ซ่อน | รัก | ลับ – ตอนที่ 67 โกรธจนหน้าแดง

หลังจากวางสายจี้ซูก็นอนไม่หลับ

โดนปลุกมากลางดึกแบบนี้ ใครจะหลับลงได้อีก เธอนอนพลิกไปพลิกมาอยู่สักพัก จากนั้นก็ทนไม่ไหว ลุกจากเตียง เปลี่ยนเสื้อผ้าและเดินออกจากตึก

เป็นเวลาตีสองแล้ว

หิมะก็หยุดตกเรียบร้อยแล้ว แต่อากาศยังคงเย็นอยู่ เธอหยิบเสื้อคลุมหนาๆใส่ และเดินไปทางตึกเหนือ เพื่อไปดูว่าจี้ผิงโจวกับเหอเจิงเป็นอะไรกันแน่

เธอค่อยๆเดินไป พร้อมกับกระชับผ้าพันคอและเสื้อคลุมให้แน่นกระชับ แต่ก็ยังรู้สึกหนาวอยู่ ในตระกูลจี้ ถือได้ว่าเธอคือคนที่สุขภาพแข็งแรงที่สุดแล้ว

ในที่สุดเธอก็เดินมาถึงตึกเหนือ

เท้าของเธอชาไปหมด ทันใดนั้นก็เห็นรถของจี้ผิงโจวเพิ่งสตาร์ทเครื่อง

จี้ซูเห็นดังนั้นก็รีบวิ่งเข้าไป จากนั้นก็ยื่นหน้าไปตรงกระจกฝั่งคนขับ ก็เห็นเป๋ยเจี่ยนนั่งอยู่

ดึกขนาดนี้แล้ว

เขายังอยู่นี่อีก

จี้ซูเคาะกระจก

จากนั้นเป๋ยเจี่ยนก็ค่อยๆกดเลื่อนกระจกลง “คุณหนู ดึกขนาดนี้ทำไมมาอยู่ที่นี่ได้ครับ แถมยังใส่น้อยขนาดนี้อีก”

ถึงแม้หิมะจะหยุดตกแล้ว

แต่ช่วงที่หิมะละลาย ก็ทำให้หนาวมากเช่นกัน

ตรงกลางระหว่างที่พวกเขาคุยกันมีแต่ควันขาวๆ ทำให้มองเห็นหน้าของอีกฝ่ายไม่ชัดเท่าไหร่

ท่าทางสบายๆของจี้ซูดูเหมือนไม่ใช่คนของตระกูลจี้ เธอยืนเท้าของกระจก พูดไปขำไปว่า “ก็พอได้นะ ฉันโดนพี่โทรกวน แล้วนอนไม่หลับ ก็เลยออกมาเดินเล่น แล้วนายล่ะ คงไม่ใช่ว่าทุกวันตอนตีสองจะต้องมารอพี่ฉันหรอกนะ?”

“จะเป็นไปได้อย่างไรครับ” เป๋ยเจี่ยนไม่ทำเรื่องไร้สาระแบบนี้แน่นอน “ผมกำลังจะนอน และคิดได้ว่าคุณโจวน่าจะไม่ได้เอารถเข้าโรงจอด เลยออกมาดู แล้วพอดี ก็เห็นว่าเขาไม่ได้เอาเข้าจริงๆ เลยกำลังจะขับไปเก็บครับ”

“ชั้นใต้ดินเหรอ?”

“ครับ”

จี้ซูจำได้ว่า ชั้นใต้ดินถูกออกมาให้เป็นที่จอดรถ และห้องดูหนัง ถ้าคิดไม่ผิดละก็ เหอเจิงกับจี้ผิงโจวน่าอยู่ที่นั่น

จากนั้นเธอก็ตบด้วยความตื่นเต้น “เป๋ยเจี่ยนๆ ปลดล็อครถ ฉันก็จะเข้าไปด้วย”

เป๋ยเจี่ยนไม่เข้าใจ “เข้าไป?”

“นายไปกับฉัน ไปดูอะไรสนุกๆ”

จากนั้นเขาก็พาจี้ซูเข้าไปชั้นใต้ดินด้วยอย่างงงๆ

ข้างในมืดมาก และเป็นกระจกทั้งหมด ทางที่จะไปห้องดูหนังก็ค่อนข้างไกล เพราะฉะนั้นแล้วยืนอยู่ตรงจึงไม่ได้ยินอะไรเลย

เมื่อจอดรถเสร็จ จี้ซูก็เอามือมาวางข้างหูเป๋ยเจี่ยน จากนั้นก็กระซิบว่า “พวกเราไปดูกัน”

เป๋ยเจี่ยนมองไปแบบงงๆ “ดูหนังเหรอครับ?ฎ

“มีอะไรสนุกๆกว่าดูหนังอีก”

จากนั้นเธอก็ค่อยๆเดินไปทางห้องดูหนัง

เธอหยุดอยู่หน้าประตู จากนั้นค่อยๆย่อตัวลง และแง้มประตูแอบดูข้างใน ก็เห็นคนสองคนกำลังอิงอยู่

ห้องดูหนังแห่งนี้มีขนาดไม่เล็กมาก และไม่ใหญ่มาก สามารถบรรจุคนได้อย่างมากที่สุดสิบคน แต่ตั้งแต่ที่ห้องนี้สร้างเสร็จ นอกเหนือจากจี้ผิงโจวกับเหอเจิงแล้ว ก็ไม่มีใครเคยเข้ามาใช้

ไฟของดวงดาวท้องฟ้าจำลอง ส่องกระทบลงมาที่ใบหน้าของเหอเจิงและจี้ผิงโจว

ไม่รู้ว่าทั้งสองเปิดหนังอะไร

แต่เสียงประกอบค่อนข้างแปลก จนทำให้บรรยากาศค่อนข้างวังเวง ทั้งสองนั่งใกล้กันมาก แต่ก็ไม่ได้คุยอะไรกัน

เหอเจิงนั่งหลบมุมกอดเข่าอยู่ จี้ผิงโจวเองก็นั่งข้างๆเธอ สีหน้าไร้อารมณ์ และกำลังจ้องมองไปที่จอข้างหน้า

ดูๆแล้วทั้งสองเหมือนไม่ได้ทะเลาะกันเท่าไหร่

ในหนังมีนักแสดงสาวพูดสำเนียงกวางตุ้งอยู่

จี้ซูอ่านไม่ออกสักคำ เธอตั้งใจดูจนไม่ทันสังเกตว่า เป๋ยเจี่ยนเองก็โน้มตัวลงมา จนคางของเขาอยู่ใกล้หัวของเธอมาก “ดูอะไรเหรอครับ ทำไมไม่เข้าไปล่ะ?”

เขาพูดไม่ดังมาก

จี้ซูชี้นิ้วไปข้างใน “พี่ฉัน กับเหอเจิง”

“ทำไมพวกเขาอยู่ที่นี่ล่ะครับ?”

“ทะเลาะกันน่ะซิ”

“ทะเลาะกันแล้วทำไมอยู่ที่นี่?”

“ทำไมนายถามมากแบบนี้อะ?” เธอรำคาญนิดหน่อย “นายเชื่อไหม ไม่เกินสามนาทีพวกเขาจะทะเลาะกันอีก”

พูดแบบนี้ได้ เพราะเธอค่อนข้างเข้าใจทั้งสองดี

เป๋ยเจี่ยนไม่ได้แสดงท่าทีปฏิเสธใดๆ จากนั้นทั้งสองก็เฝ้ามองคนในห้องต่อ

ผ่านไปสองนาที

หนังใกล้จบแล้ว นักแสดงสาวกำลังร้องไห้อย่างหนัก ขณะเดียวกันจี้ผิงโจวก็ลุกขึ้น เดินไปหยิบรีโมทเพื่อจะปิดทีวี เหอเจิงพูดเสียงเย็นชาขึ้นมาว่า “อย่าปิด”

จี้ผิงโจวชะงักมือ

และก็โดนแย่งรีโมทไป

ทั้งสองยื้อแย่งกัน จี้ซูที่เฝ้าดูสถานการณ์อยู่ก็นับออกมาว่า “สาม สอง หนึ่ง”

เมื่อเสียงนับหนึ่งจบลง เสียงทะเลาะในห้องก็ดังขึ้น จี้ผิงโจวตวาดลั่นว่า “ฉันบอกให้ขึ้นไปนอน ไม่ต้องดูแล้ว”

เหอเจิงเงยหน้ามองอย่างไร้ความรู้สึก “ฉันอยากดู”

“เธอจะไม่นอนใช่ไหม?”

“ไม่นอน”

จี้ผิงโจวโกรธจัด คิดจะสั่งสอนคนที่เชื่อฟังเขา เขาเอื้อมไปแย่งรีโมทมา จากนั้นก็ปาเข้ากำแพงอย่างเต็มแรง จนรีโมทแตกกระจาย

จนทำให้จี้ซูเองก็ตกใจ เป๋ยเจี่ยนก้มหน้ามองเธอ และบอกว่า “กลัวแล้วยังมาแอบดูอีกเหรอครับ?”

“ใครจะรู้ว่าเขาจะคลั่งขนาดนี้ล่ะ”

ของแตกกระจายข้างหน้า แต่เหอเจิงกลับไม่แสดงความรู้สึกใดๆ จากนั้นเธอก็ดึงผ้าห่มมาคลุมหน้าคลุมตัวเธอไว้

“อยากเป็นเต่าหรือไง? ถึงได้ชอบแอบไปหลบในกระดอง”

จี้ซูได้ยินดังนั้นแทบจะกลั้นขำไว้ไม่อยู่ รีบเอามือมาปิดปากตัวเองไว้ จากนั้นก็ใช้ศอกกระทุ้งเป๋ยเจี่ยนเบาๆ และบอกว่า “พี่ชายฉันติ๊งต๊องใช่ไหม โดนภรรยาตัวเองทำให้โกรธจนหน้าแดงขนาดนี้แต่ก็ด่าอะไรมากไม่ได้ เอาแต่บอกว่าคนอื่นเป็นเต่า”

“เบาๆหน่อยครับ เดี๋ยวโดนจับได้”

จี้ซูเงยหน้า และยิ้ม “เป๋ยเจี่ยน คิดไม่ถึงเลยนะว่านายเองก็ชอบดูเขาสองคนเถียงกัน”

เขาโดนลากมาด้วยต่างหาก

ไม่อยากดูก็ต้องดูแล้วแหละ

เมื่อจี้ผิงโจวด่าเสร็จ ก็เห็นก้อนผ้าห่มของเหอเจิงสั่นเล็กน้อย ก่อนที่เธอจะดีดตัวลุกขึ้นมานั่ง จากนั้นพูดว่า

“คุณซิเต่า ทั้งบ้านคุณคือเต่า”

ไร้สาระพอๆกัน

จี้ซูปาดเหงื่อเล็กน้อย ก่อนจะตอบว่า “พวกเขานี่คู่กันจริงๆ เรื่องเล็กๆยังทะเลาะกันใหญ่โตได้”

เอ แต่ทำไมว่ามาถึงเธอล่ะ

จี้ผิงโจวได้ยินที่เหอเจิงพูด ก็กอดอกและค่อยๆเดินไปหาเธอ จากนั้นถามว่า “ฉันถามอีกครั้งนะว่า จะขึ้นไปนอนไหม”

“ไม่ไป!”

“แน่ใจ?”

“แน่ใจ”

ทันใดนั้นจี้ผิงโจวก็ดึงผ้าห่มขึ้น จนทำให้เท้าของเหอเจิงลอยขึ้น เวลานั้นเองจี้ผิงโจวก็รีบเข้าไปประคองเอวและไหล่เธอไว้ จากนั้นก็อุ้มเธอขึ้นมา เหอเจิงดิ้นไม่หยุด

จากนั้นเธอก็พูดว่า “กลับไปที่ของคุณซะ!”

จี้ผิงโจวไม่ได้สนใจที่เธอกำลังเดือดดาล เขาจัดการปิดหนังและ ตรวจสอบความเรียบร้อย

เป๋ยเจี่ยนเดาได้ว่าจะเกิดอะไรต่อ

เขาจึงดึงมือของจี้ซูและรีบวิ่งออกไป

ซ่อน | รัก | ลับ

ซ่อน | รัก | ลับ

ฟางเหอเจิงแต่งงานกับจี้ผิงโจวในฐานะลูกสาวนอกกฎหมายของตระกูลฟาง เธอถ่อมตัวต่อหน้าเขา เธอเก็บความรู้สึกทุกอย่างได้จนสามารถกินข้าวร่วมโต๊ะเดียวกันกับคนรักของเขาได้ ระยะเวลาสามปีเต็ม ไม่มีใครเคยเห็นฟางเหอเจิงอิจฉาและเสียอารมณ์ จนกระทั้งมีการเปิดเผยข้อตกลงการหย่าร้างต่อสาธารณะ ไม่มีใครรู้เลยว่าฟางเหอเจิงรักใครอีกคน ในคืนแรกของการแต่งงานเธอจูบดวงตาของเขา เรื่องที่ฟางเหอเจิงแต่งงานกับเขา มีคนถามว่าเธอรัก ฟางเหอเจิงแต่งงานกับเพราะอะไร? เธอตอบว่าเพราะดวงตาเขา เธอรักดวงตาของเขาเท่านั้น ..

Comment

Options

not work with dark mode
Reset