ตอนที่ 264 รักหล่อนให้มาก ๆ

บทที่ 264 รักหล่อนให้มาก ๆ

คนทั้งคู่ไม่ได้เห็นหน้ากันมาแสนนานและพวกเขาก็ได้มาเจอกันอีกครั้ง ยังมีอะไรต้องพูดอีกล่ะ?

ทั้งสองย่อมแสดงความใกล้ชิดสนิทสนมกันอยู่แล้ว

หลังสงบเงียบต่อกันแล้ว พวกเขาก็ไม่ลังเลที่จะอยู่ในความร้อนรุ่มและชุ่มโชกไปด้วยเหงื่อ

“ฉันวางแผนจะกลับไปหลังวันหยุดเดือนหน้ามาถึงน่ะค่ะ” หลินชิงเหอเอ่ย

วันเวลาในมหาวิทยาลัยผ่านไปเร็วมาก ชั่วพริบตาเดียวก็ถึงเดือนมิถุนายน ซึ่งช่วงวันหยุดอยู่ในเดือนกรกฎาคมเหลืออีก 1 เดือนเท่านั้น

“งั้นเดือนหน้าคุณก็กลับบ้านเถอะ” โจวชิงไป๋เอ่ยขณะสวมกอดเธอไว้

หลินชิงเหอรู้ว่าเขาคิดถึงเธอ ไม่อย่างนั้นคงไม่รีบมาที่นี่แบบนี้หรอก ตอนนี้เธออารมณ์ดีมากอย่างเห็นได้ชัด

“ที่บ้านเป็นปกติดีไหมคะ?” หลินชิงเหอพูดต่อ

“ทุกอย่างเรียบร้อยดี คุณไม่ต้องกังวลนะ” โจวชิงไป๋ตอบ

ตอนนี้กฎระเบียบต่าง ๆ ผ่อนคลายมากขึ้นเรื่อย ๆ อย่างเช่นในปีนี้คนหลายคนในบ้านเกิดของพวกเขาสามารถเลี้ยงเป็ดไก่เป็นจำนวนมากได้แล้ว ซึ่งสิ่งเหล่านี้ยังไม่เป็นระเบียบเรียบร้อยนัก แต่ในไม่ช้าก็จะมีนโยบายที่ดีกว่านี้ออกมา

“คุณไม่ต้องเป็นห่วงแม่ลูกทางนี้หรอกค่ะ” หลินชิงเหอบอก

“ผมเป็นห่วงนี่” โจวชิงไป๋พูด

หลินชิงเหอเงยหน้าขึ้นมองดูเขา และสบกับสายตาอ่อนโยนสุดขีดของโจวชิงไป๋ที่ทอดมองมา หญิงสาวยื่นหน้าไปจูบเขา “คุณได้พักผ่อนพอไหมคะ?”

ได้ยินดังนี้แล้ว โจวชิงไป๋ก็เข้าใจว่ามันหมายความว่าอย่างไร

ทั้งคู่อยู่ในบ้านพักรับรองจนกระทั่งถึงเย็น จากนั้นก็ออกไปกินอาหารเย็นด้วยกันและเดินเล่นรอบเมืองก่อนกลับมาที่บ้านพัก

เช้าตรู่วันพรุ่งนี้เอง โจวชิงไป๋ก็ต้องกลับบ้าน หลินชิงเหอจึงไปส่งเขาและให้ซาลาเปาลูกใหญ่ไปหลายลูกเพื่อให้เขากินตอนระหว่างเดินทาง ทั้งคู่เอ่ยอำลากันด้วยท่าทางอิดออด และตอนที่รถไฟกำลังจะออกจากชานชาลานั่นเอง โจวชิงไป๋ถึงได้ก้าวขึ้นรถ

หลินชิงเหอกลับมาด้วยตัวคนเดียว

โจวข่ายรออยู่นานแล้ว เมื่อเห็นแม่เดินกลับมา เขาก็เดินเข้ามาหาทันที

“แม่ เมื่อวานนี้พ่อไม่ได้มาหาเหรอครับ?” โจวข่ายเอ่ยถามรัวเร็ว

เมื่อวานนี้ตอนที่เขากลับมาถึง เขาก็ได้ยินเพื่อนร่วมชั้นบอกว่ามีคนมาพบแม่ของเขา เขาจึงรีบถามยามรักษาการณ์ที่เฝ้าประตูในทันที

จากนั้นเขาก็รู้ว่ามีผู้ชายคนหนึ่งมาหาแม่ของเขา เมื่อฟังรูปพรรณสัณฐานที่คุณลุงเล่าให้ฟัง นอกจากพ่อของเขาแล้วจะเป็นใครได้อีก?

ตามความคิดของโจวข่าย ในเมื่อพ่อของเขามาแล้วก็ควรจะมีการรวมตัวกัน

จากนั้นก็ต้องพากันไปกินอาหารในภัตตาคารใหญ่

แต่ใครจะรู้ล่ะว่าพ่อกับแม่ของเขาออกไปกันเองสองคนและไม่รอเขาเลยสักนิด

“เขา” หลินชิงเหอไม่ได้จดจำว่าเธอยังมีลูกชายอีกคนหนึ่งจนกระทั่งถึงตอนนี้ เธอบอกเขากลับไปว่า “พ่อของลูกกลับไปแล้วน่ะ”

โจวข่ายได้ยินก็เอ่ยขึ้น “ผมว่าแล้ว พ่อกับแม่ต้องลืมผมไปแล้วแน่ ๆ!”

“รีบเข้าเรียนเร็ว” หลินชิงเหอโบกมือไล่จากนั้นก็กลับไปที่หอพัก

หวังลี่อยู่ที่หอคนเดียว คนอื่น ๆ ไปเรียนกันหมด มีเพียงหวังลี่เท่านั้นที่ว่าง เมื่อหล่อนเห็นหลินชิงเหอกลับมา หล่อนก็รีบเอ่ยล้อเลียนสิ่งที่หลินชิงเหอเคยพูดล้อเมื่อก่อนหน้านี้ “โอ้ ใต้ตาเธอมีรอยคล้ำด้วยล่ะ เมื่อคืนนี้เธอคงยุ่งมากสินะ”

“ไม่มากหรอก แค่ 7 ครั้งเอง” หลินชิงเหอบอก

“ 7 ครั้ง?” หวังลี่เกือบจะสำลักน้ำลายตาย นี่มันทรงพลังเกินไปแล้ว

หลินชิงเหอยังมีท่าทางสงบนิ่งและเปิดหนังสืออ่านทบทวนความรู้ หวังลี่มองเธอจากนั้นจึงเอ่ยขึ้น “เธอไม่พักผ่อนบ้างเหรอ?”

“ฉันไม่เหนื่อยหรอก ทำแล้วมีความสุขดี” หลินชิงเหอยังคงทำตัวก๋ากั่น

หวังลี่ระเบิดหัวเราะทันที “เธอนี่น่าไม่อายเลย”

“เราเป็นเพื่อนสนิทกันนี่” หลินชิงเหอไม่ถือสาแต่อย่างใด

ที่ว่า 7 ครั้งในคืนนั้นแน่นอนว่าเธอพูดโม้ แต่ถึงอย่างนั้นหลินชิงเหอก็ไม่แปลกใจถ้าโจวชิงไป๋จะมีความสามารถขนาดนั้น

แต่เขาเดินทางมาโดยไม่หยุดพัก พวกเขาไม่อาจมีกะจิตกะใจทำเรื่องนี้แค่เรื่องเดียวหรอก

เป็นแค่อารมณ์พาไปเท่านั้นเอง

แม้จะทำแบบนั้น พวกเขาก็กอดและพูดคุยกันมากกว่า อีกอย่างหนึ่งเธอไม่อยากให้เขาเหนื่อยเกินไปนัก เขายังต้องนั่งรถไฟกลับอีกนะ

เธอจะคั้นโจวชิงไป๋จนแห้งได้อย่างไรล่ะ?

หวังลี่แค่หยอกเธอเล่นเท่านั้น จากนั้นหล่อนก็เปลี่ยนเรื่องไปคุยเกี่ยวกับการสอบที่กำลังจะมาถึง

“ข้อสอบไม่น่าจะยากเกินไปนัก แต่ก็ไม่น่าจะง่ายเหมือนกัน น่าจะอยู่ในระดับปานกลางค่อนไปทางสูงแหละ” หลินชิงเหอคาดเดา

“ครั้งนี้ฉันคงมีเวลาหยุดครึ่งวันหลังสอบเสร็จล่ะ” หวังลี่บอก

“อืม” หลินชิงเหอพยักหน้า ขณะอ่านหนังสืออยู่นั้น ในใจของเธอก็ยังคิดถึงโจวชิงไป๋

โจวชิงไป๋กลับไปถึงบ้านเกิดในเวลาไม่กี่วัน

ฝนหยุดตกไปแล้วเมื่อวานซืน การกลับมาในวันนี้ไม่ได้ทำให้อะไรล่าช้าไปเลย

เป็นเพราะได้ไปเยี่ยมภรรยา โจวชิงไป๋จึงมีอารมณ์ดีขึ้นมาก เมื่อเขากลับมาถึง เขาก็ลงมือทำงานอย่างขยันขันแข็ง

ขณะที่หัวหน้าฝ่ายผลิตมีอารมณ์ไม่ค่อยดีนัก

โจวชิงไป๋ไม่ได้ถามเรื่องนี้ตรง ๆ เขากลับมาที่บ้านแล้วถามแม่ของเขาแทน

ท่านแม่โจวถอนหายใจ “ลูกเขยของหัวหน้าสอบเข้ามหาวิทยาลัยไม่ได้ใช่ไหมล่ะ? ปีนี้เขาเลยได้รับจดหมายจากครอบครัวของเขา แล้วเขาก็กลับเข้าเมืองไป”

“แล้วภรรยากับลูก ๆ ของเขาล่ะครับ?” โจวชิงไป๋ย่นคิ้ว

“ก่อนที่เขาจะกลับไป เขาก็บอกว่าเมื่อทางนั้นเรียบร้อยดี เขาก็จะกลับมารับพวกเขาไปอยู่ด้วย แต่ไม่มีใครกลับมารับพวกเขากลับไปเลย หัวหน้าก็เลยอารมณ์ไม่ดีมาช่วงหนึ่งแล้วน่ะ” ท่านแม่โจวส่ายหน้า

กล่าวกันว่าลูกสาวของหัวหน้าช่างโง่นัก หล่อนขโมยเอกสารขอกลับอำเภอให้กับสามี และปล่อยให้เขากลับอำเภอไป

เขาออกไปในตอนกลางดึก การย่องจากไปแบบนี้ หมายความว่าเขาจะกลับมาอีกจริง ๆ งั้นเหรอ?

แต่ลูกสาวหัวหน้าฝ่ายผลิตก็ยังมั่นใจว่าเขาจะกลับมารับหล่อนและลูก ๆ

ไม่กี่วันผ่านมา ภรรยาของหัวหน้าฝ่ายผลิตก็เอาแต่ก่นด่าตัวเองที่เลี้ยงลูกสาวคนเล็กมาให้เป็นคนแบบนี้ นางเสียใจที่ปล่อยให้ลูกสาวคนเล็กแต่งงานกับบัณฑิตหนุ่มคนนั้น

“แล้วเมียแกว่ายังไงบ้างเมื่อเห็นแกไปหาครั้งนี้น่ะหือ?” ท่านแม่โจวถามอีกครั้ง

“ภรรยาผมดีใจมากเลยครับ” เมื่อพูดถึงภรรยาของเขา เขาก็มีสีหน้าร่าเริงแจ่มใสมากขึ้น

“เมียแกเป็นคนดีนะ” ท่านแม่โจวเอ่ยอย่างมีอารมณ์ร่วม

หลังหลายปีนี้เกิดเรื่องหลายอย่างขึ้น นางก็รู้สึกว่าสะใภ้สี่เป็นคนดีที่สุดแล้วจริง ๆ

ต่อให้ตอนนี้เธอมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีมากแล้ว เธอก็ไม่เคยดูถูกสามีว่าเป็นคนชนบทเลย

เธอยังสั่งสอนหลานชายทั้งสามคนเป็นอย่างดีอีกด้วย

“เมียแกเคยพูดว่าอนาคตจะย้ายครอบครัวไปอยู่ที่เมืองหลวงงั้นเหรอ?” ท่านแม่โจวเอ่ย

“ครับ หล่อนตั้งใจว่าจะเรียนจบก่อนกำหนด ถึงช่วงนี้ในปีหน้า หล่อนก็จะได้เป็นอาจารย์แล้วครับ” โจวชิงไป๋ตอบ

เมื่อทั้งคู่นอนกอดกันและคุยกันในคืนนั้น ภรรยาก็บอกว่าอาจารย์ของเธออนุมัติเรื่องนี้แล้ว

“งั้นคงไม่มีเรื่องไหนดีกว่านี้แล้วล่ะ เมื่อถึงตอนนั้นแกก็ไปที่นั่นและจัดการทะเบียนบ้านก่อน เจ้ารองกับเจ้าสามก็อยู่ที่นี่ไปก่อน พวกเขามีพ่อแกกับฉันคอยเลี้ยงอยู่ เมื่อไหร่ที่แกกับเมียแกตั้งตัวได้ก็มารับเด็ก ๆ ไปแล้วกัน” ท่านแม่โจวตอบหลังได้ยินดังนี้

“ปีหน้าเราจะตัดสินใจเรื่องนี้กันอีกทีครับ” โจวชิงไป๋พยักหน้า

หัวหน้าหมู่บ้านไม่ใช่คนหนุ่มแล้ว ในช่วงนี้เขารู้สึกสลดหดหู่ใจเพราะเรื่องของลูกสาวคนเล็ก จึงมาหาโจวชิงไป๋เป็นการส่วนตัวและบอกว่าเขาอยากฝึกฝนให้ชายหนุ่มเป็นหัวหน้าหมู่บ้านคนต่อไป

หากเป็นเมื่อก่อนโจวชิงไป๋คงตอบตกลง แต่ตอนนี้เขากลับส่ายหน้า “ภรรยาผมทำงานเป็นอาจารย์อยู่ที่เมืองหลวง อีกไม่นานเราก็จะย้ายครอบครัวไปที่นั่นแล้วครับ”

หัวหน้าหมู่บ้านเข้าใจเรื่องนี้และยินดีสนับสนุนเขา เขาตบบ่าชายหนุ่มก่อนเอ่ยขึ้น “ภรรยาคุณเป็นคนดีนะ รักหล่อนให้มาก ๆ ล่ะ”

ภายในสิบลี้แปดหมู่บ้าน ยากนักที่จะหาหญิงสาวที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ได้

……………………………………………………………………………………

สารจากผู้แปล

เอ่อ เจ็ดครั้งเลยเหรอคะแม่ หน้าร้อนไปหมดแล้วค่า

แหม พ่อได้ไปเยี่ยมแม่แล้วนี่ หน้าบานเชียวนะคะ

ไหหม่า(海馬)

Comment

Options

not work with dark mode
Reset