้งใจพลางพยักหน้าแรงๆ ไม่กี่ทีแล้วกลับหอพักด้วยความอาลัยอาวรณ์
ไม่นานครั้งหน้าก็จะมาถึงแล้ว พอรู้จากในวีแชทว่าสองวันนี้เธอไม่ได้ยุ่งมาก ตอนบ่ายเขาจึงมาปรากฏตัว
ทั้งคู่มาถึงร้านกาแฟดีๆ ร้านนั้นที่เธอบอก หนึ่งคนสั่งกาแฟมาหนึ่งแก้วแต่ไม่มีใครดื่มเลย
“คุณไม่ชอบดื่มกาแฟเหรอ”
“ใช่ ไม่ดื่ม”
ซ่งฉาไป๋หลุดขำ อดหัวเราะออกมานิดหน่อยเสียไม่ได้แล้วพูดด้วยความสัตย์จริง “ที่จริงฉันก็ไม่ค่อยชอบดื่มกาแฟ ถ้ารู้แต่แรกเราก็คงไม่มาแล้ว”
เจี่ยนเหยี่ยพูดอย่างใจเย็น “เดทครั้งหน้าไม่ต้องเลือกร้านกาแฟแล้ว”
เดท? เขาพูดว่าเดท…ซ่งฉาไป๋รู้สึกเหมือนตนเองเป็นดอกไม้ไฟที่ระเบิดแล้ว
หนึ่งชายหนึ่งหญิงที่โสดเดทกันหมายความว่าอะไร แน่นอนว่าเป็นการออกเดท เป็นการคบกัน เธอกับเจี่ยนเหยี่ยถือว่าเป็นคนรักกันเหรอ?