ตอนที่ 829 ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ (49)
ในขณะที่กู้เนี่ยนกำลังเล่นเกมอยู่นั้น กู้ซูหลิงก็โทรมถามเขาว่าจะกลับบ้านตอนไหน
ตอนนี้กู้เนี่ยนก็เปรียบเสมือนมือปืนนักฆ่าของจูอวี้ลู่สองแม่ลูก พวกเธอไม่สามารถปล่อยเขาไปอย่างแน่นอน ไม่รู้ว่านี่เป็นครั้งที่เท่าไหร่ที่พวกเธอตามตื๊อเขา
กู้เนี่ยนยังคงอิดออดเหมือนทุกครั้ง เขาบอกว่าตอนนี้กำลังยุ่งอยู่ วันอื่นค่อยกลับไป
กู้ซูหลิงโกรธมากแล้วถามอย่างไม่พอใจ “กี่ครั้งก็บอกว่าวันอื่นๆ นี่มันจะครึ่งเดือนแล้ว แกรู้ไหมว่าแม่เป็นห่วงแกขนาดไหน ทำไมแกถึงได้อกตัญญูแบบนี้”
“ผมบอกแล้วไงว่าค่อยกลับวันอื่น” ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากไปเยี่ยมจูอวี้ลู่ แต่ว่าพอกลับไปพวกเธอก็บังคับให้เขาชวนพ่อกลับไปด้วยทุกครั้ง โดยไม่สนว่าต้องใช้วิธีไหน ไม่สนว่าจะต้องฆ่าตัวตายข่มขู่
กู้ซูหลิงยิ่งไม่พอใจในน้ำเสียงของเขา “แกพูดเสียมารยาทแบบนี้ได้ยังไง ฉันเป็นพี่สาวแกนะ”
“ผมรู้น่า” หากไม่ใช่เพราะเธอคือพี่สาวร่วมสายเลือด เขาคงไม่พูดมากกับเธอแบบนี้หรอก
“รู้แล้วจะมีประโยชน์อะไร เสี่ยวเนี่ยน มีคำกล่าวไว้ว่า เด็กที่มีแม่เปรียบเสมือนสมบัติ และเด็กที่ไม่มีแม่ก็เปรียบเสมือนหญ้า ถ้าพ่อหย่ากับแม่ แกคิดดูว่าต่อไปจะน่าสมเพชเวทนาขนาดไหน…”
คำพูดเหล่านี้ของกู้ซูหลิง ทำให้กู้เนี่ยนแทบหูชา
เขายกโทรศัพท์ออกจากหูไปไกลโดยไม่รู้ตัว
ภายในห้องรับแขก แม่บ้านหูเห็นอวี๋กานกานที่ลงมาชั้นล่างก็เอ่ยถามเธอว่าตอนเที่ยงอยากทานอะไร อวี๋กานกานตอบไปว่าแล้วแต่ เธอชอบกินอาหารที่แม่บ้านหูทำทั้งหมดเลย
การสนทนาเป็นไปตามปกติ แต่ก็ไม่ห่างเกินไป กู้ซูหลิงที่อยู่ปลายสายยังคงได้ยินเสียงอยู่
เธอชะงักค้าง แล้วพอเธอส่งเสียงอีกครั้งก็หวีดแหลมคอแทบแตก “แกอยู่ที่ไหน”
“ทำไมเหรอ” กู้เนี่ยนไม่อยากให้กู้ซูหลิงรู้ว่าเขาอยู่กับอวี๋กานกาน ถ้างั้นคงโดนจู้จี้จุกจิกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
“แกอยู่บ้านอวี๋กานกาน แกก็รู้แก่ใจว่ามันทำให้แม่ต้องหย่ากับพ่อ คิดไม่ถึงแกไปขลุกอยู่กับมันทั้งวัน กู้เนี่ยน ใครเป็นคนเลี้ยงแกมาฮะ!” กู้ซูหลิงเริ่มด่าทอ พอด่าเสร็จก็วางสายไปเลยทันที
กู้เนี่ยนยังคิดว่าเรื่องนี้คงปล่อยผ่านไป ใครจะรู้ว่าตอนกำลังจะทานข้าว กู้ซูหลิงก็โทรศัพท์มาหาอีกครั้ง
เธอให้เขาลงไปหาทันที ไม่อย่างนั้นเธอจะขึ้นไปเอง
แน่นอนว่ากู้เนี่ยนไม่ต้องการให้เธอขึ้นมา เขาจึงต้องลงไปเอง
เมื่อกู้เนี่ยนเข้ามานั่งในรถของกู้ซูหลิง เขาก็ถูกกู้ซูหลิงดุด่า “กู้เนี่ยน ตกลงแกเข้าใจบ้างไหม ว่าอวี๋กานกานคือศัตรูของเรา นังแพศยาอวี๋กานกานนั่นมันตอแหลจะตาย…”
กู้เนี่ยนทนไม่ไหว แล้วตะคอกใส่ด้วยความเหลืออด “พอแล้ว!”
กู้ซูหลิงถูกตะคอกใส่จนตกใจ กู้เนี่ยนเป็นคนรู้ความมาตั้งแต่เด็ก นิสัยก็เรียบร้อย แล้วไม่เคยพูดตะคอกใส่เธอเลยสักครั้ง
เธอไม่ได้โต้ตอบไปครู่หนึ่ง
กู้ซูหลิงขมวดคิ้วอยู่นาน “กู้เนี่ยน ตอนนี้ในใจแกรู้สึกว่าอวี๋กานกานเป็นพี่สาวแท้ๆ ไปแล้วใช่ไหม แล้วฉันก็เป็นผู้หญิงร้ายกาจคนหนึ่งที่คอยบงการชีวิตแก”
ถึงแม้ต่อให้ไม่คิดว่าเธอเป็นผู้หญิงร้ายกาจ แต่บางครั้งในใจก็คิดว่าเธอวุ่นวายน่ารำคาญจริงๆ เมื่อนึกถึงอดีต กู้ซูหลิงก็ดีต่อเขามาก กู้เนี่ยนจึงรู้สึกผิดไปครู่หนึ่ง
เขาผ่อนน้ำเสียงอ่อนลง “พี่ ผมเปล่า ผมก็ไม่ได้อยากให้พ่อแม่หย่ากันหรอก แต่ผมไม่มีทางช่วยได้จริงๆ”
“ทำไมจะไม่มีทาง คุณพ่อรักแกขนาดนั้น ขอแค่แกทุ่มเทอีกนิด พ่อแม่จะต้องไม่หย่ากันแน่นอน ฉันว่าแกโดนนังอวี๋กานกานล้างสมองหมดแล้ว มีลูกที่ไหนที่อยากให้พ่อแม่หย่ากัน”
ตอนที่ 830 ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ (50)
“ผมบอกแล้วว่าไม่ได้อยากให้พ่อแม่หย่ากัน แล้วก็ไม่เคยคิดให้พวกเขาหย่ากันด้วย ผมแค่จนปัญญา ผมไม่รู้จะหาทางไม่ให้พวกเขาหย่ากันยังไง”
“แกไม่อยากให้พวกเขาหย่ากันก็ถูกต้องแล้วไง” กู้ซูหลิงพูดต่อ สีหน้าของกู้เนี่ยนก็แย่ลงเรื่อยๆ
เธอหัวเราะ “พี่รู้แล้วว่าแกขี้เกียจฟัง ได้ๆๆ พี่ไม่พูดแล้ว ส่วนเรื่องจะทำยังไงต่อ พวกเราค่อยๆ คิด วันนี้พี่ไม่ได้มาบังคับแก แค่คิดถึงเพราะไม่ได้เจอกันนาน ก็เลยมาดูว่าแกเป็นยังไงบ้าง”
เขาตอบผู้เป็นพี่สาว “ผมสบายดี พวกพี่กับแม่ไม่ต้องเป็นห่วงผม พรุ่งนี้…ผมจะไปเยี่ยมแม่”
“โอเค แกจะไปวันไหนก็ได้ ขอแค่แกยังจำแม่ได้แล้วรู้ว่าพวกเราคือครอบครัวเดียวกัน” กู้ซูหลิงพูดพลางยื่นมือเข้าไปในรถหยิบขวดน้ำแร่มาเปิดแล้วยื่นให้กู้เนี่ยน “เมื่อก่อน พี่บังคับแกเกินไป แล้วยังมีเรื่องชวนแกไปทานข้าวครั้งนั้น พี่รู้สึกผิดแล้ว เพราะพี่ไม่ได้ไตร่ตรองให้ดี ตอนนี้พี่อยากขอโทษแก แกอย่าโกรธหรือถือสาพี่เลยนะ ได้ไหม”
กู้เนี่ยนรับน้ำมาดื่มสองอีกแล้ววางขวดไว้ข้างๆ “เรื่องในอดีตผมลืมมันไปแล้ว ผมก็ไม่ได้โกรธพี่ด้วย แต่ว่าพี่ครับ…พี่ก็อย่าไปยุ่งเรื่องหย่าของพ่อกับแม่เลยนะครับ…”
“แกคิดว่าพี่เหมือนแกเหรอฮะ!” ทันใดนั้นกู้ซูหลิงก็ตัดบทกู้เนี่ยน แล้วแสยะยิ้ม “กู้เนี่ยน เสียดายที่แม่คลอดแกเลี้ยงแกมาตั้งหลายปี แต่แกกลับอกตัญญู ฉันบอกแกแล้วไงว่านังอวี๋กานกานมันหลอกใช้แก มันจะทำให้แกตายใจ จากนั้นก็จะฮุบสมบัติคุณพ่อไว้คนเดียว”
เมื่อกี้พึ่งคุยกันดีๆ ไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงโกหกล่ะ
กู้เนี่ยนตกใจครู่หนึ่งก่อนจะได้สติคืนมา เขาไม่เข้าใจผู้หญิงพวกนี้จริงๆ ทำไมถึงเปลี่ยนสีหน้าไวขนาดนี้
ในขณะนั้นเอง เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ของกู้เนี่ยนก็ดังขึ้น อวี๋กานกานเป็นคนโทรมา ตอนที่เขาออกมาไม่ได้บอกอวี๋กานกาน คราวนี้โทรมาก็เพื่อเรียกเขาไปทานข้าว
กู้ซูหลิงหัวเราะประชด “พี่สาวแท้ๆ ของแกโทรมาแล้วนี่ ทำไมไม่รับล่ะ”
กู้เนี่ยน “ผม…”
“ลงรถ เดี๋ยวนี้!” กู้ซูหลิงโมโห แล้วยื่นมือไปเปิดประตูไล่กู้เนี่ยนลงจากรถ
กู้เนี่ยนขมวดคิ้วมุ่น มองหลังรถที่ทะยานออกไปด้วยความรู้สึกขุ่นมัวเป็นอย่างมาก
เขากลับเข้าบ้านด้วยสีหน้านิ่งขรึม เมื่ออวี๋กานกานเห็นเขาจึงเอ่ยถาม “เมื่อกี้นายไปไหนมา”
“ออกไปโทรศัพท์ครับ”
กู้เนี่ยนลังเลครู่หนึ่ง แต่ก็ไม่ได้บอกเรื่องที่เขาไปเจอกู้ซูหลิงมา เขานั่งลงที่โต๊ะอาหารแล้วเริ่มทานข้าว
วันนี้แม่บ้านหูทำของโปรดกู้เนี่ยนทั้งนั้น อาหารอร่อยอยู่ตรงหน้า กู้เนี่ยนตักใส่ปากคำโต เรื่องไม่สบายใจที่ยากลืมก็ลืมไปหมดแล้ว
หลังจากทานข้าวเสร็จ กู้เนี่ยนก็ยังไม่กลับไป แล้วก็อยู่บ้านอวี๋กานกานตลอด เพราะคิดว่าคืนนี้จะชวนอวี๋กานกานและฟังจือหันทานข้าวด้วยกัน
อวี๋กานกานอยู่ชั้นบนทั้งวัน เมื่อเห็นว่าเวลาพอสมควรแล้วก็เปลี่ยนเสื้อผ้าลงมายังชั้นล่าง แล้วเธอก็เห็นว่ากู้เนี่ยนนอนหลับบนโซฟาเหมือนเดิม
“นายยังนอนอยู่อีกเหรอ คิดว่าเดี๋ยวจะอยู่กินมื้อดึกรึไง”
กู้เนี่ยนที่โดนปลุกขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วลุกขึ้นนั่งจากโซฟา
ยังไม่ทันได้ก้าวไปไหน
จู่ๆ ก็เกิดเสียง “ตึงตัง” กู้เนี่ยนหน้ามืดล้มนอนลงไปที่โซฟา
อวี๋กานกานตกใจจนวิญญาณแทบหลุดออกจากร่าง เมื่อเธอจับชีพจรให้กู้เนี่ยน
เธอหน้าซีดเผือดแล้วรีบวิ่งเข้าห้องครัวหยิบน้ำโซดาและน้ำดื่มออกมาหลายขวด จากนั้นจึงป้อนเข้าปากกู้เนี่ยน
มันดื่มเข้าไปไม่ได้แล้ว กู้เนี่ยนมีสีหน้าเจ็บปวดทุรนทุราย อวี๋กานกานป้อนโซดาจนหมดก็ป้อนน้ำดื่มต่อ..