ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ – ตอนที่ 724 กองทัพหนูเข้าล้อมพร้อมโจมตี

หลี่ว์ซู่เลื่อนดูกระทู้ของมูลนิธิอยู่ที่บ้านจนไปเจอข่าวน่าสนใจเข้า มีนักท่องเที่ยวจากออสเตรเลียจำนวนหนึ่งปฏิเสธที่จะกลับประเทศ ทั้งยี่สิบคนนี้จะต้องกลับประเทศในเที่ยวบินตอนเช้า แต่พวกเขาตัดสินใจอยู่ต่อที่สนามบินต่อไป พวกเขาร้องไห้และตะโกนโวยวายว่าอยากจะอยู่ที่นี่ต่อ

ตอนแรกทุกคนก็คิดว่าคนพวกนี้มีเจตนาอะไรแอบแฝงอยู่หรือเปล่า มีคนไปเจรจากับพวกเขาแล้วนักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลียพวกนั้นก็สารภาพออกมา “ที่บ้านนั่นอันตรายมาก ตอนนี้สัตว์ต่างๆ ก็กลายพันธุ์แล้ว พวกเราจะไม่กลับไปที่แบบนั้นหรอก ห้าในสิบของสัตว์ที่มีพิษที่สุดในโลกอยู่ที่ออสเตรเลีย อีกอย่างูเหลือมและแมงมุมมักเข้ามาในบ้านด้วย ขนาดจิงโจ้ยังเข้าโจมตีคนเลย ให้ตายอย่างไรเราก็จะไม่กลับบ้าน เราจะรอดูไปก่อน”

หลี่ว์เสี่ยวอวี๋เหลือบมองหลี่ว์ซู่ “เราไปออสเตรลเลียกันดีไหมหลี่ว์ซู่”

“ไปทำไม ไม่ได้มีโบราณสถานสักหน่อย เราไปหาเงินที่นั่นไม่ได้ด้วย” หลี่ว์ซู่ตอบอย่างไม่ได้สนใจเธอมากนัก “เสี่ยวซยงสวี่ไปไหนล่ะ”

“สงสัยคงไปนอกเมือง” หลี่ว์เสี่ยวอวี๋ตอบอย่างใจเย็น “หนูสีเทาบอกว่ามันเจอฝูงแมงป่องเข้า”

หลี่ว์ซู่อิจฉาความสามารถของหลี่ว์เสี่ยวอวี๋เสียจริงๆ เธอเข้าใจท่าทางของพวกสัตว์ได้ เขาตอบกลับไป “แล้วรู้ไหมว่าฝูงแมงป่องอยู่ไหน ฉันอยากจะไปทดสอบกระบี่เฉวียอินสักหน่อย เมื่อวานมันเลื่อนระดับขึ้นมาแล้วนะ ตอนนี้มันมีเพิ่มมาอีกสามสองเส้นจนตอนนี้มีหกสิบสี่เส้นแล้วนะ จะฆ่าแมลงพวกนี้คงง่ายมากเลย”

หลี่ว์เสี่ยวอวี๋มองหน้าหลี่ว์ซู่อย่างไร้อารมณ์ “หลี่ว์ซู่ ก่อนหน้านี้กระบี่เฉวียอินมีสามสิบหกเส้นใช่ไหม”

“ใช่แล้ว” หลี่ว์ซู่พยักหน้า “ทำไมเหรอ”

“ถ้าก่อนหน้านี้มันมีสามสิบสองเส้น แล้วเลื่อนระดับขึ้นมาก็เป็นสามสิบหกบวกสามสิบสองทั้งหมดก็ควรจะมีหกสิบแปดเส้น” หลี่ว์เสี่ยวอวี๋พูดเสียงเรียบ

หลี่ว์ซู่อ้าปากค้างด้วยความตกใจ เขาไปตรวจดูแผนที่ดวงดาวอีกครั้งหนึ่ง “ฮ่าๆๆ แปลกดีจัง เมื่อวานมันมีหกสิบสี่เส้น วันนี้มีเจ็ดสิบสองเส้นแล้ว”

“พูดต่อไปสิ ให้ครูเลขของเธอหัวเราะให้ฟันหักไปเลย”

[ได้รับแต้มอารมณ์จากหลี่ว์ซู่ +166]

หลี่ว์ซู่ไม่อยากจะไปไหนเลยในตอนนี้ เพราะวิทยาลัยลั่วเสินกำลังจะเริ่มขั้นตอนการสอบเข้าแล้ว เขาไม่อยากจะโดนเนี่ยถิงทำให้อับอายขายหน้าอีก

อีกอย่างสัตว์กลายพันธุ์พวกนี้ก็เริ่มเป็นปัญหาใหญ่แล้ว เขาจะต้องอยู่ช่วยเครือข่ายฟ้าดินเพื่อจัดการกับสัตว์กลายพันธุ์ที่เข้ามาโจมตีมนุษย์ ถึงแม้ว่ามนุษย์ธรรมดาจะแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ แต่พวกเขาก็ไม่สามารถเอาตัวรอดจากในวิกฤตในอนาคตได้หรอก

เขาเองยังต้องรอข้อมูลใหม่ๆ เลย เพราะหลี่ว์ซู่รู้สึกว่าสัตว์กลายพันธุ์พวกนี้เพิ่งจะมีวิวัฒนาการขั้นเริ่มต้นเท่านั้น

ที่นอกเมืองนั้น ฝูงแมงป่องกำลังถูกกองทัพหนูล้อมอยู่ เสี่ยวซยงสวี่ที่นั่งอยู่บนหนูสีเทากำลังวางแผนกลยุทธ์อยู่ เสี่ยวซยงสวี่เป็นผู้ปกป้องใต้ดินของเมืองลั่วนะ มันจะปล่อยให้แมงป่องมากมายขนาดนี้เข้าไปในเมืองได้อย่างไร

แต่แมงป่องพวกนี้แตกต่างไปจากปลวกทั้งหลาย ปลวกเข้าโจมตีตึกอาคาร แต่แมงป่องเข้าโจมตีมนุษย์

ราชาแมงป่องค่อยๆ ถอยกลับเข้าไปในฝูง และแมงป่องตัวอื่นๆ ก็ง้างก้ามของพวกมันรอแล้ว พอเสี่ยวซยงสวี่เห็นอย่างนั้นก็หัวเราะออกมาอย่างเย็นชา มันยกอุ้งเท้าแล้วพุ่งไปข้างหน้า!

กองทัพหนูพุ่งไปข้างหน้าด้วยเหมือนกัน ตอนพวกมันถูกควบคุมไว้พวกมันก็เชื่อฟังเหมือนสัตว์เลี้ยงทั่วไป แต่พอด้านดุร้ายของพวกมันได้เปิดเผยออกมา ทั้งฟันที่แหลมคมและแขนขาที่แข็งแรงของพวกมันก็แสดงให้เห็นแล้วว่าพวกมันเป็นสัตว์จำพวกแรกที่มีวิวัฒนาการก่อนใคร!

จงอวี้ถังและโยวหมิงอวี่มองฉากที่เกิดขึ้นตรงหน้าผ่านกล้องโทรทรรศน์ด้วยความตกใจ พวกเขารู้ว่าเสี่ยวซยงสวี่เป็นผู้ควบคุมกองทัพ แต่เมื่อก่อนเสี่ยวซยงสวี่ทำได้แค่ขโมยขนมออกไปจากซุปเปอร์มาร์เก็ตเท่านั้น พวกเขาเลยไม่ได้ใส่ใจอะไรกับเสี่ยวซยงสวี่มาก

ในพื้นที่อื่นๆ มีปัญหาเกี่ยวกับหนู ในขณะที่เมืองลั่วไม่เจอปัญหานั้น ซึ่งนี่ทำให้จงอวี้ถังและโยวหมิงอวี่รำคาญเล็กน้อย เพราะนั่นหมายถึงว่าเสี่ยวซยงสวี่ได้ควบคุมหนูทุกตัวในใต้ดินเมืองลั่วเรียบร้อยแล้ว!

แน่ล่ะว่ามันก็ดีแล้วที่พวกเขาไม่ต้องมาจัดการเรื่องหนู พวกเขารู้ว่าเสี่ยวซยงสวี่นั้นไม่ใช่สายพันธุ์ที่โหดเหี้ยม แต่มันก็ทำให้พวกเขาใม่สบอารมณ์เลย ถ้าหลี่ว์ซู่ไม่จัดการควบคุมเสี่ยวซยงสวี่มาก่อนหน้านี้แล้วล่ะก็ หนูที่อยู่ใต้ดินทั้งหมดในเมืองลั่วคงฆ่าคนในเมืองภายในคืนเดียวได้เลย

“ถ้าหลี่ว์ซู่เกิดอยากจะขบถขึ้นมา สิ่งที่ตามมาก็คงจะร้ายแรงน่าดูเลยนะ” จงอวี้ถังถามความเห็นขณะที่เขากำลังส่งต่อกล้องโทรทรรศน์ให้โยวหมิงอวี่

“เว้นเสียแต่ว่านายจะฝังเมืองนี้ให้ตายทั้งเป็นไปกับเขานั่นแหละ แต่ไม่คิดถึงเรื่องแบบนี้จะดีกว่านะ” โยวหมิงอวี่พูดอย่างไม่รู้จะทำอย่างไร

“เคยคิดเรื่องนี้บ้างไหมล่ะ จากที่ฉันสังเกตนะ มีหนูที่เป็นระดับ F อยู่ประมาณสามร้อยตัวเลยล่ะ ถ้าจำนวนยังมากขึ้นเรื่อยๆ ก็แปลว่าเมืองนี้ทั้งครึ่งเมืองตกอยู่ในอันตรายแล้ว เราได้ทำการวิจัยเกี่ยวกับสัตว์กลายพันธุ์อยู่ตลอด เพื่อค้นหาว่าพวกมันต้องใช้ความเข้มข้นของพลังจิตวิญญาณมากเท่าไหร่สำหรับการวิวัฒนาการของพวกมัน พวกมันมีชีวิตอยู่ใต้จมูกของพวกเรามาตลอด แล้วพวกมันก็มีเยอะมากด้วย” จงอวี้ถังเริ่มจะอารมณ์เสียนิดหน่อย เขาเป็นผู้จัดการของเครือข่ายฟ้าในพื้นที่ของเมืองอวี้โจว และเขาก็มองข้ามปัญหาที่อยู่ภายใต้หน้าที่เขาไปเสียได้

“ต้องมีเหตุผลแปลกๆ ที่สัตว์พวกนี้มีวิวัฒนการก่อนสายพันธุ์อื่นแน่นอนเลย” โยวหมิงอวี่พูด “แล้วหลี่ว์ซู่ก็อาจจะเป็นคนอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ก็ได้”

“ถ้าอย่างนั้น…หลี่ว์ซู่จะหักหลังพวกเราสักวันหนึ่งไหมเนี่ย” จงอวี้ถังไม่รู้ว่าเขากำลังถามตัวเองหรือว่าถามโยวหมิงอวี่อยู่ เพราะนี่เป็นคำถามที่เขาจะต้องเอาไปคิดเอง

โยวหมิงอวี่มองหน้าจงอวี้ถัง “คิดว่าฉันจะรู้คำตอบเหรอ”

แล้วจงอวี้ถังก็ถอนหายใจขึ้นมา “อยู่ที่ว่าหลี่ว์ซู่จะเอาอย่างไรแล้ว”

เหมือนกับว่าพวกหนูนี้จะไม่รู้จักความเจ็บปวดหรือความตายเลย เมื่อเสี่ยวซยงสวี่สั่งให้พวกมันเข้าล้อมโจมตีพวกแมงป่อง พวกหนูก็ไม่ได้เกรงกลัวอะไรเลย ถึงแม้ว่าพวกแมงป่องจะชูหางรออยู่ในอากาศก็ตาม

เสี่ยวซยงสวี่นั่งบน ‘ม้า’ ของมัน แล้วคิดวิเคราะห์อะไรบางอย่าง ในเมื่อเขานำทัพได้ เขาควรไปศึกษาพิชัยสงครามด้วยไหมนะ!

ตอนนี้มันแค่ควบคุมให้พวกหนูเข้าล้อมโจมตีได้ มันยังไม่สามารถสร้างรูปแบบทัพหรือกลยุทธ์ที่ดีกว่านี้ได้ ใช่แล้ว มันจำเป็นต้องเรียนรู้พิชัยสงครามด้วย

จำนวนของพวกแมงป่องเริ่มน้อยลงไปเรื่อยๆ แล้ว พวกหนูกัดก้ามและหางของพวกแมงป่องออก แต่พวกหนูเองก็ไม่ได้สู้เก่งมากขนาดนั้น จำนวนของพวกหนูก็ลดลงจากห้าหมื่นเป็นสี่หมื่นตัว และกำลังลดลงเรื่อยๆ ด้วย

แต่เสี่ยวซยงสวี่ไม่ได้กังวลเลย มันแค่กลับไปหาหลี่ว์ซู่เพื่อขออะไรชดเชย มันอาจจะขอผลล้างไขกระดูกเพิ่มมาด้วยก็ได้

หลี่ว์ซู่ก็คงชื่นชมมันเหมือนเดิมใช่ไหมล่ะ มันเป็นหนึ่งในสมาชิกของครอบครัวที่ทำงานได้ด้วยเหมือนกัน! มันดีกว่าเจ้าแมวอ้วนและหมูจอมพยศตั้งเยอะ พวกมันไม่เห็นทำอะไรนอกจากกินกับนอนเลย!

จงอวี้ถังและโยวหมิงอวี่เห็นว่าการต่อสู้ได้สงบลงแล้วพวกเขาจึงมุ่งหน้ากลับไป จงอวี้ถังพูดขึ้นมา “ดีแล้วที่มีเสี่ยวซยงสวี่ช่วยปกป้องเมืองลั่วอยู่ เราจะได้เอากำลังคนไปช่วยที่อื่นๆ ส่งการแจ้งเตือนออกไปว่าให้ไปลาดตระเวนดูตามฟาร์มสัตว์มีพิษ โดยเฉพาะฟาร์มของเอกชน”

ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ

ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ

หลี่ว์ซู่ เป็นเด็กกำพร้าที่หาเลี้ยงตัวเองมาโดยตลอด และก็คงจะหาเลี้ยงตัวเองเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ ถ้าเขาไม่ได้ประสบอุบัติเหตุรถชนเข้าเสียก่อน… แต่เฮ้ย! เขาไม่เป็นอะไรเลยนี่ ไม่เจ็บ ไม่ปวด และไม่ตาย แถมวิญญาณไม่ได้หลุดออกจากร่างด้วย! จะมีก็แต่สัญลักษณ์รูปต้นไม้ที่จู่ๆ ก็ปรากฏขึ้นมาบนฝ่ามือและพลังพิเศษในตัวที่ตื่นขึ้นมาเท่านั้น! ทว่าเขาไม่ได้เป็นเพียงคนเดียวที่ได้รับพลังพิเศษนี้มา เพราะคนอื่นๆ เองก็เริ่มกลายเป็นผู้มีพลังแล้วเหมือนกัน นี่มันเรื่องบ้าอะไร เกิดอะไรขึ้นกับโลกใบนี้กันแน่ นี่เรากำลังจะก้าวเข้าสู่ยุคของผู้มีพลังพิเศษกันแล้วงั้นเหรอ หลี่ว์ซู่ได้แต่คิดแล้วก็สงสัย ว่าแต่พลังที่ได้มานี่มันฝึกยังไงกันล่ะ เอ๊ะ ต้องสะสมแต้มอารมณ์ด้านลบงั้นเหรอ แค่กวนโมโหคนอื่นก็เพิ่มพลังได้แล้วงั้นเหรอ แบบนี้ก็เข้าทางหลี่ว์ซู่สุดๆ ไปเลยน่ะสิ!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset