ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ – ตอนที่ 917 ความสัมพันธ์สนิทชิดเชื้อ

ร่างสองร่างเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ร่างชุดสีขาวและชุดสีดำเข้ามาขวางหน้าคนผู้นี้ไว้

กู้ไป๋อีมองดูชายผู้มีเสน่ห์ตรงหน้าอย่างพิจารณาและกล่าวว่า “เจ้าเป็นใคร?”

จื่อโยวกระพริบตาปริบ ๆ พลางกล่าว “เยี่ย เยี่ยนี่เจ้าอยู่กับคนงามก็ไม่บอกข้าสักคำเลย”

แววตาสังหารคู่นั้นของจิ่วเยี่ยจ้องมองไปที่จื่อโยว พลางกล่าวออกมาว่า “ไสหัวไปให้พ้น!”

ร่างอันเพรียวบางของจื่อโยวเคลื่อนไหวห่างออกจากจิ่วเยี่ยสามจั้งอย่างรวดเร็ว และพึมพำว่า “เยี่ย เจ้าก็ชอบดุข้าอยู่เรื่อยเลย”

ดวงตาของหัวหน้าโรงประมูลท่านนั้นค่อย ๆ เบิกกว้างขึ้นด้วยความตกใจ ชายสวมหน้ากากผู้ที่มีกลิ่นอายราวกับดาวมฤตยูผู้นี้เป็นใครกันแน่

นึกไม่ถึงเลยว่าจะกล้ากล่าววาจาเช่นนี้กับนายท่านผู้นี้ ช่างน่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว

มู่เฉียนซีมองดูชายผู้ที่มีเสน่ห์ผู้นี้และกล่าวว่า “จื่อโยว เจ้ามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?”

“ก็ข้าคิดว่า บางทีคนงามน่าจะมาที่นี่ยังไงล่ะ เช่นนี้เราก็ได้เจอกันแล้ว จากนั้น…”

ทันใดนั้นเองลำคอของจื่อโยวราวกับถูกบีบก็มิปาน และเขาก็พูดไม่อะไรไม่ออกอีกต่อไป

ค่อก ค่อก ค่อก!

สีหน้าของจื่อโยวดูเจ็บปวดเป็นอย่างมาก

ความหึงหวงของเยี่ย ช่างน่ากลัวเกินไปแล้ว!

หัวหน้าโรงประมูลกล่าว “นายท่านจื่อโยว คนเหล่านี้เป็นสหายของท่านหรือ?”

จื่อโยวเหลือบมองพวกเขาและกล่าวอย่างเกียจคร้านว่า “นี่สายตาเจ้าเสียหรือไง จะเป็นสหายได้ยังไง สนิทยิ่งกว่าสหายซะอีก”

ผู้ต้อนรับเหล่านั้นกับนายน้อยหู่ต่างก็ตกใจจนนิ่งอึ้งไป นึกไม่ถึงเลยว่าจะมีผู้ใดกล้ากล่าววาจาเช่นนี้กับหัวหน้าโรงประมูล

หัวหน้าโรงประมูลยิ้มใจดีสู้เสือและกล่าวว่า “เป็นเพราะข้ามีตาแต่หามีแววไม่ นายท่านจื่อโยวอย่าได้โกรธไปเลย อย่าได้โกรธไปเลย!”

“ยังมัวยืนนิ่งอยู่อีกทำไมล่ะ รีบไปเตรียมห้องส่วนตัวที่ดีที่สุดของงานประมูลให้คนงามกับเยี่ยเร็วเข้าสิ!”

“สองห้อง!” น้ำเสียงอันเย็นยะเยือกได้พ่นออกมา

“ห๊ะ!” หัวหน้าโรงประมูลตกใจขึ้นอีกครั้ง

จื่อโยวกล่าว “ไม่ได้ยินเหรอว่าสองห้อง!”

“ขอรับ ๆ!”

ผู้ต้อนรับเหล่านั้นตกใจกลัวเป็นอย่างยิ่ง “เชิญทุกท่านด้านในขอรับ”

พวกเขาก็คิดไม่ถึงเช่นกัน นี่ไม่ใช่คนเมืองเหยียนเหล่านั้นหรอกเหรอ เหตุใดถึงได้สนิทชิดเชื้อกับผู้ที่หัวหน้าโรงประมูลยังหวาดกลัวได้ถึงเพียงนี้

ส่วนนายน้อยหู่ แน่นอนว่าถูกเมินอยู่ข้าง ๆ และไม่มีผู้ใดสนใจพวกเขาแล้ว

“นายน้อย…พวกเขา…”

นายน้อยหู่กล่าวอย่างเย็นชาว่า “นึกไม่ถึงว่าพวกมันจะเส้นใหญ่ถึงเพียงนี้ ช่างกำเริบสืบสานยิ่งนัก แต่ข้าไม่กลัวชายตุ้งติ้งผู้นั้นหรอก”

โชคดีที่จื่อโยวได้เดินไปแล้ว มิเช่นนั้นหากเขาได้ยินวาจาเช่นนี้แล้วละก็ ต่อให้นายน้อยหู่ผู้นี้ต้องตายไปร้อยครั้งก็คงไม่พอ

ห้องส่วนตัวสองห้อง ห้องหนึ่งเป็นห้องของท่านเจ้าเมืองเหยียนกับเหยียนเซี่ยฉี รวมทั้งกู้ไป๋อีด้วย

ทว่า กู้ไป๋อีกลับปฏิเสธ “ข้าจะอยู่ห้องเดียวกับคุณหนูใหญ่”

จิ่วเยี่ยกล่าวอย่างเย็นชาว่า “ไสหัวไปให้พ้น!”

แต่กู้ไป๋อีทำเหมือนไม่ได้ยินก็มิปาน เขายังคงยืนอยู่ข้าง ๆ มู่เฉียนซีไม่ยอมไปไหน

จื่อโยวยิ้มพลางกล่าว “น้องชาย นึกไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะกล้าถกเถียงกับเยี่ยของข้า ข้าเคารพในความเป็นบุรุษผู้กล้าของเจ้าจริง ๆ แต่คิดถึงชีวิตน้อย ๆ ของเจ้า ข้าว่าเจ้ารีบไปให้พ้นหน้าเขาซะเถอะ”

รอยยิ้มอันมีเสน่ห์นั้นกลับแฝงไปด้วยอันตราย เจ้าหนุ่มผู้นี้กล้าขัดขวางฝ่าบาทของเขา คงจะไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วกระมัง

สีหน้าของกู้ไป๋อียังคงเป็นเช่นเดิมไม่เปลี่ยนแปลง

ดวงตาของจื่อโยวขุ่นมัวขึ้นเล็กน้อย คนผู้นี้แปลกประหลาดยิ่งนัก

ไม่รู้จักความเป็นความตาย กล้าขัดขวางเขา สิ่งนี้ทำให้จิ่วเยี่ยโกรธเกรี้ยวขึ้นแล้ว มู่เฉียนซีจึงกล่าวกับกู้ไป๋อีว่า “เสี่ยวไป๋ เจ้าไปห้องข้าง ๆ เถอะ!”

กู้ไป๋อีสะดุ้งเล็กน้อย จากนั้นก็เดินออกไปโดยที่ไม่หันหลังกลับมามองแต่อย่างใด

“ไสหัวไปให้พ้น!” จิ่วเยี่ยพ่นคำพูดนี้ออกมาอีกครั้ง

จื่อโยวกระพริบตาอย่างไร้เดียงสา “เยี่ย เจ้านั่นก็ออกไปแล้ว ไม่มีใครที่ต้องไสหัวไปแล้วล่ะ!”

“แต่เจ้าเกะกะขวางลูกตาข้า” ดวงตาของจิ่วเยี่ยจ้องมองไปที่เขา

จื่อโยวรู้สึกขุ่นเคืองใจเป็นอย่างยิ่ง เยี่ยช่างใจแคบเกินไปแล้ว แม้กระทั่งเขาก็ถูกรังเกียจเช่นนี้ ช่างไร้เหตุผลยิ่งนัก!

“เยี่ย มีข้าอยู่ข้าก็จะได้ช่วยแข่งประมูลยังไงล่ะ ข้ายังช่วยออกเงิน ออกแรงให้ด้วยนะ เจ้าอดทนไม่ไล่ข้าไปได้หรือไม่?”

“ไม่จำเป็น!” จิ่วเยี่ยกล่าวอย่างไม่ใส่ใจ

มู่เฉียนซีพยักหน้าพลางกล่าว “อืม! ไม่จำเป็น เจ้าอยู่ไปก็มีแต่ทำให้ข้ารำคาญ”

ทั้งสองมีความคิดตรงกัน ครั้นแล้วจื่อโยวผู้น่าสงสารก็ถูกไล่ออกจากห้องไป

“ชิ๊! พวกเจ้ากลัวว่าข้าจะรบกวนโลกส่วนตัวของพวกเจ้ามากกว่าน่ะสิ ข้าไปก็ได้”

จื่อโยวเดินออกไปด้วยความโกรธเกรี้ยว และเสียงรบกวนรอบ ๆ ก็ได้หายไปแล้ว

ตอนนี้ห้องส่วนตัวอันหรูหราก็เหลือเพียงแค่พวกเขาสองคนเท่านั้น จิ่วเยี่ยก็ได้กอดมู่เฉียนซีไว้

มู่เฉียนซีลุกยืนขึ้น และกล่าวว่า “ข้าคิดว่ายังมีอีกเรื่องหนึ่งที่ต้องทำ เช่นนี้ถึงจะเป็นการเข้าร่วมการประมูลอย่างถึงอกถึงใจหน่อย”

“นายท่าน มีเรื่องอันใดหรือขอรับ?” หัวหน้าโรงประมูลรีบมาหามู่เฉียนซี และกล่าวด้วยความเคารพเป็นอย่างยิ่ง

มู่เฉียนซีกล่าวกับเขาว่า “ข้าจะประมูลเม็ดยาวิญญาณ”

หัวหน้าโรงประมูลกล่าว “งานประมูลชางหมางไม่เหมือนกับงานประมูลอื่นขอรับ เม็ดยาวิญญาณธรรมดาทั่วไปพวกเราจะไม่นำมาขึ้นประมูล”

มู่เฉียนซีกล่าว “แต่ถ้าเป็นเม็ดยาวิญญาณขั้นปฐพีล่ะ?”

หัวหน้าโรงประมูลตกใจนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “อะไรนะ ขั้นปฐพี!”

ถึงอย่างไรงานประมูลชางหมางก็เป็นกองกำลังระดับหนึ่ง เม็ดยาวิญญาณขั้นปฐพีนั้นเป็นของล้ำค่าที่หาได้ยากมาก

“ใช่ เป็นเม็ดยาวิญญาณขั้นปฐพี งานประมูลของพวกเจ้าต้องการหรือไม่?” มู่เฉียนซีกล่าวถาม

“ต้องการขอรับ ต้องการ!” หัวหน้าโรงประมูลตอบอย่างตื่นเต้น

“สิบขวด!” มู่เฉียนซีนำออกมาจากมิติ

หัวหน้าโรงประมูลเปิดขวดยานั้นดม และกล่าวด้วยความตื่นเต้นว่า “เป็นยาขั้นปฐพีจริง ๆ ด้วย ไม่ผิดแน่นอน!”

“ข้าจะไปจัดการเดี๋ยวนี้ขอรับ นี่เป็นยาขั้นปฐพี นี่เป็นสินค้าหลักของงานประมูลในครั้งนี้แน่นอน” กล่าวจบ เขาก็รีบเตรียมตัวไปจัดการทันที

มู่เฉียนซีกล่าว “ช้าก่อน ข้าบอกแล้วเหรอว่ามีแค่นั้น”

หัวหน้าโรงประมูลกล่าวถามว่า “หรือว่าท่านยังมีเม็ดยาขั้นปฐพีอีกอย่างนั้นเหรอ”

มู่เฉียนซีกล่าว “ไม่ใช่เม็ดยาขั้นปฐพี แต่เป็นสิ่งนี้”

มู่เฉียนซีหยิบเอาขวดยาแผนปัจจุบัน(ยาน้ำ) ออกมาสิบขวด หัวหน้าโรงประมูลเห็นก็กล่าวว่า “ข้าน้อยมีความรู้น้อยนัก ไม่รู้ว่านี่คือสิ่งใด”

มู่เฉียนซีกล่าว “นี่คือยาแผนปัจจุบัน(ยาน้ำ) จำนวนสิบขวด”

“นะ นี่…นี่เป็นยาแผนปัจจุบันจริง ๆ หรือขอรับ แต่ว่า…” หัวหน้าโรงประมูลมีความรู้สึกยากที่จะเชื่อ

“ยาแผนปัจจุบันนี้เทียบเท่ากับเม็ดยาวิญญาณระดับเก้า เม็ดยาควบแน่นจิตวิญญาณ เจ้าเคยได้ยินเม็ดยาควบแน่นจิตวิญญาณหรือไม่?”

“อะไรนะ เม็ดยาควบแน่นจิตวิญญาณ เป็นยาในตำนานที่สามารถเพิ่มให้พลังวิญญาณแข็งแกร่งขึ้น ทั่วทั้งแดนตะวันออกเกรงว่าจะมีเพียงแค่ไม่กี่เม็ดเท่านั้น!” หัวหน้าโรงประมูลกล่าวด้วยความตกใจเป็นอย่างยิ่ง

“นี่มันใช่จริง ๆ เหรอ?” เขากล่าวถามอย่างไม่แน่ใจ

มู่เฉียนซีกล่าว “นี่เจ้าไม่เชื่อที่ข้าพูดเหรอ?”

พลังของมู่เฉียนซีกำลังคุกคามทำให้หัวหน้าโรงประมูลถอยหลังไปหลายก้าวอย่างไม่รู้ตัว

“ข้าจะสงสัยในคำพูดของนายท่านได้อย่างไรกันเล่า ข้าก็แค่กลัวว่าหากนำไปวางประมูล ผู้ประมูลจะไม่เชื่อน่ะขอรับ”

ยาแผนปัจจุบันขวดเล็กเพียงนี้ นึกไม่ถึงว่าจะมีประสิทธิภาพถึงเพียงนั้น ช่างเหลือเชื่อเกินไปแล้ว

“พวกเจ้ารีบจัดการประมูลเถอะ ส่วนเรื่องที่พวกเขาจะเชื่อหรือไม่นั้น ก็เป็นเรื่องของพวกเขาแล้ว ไม่เชื่อก็ไม่ต้องซื้อ ข้าไม่ใส่ใจว่าจะเกิดอันใดขึ้น หรือว่าหัวหน้าโรงประมูลใส่ใจ”

หัวหน้าโรงประมูลกล่าว “มีเม็ดยาขั้นปฐพีอันล้ำค่าของนายท่านวางประมูลเช่นนี้ ต่อให้เกิดอันใดขึ้นก็ไม่เป็นไรขอรับ!”

เขาก็ตัดสินใจที่จะเดิมพันในครั้งนี้เช่นกัน!

“การประมูลกำลังจะเริ่มแล้ว ข้าขอตัวไปจัดการก่อนนะขอรับ”

มู่เฉียนซีพยักหน้าพลางกล่าว “ไปเถอะ!”

หลังจากที่หัวหน้าโรงประมูลเดินออกไปได้ไม่นาน การประมูลจริงก็ได้เริ่มขึ้นแล้ว

ตอนนี้ หญิงสาวผู้สวยเพริศพริ้งและดูเร่าร้อนผู้หนึ่งก็ได้ปรากฏตัวขึ้นในงานประมูล นางชายตามองอย่างหยาดเยิ้ม ยังไม่ทันเปล่งวาจากล่าวแต่อย่างใดก็ทำให้งานประมูลครึกครื้นขึ้นแล้ว

“บัดนี้ ข้าขอประกาศเปิดงานประมูลชางหมางครั้งที่เก้าร้อยแปดสิบอย่างเป็นทางการ!”

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

Score 7.8
Status: Ongoing Artist: Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ นางคือหมอปีศาจผู้เหี้ยมโหดแต่กลับต้องมาอยู่ในร่างของหญิงอ่อนแอไร้ความสามารถที่ผู้คนพากันรังเกียจ ทว่าหลังทำพันธสัญญากับเทพอสูรโบราณ ฝึกฝนบำเพ็ญเคล็ดวิชาต้านสวรรค์จึงเปล่งประกายเจิดจรัสจนผู้คนต้องหลบตาไปตาม ๆ กัน ทั้งยังครอบครองพิษหลายแขนง ใครที่กล้ามารังแกนาง นับว่ารนหาที่ตาย! โอสถเก้าสรรพคุณน่ะหรือ นั่นมันถั่วเคลือบน้ำตาลไว้ให้สัตว์เลี้ยงแสนน่ารักของนางกินเล่นต่างหากเล่า ปรุงยาเป็นก็ต้องเอาแต่ใจอย่างนี้นี่ล่ะ! -------------------------- เขาคือเยี่ยอ๋องรูปงามผู้เย้ายวน ผู้คนต่างเข้าใจว่าเขาเหี้ยมโหดไร้ความปรานี แต่ทำไมกับนาง เขาถึงได้เอาแต่ตามติดจนสลัดไม่หลุดอย่างนี้นะ “ท่านจ้องข้าทำไม” “ข้ากำลังคิดอยู่ว่า เจ้าจะกลายมาเป็นสตรีของข้าอย่างถูกต้องเมื่อไหร่” ทันใดนั้น เข็มเล็กก็จ่อเข้าที่เอวของเขา นางเอื้อนเอ่ยอย่างยิ้มแย้ม “ท่านอ๋อง การหุนหันพลันแล่นเปรียบดั่งปีศาจร้าย หากพิษเข้าร่างเกรงว่าท่านคงจะต้องมีชะตาเยี่ยงขันทีไปชั่วชีวิต!”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset