มู่เฉียนซีกล่าว “หยุดพูดไร้สาระกับพวกเขาได้แล้ว เดินทางมาก็ตั้งนานแล้ว เข้าเมืองไปพักผ่อนกันก่อนเถอะ!”
“ตกลง!” เหยียนเซี่ยฉีพยักหน้า
มู่เฉียนซีและพรรคพวกทุบตีองครักษ์ที่หน้าประตูเมืองอย่างหยิ่งผยอง จากนั้นก็เดินเข้าเมืองไปอย่างโอหัง
สองสาวงามที่มีเสน่ห์กลายเป็นเสือตัวเมียที่กางเขี้ยวและกรงเล็บในพริบตา มุมปากของนายน้อยหู่โค้งขึ้นเล็กน้อย สาวงามทั้งสองช่างน่าหลงใหลจริง ๆ!
นายน้อยผู้นี้เริ่มสนใจพวกนางมากขึ้นเรื่อย ๆ เสียแล้วสิ!
คนผู้หนึ่งที่อยู่ด้านข้างเขาเอ่ยขึ้น “เช่นนั้นคุณชาย ให้พวกเรา…”
นายน้อยหู่หัวเราะและกล่าวว่า “อย่าเพิ่งใจร้อนไป เมื่อถึงงานประมูลค่อยซื้อของดี ๆ สักสองสามอย่างให้ ถึงตอนนั้นพวกนางก็คงเชื่อฟังอย่างว่าง่าย ไม่จำเป็นต้องรีบร้อนไป!”
หลังจากเข้ามาในเมืองได้แล้ว ก็ไม่มีใครกล้ามาสร้างปัญหาอีก!
เนื่องจากการประมูลแห่งเมืองชางหมางกำลังจะเริ่มขึ้น ทั่วทั้งเมืองชางหมางจึงคึกคักอย่างหาที่เปรียบมิได้ ราคาของโรงเตี๊ยมทั้งหมดก็ล้วนพุ่งสูงขึ้น
เหยียนเซี่ยฉีกล่าว “นี่มันเมืองแห่งการค้าที่ไหนกัน! เห็นได้ชัดว่าเป็นเมืองแห่งการแจกจ่ายทรัพย์สิน”
“ท่านลูกค้า ห้องพักของเราที่นี่เต็มแล้ว เหลือเพียงแค่ห้องชั้นดีสี่ห้องสุดท้ายและราคาค่อนข้างแพง! หนึ่งคนหนึ่งหมื่นหยกวิญญาณระดับสูงต่อหนึ่งคืน”
เมื่อต้องจ่ายหยกวิญญาณมากขนาดนี้ เจ้าเมืองเหยียนจึงรู้สึกปวดใจเล็กน้อย อีกทั้งนี่ยังเป็นราคาต่อหนึ่งคน
มู่เฉียนซีจึงกล่าวขึ้นว่า “เจ้าเป็นคนบอกว่าห้องชั้นดี ถ้าไม่ใช่ห้องชั้นดีจริงอย่างที่ว่า ข้าจะโยนเจ้าลงมาจากชั้นบน”
“ข้าน้อยไม่กล้าหลอกลวงท่านลูกค้าเด็ดขาด!”
มู่เฉียนซีจึงมอบหยกวิญญาณสำหรับสี่ห้องให้ มีหอหมอปีศาจคอยหาเงินอย่างไม่หยุด หยกวิญญาณย่อมไม่มีขาดแคลน
เหยียนเซี่ยฉีกล่าว “มีเพียงสี่ห้อง? หรือข้าจะอยู่ห้องเดียวกับเฉียนซีดีล่ะ”
ดวงตาของจิ่วเยี่ยหม่นหมองลงทันที จากนั้นเขาจึงรีบอุ้มมู่เฉียนซีเข้าไปในห้องหนึ่ง เหยียนเซี่ยฉีอย่าแม้แต่จะคิด
เห็นได้ชัดว่าเขาและเฉียนซีอยู่ห้องเดียวกัน! อีกสามคนก็ตามสะดวก
กู้ไป๋อีมองประตูที่ปิดสนิทนั้นแล้วกำหมัดแน่น ชายผู้นั้นทำตามใจตนโดยไม่สนใจชื่อเสียงของสาวน้อยเลยสักนิด
เหยียนเซี่ยฉีตะลึงไปเล็กน้อย “ที่แท้…พวกเขา…”
กู้ไป๋อีหมุนตัวเดินจากไป!
เนื่องจากเป็นห้องชั้นดี ความหรูหราภายในจึงคู่ควรกับราคานี้
พื้นที่ห้องกว้างใหญ่มาก โดยด้านในสุดยังมีห้องอาบน้ำขนาดใหญ่ที่มีหมอกควันลอยคละคลุ้งอยู่ มันเหมาะแก่การอาบน้ำของแขกที่เดินทางมาไกลเพื่อช่วยบรรเทาความเหนื่อยล้า
มู่เฉียนซีมองจิ่วเยี่ยแล้วกล่าวว่า “เจ้านั่งอยู่ที่นี่ ห้ามขยับ ข้าจะไป…”
หลังจากตกลงกันแล้วว่าห้ามขยับ แต่จิ่วเยี่ยกลับปรากฏตัวตรงหน้ามู่เฉียนซีและนางไป
“เจ้าไม่ได้ยินที่ข้าพูดหรือ?”
“ข้าจะช่วยเจ้าเอง!”
จิ่วเยี่ยกอดมู่เฉียนซีแน่นพลางกล่าวว่า “ซีก็ช่วยข้าด้วย ช่วงนี้ข้ารู้สึกอึดอัดมาก”
“ฉีดยาสักสองสามเข็มดีไหม?”
“ซีช่วยข้าอาบน้ำก็พอแล้ว”
“เจ้าแน่ใจนะว่าจะได้ผล?”
“ซีลองดูแล้วจะรู้เอง”
สุดท้ายจิ่วเยี่ยก็ถอดเสื้อผ้าของมู่เฉียนซีออกจนหมด แล้วอุ้มนางไปไว้ในอ่างอาบน้ำ
จากนั้นเขาจึงปลดเปลื้องเสื้อผ้าบนร่างของตนเองแล้วเดินตามเข้าไป อ่างอาบน้ำมีขนาดใหญ่มาก ซึ่งมันสามารถรองรับพวกเขาทั้งสองคนได้
จิ่วเยี่ยมองไปที่มู่เฉียนซีและเอ่ยเสียงแผ่วเบาว่า “ข้าช่วยซีก่อนหรือซีอยากช่วยข้าก่อน”
มู่เฉียนซีรีบตอบ “แน่นอนว่าข้าลงมือก่อน”
นางลงมือก่อน นับว่านางได้เปรียบแล้ว เกรงว่าเมื่อถึงเวลานั้นนางก็ไม่มีเรี่ยวแรงเหลือให้ลงมือแล้ว
จิ่วเยี่ยไม่ได้ปฏิเสธ “ในเมื่อซีกระตือรือร้นมาก เช่นนั้นก็มาเถอะ!”
ช่วยจิ่วเยี่ยอาบน้ำ!
มันเป็นครั้งแรกอย่างแน่นอน
เมื่อนึกถึงวิธีการเมื่อก่อนของจิ่วเยี่ยที่มู่เฉียนซีจำได้เล็กน้อย นางก็ลงมือเลียนแบบเขา
สัมผัสที่เหมือนขนนกนั้นทำให้หัวใจของจิ่วเยี่ยสั่นระรัว เขากำหมัดแน่น!
เมื่อเห็นเส้นเลือดที่ปูดโปนบนร่างกายของจิ่วเยี่ย มู่เฉียนซีก็รีบผลักเขาออกไป
ปัง!
จิ่วเยี่ยตกลงไปในน้ำ มู่เฉียนซีกล่าวอย่างโกรธเคืองว่า “จิ่วเยี่ย เจ้าจะทนไม่ไหวแล้ว ยังจะทรมานตัวเองอีกทำไม? เจ้าจะกลับไปที่แดนคุกตอนนี้หรือจะให้ข้าออกไปจากที่นี่แทน”
ฟึ่บ!
จิ่วเยี่ยรีบพุ่งออกมาจากน้ำ และโอบตัวของมู่เฉียนซีไว้ในอ้อมแขน
“แต่ข้าต้องการใกล้ชิดกับซี และเมื่อข้าเริ่มลงมือ มันก็จะทนไม่ได้ ข้าไม่สามารถควบคุมมันได้ แต่ถ้าเป็นซี ข้ายังพอสามารถอดทนได้ แม้ว่าข้าจะรู้สึกอึดอัดแต่ก็สามารถบรรเทาผลกระทบของคำสาปที่มีต่อข้าได้ ”
“ดังนั้นซีสามารถทำอะไรกับข้าก็ได้? รวมถึงสิ่งที่ข้าเคยทำกับเจ้า”
จิ่วเยี่ยกัดติ่งหูของมู่เฉียนซีเบา ๆ “ซี ดีหรือไม่?”
“ดีหรือไม่งั้นรึ? มันไม่ดีเลยสักนิด!” มู่เฉียนซีจ้องมองเขาอย่างอารมณ์เสีย
“เจ้าคิดว่าผู้นำตระกูลอย่างข้ามีความเดรัจฉานเช่นเจ้าหรือ?”
ขนตาของเขาขยับเล็กน้อยและมองไปที่มู่เฉียนซีก่อนจะกล่าวว่า “ซีไม่ต้องการแก้แค้นหรือ? ด้วยร่างกายข้าในตอนนี้ไม่สามารถทำอะไรได้ แต่…”
การแก้แค้น นางต้องการแก้แค้นหลายครั้งแล้ว แต่ตอนนี้มันเป็นไปได้จริง ๆ หรือ…
ดวงตาสีฟ้าเย็นยะเยือกคู่นั้น แม้จะเย็นชาแต่กลับยั่วยวนใจผู้คน
ใบหน้าที่งดงามตอนนี้มีเสน่ห์มากขึ้น ริมฝีปากสีแดงนั้นดูน่าอร่อยเป็นอย่างมาก
เห็นได้ชัดว่าเขากำลังอดทน แต่ความอดทนนี้กลับทำให้เขากลายเป็นอาหารที่อร่อยที่สุด ทำให้ผู้คนอดที่จะลิ้มลองไม่ได้ มู่เฉียนซีเองจึงอดที่จะทวงหนี้เขาไม่ได้
มู่เฉียนซีรีบสงบสติอารมณ์ตัวเอง ไม่อาจหลงกลได้! อย่าหลงกล!
ต้องไม่หลงกลเป็นอันขาด!
แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถทนต่อการยั่วยุของจิ่วเยี่ยได้ และในที่สุดมู่เฉียนซีก็ยอมจำนน
นางกัดฟันและกล่าวว่า “ได้! ดี! ในเมื่อเจ้ามาถึงที่แล้ว ข้ายังจะต้องเกรงใจอะไรอีก?”
จากนั้นสายน้ำก็สาดกระเซ็นไปทั่วทุกหนแห่งและทิวทัศน์ก็ดูเหมือนจะไม่มีที่สิ้นสุด
“หวงจิ่วเยี่ย ข้าจะฆ่าเจ้า!”
ทั้งที่คนรังแกก็คือนาง แต่คิดไม่ถึงเลยว่าคนที่เสียเปรียบก็ยังคงเป็นนาง
มู่เฉียนซีแทบจะระเบิดออกมา จิ่วเยี่ยคว้ามือและเท้าของนางไว้พร้อมกับกล่าวว่า “ซีทนความเจ็บปวดของข้าไม่ได้ ดังนั้นจึงช่วยข้า ข้ามีความสุขมาก!”
“เจ้ามีความสุขแต่ข้าไม่มีความสุข!” มู่เฉียนซีกระโดดออกมาจากอ่างอาบน้ำ
“เจ้ามีความสุขไปคนเดียวเถอะ! ข้าต้องการพักผ่อน!” นางจากไปด้วยความโกรธ
แต่ไม่มีพื้นที่สำหรับการพักผ่อนคนเดียว จิ่วเยี่ยพบโอกาสที่จะปีนข้ามไป
“เจ้าอย่าขยับ!” มู่เฉียนซีกล่าว
“ซีได้ช่วยไว้มากแล้ว ข้าจะไม่ขยับตัว” จิ่วเยี่ยกระซิบข้างหูมู่เฉียนซี
เมื่อได้ยินเสียงอันน่าหลงใหล มู่เฉียนซีก็รู้สึกว่าคำพูดของเขาไม่ได้มีความน่าเชื่อถือเลยสักนิด
ห้องนี้ได้รับการตกแต่งอย่างหรูหรา แต่ฉนวนกันเสียงนั้นไม่ได้ดีเท่าไรนัก
สำหรับกู้ไป๋อีที่ทั้งห้าประสาทสัมผัสล้วนเฉียบคมมาก เวลานี้ก็ได้รับความทรมานยิ่งนัก
เขานั่งสมาธิอย่างใจเย็นโดยหวังให้ตนเองกลายเป็นรูปแกะสลักหิมะที่ไร้ความปราณี เช่นนั้นก็จะได้ไม่รู้สึกอะไร และไม่ต้องปวดใจต่อไปอีก
ดวงตาของเขามืดครึ้ม หวงจิ่วเยี่ย เป็นใครกันแน่?
“เฉียนซี เฉียนซี!” เช้าวันรุ่งขึ้นคุณหนูเหยียนก็มาเคาะประตู
มู่เฉียนซีเปิดประตูพลางเอ่ยถาม “มีอะไรหรือ?”
“เมืองชางหมางแห่งนี้เป็นเมืองการค้าที่มีชื่อเสียงในแดนทุรกันดาร การประมูลจะเริ่มขึ้นในตอนเย็น พวกเราไปเดินดูกันเถอะ!”
มู่เฉียนซียิ้มและกล่าวว่า “ข้าเองก็มีเจตนาเช่นนี้ เรียกเสี่ยวไป๋แล้วพวกเราออกเดินทางกันเถอะ! ”
ส่วนจิ่วเยี่ยเขาอยากไปไหนก็ไป? แต่ตอนนี้เขายังไม่ดีขึ้นเลย!
เหยียนเซี่ยฉีรับคำ “ได้ ข้าจะไปหาคุณชายกู้เดี๋ยวนี้”