ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน – ตอนที่71 เขาเข้าใจผิดแล้ว

ตอนที่71 เขาเข้าใจผิดแล้ว

“……”ปลายสายได้เงียบลงอีกครั้ง ครั้งนี้เงียบลงนานกว่าครั้งก่อน เสียงลมหายใจนั้นก็ได้เบา

“มันเป็นแค่การแต่งงานตามสัญญา ระยะเวลาแค่หนึ่งปี”เวินลั่วฉิงไม่ได้ปิดบังอะไร บางเรื่องที่เธอไม่ได้พูดออกไปนั้น แต่ถ้ารุ่นพี่อยากรู้ เขาก็คงสืบจนรู้เรื่องแน่นอน แต่ถ้ารุ่นพี่คิดจะสืบขึ้นมาจริงๆแล้วละก็ เธอกลัวว่าเย่ซือเฉินจะเจอพิรุธ สู้เธอพูดออกไปให้ชัดเจอตอนนี้เลยดีกว่า ยังไงแล้วเธอก็ไม่คิดจะปิดบังรุ่นพี่เกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

เธอกับรุ่นพี่รู้จักกันเมื่อสิบกว่าปีก่อน ตอนนั้นเขาได้รับบาดเจ็บ และถูกคนไล่ล่า ในสถานการณ์ที่อันตรายขนาดนั้น เธอได้พาเขาหลบหนีพวกคนเหล่านั้นออกมาได้

หลังจากที่เกิดเรื่องขึ้น เขาได้หาเธอจนเจอ แล้วก็เริ่มสอนเธอในหลายๆสิ่ง สอนในสิ่งที่คนอื่นๆเข้าถึงได้ยาก

เพราะแม่ก็เคยลำบากและผ่านเรื่องเลวร้ายมามาก และเพราะเธอกับแม่ก็ถูกรังแกและต้องประคับประคองกันมาแค่สองคนแม่ลูก เธอจึงรู้ว่าเธอต้องเข้มแข็ง

เพราะฉะนั้น เธอจึงไม่บ่ายเบี่ยงที่จะเรียนรู้สิ่งเหล่านั้น และเธอก็ตั้งใจและขยันที่จะเรียนรู้เป็นอย่างมาก

หลังจากที่แม่ของเธอเสียชีวิต เธอก็ได้กลับไปที่บ้านตระกูลเวิน รุ่นพี่ก็ยังคงมาช่วยสอนและฝึกฝนให้เธอ แต่รุ่นพี่ก็ดูลึกลับมาก ในตอนนั้นเธอเองก็ไม่รู้ว่ารุ่นพี่เป็นใคร

แม่ของเธอเป็นนักจิตวิทยา เธอจึงคุ้นเคยมาตั้งแต่เด็ก บวกกับที่รุ่นพี่ให้เธอดูหนังสือแนวนี้บ่อยๆแล้วนั้น เธอจึงเรียนอาชญากรรมจิตวิทยาที่ประเทศM

พอเปิดเรียนได้ไม่นาน รุ่นพี่ก็ได้หาเธอเจอ ตอนนั้นเธอไม่เพียงแต่เรียนสิ่งที่โรงเรียนสอนเท่านั้น แต่ยังต้องเรียนรู้สิ่งที่รุ่นพี่ได้ถ่ายทอดและฝึกฝนให้เป็นพิเศษอีกด้วย

ตอนนี้ รุ่นพี่เป็นหัวหน้าของเธอ แต่สำหรับเธอแล้ว รุ่นพี่เป็นเหมือนพี่น้องของเธอมากกว่า

“อืม เข้าใจแล้ว”ถึงแม้ว่าเสียงของชายหนุ่มจะยังคงเบาอยู่ แต่น้ำเสียงก็กลับมาเป็นปกติแล้ว

พอวางสายแล้ว เวินลั่วฉิงก็จัดการข้อมูลทั้งหมดของคดีให้เรียบร้อย แล้วส่งให้รุ่นพี่ หลังจากนั้นเธอก็ไปดูเด็กโม่ พอเห็นเขาหลับสนิท เวินลั่วฉิงก็ค่อยๆเผยรอยยิ้มออกมา แล้วจูบลงบนใบหน้าของเขาเบาๆ

เด็กซีนั้นติดเธอมาก ส่วนเด็กโม่ตั้งแต่หนึ่งขวบนั้นก็นอนหลับได้เอง ไม่ต้องให้เธออยู่เป็นเพื่อน

แต่ว่า เด็กทั้งสองคนนั้นเชื่อฟังและรู้เรื่องมากๆ

เด็กสองคนนี้เป็นของขวัญที่ดีที่สุดที่ฟ้าประทานมาให้เธอ

พอเย่ซือเฉินลงจากเครื่อง และเปิดโทรศัพท์ดู ก็ได้เห็นการแจ้งเตือนสายโทรเข้าจากเบอร์ของเธอ เขากระพริบตาเบาๆ และยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย เขาคิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะเป็นฝ่ายที่โทรหาเขาก่อน

ตอนนี้ฝั่งของเธอก็เช้าแล้ว เย่ซือเฉินก็โทรกลับในทันที

“ฮัลโหล”ที่เมืองA เป็นเวลาหกโมงเช้า เวินลั่วฉิงที่กำลังนอนอย่างสลบไสลอยู่นั้น ได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ก็ใช้มือคลำหาอยู่นาน ถึงจะได้รับสาย

“มีอะไรหรือเปล่า?”เย่ซือเฉินรู้นิสัยของเธอดีว่า ถ้าไม่มีเรื่องอะไรก็จะไม่เป็นฝ่ายโทรหาเขาก่อน แต่ในใจลึกๆก็ยังคงมีความหวัง ส่วนหวังว่าอะไรนั้น แม้แต่ตัวเขาเองก็ยังไม่รู้เลย

“ห้ะ?อะไรนะ?”เวินลั่วฉิงที่พึ่งตื่นนั้นก็งงไปชั่วขณะ แถมเขาเป็นคนโทรหาเธอแท้ๆ ทำไมถึงถามว่าเธอมีธุระอะไรหรือเปล่าด้วยล่ะ?

พอได้ยินเสียงที่ฟังดูงงๆของเธอเล็กน้อยแล้วนั้น เย่ซือเฉินก็อึ้งไปครู่หนึ่ง หรือว่า ที่เธอโทรมาจะไม่ใช่เรื่องที่จำเป็นจะต้องโทรหาเขา หรือเธอแค่อยากโทรหาเขาเฉยๆ ไม่อย่างนั้นปฏิกิริยาของเธอคงไม่ดูสับสนงุนงงอย่างนี้หรอก พอนึกถึงความเป็นไปได้นี้ เย่ซือเฉินก็ค่อยๆเผยยิ้มแบบเกร็งๆออกมา

“ก่อนหน้านี้เธอโทรมา มีอะไรหรือเปล่า?”แต่คุณชายสามเย่ก็รู้สึกเขินอายที่ต้องหาของอ้างให้ตัวเอง

“ฉันไม่ได้……”เวินลั่วฉิงตอบกลับไปอย่างงงๆ เธอไม่ได้เป็นคนโทรหาเขาหนิ แต่จู่ๆเธอก็นึกขึ้นได้ว่าเมื่อคืน ถังจื่อโม่เอาโทรศัพท์เธอไป เพราะฉะนั้นอาจจะเป็นถังจื่อโม่ทีโทรไปก็ได้ เธอจึงแก้คำพูดใหม่ว่า:“ฉันอาจจะเผลอไปกดโทรออกน่ะ”

สีหน้าของเย่ซือเฉินหม่นหมองขึ้นมาทันที เผลอไปกดโดนหรอ?แม้แต่ธุระที่จะโทรหาเขาก็ไม่มี ก็แค่ไม่ตั้งใจเผลอกดโทรออกแค่นั้นหรอ?

เย่ซือเฉินก็รีบตัดสายไปเลยทันที

เลขาอู๋ที่เห็นสีหน้าของท่านประธานที่เปลี่ยนไปนั้น ก็ตกใจจนถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ก่อนหน้านี้ยังดีๆอยู่เลยทำไมจู่ๆก็เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมแบบนี้ล่ะ?

หรือว่าพอเห็นเขาแล้ว ทำให้ท่านประธานไม่พอใจอะไรหรือเปล่า?

หรือเป็นเพราะเมื่อห้าปีก่อน เขาไม่ได้ขัดขวางผู้หญิงคนนั้นไว้ ท่านประธานเลยย้ายเขามาไว้ที่นี่ นี่ก็ห้าปีมาแล้ว ท่านประธานยังไม่ยกโทษให้เขาอีกหรอ!

ที่เขาคิดอยากจะกลับไป ดูท่าเร็วๆนี้คงจะไม่มีหวังซะแล้ว ชีวิตเขาทำไมมันช่างลำบากแสนเข็ญอย่างนี้

เวินลั่วฉิงที่เห็นเขาตัดสายไป ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย เย่ซือเฉินบอกว่าก่อนหน้านี้เธอได้โทรหาเขา แถมยังตั้งใจโทรกลับอีก คงไม่ผิดแน่นอน อย่างนั้นก็มีความเป็นไปได้อย่างเดียวก็คือ ที่ถังจื่อโม่เอาโทรศัพท์ของเธอไปตอนนั้น ได้กดโทรหาเย่ซือเฉิน

แต่ทำไมถังจื่อโม่ต้องโทรหาเย่ซือเฉินด้วยล่ะ?

แต่ เสียงที่เธอได้ยินเมื่อกี้ เย่ซือเฉินน่าจะอยู่ที่สนามบิน น่าจะพึ่งลงจากเครื่อง เขาบินตั้งสิบกว่าชั่วโมงกว่าจะถึง วันนี้คงไม่กลับมาแน่นอน เพราะฉะนั้นวันนี้เธอก็ยังอยู่กับเด็กๆได้ทั้งวัน

สำหรับเธอแล้ว นี่เป็นข่าวดี

พอรู้ว่าเย่ซือเฉินยังไม่ได้กลับมาในเร็วๆนี้ เวินลั่วฉิงก็ไม่ได้กลับไป และได้อยู่ซื้อของกับเด็กๆ ในเมื่อเด็กๆก็ได้มาแล้ว และในระยะนี้เธอก็ไม่มีทางได้กลับไปประเทศMแล้ว เด็กๆสองคนจึงต้องอยู่ที่เมืองAนี้ไปสักระยะ เลยต้องเตรียมของบางอย่างไว้ให้ครบ

กระเป๋าเดินทางของ ถังจื่อโม่มีแต่ของเล่นที่เขาใช้เล่นเป็นประจำ แม้แต่เสื้อผ้าของพวกเขาก็ไม่ได้เอามา เพราะฉะนั้นเลยต้องซื้อมาใหม่ทั้งหมด พอซื้อเสื้อผ้าและทานอาหารเสร็จ กว่าจะถึงบ้านก็สองทุ่มแล้ว เด็กๆทั้งสองคนเหนื่อยมากแล้ว ไม่นานก็ผล็อยหลับไป เวินลั่วฉิงก็ยังคงนอนที่บ้านเห่อถงถงเป็นเพื่อนเด็กๆต่อไป

แต่ในวันถัดมา เวินลั่วฉิงก็ได้โทรหาเย่ซือเฉิน ถ้าหากเย่ซือเฉินกลับมา แน่นอนว่าเธอก็ต้องกลับไป

พอเห็นว่าเบอร์ของเธอนั้นโทรมา เย่ซือเฉินก็นึกถึงก่อนหน้านี้ที่เธอบอกว่าไม่ตั้งใจเผลอกดโทรออกแล้วนั้น สีหน้าก็ดูขรึมขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด แต่เขาก็ยังกดรับสาย

ถ้าหากครั้งนี้ยังเผลอโทรผิดอีกละก็……

“ที่รัก คุณจะกลับมาเมื่อไหร่คะ?”เสียงอันอ่อนหวานของเวินลั่วฉิงที่ดังขึ้นนั้น ทำให้สีหน้าของเขาค่อยๆผ่อนคลายลงเล็กน้อย

“พรุ่งนี้น่ะ”พอได้รับสายแบบนี้แล้ว เขาก็มีความรู้สึกแปลกๆ ราวกับว่าพวกเขานั้นเป็นคู่สามีภรรยาที่รักใคร่กันมาหลายปี

“โอเค งั้นคุณรักษาสุขภาพ แล้วก็ระมัดระวังตัวด้วยนะคะ”เสียงของเวินลั่วฉิงแฝงไปด้วยความสุข

“อืม”เย่ซือเฉินตอบกลับด้วยคำตอบง่ายๆและเสียงทุ้มๆ แต่เขาก็ยิ้มมุมปากเล็กน้อย ถ้าไม่สังเกต ก็จะไม่เห็น

พรุ่งนี้ รอเขากลับไป……

ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน

ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset