จักรพรรดิมังกร – ตอนที่ 154 ถ้าไม่พอใจมาหาฉันได้เลย

บทที่154 ถ้าไม่พอใจมาหาฉันได้เลย

กู้หยุนหลันเคยได้ยินเรื่องหลูหมิงเซิง ซึ่งเป็นเจ้าแห่งการเอาเปรียบคนอื่น

“จุดสนใจของคุณไม่ควรเป็นเรื่องที่แม่ของเราถูกทำร้าย?”

หลี่โม่ถามด้วยความสงสัย

กู้หยุนหลันกลอกตา และพูดด้วยความโกรธ: “ถ้าหากฉันสนใจจุดที่คุณพูดจริงแล้วไง?คุณกำลังบ่นเกี่ยวกับแม่ของฉันที่ช่วยเหลือฮั่วเจี้ยนเฟิงอย่างงั้นหรอ หรือจะให้เกลียดคุณที่ดูแลแม่ของฉันไม่ดี”

เรื่องที่หวังฟางโดนตบหน้า กู้หยุนหลันจงใจแสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน แต่หลี่โม่กลับยกมันขึ้นมาพูดอย่างไม่ฉลาด

ไม่ว่าจะลำเอียงต่อคนไหน กู้หยุนหลันก็จะรู้สึกไม่สบายใจอยู่ดี

หลี่โม่เกาหัวอย่างเบาๆ รู้สึกราวกับว่าเขาพูดอะไรผิดอีกครั้ง

“อ๋อ จริงๆแล้วเป็นเพราะผมไม่รู้ตัว เมื่อผมรู้ตัวอีกทีมันก็สายไปแล้ว”

หลี่โม่อธิบายด้วยเสียงเบา

กู้หยุนหลันเหลือบมองไปที่หลี่โม่ โดยเห็นรูปลักษณ์ของหลี่โม่ ก็อดหัวเราะไม่ได้

“อย่าอธิบายเลย ยิ่งคุณอธิบายมากเท่าไหร่มันก็ยิ่งแย่ลงเท่านั้น มาพูดถึงเรื่องที่คุณทำสำเร็จได้อย่างไงเถอะ ไม่รู้ว่าคุณมีความสามารถที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้มาก่อน”

“ไม่ใช่ว่าผมเก่ง แต่เป็นเพราะผมเสือปลอมจิ้งจอกต่างหาก และใช้ชื่อเสียงของเพื่อนร่วมชั้นทำให้หลูหมิงเซิงหวาดกลัว”

หลี่โม่อธิบาย

กู้หยุนหลันเงียบไปชั่วขณะ และพูดอย่างเบาๆ:“วันหลังคุณไม่ต้องพยายามแสดงตัวช่วยถึงขณะนี้ก็ได้ หากว่าคุณต้องการช่วยคุณก็ช่วยอย่างลับๆ ไม่เช่นนั้นคุณทำความดีช่วยเหลือบางคน จะทำให้อีกคนขุ่นเคืองและบ่นเอาได้ ”

ตัวอย่างของการที่เราทำความดีช่วยเหลือผู้อื่นแต่กลับกลายเป็นศัตรูกันทีหลังนั้นมันไม่ดีนัก ตำแหน่งของหลี่โม่อยู่ในครอบครัวนั้นค่อนข้างน่าอึดอัดอยู่แล้ว หากมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก กลัวว่าหลังจากกลับบ้านแล้วหวังฟางจะต้องโวยวายแน่ ๆ

กู้หยุนหลันรู้สึกปวดหัวเมื่อเขาคิดถึงความต้องการของหวังฟางที่จะให้ตัวเองหย่ากับหลี่โม่

หลี่โม่ย่อตัวลงและพิงพนักเก้าอี้ และพูดด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่าย: “ผมเข้าใจแล้ว ผมก็ไม่มีอะไรน่าโชร์อยู่แล้ว ต่อไปนี้ผมจะดูแลตัวเองให้ดีก็พอ”

เมื่อเห็นความหดหู่ของหลี่โม่แล้ว กู้หยุนหลันก็ไม่ได้พูดอะไรอีก ในรถก็เงียบลง

ไม่นาน รถคันดังกล่าวก็ขับมาถึงประตูโรงงานวัตถุดิบ

เมื่อเห็นชายหนุ่มจำนวนมากนั่งยองๆอยู่ที่ทางเข้าโรงงาน กู้หยุนหลันก็ขมวดคิ้วและพึมพำ: “คนพวกนี้เป็นอะไร ทำไมพวกเขาถึงขวางตรงทางเข้าโรงงาน”

หลี่โม่เหลือบมองไปที่คนที่ขวางประตู และพูดด้วยเสียงเยาะเย้ยว่า: “ฉันกลัวว่าการหยุดการผลิตที่โรงงานวัตถุดิบไม่ใช่เรื่องธรรมดา อาจจะมีคนทำเรื่องเลวร้ายอยู่เบื้องหลัง”

“คุณดูหนังเยอะไปแล้ว ใครจะทำเรื่องผิดศีลธรรมแบบนี้ มาดูว่าเกิดอะไรขึ้นกับฉันก่อน”

กู้หยุนหลันกล่าว

หลี่โม่รีบลงจากรถ และยืนข้างของกู้หยุนหลันเพื่อปกป้องเธอ และเดินไปที่กลุ่มชายหนุ่มที่บ้าคลั่ง

ผู้ชายหลายสิบคนกำลังจ้องมองไปที่กู้หยุนหลันด้วยดวงตาที่ลุกโชนในขณะนี้น้ำลายของพวกเขาเกือบไหลออกมาจากปาก

“เชี่ย ยัยนี้สวยมากสวยกว่าดาราในหนังด้วยซ้ำ”

“ถ้าฉันได้นอนกับผู้หญิงสวยๆแบบนี้สักคืนละก็ ให้ฉันชีวิตน้อยไปสิบปีฉันก็เต็มใจ”

“นี่ไม่ใช่โอกาสดีเหรอ พวกเราอยู่ที่นี่เพื่อปิดกั้นประตูและสร้างปัญหา หากสาวสวยคนนั้นเดินเข้ามา เป็นจังหวะที่ดีในการฉวยโอกาสเธอ”

ดวงตาของเด็กหนุ่มกลุ่มนั้นสว่างขึ้นทันที และเฮียหู่ที่เป็นหัวหน้าก็พ่นบุหรี่ที่เหลือเพียงครึ่งหนึ่งบนปากออก เขายิ้มและพูดว่า: “พี่น้องทั้งหลายกำลังทำงาน มีหญิงสวยงามเข้ามาปลอบโยนพวกเรา ทุกคนมาร่วมสุขด้วยกันเถอะ”

“เฮียหู่เปิดตากว้าง พวกเราจับผู้ชายคนนั้นไว้ เฮียหู่จะสนุกกับผู้หญิงสวย คนนี้ก่อน แล้วพวกเราคอยเรียงคิวกันทีหลัง”

“ฮ่าฮ่าฮ่า”

เฮียหู่ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ สายตาของเขาเต็มไปด้อยความลามก และเดินผยองเข้าหากู้หยุนหลันเรื่อยๆ

กู้หยุนหลันหยุดเดิน รู้สึกว่าคนเหล่านี้รวมทั้งเฮียหู่มีเจตนาที่ไม่ดี และทันใดนั้นก็รู้สึกตื่นตระหนกเล็กน้อยในใจ

หลี่โม่ก้าวไปยืนตรงหน้าของกู้หยุนหลัน และกระซิบว่า: “ฉันอยู่ที่นี่ไม่ต้องกลัว”

กู้หยุนหลันรู้สึกปลอดภัยในใจ และความรู้สึกที่ได้รับการปกป้องนั้นดีมาก

แต่เมื่อมองไปที่ผู้คนนับสิบที่ฝั่งตรงข้าม และมองหลี่โม่ที่อยู่ตรงหน้าเขาเพียงคนเดียว ดูยังไงก็รู้สึกว่ามันไม่มั่นคงพอ

“คุณระวังตัวด้วย ถ้าพวกเขาอยากทำร้ายเรา ก็รีบวิ่งกันเถอะ”

กู้หยุนหลันเตือน

“ถ้าพวกเขาเริ่มลงมือ คุณวิ่งไปก่อน ผมอยู่ทีหลัง”

หลี่โม่หันหัวและยิ้มเยาะ

กู้หยุนหลันรู้สึกอบอุ่นในใจ และชั่วขณะหนึ่งเขารู้สึกว่าในที่สุดหลี่โม่ก็ไม่ไร้ประโยชน์ขนาดนั้น อย่างน้อยช่วงเวลาสำคัญเขาเป็นลูกผู้ชายพอ

เฮียหู่มองไปที่หลี่โม่ด้วยหางตา และพูดด้วยเสียงขู่: “ไอ้น้อง ฉันจะให้เวลาแกสิบวินาทีเพื่อให้แกไสหัวออกไปจากที่นี่ ไม่งั้นอย่าหาว่าเราไม่เกรงในนะ”

“คุณเป็นใครและทำไมคุณถึงมาขวางประตูที่นี่”

กู้หยุนหลันที่ยืนอยู่ด้านหลังหลี่โม่ได้ถามขึ้น

“ผมเป็นพี่ใหญ่ในถิ่นนี้เรื่องนี้ โรงงานของคุณไม่ได้จ่ายค่าที่ปรึกษาด้านความปลอดภัยให้ผม ซึ่งแน่นอนผมต้องพาพี่ลูกน้องของผมมาเรียกเก็บเงินตามปกติอยู่แล้ว แต่ถ้าคุณมานอนกับพวกเรา ก็สามารถงดค่าที่ปรึกษาทั้งหมดได้ พวกเราว่าใช่ไหม? ”

เฮียหู่หัวเราะ

“เฮียหู่พูดถูก ขอแค่คุณคนสวยไปกับเรา ก็ไม่ต้องจ่ายค่าที่ปรึกษาสักบาทเลย”

“อย่าบอกว่าฟรีค่าที่ปรึกษาเลย เรายังสามารถให้คนสวยกินดีอยู่ และใช้ชีวิตแบบเหนือกว่าคนอื่นได้”

เฮียหู่และคนอื่นๆต่างก็กระตือรือร้นมาก และในขณะนี้พวกเขากำลังคิดที่จะดึงกู้หยุนหลันออกไปเพื่อเสวยสุข

“ไอ้ทุเรศ!”

กู้หยุนหลันตะโกนและสาปแช่งด้วยความโกรธ:“อย่าพูดคำหยาบคายที่นี่ ถ้าพวกแกยังไม่ออกไปอีก ฉันจะโทรไปให้แผนกที่เกี่ยวข้องมาละนะ”

“โอ้ ผมกลัวมากเลย คนสวย คุณคิดว่าพวกเขาจะอยู่เฮียหู่ได้ไหม ผมกล้าเข้ามาก็เพราะไม่กลัวแน่นอน”

พูดจบเฮียหู่ได้จ้องไปที่หลี่โม่ ดูแล้วก็รู้สึกว่าหลี่โม่ขวางหูขวางตาพวกเขา

“ไอ้สารเลว คุณไม่ได้ยินที่ฉันพูดเหรอ สิบวินาทีผ่านไปแล้ว ถ้าคุณยังไม่ออกอีก กูจะทุบตีมึงจนพ่อแท้ยังจำหน้ามึงไม่ได้เลย!”

เมื่อเฮียหู่กำลังพูดอยู่ ชายหลายคนก็ได้เข้ามาล้อมหลี่โม่แล้ว ในท่าทางที่หากขัดขืนแม้แต่น้อยก็จะลงมือทุบตีทันที

“ให้โอกาสพวกแกอีกครั้ง ออกไปภายในสิบวินาที”

หลี่โม่กล่าวอย่างเย็นชา

เฮียหู่หัวเราะกับคำพูดของหลี่โม่ และตะโกนเสียงดัง: “ไป! ชายคนนั้นตีให้พิการ และผู้หญิงกูจับตัวไป!”

“ไว้! หลี่โม่วิ่งเร็ว!”

กู้หยุนหลันกรีดร้อง และถอยห่างออกไปด้วยความตื่นตระหนก

กู้หยุนหลันถอยหลังไปสองก้าว แต่ก็ตกตะลึงทันที เพราะหลี่โม่พุ่งเข้าไปที่กลุ่มของเฮียหู่แล้ว

กลุ่มพวกเฮียหู่เป็นกลุ่มคนพาลข้างถนน แทบไม่มีประสบการณ์ต่อสู้อย่างจริงจังเลยด้วยซ้ำ แต่มักจะกลั่นแกล้งคนไม่มีทางสู้เพราะจำนวนคนที่เยอะกว่าเท่านั้น จะเป็นคู่ต่อสู้ของหลี่โม่ได้อย่างไร

หลี่โม่เหมือนเสือที่พุ่งเข้าฝูงแกะ และเขาก็ทำร้ายเฮียหู่และคนอื่นๆอย่างไม่ยั้งมือ เมื่อเห็นว่าเขาไม่มีความสามารถที่จะต้านทานได้ ทันใดนั้นเขาก็เข้าใจว่าคนเหล่านี้มีพลังในการต่อสู้แค่ระดับที่ห้าเท่านั้น

หากเป็นพวกนักเลงที่กล้าจริง จะต้องมีตัวที่โหดเหี้ยมที่จะรีบออกไปฆ่าหลี่โม่แน่ และถ่วงเวลาให้ที่เหลือล้อมเข้าโจมตีได้

หลังจากที่ลูกน้องของเฮียหู่เห็นความโหดร้ายของหลี่โม่ คนที่อยู่รอบนอกก็เริ่มหนีไป!

หลังจากที่หลี่โม่โช๊คล้มลงไปสองสามคน แล้วเขาก็รีบวิ่งไปตรงหน้าของเฮียหู่ ทันใดนั้นเฮียหู่ก็หน้าซีดและตะโกนด้วยความกลัว: “อย่านะ! มีอะไรก็คุยกันดีๆได้”

ตูม!

หมัดของหลี่โม่เข้ามาแทนที่คำพูด และบอกกับเฮียหู่ได้รู้ถึงสิ่งที่เรียกว่าความจริงที่โหดเหี้ยม

เฮียหู่ที่รู้สึกเจ็บจมูกและปวดหัว โยกหัวกุมรูจมูกที่มีเลือดออก รู้สึกแย่ไปทั้งตัว

“ให้เวลาพวกแกสิบวินาทีไสหัวออกไปซะ บอกคนที่สั่งงานพวกแก ถ้าไม่พอใจก็มาหาฉันหลี่ได้เลย!”

หลี่โม่กล่าวอย่างเยือกเย็นราวกับเทพปีศาจที่เย็นชา!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset