ตอนที่ 835 ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ (55)
จูอวี้ลู่ถูกกู้ซูหลิงปลุกตั้งแต่เช้าตรู่ พูดอย่างมีลับลมคมในว่าวันนี้จะทำให้กู้เชินและกู้เนี่ยนเห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของอวี๋กานกาน เธอถามอยู่ตั้งนาน กู้ซูหลิงถึงจะยอมบอกว่ากู้เนี่ยนอาหารเป็นพิษที่บ้านอวี๋กานกาน
ตอนนั้นเธอคิดว่าอาการอาหารเป็นพิษเป็นเพียงอุบัติเหตุ แต่ไม่สนว่าจะเป็นอุบัติเหตุหรือไม่ แต่แค่กู้เนี่ยนเกิดเรื่องที่บ้านอวี๋กานกาน ก็คิดว่าเป็นความผิดของอวี๋กานกานแล้ว
กู้เชินรู้สึกผิดต่ออวี๋กานกานอีกครั้ง แต่ก็ไม่สามารถเพิกเฉยต่อความเป็นความตายของลูกชายได้
แต่เธอคิดไม่ถึงเลยว่า ที่กู้เนี่ยนอาหารเป็นพิษจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับกู้ซูหลิง
เมื่อได้ยินในสิ่งที่อวี๋กานกานและฟังจือหันพูดว่ากู้เนี่ยนอาหารเป็นพิษเพราะกู้ซูหลิง เธอเองก็ไม่อยากจะเชื่อแล้วหันไปมองกู้ซูหลิงด้วยความตกตะลึง
เมื่อเห็นว่ากู้ซูหลิงยิ่งไม่สามารถแก้ตัวได้ หัวใจของจูอวี้ลู่ก็จมดิ่งลงไปอย่างแรง
ทันใดนั้นเธอก็จำได้ว่าก่อนหน้านี้ กู้ซูหลิงพูดกับเธอว่าเธอคิดวิธีดีๆ ที่จะจัดการกับอวี๋กานกานได้อย่างเด็ดขาด
หรือว่าวิธีที่ว่าของเธอคือวางยากู้เนี่ยนให้อาหารเป็นพิษแล้วป้ายความผิดไปที่อวี๋กานกาน
ปัญญาอ่อนสิ้นดี นี่เธอเรียกว่าวิธีที่ดีเหรอ ตอนนี้จูอวี้ลู่อยากตีกู้ซูหลิงให้ตายคามือนัก
สิ่งเดียวที่เธอสามารถทำได้ในตอนนี้ก็คือตัดขาดความสัมพันธ์ ถึงอย่างไรเธอไม่รู้เรื่องที่กู้ซูหลิงทำจริงๆ
จูอวี้ลู่ยกมือชี้หน้ากู้ซูหลิง แล้วด่าด้วยความโมโห “หลิงหลิง แกทำแบบนี้ได้ยังไง แกทำแบบนี้กับน้องได้ยังไง!”
ความโกรธของเธอนั้นไม่ได้เสแสร้งเลยสักนิด เพราะกู้เนี่ยนเป็นเพียงเครื่องต่อรองตัวเดียวในตอนนี้ หากเขาเป็นอะไรขึ้นมา เธอกับกู้เชินก็คงเป็นไปไม่ได้อีกต่อไป
ต่อให้ต้องลงมือ เธอก็จะไม่ลากกู้เนี่ยนเข้ามาเด็ดขาด
หากเธอรู้ก่อนหน้านี้ว่าวิธีที่ดีที่กู้ซูหลิงบอกจะเป็นวิธีโง่ๆ แบบนี้ เธอคงไม่ยอมให้กู้ซูหลิงลงมือเด็ดขาด!
“แม่ แม่ฟังหนูพูดก่อน แม่คะ…”
กู้ซูหลิงยังคงอยากแถต่อไป จูอวี้ลู่ยกฝ่ามือขึ้นมาแล้วสะบัดฟาดใบหน้าของกู้ซูหลิงไปเต็มแรง จากนั้นจึงตวาดลั่นใส่เธอ “เสี่ยวเนี่ยนเป็นน้องชายของแกนะ!”
กู้ซูหลิงกุมหน้าข้างที่ถูกตบขจนเจ็บ ร้องไห้ฟูมฟายอย่างไม่อยากเชื่อ “แม่ แม่ตบหนู นึกไม่ถึงว่าแม่จะตบหนู ที่หนูทำไปทั้งหมดก็เพื่อแม่ หนูทำทุกอย่างก็เพื่อแม่ไงคะ หากไม่ใช่เพราะแม่ไม่อยากหย่ากับพ่อ แล้วหนูจะทำทุกหนทางเพื่อให้พ่อและน้องชายรู้จักโฉมหน้าที่แท้จริงของนังอวี๋กานกานได้ยังไง!”
อาการฮิสทีเรีย[1]ของกู้ซูหลิง ทำให้จูอวี้ลู่ต้องถอยหลังไปหลายก้าว
เธอรู้ตั้งนานแล้วว่าลูกสาวคนนี้ไม่ได้เรื่องเลยสักนิด
แต่ไม่คิดว่ายิ่งช่วยกลับยิ่งยุ่ง รู้อย่างนี้ก็ไม่ควรเก็บเธอเอาไว้ข้างกาย ให้เธอแต่งงานออกเรือนไปซะตั้งแต่แรก ทางที่ดีให้แต่งงานไปอยู่เมืองนอกเสียเลย ไม่แน่ตอนที่อวี๋กานกานกลับมา นังลูกคนนี้ก็คงไม่ก่อเรื่องวุ่นวายจนกู้เชินต้องการหย่ากับเธอ
จะว่าไปต่างก็เป็นความผิดของเธอเอง เพื่อนร่วมทีมที่ไม่ดีสามารถทำลายทีมที่ดีได้
“แกก่อเรื่องใหญ่ขนาดนี้ ยังหาว่าทำเพื่อฉันอีกเหรอ ฉันให้แกทำจนน้องต้องเข้าโรงพยาบาลเหรอ น้องชายแกคือสายเลือดของฉัน ฉันไม่ยอมให้แกทำอะไรบ้าๆ เด็ดขาด พ่อแกพูดถูก ว่าแกควรจะได้รับบทเรียน…” ติดคุกไปซะก็ดี จะได้ไม่เกะกะลูกตารำคาญใจ ไม่แน่ เมื่อกู้เชินเห็นว่าเธอไม่มีลูกสาวแล้ว ก็อาจจะไม่หย่ากับเธอก็ได้
นี่เธอต้องเสียสละตัวเองใช่ไหม ก็แค่อาหารเป็นพิษ ถึงยังไงกู้เนี่ยนก็ไม่เป็นอะไรมากแล้ว ทำไมแต่ละคนถึงทำเหมือนเธอก่ออาชญากรรมร้ายแรง
เธอทั้งโกรธทั้งแค้น “แม่ แม่จะเมินหนูแบบนี้ไม่ได้ หนูทำไปทุกอย่างก็เพื่อแม่ ถ้าหากแม่ไม่ได้พูดกับหนูว่า…”
จูอวี้ลู่กลัวว่าเธอจะพูดอะไรที่ไม่ดี ดังนั้นเธอจึงชี้หน้ากู้ซูหลิงเพื่อเป็นการตัดบท!
ตอนที่ 836 ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ (56)
“ถึงฉันจะไม่อยากหย่ากับพ่อแก แต่ฉันก็ไม่ได้ให้แกทำเรื่องแบบนี้ ฉันรักพ่อแกแล้วก็รักน้องแกด้วย ฉันจะไม่ยอมให้สองคนนี้เป็นอะไรไปเด็ดขาด แก แกมันนังลูกอกตัญญู แกทำให้ฉันโกรธตายเลยหรือไง”
ในขณะนั้นเอง ก็มีเสียงรองเท้าหนังเหยียบพื้นอย่างต่อเนื่อง ไม่นาน ตำรวจสองนายในเครื่องแบบเต็มยศก็เดินเข้ามา “ขอโทษนะครับ คุณคนไหนเป็นคนแจ้งความครับ”
กู้เชินได้พูดเรื่องนี้ไปแล้วครั้งหนึ่ง จากนั้นจึงชี้ไปที่กู้ซูหลิง เพื่อให้ตำรวจพาตัวเธอไป
กู้ซูหลิงตื่นตระหนกทันทีที่เห็นตำรวจ ก็แค่อาหารเป็นพิษ ไม่ได้มีใครตาย ทำไมถึงต้องทำให้เป็นเรื่องราวใหญ่โตขนาดนี้
ไม่! เธอไม่อยากติดคุก เธอไม่ได้ทำร้ายใครจริงๆ เธอไม่สมควรเข้าไปนอนในคุก!
เมื่อเห็นตำรวจเดินเข้ามาหาตนเอง กู้ซูหลิงก็รีบวิ่งเข้าไปหากู้เชิน แล้วคุกเข่าลงกับพื้น “คุณพ่อคะ หนูไม่ได้คิดทำร้ายน้องนะคะ คุณพ่ออย่าแจ้งจับหนูเลยนะคะ คุณพ่อปล่อยหนูไปเถอะ ถ้าคุณพ่อไม่แจ้ง ตำรวจต้องไม่พาตัวหนูไปแน่ๆ!”
ต่อให้ความสัมพันธ์พ่อลูกหลายปีนั้นไม่ลึกซึ้ง แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะจับเธอเข้าคุก!
“พ่อ…”
“คุณพ่อ…!”
เธอตะโกนเสียงดังเพื่อย้ำเตือนความจำในส่วนลึกของหัวใจถึงความผูกพันระหว่างพ่อลูก
ในตอนแรกกู้เชินไม่ได้ขยับ แต่เหลือบมองดูเธอ ขณะที่เธอกำลังจะถูกตำรวจจับ กู้เชินก็ตะโกนว่า “เดี๋ยวก่อน”
กู้ซูหลิงคิดว่าในที่สุดก็สามารถเอาชนะใจกู้เชินได้ เธอจึงดิ้นจากตำรวจทันที หวังจะพุ่งเข้าไปหาอ้อมกอดกู้เชิน “คุณพ่อ หนูสำนึกผิดแล้ว ต่อไปนี้หนูจะเชื่อฟังคุณพ่อ ถ้าคุณพ่ออยากหย่ากับแม่ก็หย่า คุณพ่ออยากให้หนูดีกับอวี๋กานกานหนูก็จะดีด้วย หนูจะนับเธอเหมือนเป็นน้องแท้ๆ คนหนึ่ง!”
“ไม่กล้า!”
กู้เชินพูดออกมาสองคำด้วยความเย็นชา
หัวใจของกู้ซูหลิงที่กำลังพองฟูอย่างมีความสุข…หายไปไร้ร่องรอยทันที
กู้เชินไม่แยแสเธอเลยสักนิด แล้วเดินไปยืนเคียงข้างอวี๋กานกานและหยิบหลักฐานในมือของเธอ จากนั้นจึงยื่นส่องมอบให้ตำรวจ “แม้ลูกชายผมจะไม่เป็นอะไรมาก แต่เธอก็มีเจตนาฆ่า นี่คือหลักฐานทั้งหมดครับ!”
กู้ซูหลิงกรีดร้องอย่างควบคุมอารมณ์ไม่ได้ “คุณพ่อ!”
แม้จะไม่ได้ก่ออาชญากรรมร้ายแรง แต่ก็ต้องติดคุกอยู่ดี เธอต้องเข้าคุกแล้ว แม้จะติดคุกไม่นาน แต่ถ้าได้ออกมาสักครั้งชีวิตของเธอก็จบสิ้นไปแล้ว!
“แม่!” ในเมื่ออ้อนวอนกู้เชินไม่สำเร็จ เธอจึงหันไปอ้อนวอนจูอวี้ลู่แทน จูอวี้ลู่กลับไม่เอ่ยสิ่งใด เพียงแต่ก้มหน้าเช็ดน้ำตาเงียบๆ
เมื่ออ้อนวอนจูอวี้ลู่ไม่ได้ เธอก็อ้อนวอนกู้เนี่ยนอีกครั้ง “เสี่ยวเนี่ยน พี่เป็นพี่สาวของแก พี่ไม่ทำร้ายแกหรอก แกรีบพูดกับตำรวจสิ ว่าพี่ไม่ได้ทำร้ายแก!”
กู้เชินกลัวว่าลูกชายตนเองจะใจอ่อน จึงให้ตำรวจรีบพาตัวเธอออกไป
เมื่อเสียงของกู้ซูหลิงค่อยๆ หายออกไปไกล กู้เนี่ยนจึงร้องไห้ปล่อยโฮออกมาทันที เขาเจ็บปวดที่พี่สาวแท้ๆ ทำกับตัวเองแบบนี้ และก็เจ็บปวดที่ตำรวจพาตัวกู้ซูหลิงไป
เขาไม่รู้ว่าทำไมทุกอย่างถึงกลายเป็นแบบนี้
ทำไมถึงอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขไม่ได้ ทำไมถึงต้องเอาเป็นเอาตายกันขนาดนี้ เห็นได้ชัดว่าพี่สาวอีกคนโปร่งใสมาก ทำไมพี่สาวคนนี้จะโปร่งใสกว่านี้ไม่ได้
จูอวี้ลู่มองกู้เนี่ยนอย่างตื่นตระหนก จากนั้นเธอจึงร้องไห้ตามผู้เป็นลูกชาย “เสี่ยวเนี่ยน พี่สาวลูกสติเลอะเลือนไปแล้ว…ลูกให้…ให้…”
เธออยากพูดว่าให้อภัยได้ไหม แต่ก็ไม่กล้า เพราะกลัวว่ากู้เชินกับลูกชายจะเข้าใจผิดว่าเธอรู้เรื่องทุกอย่าง
กู้เชินมองเธอด้วยสายตาเย็นเยียบ “เธอยังมีหน้ามาพูดอีกเหรอ ถ้าไม่เห็นแก่กู้เนี่ยน ฉันจะไม่ให้ตำรวจจับตัวไปแค่คนเดียวแน่”
จูอวี้ลู่ส่ายหน้าด้วยความหวาดกลัว เธอมองหน้าเขาแล้วเอ่ยขึ้นอย่างน่าสงสาร “อาเชิน ฉันไม่รู้เรื่องที่หลิงหลิงทำทั้งนั้น หากฉันรู้ ฉันคงไม่ยอมให้เธอทำแบบนี้เด็ดขาด…เสี่ยวเนี่ยนก็เป็นลูกชายฉันเหมือนกัน ฉันจะทำร้ายลูกได้ยังไง!”
——
[1] โรคฮิสทีเรีย (Hysteria) คือ โรคทางจิตเวชประเภทหนึ่งที่เกิดขึ้นได้ทั้งผู้หญิง และผู้ชาย โดยผู้ที่เป็นโรคนี้จะมีปัญหาด้านการควบคุมอารมณ์ หรือควบคุมความวิตกกังวลของตัวเองไม่ค่อยได้ รวมถึงความสามารถในการควบคุมพฤติกรรมของตนเองก็ทำได้ไม่ดีเท่าคนปกติเช่นกัน