ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ – ตอนที่ 754 เศรษฐีใหม่หลี่ว์เสี่ยวซู่

วิทยาลัยมีหลักสูตรทั่วไป นักศึกษาบางคนคิดว่าหลังจากที่พวกเขาเข้าเรียนที่วิทยาลัยลั่วเสินแล้ว สิ่งที่พวกเขาต้องเรียนรู้ทุกวันคือพลังจิตวิญญาณ ทุกคนโบกมือลาวิชาต่างๆ เช่นพวกคณิตศาสตร์ และใช้ชีวิตแบบที่นักศึกษาคนอื่นอิจฉา

 

 

ขณะที่นักศึกษาโรงเรียนธรรมดาที่ต้องปวดหัวกับคณิตศาสตร์ชั้นสูง พวกเขาก็บอกกับตัวเองได้ว่า “พวกเราไม่เรียนคณิตศาสตร์ชั้นสูง พวกเราเรียนรู้ว่าวัตถุทำปฏิกิริยากับร่างกายอย่างไรและใช้พลังจิตวิญญาณอย่างไร”

 

 

สิ่งที่ทำให้ทุกคนปวดใจมากก็คือการเข้าเรียนที่วิทยาลัยลั่วเสิน ไม่ใช่แค่ต้องเรียนคณิตศาสตร์ต่อไป ฟิสิกส์ เคมีก็เป็นหลักสูตรทั่วไปด้วย มิน่าพวกเขาถึงแบ่งชั้นเรียนเหมือนโรงเรียนมัธยม ที่จริงแล้วชีวิตของทุกคนในตอนเช้าไม่ต่างจากโรงเรียนมัธยมเลย แล้วยังเพิ่มเติมวิชาเช่นการสำรวจแผนที่ ทฤษฎีการบำเพ็ญ ความรู้โครงสร้างร่างกายมนุษย์ ช่วงบ่ายถึงจะเป็นช่วงวิชาสาขา

 

 

โรงเรียนอื่นๆ มีสาขาการวิจัยสายพันธุ์จำนวนมาก มีสองสามชั้นเรียนก็ไม่เป็นปัญหา แต่ทว่าวิทยาลัยลั่วเสินค่อนข้างพิเศษ ที่นี่มีเพียงห้าคน

 

 

หลี่ว์ซู่และคนอื่นๆ จึงต้องไปเข้าเรียนวิชาอื่นกับสาขาอื่น คงไม่ต้องเสียทรัพยากรครูเพื่อสอนพวกเขาแค่ห้าคน

 

 

หลี่ว์ซู่มาถึงวิทยาลัยลั่วเสิน ในตอนเช้าและพบว่านักศึกษาที่เจอระหว่างทางกำลังคุยซุบซิบกันอยู่ เขาจึงแอบเดินเฉียดไปเพื่อแอบฟัง นักศึกษาชายคนหนึ่งพูดขึ้นว่า “พวกเธอเห็นเด็กผู้หญิงที่เพิ่งเดินเข้ามาหรือเปล่า เป็นชาวต่างชาติ สวยด้วย! “

 

 

“เห็นแล้วๆ ทำไมเครือข่ายฟ้าดินถึงมีชาวต่างชาติมาเรียนได้ น่าจะมาทำธุระมากกว่านะ พวกเขาคัดกรองเข้มงวดจะตาย”

 

 

ในตอนนี้นักศึกษาชายตัวผอมเตี้ยพูดเสียงเบาๆ ว่า “ไม่รู้กันใช่ไหม เมื่อวานตอนบ่ายฉันอยู่ที่ฝ่ายวิชาการเลยรู้เรื่องของเธอ เธอเป็นนักศึกษาแลกเปลี่ยน อยู่สาขาการต่อสู้! “

 

 

“เฮ้ย พูดจริงพูดเล่น นักศึกษาแลกเปลี่ยนเหรอ” มีคนตกใจ “ทำไมฉันเลือกสาขาการต่อสู้นะ! “

 

 

ที่จริงวิทยาลัยลั่วเสินมีนักศึกษาสวยๆ มากมาย มีคนที่คุณสมบัติที่ดี ได้รับการเลี้ยงดู เติบโตมาค่อนข้างดีอยู่ไม่น้อย เหมือนพวกเธอมีพันธุกรรมที่ดี

 

 

แต่เสน่ห์ของคอรัลเองก็สุดยอด ไม่อย่างนั้นคนนั้นคงไม่หลงเสน่ห์ถึงขนาดนั้น ก่อนที่คอรัลจะเป็นผู้นำกลุ่มก็เป็นดั่งไข่มุกงามเม็ดหนึ่ง โดยเฉพาะผมยาวสีขาวทองนั้นที่ดูสะดุดตามาก ยิ่งเป็นชาวต่างชาติอีก ทำเอานักศึกษาหญิงของวิทยาลัยลั่วเสินด้อยลงไป

 

 

แต่คนจีนส่วนใหญ่จะขี้อายเล็กน้อยเมื่อพวกเขาเพิ่งจบการศึกษาจากโรงเรียนมัธยม ปกตินักศึกษามัธยมปลายเชื้อสายจีนที่ไปเรียนต่างประเทศก็มักจะคลุกคลีกับคนชาติเดียวกัน น้อยคนที่จะคบแฟนชาวต่างชาติ ในแง่หนึ่งก็ไม่แน่ใจว่าภาษาอังกฤษตัวเองดีพอจะเล่นมุกตลกได้หรือยัง อีกด้านหนึ่งเพราะวัฒนธรรมที่ต่างกันทำให้มีช่องว่างอยู่บ้าง

 

 

ดังนั้น ในกรณีนี้ทุกคนจึงคิดว่าคอรัลสวยและมีเสน่ห์มากแต่พวกเขากลับไม่กล้าเข้าไปเริ่มพูดคุย

 

 

เป็นหัวข้อสนทนาติดลมบนแต่ถ้าจะให้ไปจีบคอรัลก็ไม่มีใครทำ

 

 

จู่ๆ ก็มีคนพูดว่า “ฉันอ่านนิยายมามันจะมีอันดับหญิงงามอะไรพวกนั้น พวกเราเริ่มฝึกฝนแล้ว ไม่แน่อาจจะมีอันดับพลัง อันดับหญิงงามด้วยก็ได้”

 

 

“ไม่สมจริงเลย วัยพวกเรามีคนมากกว่าหมื่นคน นายอาจรู้จักไม่หมดก็ได้”

 

 

“เอ๊ะ ฉันคิดว่าเฝิงเป๋าเป่าสาวสวยจากสาขาการต่อสู้ แล้วก็หลี่จื่อมู่ อัจฉริยะระดับ A คนนั้นก็อยู่สาขาการต่อสู้เหมือนกัน”

 

 

“ว่าไป เหมือนสาวสายกับยอดฝีมือส่วนใหญ่จะอยู่สาขาการต่อสู้ทั้งนั้นเลย”

 

 

มีคนพูดขึ้นมาเบาๆ ว่า “พวกนายลืมสาขาวิจัยสายพันธุ์ไปแล้วเหรอ พวกเขาหายหน้าหายตาไปนานเลย แต่ว่า…”

 

 

“ในสาขาวิจัยสายพันธุ์วิทยาลัยเรามีแต่พวกตัวประหลาด เรื่องพลังไม่ต้องพูดหรอก แค่เรื่องหน้าตาจะมีใครสู้หลี่ว์เสี่ยวอวี๋”

 

 

หลี่ว์ซู่ไม่ได้ฟังต่อ เรื่องจัดอันดับมันเป็นเรื่องตลกของชาวบ้าน เว้นแต่สวรรค์บันดาลให้มีการจัดอันดับลงมาจริงๆ ถึงค่อยน่าสนใจ

 

 

เมื่อวานอาจารย์ใหญ่จงอวี้ถังแจ้งหลี่ว์ซู่และคนอื่นๆ ให้ไปเข้าเรียนกับสาขาอื่นในตอนเช้า แต่หลี่ว์ซู่ก็วางสายก่อนที่จะคุยเสร็จ หลี่ว์ซู่คิดในใจว่าจงอวี้ถังยอมแล้วเหรอ

 

 

พอเป็นแบบนี้สาขาวิจัยสายพันธุ์…จึงกลายเป็นสาขาวิชาที่มีเวลาว่างทั้งวัน! พอคิดดูแล้วมันก็เจ๋งมาก!

 

 

รถบรรทุกแช่แข็งที่ขนส่งตัวอย่างสิ่งมีชีวิตจะมาเข้ารับทุกๆ วันศุกร์ วันนี้เป็นวันพฤหัสบดีดังนั้นตัวอย่างจึงยังอยู่ที่หลี่ว์ซู่ เฉาชิงฉือ และหลี่ว์เสี่ยวอวี๋

 

 

“พี่ซู่ พวกเราว่างจริงๆ ใช่ไหม” เฉินจู่อานถาม

 

 

หลี่ว์ซู่คิดอยู่สักพัก จงอวี้ถังเป็นคนที่มีความรับผิดชอบสูง ดังนั้นเขาไม่น่าปล่อยไปแบบนี้นะ

 

 

แต่แล้วพอถึงเวลาเข้าเรียน เฉินจู่อานและเฉิงชิงเฉี่ยวกำลังกินซาลาเปาที่ซื้อมาจากโรงอาหารก็เห็นนักศึกษาเฮโลเดินเข้ามา…

 

 

พวกนักศึกษาเข้ามาหาที่นั่ง ทำเอาหลี่ว์ซู่และคนอื่นๆ ทำตัวไม่ถูกจากนั้นอาจารย์ก็เข้ามา

 

 

หลี่ว์ซู่พูดไม่ออก หลี่ว์ซู่ก็ยังไม่เชื่อจงอวี้ถังซะทีเดียว แล้วตอนนี้ระดับของเขาเองก็สูงมาก จงอวี้ถังก็ทำอะไรเขาไม่ได้แล้ว!

 

 

ถ้าภูเขามาไม่ได้ฉันจะข้ามไปหาเอง จงอวี้ถังให้นักศึกษาจากสาขาอื่นมาเข้าเรียนที่สาขาวิจัยสายพันธุ์ซะเลย และให้อาจารย์ย้ายมาด้วย…

 

 

จงอวี้ถังเองก็อดปลาบปลื้มตัวเองไม่ได้ที่คิดวิธีนี้ออกมาได้!

 

 

หลี่ว์ซู่ก็ดีใจ อันที่จริงเขาก็ไม่ได้ไม่อยากเข้าเรียนก็เพราะเรื่องของเนี่ยถิงที่เอาแต่หาเรื่องให้เขาได้ทั้งวัน หลี่ว์ซู่เองก็ตระหนักถึงความสำคัญของการเรียน

 

 

ตอนนี้การเล่าเรียนไม่ใช่เพื่อเกรดหรือหางานที่ดีแต่เพื่อเพิ่มทักษะเล็กๆ น้อยๆ ที่ไม่แน่อาจช่วยชีวิตคุณได้ในอนาคต

 

 

คาบแรกคือวิชาการสำรวจและการทำแผนที่ ผู้เฒ่าท่านหนึ่งเอามือไพล่หลังเดินเข้ามา “เมื่อวานเรียนถึงไหนล่ะ”

 

 

นักศึกษาคนหนึ่งของอีกสาขาอื่นพูดว่า “ถึงเวลาวาดจริงแล้วครับ”

 

 

“เอาล่ะ เอาเครื่องมือทั้งหมดออกก่อน” ผู้เฒ่าเริ่มเข้าบทเรียนแล้ว หลี่ว์ซู่และคนอื่นๆ ถึงรู้ว่าพวกเขากลับมาครั้งนี้ต้องเรียนเสริมอีกเยอะเพื่อตามให้ทัน…

 

 

แต่ก็ไม่มีใครบอกพวกเขาว่าต้องเตรียมเครื่องมืออะไรบ้าง มองนักศึกษาข้างๆ พวกเขาหยิบอุปกรณ์ที่คล้ายไม้บรรทัด เริ่มกางกระดาษสีขาววาดภาพ พวกเขาทั้งห้าคนได้แต่มองมือมองไม้ตัวเองที่ว่างเปล่าของตัวเอง

 

 

ช่วยไม่ได้ ตอนที่หลี่ว์ซู่วาดเส้นตรง เขาก็ใช้สันหนังสือแทนไม้บรรทัด ผู้เฒ่าคนนั้นเห็นท่าทางของหลี่ว์ซู่ก็เดินมาดูข้างๆ “เธอจนขนาดไม่มีเงินซื้อไม้บรรทัดเชียวเหรอ”

 

 

พออหลี่ว์ซู่ได้ยินก็ไม่ชอบใจ ตอนนี้เขาถือว่าเป็นเศรษฐีใหม่ได้แล้วนะ ลำบากเก็บเงินมาจะให้คนอื่นดูถูกว่าจนได้ยังไง เล่นกับใครไม่เล่น!

 

 

มาสอนก็สอนหนังสือดีๆ เถอะ ผมจะรวยจนมันเกี่ยวอะไรกับคุณ!

 

 

หลี่ว์ซู่วางหนังสือลงแล้วหยิบเอาตราแผ่นดินขึ้นมาใช้แทนไม้บรรทัด

 

 

อยู่ๆ ทั้งห้องก็เงียบสนิท…

 

 

[ได้แต้ม…]

 

 

[ได้แต้ม…]

ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ

ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ

หลี่ว์ซู่ เป็นเด็กกำพร้าที่หาเลี้ยงตัวเองมาโดยตลอด และก็คงจะหาเลี้ยงตัวเองเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ ถ้าเขาไม่ได้ประสบอุบัติเหตุรถชนเข้าเสียก่อน… แต่เฮ้ย! เขาไม่เป็นอะไรเลยนี่ ไม่เจ็บ ไม่ปวด และไม่ตาย แถมวิญญาณไม่ได้หลุดออกจากร่างด้วย! จะมีก็แต่สัญลักษณ์รูปต้นไม้ที่จู่ๆ ก็ปรากฏขึ้นมาบนฝ่ามือและพลังพิเศษในตัวที่ตื่นขึ้นมาเท่านั้น! ทว่าเขาไม่ได้เป็นเพียงคนเดียวที่ได้รับพลังพิเศษนี้มา เพราะคนอื่นๆ เองก็เริ่มกลายเป็นผู้มีพลังแล้วเหมือนกัน นี่มันเรื่องบ้าอะไร เกิดอะไรขึ้นกับโลกใบนี้กันแน่ นี่เรากำลังจะก้าวเข้าสู่ยุคของผู้มีพลังพิเศษกันแล้วงั้นเหรอ หลี่ว์ซู่ได้แต่คิดแล้วก็สงสัย ว่าแต่พลังที่ได้มานี่มันฝึกยังไงกันล่ะ เอ๊ะ ต้องสะสมแต้มอารมณ์ด้านลบงั้นเหรอ แค่กวนโมโหคนอื่นก็เพิ่มพลังได้แล้วงั้นเหรอ แบบนี้ก็เข้าทางหลี่ว์ซู่สุดๆ ไปเลยน่ะสิ!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset