ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ – ตอนที่ 928 สถานการณ์แปลกประหลาด

ในจักรวาลหลี่ว์ ยอดฝีมือระดับหนึ่งไม่ใช่คนโง่ ทีมที่ทัพเฮยวี่ส่งไปซ่อนตัวบนภูเขานั้นมีความทะเยอทะยานมากเนื่องจากมียอดฝีมือระดับหนึ่งอยู่ในทีม ผู้บัญชาการทัพเฮยอวี่หวังว่าพวกเขาจะมีบทบาทสำคัญในการสู้รบ  

 

 

ผลก็คือพวกเขาหายไปในอากาศ เหมือนก้อนหินเล็กๆ ที่ถูกโยนลงไปในมหาสมุทร  

 

 

ทัพเฮยอวี่วางแผนเรื่องนี้มาหลายปีแล้ว และให้สายลับหลายคนแฝงตัวเขาไปอยู่ที่ด้านหลังของช่องเขาเว่ยเป่ย หากทัพเฮยอวี่ที่แฝงตัวเข้าไปในภูเขาสามารถบรรลุสิ่งต่างๆ ได้ ผู้บัญชาการของทัพเฮยอวี่จะต้องได้รับข่าวสารอย่างแน่นอน  

 

 

ถึงแม้ว่าทัพเฮยอวี่จะยอมจำแพ้ต่อทัพหลงเหมิ่ง แต่พวกเขาก็ควรได้รับข่าวสารบางอย่าง!  

 

 

แต่กลับไม่มีข่าวอะไรเลย ดูเหมือนกองทัพทั้งกองทัพจะหายไปในอากาศ…  

 

 

สุดท้ายแล้วทัพเฮยอวี่ก็ให้แต้มอารมณ์มากมายแก่หลี่ว์ซู่  

 

 

คนอายุน้อยคนหนึ่งของทัพเฮยอวี่กำลังพักผ่อนอยู่ในค่ายทหารนอกช่องเขาเว่ยเป่ย “ภูเขาลูกนี้แปลกมาก หลินเฮ่อ จางอวิ๋น พวกนายสองคนควรนำทัพไปดูรอบๆ ภูเขาหน่อยนะ ฉันอยากเห็นสิ่งที่ซ่อนอยู่ในภูเขา”  

 

 

“รับทราบ” ทั้งสองคนตอบ  

 

 

แต่พวกเขาก็ไม่กลับมาอีกเลย…  

 

 

ทัพเฮยอวี่ทั้งหมดมีปัญหา พวกเขาสู้ตายกับช่องเขาเว่ยเป่ยเพื่อดึงดูดความสนใจของทัพหลงเหมิ่ง เพื่อให้ทีมชั้นยอดของทัพเฮยอวี่สามารถไปที่ด้านหลังและโจมตีช่องเขาเว่ยเป่ยจากทั้งสองด้าน ด้วยวิธีน้นจะได้เป็นการโจมตีที่ถึงตายแก่ช่องเขาเว่ยเป่ย  

 

 

แต่ถึงแม้จะเป็นการต่อสู้ที่ดุเดือด แต่หลายทีมก็หายไป นี่เป็นสถานการณ์แบบไหนกันแน่ มีอะไรอยู่ในภูเขา  

 

 

ในขณะนี้ หลี่ว์ซู่กำลังยิ้มอย่างมีความสุขเมื่อแต้มอารมณ์ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในบันทึก หลี่ว์เสี่ยอวี๋ ช่วยให้เขาได้รับแต้มอารมณ์มากมาย และแต้มอารมณ์ก็เพิ่มขึ้นเพราะการตายของหลายทีมของทัพเฮยอวี่  

 

 

หลี่ว์ซู่ไม่กล้าที่จะจินตนาการว่าเขาจะเลื่อนระดับได้กี่ระดับหลังจากหลุดพ้นจากโซ่ตรวน โดยแท้จริงแล้ว วิธีที่ถูกต้องในการได้รับแต้มอารมณ์ก็คือผ่านการต่อสู้และความตาย…  

 

 

สิ่งนี้ทำให้หลี่ว์ซู่กลับมาคิดว่าวิธีที่เขาใช้เพื่อให้ได้มาซึ่งแต้มอารมณ์นั้นเหมาะสมหรือไม่…  

 

 

จากนั้นเขาก็ส่ายหัว ท้ายที่สุดแล้ว ผลของสงครามก็คือการสูญเสีย หลังจากการสู้รบไม่กี่ครั้ง ทหารของทัพอู่เว่ยก็เสียชีวิตไปกว่าร้อยคน ถึงแม้ว่าจะมียอดฝีมือระดับหนึ่งถึงสามคนเป็นผู้คุ้มกัน แต่ความตายก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้อย่างสมบูรณ์ นี่คือปัญหาที่เกิดขึ้นจริง  

 

 

ทัพอู่เว่ยได้เปลี่ยนแปลงไปจนหลี่ว์ซู่แทบไม่อยากจะเชื่อ ใครกันจะเชื่อว่ากองทัพนี้เคยเป็นกองทัพที่ทุกคนดูถูกเมื่อสองเดือนก่อน  

 

 

ทัพอู่เว่ยไม่ขาดแคลนอาวุธและชุดเกราะอีกต่อไป ในความเป็นจริง หลี่ว์ซู่วางแผนที่จะให้หลิวอี้เจานำหอกยาวและชุดเกราะสามพันอันไปที่ช่องเขาเว่ยเป่ย และถามผู้บัญชาการว่าเขาต้องการสิ่งเหล่านี้หรือไม่…  

 

 

แต่นั่นอาจจะเป็นการโอ้อวดมากเกินไป และหลี่ว์ซู่คิดว่ามันจะดีกว่าถ้าเขาไม่ทำอย่างนั้น ทัพอู่เว่ยจำเป็นต้องเปลี่ยนอาวุธและชุดเกราะอย่างแน่นอน ดังนั้นส่วนที่เหลือจึงสามารถเก็บไว้เป็นของสำรองให้ทัพอู่เว่ยได้  

 

 

ในอดีต ผู้คนกล่าวว่าการพัฒนากองทัพนั้นมีค่าใช้จ่ายสูงเกินไป แต่หลี่ว์ซู่ไม่คิดอย่างนั้น เขาสามารถหาสิ่งที่กองทัพขาดจากคู่ต่อสู้ได้ ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป แล้วเขาก็จะไม่ขาดอะไรอีกต่อไป  

 

 

ทัพเฮยอวี่นำอาหารมาให้เมื่อพวกเขาเข้ามาในภูเขา สัดส่วนเหล่านี้อาจทำให้ทัพอู่เว่ยอยู่ต่อได้สักพัก  

 

 

ในเดือนที่สอง ทัพเฮยอวี่มาถึงช่องเขาเว่ยเป่ย ใครบางคนจากทัพอู่เว่ยสามารถบุกทะลวงได้อีกครั้ง!  

 

 

เป็นเรื่องยากเกินไปสำหรับระดับสองและระดับสามที่จะก้าวผ่านไปได้ แต่ด้วยการฝึกฝนและการบำรุงจากสมุนไพรในระดับสูง ทหารระดับสี่มองเห็นความเป็นไปได้ที่จะเกิดความก้าวหน้าได้ภายในช่วงเวลาสั้นๆ  

 

 

ดังนั้น หลี่ว์ซู่จึงตัดสินใจที่จะไม่ทำอะไรในตอนนี้ แม้ว่าทัพเฮยอวี่จะเข้ามาอยู่ในภูเขาแล้วก็ตาม เขาอยากมุ่งไปที่การพัฒนาทักษะของเขามากกว่า ในตอนแรก หลี่ว์ซู่เป็นกังวลว่าเขาจะทำอย่างไรดีหากทัพเฮยอวี่มาซุ่มโจมตีพวกเขาอยู่ในภูเขา แต่การต่อสู้ระหว่างทัพเฮยอวี่และช่องเขาเว่ยเป่ยนั้นรุนแรงมากจนเขาไม่มีอารมณ์ที่จะสนใจเกี่ยวกับความกังวลในตอนแรกของเขา  

 

 

ในช่วงเวลานี้ หลี่ว์ซู่ก็มาถึงระดับสองได้ในที่สุด  

 

 

นี่คือระดับที่หลี่ว์ซู่ทำได้ดีที่สุด ดังนั้นเขาจึงมั่นใจเต็มที่  

 

 

ในขณะนี้ หลิวอี้เจากลับมาและทักทายหลี่ว์ซู่ด้วยความเคารพ “องค์ราชา ทัพเฮยอวี่กำลังจะเสร็จสิ้นการโจมตีของพวกเขา กำลังเสริมที่ช่องเขาเว่ยเป่ยรออยู่ยังมาไม่ถึง และทุกคนก็หมดแรงและเสบียงอาหารก็หมด ยิ่งไปกว่านั้นคือทัพเฮยอวี่ได้โจมตีช่องเขาหลีหยางเมื่อเดือนที่แล้ว จนทัพฉือเหยียนต้องล่าถอยไปกว่าสามร้อยลี้ ตอนนี้ทัพเฮยอวี่บางส่วนในช่องเขาหลีหยางกำลังเร่งไปที่ช่องเขาเว่ยเป่ย วันที่พวกเขามาถึงคงจะเป็นวันที่ช่องเขาเว่ยเป่ยต้องพบกับจุดจบ”  

 

 

หลี่ว์ซู่รู้สึกหนักใจเล็กน้อย “เกิดอะไรขึ้นกับกองทัพทางเขตเหนือ ไม่มีใครสนใจการโจมตีของทัพเฮยอวี่เลยเหรอ”  

 

 

“การสู้รบภายในของเขตเหนือนั้นเลวร้ายกว่าที่องค์พระราชาคิด หากจอมทัพสวรรค์ เหวินไจ้โฝ่ว ถามถึงเรื่องนี้ พวกเขาจะไม่กล้าทำเช่นนี้อย่างแน่นอน แต่ผมได้ยินมาว่าจอมทัพสวรรค์ เหวินไจ้โฝ่ว กำลังยุ่งอยู่กับการฝึกบำเพ็ญทักษะของเขา ทุกคนรู้ดีว่าทัพเฮยอวี่ไม่สามารถโจมตีพื้นที่ทางเหนือทั้งหมดได้ ถึงแม้ว่าจะได้รับความช่วยเหลือจากตวนมู่หวงฉี่ก็ตาม ดังนั้นพวกเขาจึงกล้าที่จะสู้จนกว่ากองทัพทั้งหมดของช่องเขาเว่ยเป่ยและหลีหยางจะพินาศเพื่อที่พวกเขาจะได้ยุติทุกสิ่ง” หลิวอี้เจาพูด  

 

 

“นี่ออกจะมากเกินไปหน่อย” หลี่ว์ซู่พูด “หลังจากที่ช่องเขาเว่ยเป่ยพ่ายแพ้ หากทัพเฮยอวี่รู้ว่าทหารของพวกเขาจำนวนมากหายไป พวกเขาก็จะโจมตีเราบนภูเขาอย่างแน่นอน”  

 

 

“ดังนั้นพวกเราจึงหวังว่าคุณจะสามารถเตรียมการที่จำเป็นได้ตั้งแต่เนิ่นๆ ไม่ว่าจะสู้หรือถอย ก็โปรดตัดสินใจให้เร็วที่สุด” หลิวอี้เจาพูดอย่างสงบ  

 

 

หลังจากนั้นเจ็ดวัน ในที่สุดช่องเขาเว่ยเป่ยก็พ่ายแพ้ให้แก่ทัพเฮยอวี่ เป็นผลให้กองทัพเฮยอวี่สามารถควบคุมทั้งช่องเขาหลีหยางและช่องเขาเว่ยเป่ยไว้ได้ พวกเขามีอำนาจเหนือกว่าทั้งในการโจมตีทั้งทางเขตตะวันออกและทางเหนือ  

 

 

ในขณะนี้ ชนชั้นสูงของเขตเหนือและเขตตะวันออกเริ่มตื่นเต้น ทั้งทัพฉทิเหยียนและทัพหลงเหมิ่งต้องแบกรับผลที่ตามมาจากการสูญเสียการควบคุมป้อมปราการและถึงเวลาแล้วที่พวกเขาต้องจัดการเรื่องนี้ให้ได้ ดังนั้นทั่วทั้งเขตเหนือจึงรู้สึกตื่นเต้นหลังจากการสูญเสียเพราะทุกคนล้วนต้องการแบ่งปันผลประโยชน์  

 

 

พวกเขาไม่สามารถยึดครองเมืองและป้อมปราการได้ พวกเขาต้องรอให้จอมทัพสวรรค์ฝึกบำเพ็ญทักษะของเขาจนเสร็จแล้วจึงมาให้รางวัลแก่พวกเขา ดังนั้นจำนวนทหารของทัพเฮยอวี่ที่ถูกสังหารและจำนวนป้อมปราการที่ยึดครองได้จึงเป็นเบี้ยต่อรองในระหว่างการแบ่งผลประโยชน์  

 

 

แน่นอนว่าเพื่อที่จะยึดป้อมปราการและเมืองกลับคืนมาจากทัพเฮยอวี่ คนเหล่านั้นต้องมีความสามารถมากพอสมควร ทัพเฮยอวี่ไม่ได้อ่อนแอ หากคิดจะสู้กับพวกเขาก็ต้องยอมแลก  

 

 

เหล่าชนชั้นสูงไม่ได้เร่งที่จะโจมตีและทุกคนต้องการที่จะรอ พวกเขาต้องการรอให้การก่อตัวของทัพเฮยอวี่ได้รับการพัฒนามากขึ้น รวมทั้งรอให้คนอื่นโจมตีเพื่อทำให้ทัพเฮยอวี่ถอยกลับไป  

 

 

แต่ทันใดนั้นพวกเขาก็ได้รู้ว่าว่าทัพเฮยอวี่ไม่ได้กำลังมุ่งหน้าไปทางเขตเหนือหรือตะวันออก ตามรายงานข่าวกรอง ทัพเฮยอวี่กำลังเข้าไปในภูเขา…  

 

 

เหล่าชนชั้นสูงต่างพากันตะลึง ทำไมพวกเขาถึงเข้าไปในภูเขา มีอะไรอยู่บนภูเขาอย่างนั้นเหรอ  

 

 

ทุกคนรู้สึกได้โดยสัญชาตญาณว่ามีบางอย่างผิดปกติ ทัพเฮยอวี่ทำแบบนั้นเพราะมีจุดประสงค์อะไรหรือไม่  

 

 

รอก่อน รออีกหน่อย…  

 

 

พวกเขาไม่ได้สงสัยมากจนเกินไปแต่ สถานการณ์แปลกเกินไปจริงๆ ทัพเฮยอวี่สามารถจัดระเบียบกองทัพของตนใหม่ โจมตีเมืองต่อไป หรือถอยกลับไปยังเขตตะวันตกก็ได้ แต่ทำไมพวกเขาถึงเข้าไปในภูเขา…  

 

 

กลุ่มแรกที่เข้าไปในภูเขาได้มีทหารมากถึงหนึ่งหมื่นห้าพันนาย มีผู้บัญชาการห้าคนคอยนำทีม และสามคนในผู้บัญชาการทั้งหมดเป็นยอดฝีมือระดับหนึ่ง  

 

 

เป็นกองกำลังที่ยิ่งใหญ่อย่างมาก!

ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ

ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ

Status: Ongoing
หลี่ว์ซู่ เป็นเด็กกำพร้าที่หาเลี้ยงตัวเองมาโดยตลอด และก็คงจะหาเลี้ยงตัวเองเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ ถ้าเขาไม่ได้ประสบอุบัติเหตุรถชนเข้าเสียก่อน… แต่เฮ้ย! เขาไม่เป็นอะไรเลยนี่ ไม่เจ็บ ไม่ปวด และไม่ตาย แถมวิญญาณไม่ได้หลุดออกจากร่างด้วย! จะมีก็แต่สัญลักษณ์รูปต้นไม้ที่จู่ๆ ก็ปรากฏขึ้นมาบนฝ่ามือและพลังพิเศษในตัวที่ตื่นขึ้นมาเท่านั้น! ทว่าเขาไม่ได้เป็นเพียงคนเดียวที่ได้รับพลังพิเศษนี้มา เพราะคนอื่นๆ เองก็เริ่มกลายเป็นผู้มีพลังแล้วเหมือนกัน นี่มันเรื่องบ้าอะไร เกิดอะไรขึ้นกับโลกใบนี้กันแน่ นี่เรากำลังจะก้าวเข้าสู่ยุคของผู้มีพลังพิเศษกันแล้วงั้นเหรอ หลี่ว์ซู่ได้แต่คิดแล้วก็สงสัย ว่าแต่พลังที่ได้มานี่มันฝึกยังไงกันล่ะ เอ๊ะ ต้องสะสมแต้มอารมณ์ด้านลบงั้นเหรอ แค่กวนโมโหคนอื่นก็เพิ่มพลังได้แล้วงั้นเหรอ แบบนี้ก็เข้าทางหลี่ว์ซู่สุดๆ ไปเลยน่ะสิ!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset