ตอนที่ 825 ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ (45)
จูอวี้ลู่สติแตก สีหน้าพลันซีดเผือด เธอจ้องเฉียนต้าเซิงตาเขม็ง แต่กลับพูดอะไรไม่ออก
เฉียนต้าเซิงชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดต่อ “จำความรักครั้งเก่าได้ คุณจู ผมขอเตือนคุณว่าอย่าทำอะไรเกินตัว”
“ความรักครั้งเก่า ฉันกับคุณมีความรักอะไรกัน” จูอวี้ลู่โกรธจนสั่นเทิ้มไปทั้งร่าง เธอชี้หน้าเฉียนต้าเซิงแล้วตวาดเสียงดังลั่น “คุณยังจะบอกว่าไม่ได้ขู่ฉันอีกเหรอ ถ้านี่ไม่ได้ขู่ฉัน แล้วคุณกำลังทำอะไร ฉันสิถึงต้องเตือนคุณ ว่าอย่าเป็นคนทำอะไรเกินตัว ฉันไม่มีเงินมากมายขนาดนั้น แล้วก็อย่าโลภเอาอะไรที่ไม่ใช่ของของตัวเองด้วย ไม่งั้นคุณเจอดีแน่”
อย่าโลภเอาอะไรที่ไม่ใช่ของตัวเองอย่างนั้นหรือ ดูเหมือนเฉียนต้าเซิงได้ยินเรื่องอะไรตลกๆ จึงหัวเราะลั่น “ตำแหน่งคุณนายกู้ไม่ใช่ของคุณหรอกเหรอ ถ้าตอนนั้นไม่ได้ผมช่วยคุณไว้ คุณสามารถนั่งตำแหน่งคุณนายกู้นี่ได้เหรอ”
เธอมีชนักติดหลังอยู่ในเงื้อมมือเฉียนต้าเซิง จูอวี้ลู่ไม่กล้าฉีกหน้าเฉียนต้าเซิงให้ถึงที่สุด
เธอตีหน้าขมขื่นและโศกเศร้า “ไม่ใช่ว่าฉันไม่อยากให้เงินคุณนะคะ หากก่อนหน้านี้คุณมาหาฉัน เงินแค่ห้าสิบล้านฉันก็สามารถเอามากองให้คุณได้ แต่ตอนนี้กูเชินกำลังจะหย่ากับฉัน สมบัติทุกอย่างของเขายกให้อวี๋กานกานลูกสาวแท้ๆ ที่เขาพึ่งตามหาเจอกลับมาได้ ฉันไม่มีเงินห้าสิบล้านอยู่แล้ว คุณอย่าบังคับฉันเลยนะคะ”
เฉียนต้าเซิงมองเธออย่างเย็นชา “คุณจูช่างเป็นคนเข้มแข็งเหลือเกิน ใครจะบังคับคุณได้ หากประธานกู้ต้องการหย่ากับคุณ ไม่ใช่เพราะลูกสาวแท้ๆ ของเขากลับมาแล้ว หากคุณทำให้ลูกสาวแท้ๆ ของเขาหายตัวไปอีกครั้งเหมือนตอนนั้น คุณคิดว่าเขายังจะอยากหย่ากับคุณอีกไหม ต่อไปคนที่จะดูแลเขาไปจนแก่ตาย ก็มีแค่คุณกับลูกสาว”
จูอวี้ลู่ถามด้วยใจสั่นไหว “คุณหมายความว่าจะให้ฉันลักพาตัวอีกครั้งเหรอ…”
เฉียนต้าเซิงเอ่ยขึ้น “ด้วยค่าไถ่ห้าสิบล้าน นอกจากคุณไม่ต้องหย่าแล้วยังไม่ต้องให้ผมยืมเงินคุณอีกด้วย”
แววตาของจูอวี้ลู่เป็นประกายวูบไหว
ถ้าทำได้ แน่นอนว่าเธออยากทำอีกครั้ง อีกอย่างคราวนี้จะไม่ยอมให้อวี๋กานกานมีชีวิตรอดกลับมาด้วย
แต่เธอยังมีความพะวง
ถ้าหาก…คราวก่อนให้อวี๋กานกานหนีไปได้ หลังจากนั้นสิบกว่าปีเธอกลับมาอีกครั้ง จนทำให้เธอหมดสิ้นทุกสิ่งทุกอย่าง
หากคราวนี้ทำอะไรเธอไม่ได้อีก เรื่องราวในตอนนั้นก็อาจถูกชักโยงขึ้นมาได้
พอถึงคราวนั้นไม่เพียงแต่ต้องหย่า แต่ยังเสี่ยงติดคุกติดตะรางอีกด้วย เธอไม่กล้าเสี่ยงจริงๆ ไม่งั้นเธอก็ลงมือตั้งนานแล้วน่ะสิ ถึงยังไงก็ไม่ใช่ว่าไม่เคยมีความคิดเช่นนี้ผ่านเข้ามาในหัว
เฉียนต้าเซิงมองสีหน้าที่เต็มไปด้วยความลังเลของเธอ ก็เอ่ยขึ้นเสียงเบา “ยังมีอะไรที่แย่กว่าตอนนี้อีก เท่าที่ผมรู้ ตอนนี้คุณไม่เพียงแค่ไม่มีสามี แม้กระทั่งลูกก็แทบจะไม่เหลือแล้ว ความพยายามตลอดสิบกว่าปีที่ผ่านก็หมดสิ้นแล้ว กู้กรุ๊ปควรจะเป็นของคุณกับลูก อวี๋กานกานสมควรตายตั้งแต่สิบห้าปีก่อนแล้ว”
จูอวี้ลู่ “…”
“ตอนนั้นน่าจะจัดการเธอได้แล้ว ตอนนี้คุณยังทำได้ ตำแหน่งคุณนายกู้จะเป็นของคุณตลอดไป”
ทุกคำพูดและทุกประโยคของเฉียนต้าเซิงเจาะลึกส่วนที่อ่อนแอที่สุดในหัวใจของเธอ
ความเกลียดชังในอกของจูอวี้ลู่ถึงขีดสุด ในเวลานี้เธอต้องการทำลายอวี๋กานกานเพื่อพลิกสถานการณ์ปัจจุบัน
แต่ก่อนที่เธอยังไม่ได้วางแผนทุกอย่าง ก็เกิดเรื่องสำคัญอีกเรื่องหนึ่ง
…
อวี๋กานกานรู้ว่าฟังจือหันกำลังหัวเสีย
หลังจากรับสายแล้วรู้ว่าเฉียนต้าเซิงหนีไปได้ ฟังจือหันมีสีหน้าเย็นชาตลอด และเงียบนิ่งไม่เอ่ยสิ่งใด
ตอนที่ 826 ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ (46)
ฟังจือหันมีสีหน้าเย็นชาตลอด และเงียบนิ่งไม่เอ่ยสิ่งใด
ตอนแรกอวี๋กานกานยังนึกอยู่ว่าเขากำลังคิดจะจับเฉียนต้าเซิงยังไง
แต่หลังจากนั้นเธอก็พบความผิดปกติ ดูเหมือนฟังจือหันกำลังโกรธเธอ แล้วทำเป็นไม่สนใจ
อวี๋กานกานอาบน้ำออกมาก็เห็นว่าฟังจือหันเอนพิงหัวเตียงอ่านหนังสืออยู่
เมื่อเห็นว่าอวี๋กานกานเดินมาอยู่ข้างๆ เขาลืมตาชำเลืองมองเธอแวบหนึ่งจากนั้นจึงก้มอ่านหนังสือต่อ
อวี๋กานกานปีนขึ้นเตียง ขยับหน้าเข้าไปใกล้ๆ เขา แล้วเอ่ยถาม “คุณ นี่คุณกำลังทำสงครามเย็นกับฉันเหรอคะ”
ฟังจือหันปิดหนังสือในมือแล้ววางบนตู้ข้างหัวเตียง จากนั้นก็ล้มตัวลงนอนไปเสียดื้อๆ
คิดไม่ถึงว่าเขาจะนอนไปเลยแบบนี้…
อวี๋กานกานเบิกตาโต มองเขาอย่างไม่อยากเชื่อ
นี่เป็นครั้งแรกที่ฟังจือหันเสียมารยาทกับเธอแบบนี้ตั้งแต่หลังจากที่พวกเขาคืนดีกัน
เธอขึ้นไปนั่งทับบนเรือนร่างของเขา “นี่คุณงอนอะไร มีอะไรไม่พอใจฉันหรือเปล่า คุณพูดออกมาตรงๆ สิคะ ไม่งั้นต่อไปนี้อย่าหาว่าฉันไม่สนใจคุณนะคะ”
ฟังจือหันยังคงไม่ง้อเธอ และยังคงหลับตาทำท่าไม่สนใจเธออยู่เช่นนั้น
อวี๋กานกานขบกราม เธอเอามือจับคอเสื้อแล้วออกแรงดึงขึ้นมา “ฟังจือหัน คุณอยากหย่ากับฉันใช่ไหม…”
ฟังจือหันค่อยๆ ลืมตาขึ้นมามองเธอด้วยสายตาเย็นเยียบปนดุดันเล็กน้อยราวกับหมาป่าและเสือร้าย รู้สึกเหมือนต้องการเขมือบเธอเข้าไปอย่างไรอย่างนั้น
เธอหรุบตามองตนเอง ก็พบว่าเธอใส่แค่เสื้อสายเดี่ยวตัวเล็กตัวเดียวแถมคอเสื้อยังเลื่อนต่ำ เส้นผมยาวร่วงลงมาปกปิดเล็กน้อย ผิวขาวเนียนดุจหิมะ ไหปลาร้าอันเซ็กซี่ เนินเนื้ออวบอิ่มปรากฏแก่สายตา…ช่างดูดึงดูดเย้ายวนภายใต้แสงไฟ
อวี๋กานกานใช้ปลายนิ้วม้วนเส้นผมอย่างให้ท่า “ฉันถามคุณอยู่นะ รีบตอบสิ”
“คุณเก่งขนาดนี้ สังเกตสีหน้าและคำพูดได้ มองทะลุใจคน มีความมั่นใจเต็มเปี่ยม ยังต้องให้ผมตอบอีกเหรอ”
หลังจากเอ่ยถ้อยคำนี้ ฟังจือหันก็หลับตาอีกครั้ง ตีหน้าเย็นชาและไม่สนใจอวี๋กานกานอีก
อวี๋กานกานกะพริบตาปริบๆ ความไม่พอใจเล็กน้อยพลันหายไป เธอนอนทับบนตัวฟังจือหันก่อนจะยิ้มแล้วเอ่ยถาม “ที่แท้ก็เป็นห่วงฉันนี่เอง คุณถึงได้โกรธมากขนาดนี้ คุณดูสิ ตอนนี้ฉันไม่เป็นไรแล้ว”
ฟังจือหันเมินเธอ แล้วเอื้อมมือดึงให้เธอลงจากตัวแล้วนอนข้างๆ ดีๆ จากนั้นจึงนอนหันหลังให้เธอ ปฏิเสธทุกสัมผัสจากร่างกายของเธอ
อวี๋กานกานทำแก้มพองลม จ้องเขาอย่างแง่งอน แล้วก็นอนหันหลังใส่เขาเช่นกัน
ไม่อยากโกรธ ไม่อยากหมางเมิน จึงพยายามง้อ สักพักเธอก็หันกลับมามองที่ด้านหลังศีรษะของ ฟังจือหัน แต่เธอจ้องเขาจนปวดตาไปหมดแล้ว ฟังจือหันยังคงนิ่งราวกับกำลังหลับใหลอยู่เหมือนเดิม
ผู้ชายเฮงซวย ทำเกินไปแล้ว!
แต่งงานอะไรเล่า! ไม่แต่งแล้ว! พรุ่งนี้จะไปยกเลิกงานแต่งงานซะ!
แต่ว่าเขา…เหตุผลที่เขาโกรธนี้ ก็เพื่อความปลอดภัยของเธอทั้งนั้น ดูเหมือนว่าเขาก็ไม่ทำเกินไป
ลมหายใจอุ่นร้อนแผดเผามาจากข้างหลัง หญิงสาวโอบกอดเขาเอาไว้แน่น แนบใบหน้าชิดแผ่นหลังของเขา ฟังจือหันค่อยๆ ลืมตา ก้มมองมือที่กำลังยุ่มย่ามอยู่บริเวณเอวของตัวเอง
ลูบไล้ยู่นานสองนาน แต่ชายหนุ่มก็ไร้ซึ่งปฏิกิริยาตอบกลับ อวี๋กานกานคิดอย่างสงสัยว่ามันไม่น่าเป็นไปได้ ปกติเพียงแค่เธอขยับนิดๆ หน่อยๆ เขาก็อดใจไม่ไหวแล้ว
มือเล็กๆ ของอวี๋กานกานยังคงเลื้อยต่อไปเรื่อยๆ…ทันใดนั้นเขาก็จับมือเธอเอาไว้ จากนั้นชายหนุ่มก็พลิกตัวขึ้นมาแล้วกดทับเธอไว้ใต้ร่าง
เขามองเธอลงมาด้วยสายตาเร่าร้อน…