ตอนที่ 20 คำถามครับ
แม้จะมองไม่เห็นฉากภาพตรงหน้าแต่ด้วยมันสมองของมันย่อมจินตนาการสถานการณ์ตรงหน้าออกมาได้ง่ายดาย
ด้วยน้ำเสียงที่เงียบหายไปหลายต่อหลายวินาทีคงไม่พ้นต้องชะตากรรมแบบเดียวกันหมด
เพิ่มเติมคือโดนสั่งให้คุกเข่าพร้อมหุบปาก
…‘ด้านบนมันเกิดอะไรขึ้นวะ!’
“…”
“ทำไมถึงเงียบไป”
“…”
“แกทำอะไรลงไป…”
“ทำอะไรกับพวกเขา—”
“…ลงไม้ลงมือนิดหน่อยเท่านั้นเองครับ”
ทราเวียร์ตอบกลับมาโดยไม่ละสายตาจากเหล่าอันธพาลน้อยทั้งหลายก่อนหันกลับมาสนใจหัวหน้าผมแดงต่อ
“แค่ทำให้ขยับไม่ได้บวกกับหุบปากให้แน่น”
“กันไม่ให้พวกเขาเข้ามายุ่งวุ่นวายไม่เข้าเรื่อง”
“…”
“ก็เหมือนกับที่ผมทำกับคุณนั่นแหละ”
“เพียงแค่เพิ่มเติมเงื่อนไขข้อสองข้อ”
จะบอกว่าชะตากรรมเหล่าพี่น้องด้านบนล้วนต้องประสบพบเจอชะตากรรมเดียวกันกลายเป็นหมูอ้วนปล่อยให้เชือดได้ตามใจตัวเองต้องการเหรอ
“…ไอ้เรื่องแบบนั้น”
“ไอ้เรื่องแบบนั้น…”
“…”
“วางใจได้ครับ”
ชายหนุ่มสวมแว่นกล่าวขึ้นมากะทันหันราวกับว่าล่วงรู้ความในใจของหัวหน้าผมแดง
ทั้งยังกล่าวด้วยน้ำเสียงนิ่มนวล
“ลำพังมดปลวกพวกนั้นยังไม่อยู่ในสายตาของผมขี้คร้านจะเหลือบมองด้วยซ้ำยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องลงมือ”
“…”
“คนที่ผมอยากจะลงมือเล่นสนุกด้วยไม่ใช่พวกเขา”
“…”
“แต่เป็นคุณต่างหาก”
“คนที่ผมอยากเล่นสนุกด้วย”
จากที่โล่งอกโล่งใจที่พี่น้องของตนรอดพ้นจากหายนะเป็นอันต้องกลับมากังวลอีกครั้งทั้งยังกังวลยิ่งกว่า
เนื่องจากตัวเองดันกลายเป็นเป้าหมายหลักของอีกฝ่าย
…‘ฉันคือเป้าหมายของมันเหรอ?’
“…” หัวหน้าผมแดงสั่นสะท้าน
ด้วยสภาพของมันขยับไปไหนไม่ได้กระทั่งยักคิ้วยังทำไม่ได้ด้วยซ้ำเกิดชายหนุ่มสวมแว่นลงมือทำอะไรขึ้นมา
มันก็คงต้องยินยอมง่ายดายไปตามระเบียบ
…‘บัดซบ! ขยับสิวะ!’
“…”
“เสียเวลากับเรื่องไม่เป็นเรื่องมามากพอแล้วครับ”
“กลับเข้าประเด็นหลักกันเถอะ”
“หากปล่อยเอาไว้นานกว่านี้ดึงดันยื้อเวลาไปเรื่อยเปื่อยใครบางคนอาจเล่นงานผมถึงตาย”
คนบางคนที่ว่าส่งสายตาแหลมคมมาให้เป็นของแถมร้อนจนทราเวียร์ต้องยกมือเป็นสัญญาณยอมแพ้
พร้อมกล่าวแก้ตัวไปตามอารมณ์
“ผมไม่ได้พูดถึงคุณนะครับ”
“หึ!”
“จะทำอะไรก็รีบทำเลย” ไอรีนแค่นเสียงไม่พอใจ
ชักช้ามาเนิ่นนานพวกตนยังต้องกลับบ้านไปทำธุระอย่างอื่นอีกในเมื่อหญิงสาวต้องการในฐานะชายหนุ่ม
ย่อมต้องปฏิบัติตามไม่ปล่อยผ่าน
“…” ทราเวียร์ยิ้ม
“รับรองว่าแปบเดียวครับ”
“แปบเดียวก็เสร็จแล้ว”
กล่าวจบไม่รอให้หญิงสาวกล่าวตอบหรือว่าแสดงความคิดเห็นเป็นอื่นเจ้าตัวเลือกทิ้งตัวลงมาจากชั้นสอง
ทิ้งลงมาโดยไม่มีอะไรรองรับไม่มีพื้นยางไม่มีเบาะนุ่มนิ่มคอยช่วยเหลืออาศัยร่างกายมนุษย์เปลือยเปล่าเนี่ยแหละ
ถึงอย่างนั้นเขาก็ลงมาได้ปลอดภัยไม่มีบาดแผลร่องรอยบาดเจ็บทุกสิ่งอย่างล้วนสมบูรณ์แบบหมด
ทราเวียร์ปัดเสื้อตัวเองพร้อมกล่าวออกมา
“รู้รึเปล่าครับ?”
“นอกเหนือจากความรู้สึกนึกคิดที่พวกเราครุ่นคิดตลอดเวลาไม่ว่าจะแก้ปัญหาหรือว่าใช้ชีวิตตามปรกติประจำวัน”
“ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่คอยเป็นเข็มทิศนำทางเวลาที่เราไม่มั่นใจไม่อาจแก้ปัญหาด้วยสติปัญญา”
“พวกเรามักเรียกมันว่า ‘สัญชาตญาณ’ เมื่อไม่มีความมั่นใจในตัวเองไม่อาจหาคำตอบจากสถานการณ์ตรงหน้าได้”
“มนุษย์จะเริ่มมีพฤติกรรมเบี่ยงเบนเข้าสู่สัญชาตญาณดิบอาศัยมันเป็นเข็มทิศในการใช้ชีวิตแทนการใช้หลักเหตุและผลเป็นตัวประกอบการตัดสินใจ”
“…”
“ยกตัวอย่างง่ายดายมากที่สุดเวลาที่คุณนั่งทำข้อสอบในห้องเรียนและทำมันไม่ได้อาจเป็นเพราะมันยากเกินไปหรือว่าคุณไม่ได้อ่านหนังสือเตรียมมา”
“คุณก็จะใช้หัวสมองครุ่นคิดหนักหน่วงกว่าปรกติเพื่อหาทางออกจากสถานการณ์ตรงหน้าแต่ถ้ามันหาเหตุผลหรือหลักการในแก้ปัญหาไม่ได้ละ”
“คุณจะทำยังไง?”
“…”
“เดาครับ”
“…เดา?”
“ใช่ครับ”
“ใช้การเดาคำตอบแม้จะบอกว่ามันมีวิธีการเดาที่ใช้การคำนวณหรือว่าหลักการเข้ามาประกอบการตัดสินแต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าการเลือกคำตอบในตอนสุดท้ายของคุณ”
“ล้วนต้องอาศัยหัวใจของคุณเป็นหลักใหญ่ใจความสำคัญส่วนมันจะถูกต้องหรือว่าผิดพลาดนั่นก็ต้องไปวัดกันทีหลัง”
“แกต้องการจะพูดอะไรกันแน่?!”
“ที่จะบอกก็คือสัญชาตญาณดิบของคนเรามักทำงานโดยเมินเฉยต่อหลักเหตุและผลทั้งหมดที่อยู่ในหัวสมอง”
“ทั้งยังยากจะต้านทานอีกด้วย”
“…”
เพียงแค่เสี้ยววินาทีที่กระพริบตา
เพียงแค่วูบเดียวที่เหม่อลอย
ร่างชายหนุ่มสวมแว่นก็หายลับไปจากสายตาหายไปโดยไม่บอกกล่าวไม่มีสัญญาณล่วงหน้าไม่มีร่องรอยให้เห็น
เหมือนทุกสิ่งอย่างที่เกิดขึ้นเป็นเพียงภาพลวงตาฝันหนึ่งตื่นหัวหน้าผมแดงมึนงงไปชั่วขณะก่อนขนทั่วทั้งตัวจะลุกตั้ง
เนื่องจากเสียงหนึ่งดังขึ้นจากด้านหลังอีกฝ่ายเข้าประชิดตัวใกล้มากจนสัมผัสได้ถึงบรรยากาศหนักหน่วง
“รู้สึกได้ใช่ไหมครับ?”
“…”
“แก—”
“เธอที่ยืนอยู่ตรงหน้าคุณ”
“…”
“เธอเป็นเพียงผู้หญิงแสนสวยปรกติธรรมดาไม่มีพิษมีภัยไม่มีอะไรสามารถทำร้ายทำอันตรายใครคนอื่นได้เลยโดยเฉพาะกับกลุ่มชายฉกรรจ์ร่วม 10 คนแบบพวกคุณ”
“ทั้งยังเป็นผู้ชายร่างสูงกำยำมีพละกำลังมากมายไปที่ไหนล้วนแล้วแต่มีคนยำเกรง”
“ทั้งที่มันควรจะเป็นแบบนั้น”
“แต่ดูสิครับดูผลลัพธ์สุดท้ายที่ออกมา”
“กับล้มเหลวไม่เป็นท่า”
ทั้งยังโดนสั่งสอนเล่นงานหนักหน่วงหนักแน่นจนต้องหลบหนีเหมือนกับหมาขี้แพ้ความอัปยศครั้งนี้
มันมากพอทำให้หัวหน้าผมแดง
เครียดแค้นขั้นสุด
“…” หัวหน้าผมแดงลอบกำหมัดแน่น
ขณะทราเวียร์ยังคงยิ้มกล่าวต่อ
“เธอที่น่ากลัวขนาดนั้นกับไม่สามารถกระตุ้นให้พวกคุณกลัวได้เลยในตอนแรกเพราะอะไรละครับ?”
“…”
“คำตอบง่ายดาย”
“เพราะพวกคุณใช้หลักเหตุและผลมาตัดสิน”
“ตัดสินใจด้วยสายตาของตัวเองว่าหล่อนไม่น่ากลัวว่าหล่อนเป็นเพียงหมูน้อยตัวเล็กอยากจะทำอะไรก็ทำได้”
แต่แล้วความเป็นจริงมันก็โหดร้ายโหดเหี้ยมยิ่งนักแทนที่จะเป็นกระต่ายเป็นหมูตัวน้อยแต่เนื้อแท้ของหล่อน
กับเป็นสัตว์ร้ายกระหายเลือดสัตว์ร้ายที่พร้อมฉีกกระชากทุกสิ่งอย่างที่เป็นศัตรูไม่มีโอนอ่อนไม่มีปราณี
หัวหน้าผมแดงเริ่มรู้สึกแปลกประหลาดอย่างไม่ทราบสาเหตุราวกับตัวเขากำลังเกิดบางสิ่งอย่างขึ้น
เจ้าตัวเลยพยายามดิ้นรนหวังให้หลุดรอด
…‘ทำไมถึงไม่หลุด!’
“…”
“งั้นมาถึงคำถามต่อไปครับ?”
“ทั้งยังเป็นคำถามสุดทัายจากผมด้วย”
“อะไรที่ทำให้คุณกลัวผมขนาดนั้น”
คำถามสุดแปลกจากชายหนุ่มสวมแว่นทำเอามันขมวดคิ้วงุนงงไปชั่วขณะแม้จะเป็นคำถามหาสาระไม่ได้
แต่ทำไมถึงรู้สึกหวาดหวั่นหวั่นไหวเหลือเกิน
…‘กลัวมัน?’
“…”
“ฉันเนี่ยนะที่กลัว?!”