ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ – ตอนที่ 529 ประกายไฟเล็กๆ ที่จุดประกายให้เกิดไฟลามทุ่ง

ตอนนี้เรื่องที่หลี่ว์ซู่ได้รับชัยชนะกลับมายังเป็นความลับอยู่ มีเพียงแค่คนระดับสูงในเครือข่ายฟ้าดินไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้ หลี่ว์ซู่ครุ่นคิดว่าเขาจะได้คลื่นแต้มอารมณ์จากพวกทวยเทพมากเท่าไหร่กันนะถ้าพวกเขารู้ความจริงเรื่องการตายหลอกๆ ของหลี่ว์ซู่แล้ว แถมยังเรื่องกลโกงหาดทรายขาวใต้น้ำลึกนั่นอีก

 

 

แต่ถึงอย่างไรทั้งองค์กรก็โดนทำลายไปหมดแล้ว ถึงจะมีคนโกรธเขาอยู่ตอนนี้ก็คงมีไม่มากพอที่จะให้แต้มอารมณ์กับเขาเยอะๆ ได้

 

 

ในขณะเดียวกัน ห่างออกไปประมาณหนึ่งกิโลเมตรจากญี่ปุ่น ซากุราอิ ยาเอโกะก็ได้ไปเยี่ยมหาองค์กรลับหลายๆ กลุ่มอย่างต่อเนื่อง เธอได้รับการสนับสนุนอย่างเป็นเอกฉันท์จากผู้คนที่เธอแวะเวียนไปหาในเวลาสามวันที่ผ่านมานี้

 

 

ไม่เพียงแต่เธอจะมีทรัพยากรที่เหลืออยู่ของกลุ่มอนุรักษนิยมเท่านั้น แต่เธอยังเชี่ยวชาญในทักษะที่สืบทอดมาจากโอดะอีกด้วย

 

 

ตอนนี้ข่าวช็อกโลกที่ว่ากลุ่มทวยเทพได้ล่มสลายไปก็ออกสู่สายตาชาวโลกแล้ว แม้พวกเขาจะเสียเปรียบเรื่องไม่มีคนระดับ A หลงเหลืออยู่แล้ว แต่กลุ่มทวยเทพ รวมถึงฝ่ายความศรัทธา สมาคมฟีนิกซ์ และเครือข่ายฟ้าดินต่างก็เริ่มมาจากจุดเดียวกันทั้งนั้น

 

 

ดังนั้นการล่มสลายของกลุ่มทวยเทพก็เลยทำให้ทุกกลุ่มระวังตัวกันมากขึ้น

 

 

ข่าวนี้เป็นที่ฮือฮาในอาณาจักรความมืดถึงครึ่งเดือนด้วยกัน พวกเขารู้ว่าคอรัลมีส่วนเกี่ยวข้องกับการต่อสู้ด้วย แต่ดูเป็นไปได้ยากมากที่เธอจะกำจัดทั้งหลุ่มด้วยตัวของเธอเอง

 

 

ฟังดูไม่ได้ความเลย กลุ่มองค์กรใหญ่ๆ พยายามจะหาเหตุผลมารองรับแต่ก็ไม่มีใครทำได้

 

 

เรื่องที่หลี่ว์ซู่เข้าไปมีส่วนร่วมในเรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องใครต่างก็คาดไม่ถึง เพราะชื่อและตัวตนของเขาถูกปิดเป็นความลับตั้งแต่ก่อนที่ทาคาชิมะจะเลื่อนขึ้นไปเป็นระดับ A กำมะลอ อีกทั้งคนที่รู้เห็นในเหตุการณ์ต่างก็ล้มตายกันไปหมดแล้ว

 

 

มีคนอัดคลิปวิดีโอที่เนี่ยถิงเดินทางออกจากเมืองหลวงไปที่กลุ่มทวยเทพได้ ที่เมืองหลวงถึงขั้นมีคนจ้างให้คนเข้าไปแอบอยู่ในห้องเช่าทั้งวันเพื่อคอยจับตาดูทิศทางที่เนี่ยถิงกำลังมุ่งหน้าไป…

 

 

แต่ก็ไม่ค่อยมีประโยชน์เท่าไหร่เพราะเนี่ยถิงสามารถเลือกบินไปทางใต้ จากนั้นค่อยเปลี่ยนเส้นทางบินไปทางเหนือต่อได้ หลังจากนั้นก็ไม่มีใครจับตามองเขาได้แล้วตอนเขาลอยอยู่บนฟ้า

 

 

ยิ่งไปกว่านั้นงานนี้ก็ถือว่าเสี่ยงอยู่เหมือนกัน ถ้ารูปถูกอัปโหลดแล้ว ก็อาจจะถูกกลุ่มของห่าวจื้อเชาจับเอาได้ก่อนที่จะรู้ตัวหนีไปเสียอีก…

 

 

ใครหลายคนสงสัยว่าเนี่ยถิงมีส่วนเกี่ยวข้องกับการต่อสู้ในครั้งนั้น แต่เขาก็ไปถึงหลังการต่อสู้จบอยู่ดีถึงแม้ว่าจะใช้พลังบินของผู้มีพลังระดับ A ก็ตาม ตอนที่เนี่ยถิงไปถึงป้อมปราการนั้นแทบไม่มีใครรอดชีวิตเหลืออยู่แล้ว แล้วเขาก็พาหลี่ว์ซู่กลับไปด้วยก่อนที่สายลับจากองค์กรใหญ่ๆ จะมาถึง

 

 

เลยเป็นเหตุให้การต่อสู้ครั้งนั้นยังคงเป็นปริศนา หลายคนเชื่อว่าชิ้นส่วนของปริศนาที่หายไปนั้นถูกซุกซ่อนไว้จากสายตาของประชาชน และดูเหมือนกลุ่มเครือข่ายฟ้าดินจะเป็นผู้อยู่เบื้องหลังของการปกปิดข่าวครั้งนี้ เนี่ยถิงเชื่อว่าหลี่ว์ซู่จะทำอะไรได้ดีกว่าถ้าไม่มีสายตามากมายจับจ้องมา ในองค์กรอื่นๆ ผู้รับผิดชอบเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศมักจะเป็นคนโปรไฟล์ดีๆ อย่างเช่นฮาเวิร์ดจากสมาคมฟีนิกซ์

 

 

แต่สำหรับธรรมชาติของหลี่ว์ซู่แล้ว บุคลิกของเขาอาจจะไม่เหมาะนัก…

 

 

ไม่มีใครคิดว่าการต่อสู้นี้จะเกี่ยวข้องกับหลี่ว์ซู่ ถึงแม้ใครๆ จะรู้ว่าเครือข่ายฟ้าดินและกลุ่มทวยเทพจะเป็นศัตรูกันมานาน แล้วก็ยังมีคนที่ไม่เชื่อว่าหลี่ว์ซู่จะตายจริงๆ แต่ท้ายที่สุดแล้วคงเป็นไปไม่ได้ที่คนระดับ C อย่างหลี่ว์ซู่จะไปเกี่ยวข้องกับการล่มสลายของกลุ่มใหญ่ขนาดนั้น

 

 

คอรัลน่าจะเป็นคนที่ได้ความดีความชอบไปมากที่สุด เพราะพลังต่อสู้ของเธอน่าจะเป็นอันดับต้นๆ ในบรรดาระดับ B เลยทีเดียว

 

 

ในขณะนั้น เสี่ยวอวี๋กำลังปิ้งเนื้อสไลซ์อยู่ ส่วนหลี่ว์ซู่ก็เล่าเรื่องการต่อสู้ให้ฟังไปด้วยอย่างละเอียด แต่จู่ๆ เธอก็ผงกหัวขึ้นแล้วเอ่ยถาม

 

 

“ขออีกทีซิ คอรัลใช่มั้ย ทำไมเธอไปอยู่ที่นั่นได้ล่ะ เธอมีศัตรูเป็นกลุ่มทวยเทพเหมือนกันเหรอ”

 

 

ทว่าหลี่ว์ซู่ก็ตอบไม่ได้!

 

 

“แต่เธอก็ถือว่าเป็นคนช่วยชีวิตเธอไว้เลยนะ จะตอบแทนบุญคุณเธอยังไงล่ะ” หลี่ว์เสี่ยวอวี๋ถามสบายๆ ขณะคีบเนื้อลงไปจิ้มน้ำจิ้มก่อนนำเข้าปาก

 

 

เธอชอบน้ำจิ้มที่ผสมระหว่างน้ำมันงา น้ำส้มสายชู น้ำจิ้มถั่วลิสงบด หรืองาบดสำหรับเอาไว้กินกับหม้อไฟ เธอชอบใส่งาบดเพราะว่ารสชาติเข้มข้นกว่า

 

 

“ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก กินไปเถอะ” หลี่ว์ซู่แยกเขี้ยวยิ้ม

 

 

เสี่ยวอวี๋มองหน้าหลี่ว์ซู่ทีหนึ่งแล้วก็เงียบไป เธอรู้สึกขอบคุณจริงๆ ที่คอรัลช่วยชีวิตเขาไว้

 

 

แม้จะสั่งอาหารไปมากกว่าสี่ร้อยหยวนแล้ว แต่เสี่ยว์อวี๋ก็ไม่ลังเลเลยที่จะรับผิดชอบจ่ายค่าอาหาร เมื่อเทียบกับหลี่ว์ซู่แล้ว เธอใจกว้างกว่าเข้ามาก ตอนนี้เธอเป็นเศรษฐีใหม่แล้ว…

 

 

เนี่ยถิงกับสือเสวจิ้นไม่ได้ไปเซ้าซี้หลี่ว์ซู่ต่อเรื่องอยากเป็นราชันฟ้าคนที่เก้าหรือไม่ พวกเขาให้เวลาหลี่ว์ซู่ไปคิดแล้ว เร่งรีบก็คงไม่ได้อะไรขึ้นมา

 

 

หลังจากนั้นในวันที่สาม ห่าวจื้อเชาก็มาบอกหลี่ว์ซู่ว่าเขาจะต้องเตรียมตัวไปร่วมงานศพของหลิวซิว หลี่ว์ซู่คิดว่าเขาควรซื้อเสื้อสูทสีดำใหม่เสียหน่อย เพราะการแต่งกายก็ถือว่าสำคัญสำหรับงานแบบนี้

 

 

กระนั้นห่าวจื้อเชาก็กลับมาพร้อมกับยูนิฟอร์มของเครือข่ายฟ้าดินที่พอดีไซส์หลี่ว์ซู่เป๊ะๆ ชุดนั้นเป็นเสื้อคลุมสีดำแบบที่หลี่ว์ซู่เคยเห็นพวกเขาใส่มาก่อน

 

 

หลี่ว์ซู่เคยมาที่ฐานทัพในถนนหลิงจิงนี่แล้ว นอกจากห่าวจื้อเชา เนี่ยถิง สือเสวจิ้น จงอวี้ถัง โยวหมิงอวี่ แล้วก็ไม่มีใครรู้ว่าหลี่ว์ซู่มาที่นี่ทำไม เพราะมีแค่ไม่กี่คนที่รู้ว่าหลี่ว์ซู่พาหลิวซิวกลับมาด้วย

 

 

จงอวี้ถังและโยวหมิงอวี่เดินทางมาจากอวี้โจวเพื่อมาร่วมงานศพโดยเฉพาะ เพราะว่าหลิวซิวถูกส่งไปร่วมภารกิจตามคำสั่งของจงอวี้ถัง และหลิวซิวเองก็เป็นสหายร่วมรบของโยวหมิงอวี่อีกด้วย

 

 

ในขณะที่เนี่ยถิงกล่าวสุนทรพจน์ในงานศพอยู่นั้น เขาก็กวาดตามองผู้ฟังแล้วพูดอย่างใจเย็นว่า

 

 

“ในภารกิจครั้งนี้ หลิว์ซิวถือเป็นกำลังสำคัญในการกำจัดทาคาชิมะ ทาอิรัตสึ แต่เขากลับตายลงอย่างน่าสลดใจ หลิวซิวเกิดปี 1983 และเขาก็ทำภารกิจลับให้เราในกลุ่มทวยเทพเป็นเวลาทั้งหมดสิบเอ็ดปี สองเดือน และสิบเจ็ดวันด้วยกัน เขาไม่ได้กลับบ้านมาดูใจแม่ตอนที่แม่เขาล้มป่วยลง ในเดือนที่แล้ว เขาบอกอยากลากลับบ้านมากินบะหมี่หมูสับที่บ้านเกิด ฉันก็ให้อนุญาตเขาไปได้ แต่ก็ไม่คาดคิดว่าเขาจะต้องกลับมาในสภาพแบบนี้”

 

 

เนี่ยถิงหยุดไปพักหนึ่ง เขาเกือบจะเก็บอารมณ์ไว้ไม่อยู่ จากนั้นเขาก็พูดต่อ “ในยุคนี้ ผู้คนต่างก็อยากได้ชื่อเสียงและเงินทอง ไม่ค่อยมีใครอยากเผชิญกับความลำบาก ใครๆ ต่างก็อยากได้เงินเดือนที่เพิ่มขึ้นและตำแหน่งที่สูงขึ้นกันทั้งนั้น ทว่ากลับปล่อยให้หน้าที่ปกป้องชาติกลายเป็นของคนอื่นไป”

 

 

“และเนื่องจากไม่มีใครอยากมาทำหน้าที่นี้ เราเองก็ไม่สามารถให้ใครมาทำหน้าที่แทนได้เช่นกัน นี่เป็นพันธะของเรา เป็นเกียรติของฉันที่จะทำงานกับทุกคนที่อยู่ที่นี่ มาช่วยกันส่งเสริมความเชื่อและแรงผลักดันของเราด้วยกันในโลกที่ยากจะคาดเดานี้…

 

 

“วันนี้หลิวซิวได้ยืนหยัดทำแบบนั้นแล้ว และไม่วันนี้หรือพรุ่งนี้ก็อาจจะต้องเป็นฉัน เนี่ยถิงคนนี้อาจจะตายไปสักวัน แต่เครือข่ายฟ้าดินและประเทศจีนของเราจะอยู่ยืนยงต่อไป

 

 

“ขอให้นักสู้ทุกคนในเครือข่ายฟ้าดินเดินหน้าสู้ไปด้วยกันโดยไม่ต้องเกรงกลัวต่อวันพิพากษาที่จะมาถึง จงจำไว้ว่าประกายไฟเล็กๆ ก็สามารถจุดให้เกิดไฟลามทุ่งใหญ่ได้”

ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ

ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ

หลี่ว์ซู่ เป็นเด็กกำพร้าที่หาเลี้ยงตัวเองมาโดยตลอด และก็คงจะหาเลี้ยงตัวเองเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ ถ้าเขาไม่ได้ประสบอุบัติเหตุรถชนเข้าเสียก่อน… แต่เฮ้ย! เขาไม่เป็นอะไรเลยนี่ ไม่เจ็บ ไม่ปวด และไม่ตาย แถมวิญญาณไม่ได้หลุดออกจากร่างด้วย! จะมีก็แต่สัญลักษณ์รูปต้นไม้ที่จู่ๆ ก็ปรากฏขึ้นมาบนฝ่ามือและพลังพิเศษในตัวที่ตื่นขึ้นมาเท่านั้น! ทว่าเขาไม่ได้เป็นเพียงคนเดียวที่ได้รับพลังพิเศษนี้มา เพราะคนอื่นๆ เองก็เริ่มกลายเป็นผู้มีพลังแล้วเหมือนกัน นี่มันเรื่องบ้าอะไร เกิดอะไรขึ้นกับโลกใบนี้กันแน่ นี่เรากำลังจะก้าวเข้าสู่ยุคของผู้มีพลังพิเศษกันแล้วงั้นเหรอ หลี่ว์ซู่ได้แต่คิดแล้วก็สงสัย ว่าแต่พลังที่ได้มานี่มันฝึกยังไงกันล่ะ เอ๊ะ ต้องสะสมแต้มอารมณ์ด้านลบงั้นเหรอ แค่กวนโมโหคนอื่นก็เพิ่มพลังได้แล้วงั้นเหรอ แบบนี้ก็เข้าทางหลี่ว์ซู่สุดๆ ไปเลยน่ะสิ!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset