ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ – ตอนที่ 756 เกิดเรื่องใหญ่แล้ว

“เฮ้ย ที่แท้ขบวนรถนั้นมาเพื่อขนส่งสัตว์กลายพันธุ์นี่เอง! “

 

 

“ทำไมถึงได้มากขนาดนี้นะ รถแทบจะใส่ไม่หมดเลย”

 

 

“พวกสาขาวิจัยสายพันธุ์ไปเหมาสัตว์กลายพันธุ์พวกนี้มาจากที่ไหนกันเนี่ย” นักศึกษาคนหนึ่งแสดงความเห็น

 

 

แต่เดิมสาขาวิจัยสายพันธุ์ที่รู้กันว่าไม่เด่นอะไร พอมาที่วิทยาลัยลั่วเสิน ภาพก็กลับเป็นโดดเด่นขึ้นผิดหูผิดตา

 

 

ตอนแรกหลี่ว์ซู่แอบเก็บตัวอย่างจำนวนมากไว้ระหว่างทาง แล้วก็ใช้เรื่องการซ่อนซากศพสัตว์กลายพันธุ์มาเรียกแต้มอารมณ์ด้านลบได้ไม่น้อยเลย

 

 

เรื่องราวเป็นแบบนี้ ระหว่างที่พวกเขาย้อนกลับทางเดิม สิ่งแรกที่พวกเขาผ่านคือตำแหน่งที่หมีตัวนั้นตาย แต่…ศพหมีหายไป!

 

 

หวังเยี่ยนและคนธรรมดาคนอื่นๆ ต่างตกใจที่ศพหมีถึงหายไปอย่างแปลกประหลาด …

 

 

พอผ่านสถานที่ที่จามรีป่าถูกฆ่า ศพของจามรีป่าก็หายไปอีก!

 

 

ในตอนนั้นหวังเยี่ยนและคนอื่นๆ ต่างตื่นตกใจ หรือว่ามีสัตว์ประหลาดที่กินซากศพ! มันจะโจมตีมนุษย์หรือเปล่า!

 

 

ระหว่างทางกลับ หวังเยี่ยนและคนอื่นๆ เหมือนอยู่ในเหตุการณ์ระทึกขวัญ ศพบางศพบทจะหายก็หายไปดื้อๆ พวกเขาเกาะแขนสมาชิกเครือข่ายฟ้าดินเอาไว้ไม่ปล่อยเชียวจนทำเอาทุกคนไม่รู้จะทำอย่างไร

 

 

หลี่ว์ซู่ชอบใจที่ได้คะแนนอารมณ์ด้านลบไม่น้อยแต่ก็ไม่ได้บอกความจริงว่าศพพวกนั้นถูกเขาแอบวกกลับมาเก็บเป็นตัวอย่างใส่ตราแผ่นดิน

 

 

ตอนนี้จางซิงยิ้มหัวเราะว่า “พวกเราทำตามคำสั่ง ฉันรู้ว่าพวกเธอเป็นนักศึกษาสาขาวิจัยสายพันธุ์ก็เหนื่อยมากแล้ว แต่พูดตามตรง พวกเราก็รู้นิสัยของท่านเนี่ยถิงดี เขาไม่ได้ประสงค์ร้ายหรอก”

 

 

หลี่ว์ซู่โบกมือ “เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับพวกคุณ! “

 

 

แต่มันเกี่ยวกับเนี่ยถิง!

 

 

เมื่อก่อนบางครั้งหลี่ว์ซู่จะถอยอย่างมีชั้นเชิงมันเป็นวิธีพูดให้น่าฟังหน่อย ถ้าพูดไม่น่าฟังก็คือเขายอมแพ้

 

 

แต่ตอนนี้ไม่เหมือนเดิมแล้ว เขามีฮุ่นตุ้น

 

 

ถึงเนี่ยถิงจะอยู่ระดับ A แต่เขาก็มีสัตว์เลี้ยงระดับ A เหมือนกัน เขาไม่กลัวหรอก!

 

 

จางซิงไม่ได้สนใจมากขนาดนั้น “รถที่มาครั้งนี้มีจำนวนมากเพราะก็ไม่แน่ใจว่านายฆ่าไปเท่าไหร่ ไม่พอก็ไม่เป็นไร พวกเราทิ้งเบอร์เอาไว้ ครั้งหน้านายบอกฉันก่อนว่าต้องเอารถมากี่คัน…เฮ้ย!”

 

 

เมื่อจางซิงเห็นซากศพกองเป็นภูเขาเลากาก็หันหน้าขวับมาดูรถบรรทุกเย็นหกคันที่นำมา “ไม่ต้องเอาออกมาแล้ว รถใส่ไม่พอแล้ว! “

 

 

หลี่ว์ซู่หัวเราะชอบใจแล้วสั่งให้เฉาชิงฉือและหลี่ว์เสี่ยวอวี๋เอาสัตว์ตัวอย่างออกมาอีก เขายิ้มให้จางซิงและพูดว่า “คราวหน้าเอารถมาประมาณนี้นะ ใส่พอแน่นอน”

 

 

พูดตามตรง จางซิงไม่ได้คาดหวังให้หลี่ว์ซู่และคนอื่นๆ ล่าสัตว์กลายพันธุ์กลับมามากมายขนาดนี้!

 

 

ทุกๆ เดือนแต่ละวิทยาลัยจะนำตัวอย่างออกมาตัวสองตัวมาผ่าวิจัย ที่ตกลงกันจะมารับตัวอย่างทุกศุกร์บ่ายก็เพราะคิดว่าพวกหลี่ว์ซู่จะไปเอาพวกหนู พวกแมงป่อง ตะขาบมาให้ครบจำนวน

 

 

แต่คิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะเอาหมียักษ์และหมาป่ายักษ์กลับมา

 

 

ที่จริงในกลุ่มพวกเขาวางเดิมพันกัน ห่าวจื้อเชาและคนอื่นอยู่ระดับกลางและระดับสูง ดังนั้นพวกเขาจึงรู้ถึงความแปลกประหลาดของสาขาวิจัยสายพันธุ์ของวิทยาลัยลั่วเสิน ทุกคนเดิมพันว่าสัตว์ตัวอย่างที่หลี่ว์ซู่นำกลับมาครั้งแรกจะเป็นอะไรแล้วยังเดิมพันจำนวนด้วย

 

 

อย่างไรก็ตามเนี่ยถิงจัดการให้การเดินทางไปเขาคุนหลุนเป็นความลับสุดยอด เพราะมันเกี่ยวข้องกับความลับมากมาย แม้แต่ห่าวจื้อเชา และคนอื่นๆ ก็ไม่ทราบว่าหลี่ว์ซู่ไปที่เขาคุนหลุน

 

 

หลี่ว์ซู่กำลังคิดถึงเรื่องหนึ่งอยู่ เขาเคยอยากเดินทางไปภูเขาฉางไป๋แล้วลอบเอาดาบที่เนี่ยถิงใช้สร้างค่ายกลดาบมา แต่ถ้าเขาไม่อยากถูกพบก็ต้องแปลงโฉมเท่านั้น

 

 

หลี่ว์ซู่ตัดสินใจว่าถ้าเขามีโอกาส เขาจะต้องเซอร์ไพรส์เนี่ยถิงแน่นอน ฮ่าๆ

 

 

หลังส่งมอบแล้ว ตัวอย่างสัตว์กลายพันธุ์ที่เอากลับมาทางเครือข่ายฟ้าดินเอาไปได้แค่ครึ่งเดียว อีกครึ่งต้องมาเอาครั้งหน้า จางซิงยิ้มและพูดว่า “ใกล้จะเริ่มการแข่งขันแล้ว นายจะเข้าร่วมไหม”

 

 

“จะเข้าร่วมไปทำไม” หลี่ว์ซู่แทบไม่สนใจ การแข่งขันพรรค์นั้นเป็นเรื่องเด็กเล่นสำหรับเขา ฆ่าคนมามากขนาดนั้น ผ่านการต่อสู้ก็เยอะ แม้แต่เผชิญหน้ากับระดับ A ก็เคยมาแล้วจะมาแข่งกับนักศึกษาทำไม

 

 

“ดังเลยนะ ถ้าได้ที่หนึ่งมีโอกาสออกไปรับรางวัลพูดหน้าที่ประชุมนะ ตอนนั้นใครๆ ในวิทยาลัยทั้งหมดก็จะรู้จักนาย” จางซิงและคนอื่นๆ ชอบโอกาสแบบนี้มาก การออกสู่สาธารณชนหมายถึงอาจได้รับความสำคัญ ตอนนี้พวกเขาทุกคนหวังว่าจะได้รับผิดชอบมากขึ้นในตำแหน่งที่สำคัญที่สุด แต่ลองคิดดูแล้วหลี่ว์ซู่ไม่จำเป็นต้องยุ่งเรื่องพวกนั้น ยังไงหลี่ว์ซู่เองก็ …

 

 

“ฉันจพเข้าร่วม” หลี่ว์ซู่พูด

 

 

[ได้รับแต้มจากจางซิง +666!]

 

 

“เมื่อกี้นาย …” จางซิงเหมือนมีอะไรจะพูด

 

 

“ผมคิดๆ ดูแล้ว ผมอยากเป็นตัวอย่างให้เพื่อนคนอื่นๆ ให้พวกเขามีแรงบันดาลใจในการฝึกฝนและเรียนรู้มากขึ้น! ” หลี่ว์ซู่พูดชัดถ้อยชัดคำ จางซิงนึกขึ้นเรื่องที่เก่าจื้อเชาเคยบอกพวกเขาว่าเมื่อใดที่หลี่ว์ซู่เริ่มพูดจาจริงจังขึ้นมา เรื่องที่เขาพูดอย่าไปเชื่อเด็ดขาด

 

 

ความจริงสิ่งที่ดึงดูดใจหลี่ว์ซู่ก็คือได้ที่หนึ่งจะได้รับรางวัลและพูดหน้าที่ประชุม…พอถึงเวลานั้นอยู่หน้ากลุ่มคนมากกว่าเจ็ดหมื่นคนจากวิทยาลัยทั้งเจ็ดแห่ง ตอนนั้นเขาต้องได้เลื่อนระดับแน่นอน!

 

 

ยิ่งกว่านั้นเนี่ยถิงทำเรื่องนี้ก็เพื่อกระตุ้นให้ทุกคนได้มีการเปรียบเทียบเพื่อการพัฒนา ห้องเต้าหยวนก็เคยเป็นแบบนี้บรรยากาศของการแข่งขันนั้นเข้มข้นมาโดยตลอด เนี่ยถิงต้องการให้นักศึกษาเหล่านี้มีแรงจูงใจจากการเปรียบเทียบมากขึ้น

 

 

ฮ่าๆ หลี่ว์ซู่รู้สึกว่าเขาต้องทำให้เนี่ยถิงรู้ว่านี่เป็นการตัดสินใจที่ผิด

 

 

เมื่อเฉินจู่อานอยู่ข้างเห็นสีหน้าของหลี่ว์ซู่ก็พอเดาออกว่าเขาคิดอะไรอยู่ แต่เขาก็ไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไมคนอย่างหลี่ว์ซู่และเนี่ยถิงที่ดูเป็นการเป็นงานในเรื่องสำคัญๆ แต่พอทั้งสองได้มาเจอหน้ากันก็เล่นเป็นเด็กกันได้ขนาดนี้

 

 

หลี่ว์เสี่ยวอวี๋เป็นคนที่เข้าใจหลี่ว์ซู่ดีที่สุด เธอหัวเราะเยาะและพูดว่า “เฮอะ พวกผู้ชายมีแต่คนโตแต่ตัวกันทั้งนั้น”

 

 

[ได้แต้มจากหลี่ว์ซู่ +187!]

 

 

จู่ๆ จางซิงก็รู้สึกว่าที่เขามาพูดเรื่องนี้หลี่ว์ซู่แบบนี้จะทำให้เกิดเรื่องใหญ่หรือเปล่านะ

 

 

ตอนแรกที่หลี่ว์ซู่และเฉินจู่อานถูกไล่ล่าก็เป็นเพราะเนี่ยถิงสั่งการไม่ใช่เหรอ ตอนนั้นอัจฉริยะระดับ A คนอื่นๆ ถูกจับตาไว้ทั้งนั้น แล้วสองคนนี้ก็ถูกจับตาหนักเลย

 

 

ครั้งนี้ พี่ใหญ่สุดประหลาดของสาขาวิจัยสายพันธุ์ วิทยาลัยลั่วเสินเริ่มมีความคิดที่น่าตื่นเต้นแล้ว เพราะรู้ว่าเนี่ยถิงจงใจทำเรื่องนี้ขึ้นมาแกล้งกัน

 

 

ตัวอย่างเช่นจางซิงและห่าวจื้อเชาที่กลายเป็นกำลังสำคัญขององค์กร พวกเขาจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าทำไมตำแหน่งราชันฟ้าคนที่เก้าจึงยังว่างอยู่แต่กลับมีราชันฟ้าที่สิบ!

 

 

ไม่ได้ล่ะ ต้องรีบกลับให้เร็วที่สุด เขาอาจจะก่อเรื่องใหญ่ขึ้นได้ จะให้รับผิดชอบเรื่องใหญ่ขนาดนี้คงไม่ไหว!

 

 

จางซิงที่เมื่อครู่ยังพูดคุยกันอย่างเป็นกันเองกับหลี่ว์ซู่อยู่ๆ ก็รีบพาขบวนรถขับออกไปโดยไม่มีท่าทีลังเลเลย!

 

 

“เฮ้ อยู่กินข้าวด้วยกันก่อนออกไปสิ” หลี่ว์ซู่ตะโกนไล่หลังแต่จางซิงและคนอื่นๆ ขับรถไปและไม่กล้าหันกลับมามอง

ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ

ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ

หลี่ว์ซู่ เป็นเด็กกำพร้าที่หาเลี้ยงตัวเองมาโดยตลอด และก็คงจะหาเลี้ยงตัวเองเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ ถ้าเขาไม่ได้ประสบอุบัติเหตุรถชนเข้าเสียก่อน… แต่เฮ้ย! เขาไม่เป็นอะไรเลยนี่ ไม่เจ็บ ไม่ปวด และไม่ตาย แถมวิญญาณไม่ได้หลุดออกจากร่างด้วย! จะมีก็แต่สัญลักษณ์รูปต้นไม้ที่จู่ๆ ก็ปรากฏขึ้นมาบนฝ่ามือและพลังพิเศษในตัวที่ตื่นขึ้นมาเท่านั้น! ทว่าเขาไม่ได้เป็นเพียงคนเดียวที่ได้รับพลังพิเศษนี้มา เพราะคนอื่นๆ เองก็เริ่มกลายเป็นผู้มีพลังแล้วเหมือนกัน นี่มันเรื่องบ้าอะไร เกิดอะไรขึ้นกับโลกใบนี้กันแน่ นี่เรากำลังจะก้าวเข้าสู่ยุคของผู้มีพลังพิเศษกันแล้วงั้นเหรอ หลี่ว์ซู่ได้แต่คิดแล้วก็สงสัย ว่าแต่พลังที่ได้มานี่มันฝึกยังไงกันล่ะ เอ๊ะ ต้องสะสมแต้มอารมณ์ด้านลบงั้นเหรอ แค่กวนโมโหคนอื่นก็เพิ่มพลังได้แล้วงั้นเหรอ แบบนี้ก็เข้าทางหลี่ว์ซู่สุดๆ ไปเลยน่ะสิ!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset