ตอนที่ 21 เสียงกรีดร้องโหยหวน
หัวหน้าผมแดงเลือกไม่ยอมรับความจริงมันส่ายหน้าปฏิเสธสุดฤทธิ์หากไอรีนเป็นคนบอกกล่าวมันคงเชื่อถือไม่กล้าต่อปากต่อแต่ไม่ใช่สำหรับทราเวียร์
ไม่ใช่สำหรับชายหนุ่มตรงหน้าต่อให้ครุ่นคิดยังไงมันก็ยอมรับความจริงตรงหน้าไม่ได้เด็ดขาด
ทั้งยังเลือกปฏิเสธหัวชนฝา
…‘ไม่มีทางที่ฉันจะกลัวมันเพ้อเจ้อที่สุด!’
“…” หัวหน้าผมแดงส่ายหน้า
“เอาที่ไหนมาพูด!”
“หากไม่ใช่ความกลัวแล้วมันจะเป็นอะไรได้ละครับ”
“เหงื่อออกทั่วทั้งตัวร่างเนื้อสั่นสะท้านไปหมดกระทั่งแววตายังกลอกไปมาไม่มีสบสายตาผม”
“ไอ้อาการแบบนี้”
“คุณคิดว่ามันเป็นอาการแบบไหนละครับ?”
“…” นิ่งเงียบไปเลย
หัวหน้าผมแดงนิ่งเงียบไม่กล้าเปิดปากตอบคำถามไม่ใช่ว่ามันตอบคำถามไม่ได้แต่เพราะตอบได้ต่างหาก
เพราะตอบได้ถึงไม่ยอมตอบ
…‘ฉันคนนี้’
“…” มันกัดปากตัวเองแน่นจนเลือดแทบไหล
มันคือความกลัวความกลัวที่ยากจะยอมรับแม้จะพยายามบ่ายเบี่ยงยังไงแต่ร่างกายย่อมแสดงออกอย่างซื่อตรง
ยิ่งชายหนุ่มสวมแว่นอธิบายชัดเจนเจาะลึกตรงเข้าประเด็นบ่งบอกให้รับรู้ถึงสภาพร่างกายตัวเอง
มันยิ่งยากจะปฏิเสธสิ่งที่เกิดขึ้น
“กลัวเหรอ”
“ฉัน…”
…‘ฉันกลัว!’
…‘ฉันเนี่ยนะที่กลัว!’
…‘กลัวมันเหรอฉันคนนี้กลัวมัน!’
…‘เป็นไปไม่ได้เป็นไปไม่ได้เด็ดขาดฉันไม่มีทาง!—’
“…” เพียงเสี้ยววินาทีเดียวเท่านั้น
เพียงแค่เสี้ยววินาทีเดียวที่มันเผลอสบสายตาอีกฝ่ายเผลอจดจ้องมองลึกเข้าไปในแววตาชายหนุ่มสวมแว่น
อาการแปลกประหลาดก็รุกเข้ากลืนกินห้วงสตินึกคิดทั้งหมดทำเอาร่างผมแดงนิ่งชะงักไปในทันที
ทราเวียร์ยิ้มหัวเราะเบาบาง
“…” เริ่มขั้นตอนเดินหน้าต่อ
“กลัวผมสินะครับ”
“กลัวผมคนนี้”
“กลัวในความไม่รู้”
“เพราะไม่รู้ถึงได้หวาดกลัว” ถ้อยคำยังกล่าวต่อ
ไม่ว่าเมื่อครู่ร่างกายหัวหน้าผมแดงจะตอบสนองยังไงจะตอบสนองแบบไหนเมื่อเจอถ้อยคำกระตุ้นถูกจุด
ท่วงท่าปวดหัวทรมานเสมือนคนปวดใกล้ตายก็หยุดลงทั้งยังหยุดลงอย่างสมบูรณ์แบบ
หยุดไปพร้อมกับห้วงสตินึกคิดแววตาที่เคยเต็มเปี่ยมไปด้วยอารมณ์มากมายแปรเปลี่ยนกลับมาราบเรียบว่างเปล่าเหมือนกับทราเวียร์
แต่ในความเหมือนก็ยังมีความต่างในบางจุดทั้งความต่างยังเป็นอะไรที่ยากจะนำมาเปรียบเทียบกันได้
หากจะให้อธิบายโดยรวมสรุปให้เข้าใจง่ายดายกระชับทุกเนื้อความย่อมบอกได้ว่าหัวหน้าผมแดงในตอนนี้
ได้กลายเป็นตุ๊กตาไร้จิตวิญญาณไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วมีชีวิตอยู่คล้ายคนตายเป็นคนตายแต่คล้ายคนมีชีวิตอยู่
นั่นแหละคือสภาพของเขาเป็นสภาพที่ร่างเนื้อปราศจากจิตวิญญาณอย่างแท้จริง
นอกเหนือจากขยับร่างกายไม่ได้ยังครุ่นคิดอะไรไม่ออกทั้งที่เมื่อครู่เรื่องราวมากมายไหลผ่านเข้ามาในหัวสมองไม่ขาดสายแต่ตอนนี้กับว่างเปล่าไปหมด
แน่นอนว่าความว่างเปล่าของมันในสายตาไอรีนเปรียบเสมือนกับคลื่นสงบก่อนพายุรุนแรงจะโหมกระหน่ำ
ทราเวียร์ยื่นมือเข้าไปเชิดคางขึ้น
“…” ทั้งสองแลกเปลี่ยนสายตาซึ่งกันและกัน
“ใช่แล้วละครับ”
“นั่นแหละดีมาก”
“…” พริบตาเดียวเท่านั้น
ประกายดำมืดในจิตใจพุ่งขึ้นมาจากส่วนลึกของจิตวิญญาณพร้อมทั้งเปิดเผยตัวระเบิดตัวเองอย่างบ้าคลั่ง
จิตใจดำมืดเริ่มกลืนกินสตินึกคิดกลืนกินรวดเร็วราวกับเปลวไฟร้อนแรงถูกโยนใส่กองใบไม้แห้ง
หัวหน้าผมแดงเริ่มกลับมาส่งเสียงอีกครั้ง
ทั้งยังเป็นน้ำเสียงโหยหวน
คล้ายจิตใจกำลังแตกสลาย
“อ๊าาาา”
…‘กลัว! กลัว! กลัว!’
…‘กลัว! กลัว!’
…‘กลัว!’
“อ๊ากกกกกกกกกกกกกกก!”
“อ๊ากกกกกกกกกก!”
“อ๊ากกกกกก!”
มันคือเสียงกรีดร้องโหยหวน
ซุ่มเสียงที่ถูกปลดปล่อยออกมาช่างทุกข์ทรมานเหนือล้ำจินตนาการใครหน้าไหนทั้งสิ้นไม่มีใครรับรู้ถึงต้นสายปลายกำเนิดของเสียงโหยหวนทุกข์ทรมานครั้งนี้
รู้เพียงแค่ว่าหากรับฟังมันเข้าไปเมื่อไหร่ต่อให้อยากลืมเลือนไม่อยากจดจำยังไงก็ไม่อาจต้านทาน
ต้องหวนจดจำมันไปชั่วชีวิต
“…” ขณะคนผู้หนึ่งกำลังพังทลายกลายเป็นบ้า
มีอีกหนึ่งกำลังหัวเราะเบาบางเฝ้าจับจ้องมองไม่ปล่อยผ่านจับจ้องมองทุกกระบวนการตั้งแต่ต้นจนจบ
ทราเวียร์พยักหน้าชอบใจ
“นั่นแหละครับ”
“คือความกลัว”
“ความกลัวที่มาจากรากฐานสัญชาตญาณดิบความกลัวที่เหนือกว่าหลักเหตุและผลจะหาคำตอบได้”
ทิ้งช่วงไปนานหลายนาทีก่อนซุ่มเสียงทั้งหมดจะจางหายพร้อมร่างหนึ่งนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้น
มีลมหายใจเข้าออกแต่ปราศจากจิตใจ
“…” ทราเวียร์เดินขยับเข้าไปใกล้
ก่อนก้มหน้ามองมัน
“ดูคุณในตอนนี้สิครับ”
“ราวกับซากศพมีชีวิต”
“อยู่ก็เหมือนไม่อยู่”
“ตายก็เหมือนไม่ตาย”
“เป็นเพียงของเล่นพังทลายใช้งานใช้การไม่ได้”
“…นอกเหนือจากนั้นก็ไม่มีคุณค่าอะไรให้น่าจดใจ”
หากมันไม่เข้ามายุ่งวุ่นวายกับตนเรื่องแบบนี้ก็คงไม่เกิดขึ้นคงไม่ต้องมาพานพบเจอจุดจบเช่นนี้
ทราเวียร์ยิ้มเฉยเมยไม่มีอารมณ์เข้ามายุ่งเกี่ยว
…‘ถ้าจะโทษใครสักคนก็โทษตัวเองเถอะ’
“…”
“คิดจะทำอะไรต่อ?”
ไอรีนเดินมาอยู่เคียงข้างกายหล่อนถอนหายใจเหนื่อยหน่ายขณะจับจ้องมองหัวหน้าผมแดง
สภาพแตกสลายไม่ว่าจะมองมันกี่ครั้งก็ยังชวนให้รู้สึกหดหู่เหลือเกินแต่นั่นไม่ได้หมายความว่าหล่อนจะปล่อยผ่าน
ในเมื่อมันหาเรื่องใส่ตัวเองผลลัพธ์เฉกเช่นนี้ล้วนแล้วแต่สมเหตุสมผลทั้งนั้น
ทราเวียร์นิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง
“…” ก่อนตอบกลับมา
“อยากจะเก็บกวาดอยู่เหมือนกันแต่”
“แต่?”
“ปล่อยเอาไว้ดีกว่า”
“พวกมันยังมีประโยชน์อยู่”
“สภาพจิตใจแตกสลายแบบนี้ยังมีประโยชน์อยู่อีกเหรอ?”
“มีสิมีมากด้วยสำหรับผมด้วย”
“…” ไอรีนขมวดคิ้วแน่น
หือออออ!!
“…” เป็นเสียงโทรศัพท์ของหัวหน้าผมแดง
ชายหนุ่มสวมแว่นเพียงเหลือบมองหนึ่งครั้งก่อนบอกให้ไอรีนหยิบมันขึ้นมาหยิบมาจากพื้นดิน
“หยิบโทรศัพท์มาให้ผมหน่อยครับ?”
“…นี่ค่ะ”
รายชื่อที่ปรากฎบนหน้าจอโทรศัพท์ทำเอารอยยิ้มฉีกกว้างขยับขยายมากขึ้นไปอีกหลายเท่าตัว
ทราเวียร์ยื่นหน้าจอโทรศัพท์ให้อีกฝ่ายดู
“ว้าว~ ดูสิครับ”
“ลูกพี่สุดที่รักของคุณโทรมาด้วยละ”
“ช่างเป็นลูกพี่ที่ดีเหลือเกิน”
และเมื่อเขากดรับสายจากอีกฝ่ายเสียงตวาดมากไปด้วยอารมณ์ก็ดังสวนออกมาทันที
ดังออกมาชนิดที่ว่ากดลดเสียงแทบไม่ทัน
“ผู้หญิงที่แกบอกอยู่ไหน?!”
“…” แววตาไอรีนหรี่ลง