ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ – ตอนที่ 945 โจมตีสามครั้ง

หลี่เหลียงและหลี่ว์ซู่กำลังเจรจากันว่ากองทัพอู่เว่ยควรจะคุ้มกันกองทัพเฮยอวี่หรือไม่ ตามที่ หลี่ว์ซู่บอกว่าทุกคนเป็นพี่น้องกัน และในฐานะพี่น้อง แน่นอนว่าพวกเขาควรต้องปกป้องซึ่งกันและกัน เนื่องจากอาจต้องพบกับอันตรายระหว่างทาง  

 

 

แต่ในทางตรงกันข้าม หลี่เหลียงกลับรู้สึกว่าสิ่งที่อันตรายที่สุดในระหว่างทางกลับไปยังดินแดนตะวันตกนั้น ไม่ใช่ใครอื่นเลย นอกเสียจากกองทัพอู่เว่ย…  

 

 

หลี่เหลียงหยุดคิดอยู่นานแล้วกล่าวว่า “ตอนนี้ ขอแนะนำให้พวกคุณทุกคนปกป้องช่องเขาเว่ยเป่ย เพื่อป้องกันไม่ให้กองทัพขุนนางเข้ามา และหลังจากที่เหวินไจ้เฝ่ย จอมทัพสวรรค์ของคุณเสร็จสิ้นการฝึกฝนของเขา กองทัพอู่เว่ยก็จะได้ผลงานจากความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ทั้งหมดในการขับไล่กองทัพเฮยอวี่”  

 

 

หลี่ว์ซู่ส่ายศีรษะ “ไม่ ไม่ ไม่ ผลงานนี้ย่อมไม่สำคัญเท่ากับการคุ้มกันพี่น้องอย่างแน่นอน!”  

 

 

หลี่ว์ซู่หัวเราะในใจ ตอนนี้ทุกคนก็รู้แล้วว่ากองทัพขุนนางมองกองทัพอู่เว่ยอย่างไร และอาจเป็นไปได้ว่ากองทัพขุนนางจะมุ่งเป้าทิ่มแทงไปที่กองทัพอู่เว่ยทันทีที่กองทัพเฮยอวี่จากไป  

 

 

เมื่อเห็นว่าหลี่ว์ซู่ไม่ยอมเลิกล้มความคิดที่จะ ‘คุ้มกัน’ พวกเขา หลี่เหลียงก็คิดว่า หลี่ว์ซู่เป็นคนที่รักษาคำพูดของเขามาก ดังนั้นหากต้องการกลับไปยังดินแดนตะวันตกอย่างปลอดภัยเขาก็ต้องอดทน  

 

 

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้หลี่เหลียงโกรธก็เกิดขึ้นในวันถัดไป เพราะเป็นไปตามที่คาดไว้ กองทัพอู่เว่ยเริ่มใช้เล่ห์เหลี่ยมสร้างปัญหาจริงๆ  

 

 

อันที่จริงแล้ว หลี่ว์ซู่ซึ่งเป็นผู้นำกองทัพอู่เว่ยไม่ได้ติดตามหลังกองทัพเฮยอวี่มาอย่างใกล้ชิดแต่เขากลับปรากฏตัวขึ้นเป็นครั้งคราวภายใต้สถานการณ์ที่ไม่ทันตั้งตัวของกองทัพเฮยอวี่แทน ทันใดนั้น หลี่ว์ซู่ก็นำกองทัพอู่เว่ยดักจับกองทัพเฮยอวี่โดยพุ่งทะลุผ่านกองทัพเฮยอวี่มาจากทางด้านหลัง  

 

 

ในเวลานั้น หัวใจของหลี่เหลียงเย็นชา และแน่นอนว่า กองทัพอู่เว่ยโจมตีพวกเขาจริงๆ! ที่เรียกว่าพี่ชายนั่นมันอะไรล่ะ? เสแสร้งทั้งเพ!  

 

 

ทั้งหมดล้วนแต่เสแสร้งแกล้งทำทั้งนั้น!   

 

 

ในขณะเดียวกัน ในเวลานี้ หัวหน้าเจ้าหน้าที่ของบ่อนพนันซึ่งอยู่ใกล้กองทัพเฮยอวี่ก็สบตากันและกันแล้วส่งข้อความกลับไป บ่อนพนันตระกูลซ่งเป็นที่แรกที่ส่งข้อมูลใหม่ให้ เนื่องจากกองทัพเฮยอวี่ต้านทานการคุกคามของกองทัพอู่เว่ยไม่ได้ พวกเขาจึงล่าถอยและกองทัพอู่เว่ยก็ไล่ตามเข่นฆ่าพวกเขา!  

 

 

จากนั้นก็เปิดวางเดิมพันใหม่ กองทัพอู่เว่ยฝ่าผ่านกองทัพเฮยอวี่แล้ว ทหารของกองทัพอู่เว่ยจะตายกี่คน?  

 

 

เป็นเวลาหนึ่งเดือนแล้วนับตั้งแต่วันที่เลือดนองเมืองหลวง เวลานี้ บรรดานักพนันและลูกหลานชนชั้นสูงต่างก็หวนคืนกลับมาเล่นพนันกันอีกครั้งแล้ว  

 

 

ใช่แล้ว ภายใต้สถานการณ์ปกติ ลูกหลานชนชั้นสูงจะได้รับเงินค่าใช้จ่ายติดตัวจากทางบ้านเป็นรายเดือนทุกเดือน ดังนั้นบ่อนพนันจึงคิดว่านี่เป็นเวลาที่ทุกคนน่าจะมีเงินอีกครั้งแล้วใ…  

 

 

ดังนั้นจ้าวซ่วยแห่งตระกูลซ่งจึงพูดคุยกับหลี่ว์ซู่เพื่อหารือเรื่องนี้ เมื่อเห็นว่าสงครามกำลังยุติลงแล้ว พวกเขาก็คิดหาวิธีทำเงินเพิ่ม  

 

 

กองทัพอู่เว่ยมีชุดเกราะเพียงพอแล้ว แต่คราวนี้ บ่อนพนันตระกูลซ่งได้เสนอข้อตกลงอื่น บ่อนพนันตระกูลซ่งในเมืองหลวงจะมอบหุ้นของหนึ่งในบ่อนพนันตระกูลซ่งสาขาให้หลี่ว์ซู่ยี่สิบเปอร์เซ็นต์และยังจะมอบคฤหาสน์ขนาดใหญ่ในเมืองหลวงที่มีมูลค่าหลายล้านอีกด้วย  

 

 

ส่วนวิธีการที่จะเอาชนะการเดิมพันนี้นั้นขึ้นอยู่กับว่าหลี่ว์ซู่ว่าจะทำอย่างไร หลี่ว์ซู่จึงรู้สึกกังวลเล็กน้อย เขาเพิ่งโกงเงินของเหล่านักพนันในเมืองหลวงไปเมื่อเดือนที่แล้ว จะมีใครรีบกลับมาเล่นการพนันอีกครั้งในช่วงเวลาสั้นๆ อย่างนี้ล่ะ?  

 

 

จึงเป็นผลให้จ้าวซ่วยบอกเขาว่าสบายใจได้ บรรดานักพนันลืมเรื่องนี้ไปแล้ว  

 

 

หลี่ว์ซู่จึงตั้งใจแน่วแน่ที่จะมุ่งหน้าไปเมืองหลวง เอาละ! เขาจะไปแน่!   

 

 

อย่างไรก็ตาม ในขณะเดียวกัน คราวนี้ดูเหมือนว่าเหล่านักพนันในเมืองหลวงจะได้เรียนรู้บทเรียนของพวกเขาแล้ว และพวกเขาต่างก็เดิมพันกันว่า จะไม่มีใครในกองทัพอู่เว่ยถูกฆ่า ก็คือ ‘ไม่มีใครตาย’ และ ‘ตายหนึ่งถึงหนึ่งร้อยคน’ เท่านั้น  

 

 

เวลานี้ทุกคนต่างก็รู้สึกว่ากองทัพอู่เว่ยนั้นไร้เทียมทานและทรงพลังแข็งแกร่งอย่างมาก และนอกจากนี้ ยังดูเหมือนว่าผู้บัญชาการกองทัพอู่เว่ยนาม หลี่ว์ซู่จะรักทหารของเขามาก และปกป้องทหารของเขาเป็นอย่างดี ดังนั้นพวกเขาจึงรู้สึกว่าไม่น่าจะมีผู้บาดเจ็บล้มตายในกองทัพอู่เว่ย  

 

 

แต่สิ่งที่ทำให้พวกเขาต้องผิดหวังก็คือรายได้สำหรับ ‘ไม่มีใครตาย’ นั้นค่อนข้างต่ำมาก แม้ว่าพวกเขาจะชนะเดิมพันมากก็ตาม แต่พวกเขาก็จะทำเงินได้ไม่มากนัก  

 

 

ในขณะเดียวกันนั้น เหล่าบ่อนพนันก็กำลังให้ข้อมูลของสถานการณ์การต่อสู้แบบสดๆ ว่า กองทัพอู่เว่ยบุกโจมตีกองทัพเฮยอวี่ถึงสามครั้ง!  

 

 

บรรดานักพนันในเมืองหลวงจึงต่างพากันยิ้มร่า กองทัพอู่เว่ยไม่ทำให้พวกเขาผิดหวังจริงๆ!  

 

 

ทันใดนั้น บ่อนพนันทั้งหมดในเมืองหลวงก็เปิดวางเดิมพันใหม่ว่า ทหารของกองทัพเฮยอวี่จะตายกี่คน?  

 

 

มันเหมือนกับเดิมพันเรื่องความตายของกองทัพอู่เว่ยในครั้งก่อน แต่คราวนี้พุ่งเป้าไปที่กองทัพเฮยอวี่แทน  

 

 

ทุกคนล้วนคิดว่า ในเมื่อกองทัพอู่เว่ยได้โจมตีไปสามครั้งก็ย่อมจะต้องมีผู้บาดเจ็บล้มตายจำนวนนับไม่ถ้วน จึงเป็นผลให้มีเงินจำนวนมากหลั่งไหลไปที่เดิมพันนี้ในทันที  

 

 

เมื่อหลี่ว์ซู่นำกองทัพอู่เว่ยโจมตีกองทัพเฮยอวี่อีกครั้ง กองทัพเฮยอวี่ทั้งหมดรวมถึงหลี่เหลียง ต่างก็ยืนนิ่งตะลึงงันอยู่กับที่ด้วยท่าทีงุนงงขณะที่มองกองทัพอู่เว่ยจากไป…  

 

 

หัวหน้าเจ้าหน้าที่บ่อนพนันรายงานสถานการณ์การต่อสู้แบบสดๆ ว่าอัตราการตายเป็นศูนย์ คือ ไม่มีใครตายในกองทัพอู่เว่ย  

 

 

พอข่าวกลับมาถึงเมืองหลวง เหล่านักพนันต่างก็รื่นเริงเต็มที่ มันเหมือนกับการให้เงินพวกเขา เป็นไปอย่างที่คาด กองทัพอู่เว่ยไม่มีใครตาย ฮ่าฮ่าฮ่า!  

 

 

ในเวลานี้ ลูกหลานชนชั้นสูงทั้งหลายต่างเริ่มชื่นชมกองทัพอู่เว่ย “จิตวิญญาณของกองทัพอู่เว่ยช่างน่ายกย่องจริงๆ นานหลายปีแล้วที่ในจักรวาลหลี่ว์ไม่มีกองทัพที่ทรงพลังแข็งแกร่งเช่นนี้ แม้ว่าจะมีจำนวนทหารน้อย แต่ก็ไม่ได้อ่อนแอเลย!”   

 

 

“ใช่แล้ว ผู้บัญชาการกองทัพอู่เว่ยคนนี้ช่างมีความสามารถจริงๆ หากวันหนึ่งเขามาที่เมืองหลวง พวกเราต้องพาเขาไปเลี้ยงเหล้านะ!”  

 

 

“ไม่รู้ว่า กองทัพเฮยอวี่จะมีผู้บาดเจ็บล้มตายกี่คนกัน?”  

 

 

และชั่วขณะนั้นก็มีรายงานข้อมูลล่าสุดของจำนวนผู้เสียชีวิตของกองทัพเฮยอวี่ออกมาแล้ว และทุกคนต่างก็รีบกรูกันเข้าไปในบ่อนพนัน “ดูสิว่า ทหารของกองทัพเฮยอวี่ตายไปกี่คนกันแล้วล่ะ?”  

 

 

อย่างไรก็ตาม ในขณะเดียวกันนั้น ผู้คนที่อยู่รอบนอกก็ตระหนักได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ และบรรดาคนที่อยู่ข้างในนั้นต่างก็พากันตกตะลึงแข็งค้าง จากนั้นก็มีคนรีบถามขึ้นว่า “เกิดอะไรขึ้นเหรอ?”  

 

 

คนที่อยู่ข้างในนั้นหันศีรษะมาและบ่นพึมพำว่า “เป็นไปได้อย่างไรนี่? กองทัพเฮยอวี่ก็ไม่มีใครตายเหมือนกัน…”  

 

 

ตอนนี้ทุกคนล้วนตกตะลึงงัน ก่อนหน้านี้นั้น เพียงแค่พวกเขาพูดคุยให้ความเห็นกันว่ากองทัพอู่เว่ยนั้นทรงพลังมากและกองทัพอู่เว่ยก็โจมตีกองทัพเฮยอวี่ไปถึงสามครั้ง แต่สุดท้ายแล้ว กลับไม่มีทหารของกองทัพเฮยอวี่ตายสักคนหรือ?  

 

 

หากเรื่องนี้เกิดขึ้นกับกองทัพอื่น มันย่อมจะเป็นการนองเลือด แต่ทำไมกองทัพอู่เว่ยถึงทำราวกับว่าพวกเขาแค่เข้าไปหยอกเล่น?  

 

 

แล้วที่กองทัพอู่เว่ยโจมตีไปสามครั้งนั่นเพื่อความสนุกสนานหรือ? มันบ้าอะไรกันนี่!  

 

 

เมื่อครู่ก่อนเพิ่งมีคนบอกว่า หากหลี่ว์ซู่ไปเมืองหลวง เขาก็จะชวนหลี่ว์ซู่ไปร่วมดื่มเลี้ยงเหล้าด้วย แต่เวลานี้ทุกคนต่างก็สงสัยว่า หลี่ว์ซู่จะกล้ามาเมืองหลวงหรือไม่ หากเขากล้ามา เขาย่อมจะถูกรุมทำร้ายและฆ่าตายอย่างแน่นอน…  

 

 

ในเวลานี้ กองทัพเฮยอวี่ก็สับสนฉงนใจเช่นกัน เดิมทีนั้นเมื่อกองทัพอู่เว่ยบุกโจมตีเข้ามา พวกเขาก็ตื่นตระหนก แต่หลังจากที่กองทัพอู่เว่ยบุกเข้ามาแล้ว กองทัพอู่เว่ยทุกคนก็แค่ต่างตะโกนโห่ร้องขอให้พวกเขาทุกคนหลีกทางไป…  

 

 

ก่อนที่หลี่ว์ซู่จะนำกองทัพเข้าโจมตี เขาก็วิตกกังวลเป็นอย่างมากว่าหลี่เฮยทั่นจะทำอะไรร้ายแรง จนควบคุมการโจมตีของเขาไม่ได้ และจะเข่นฆ่าผู้อื่นไปโดยไม่ตั้งใจ เพราะท้ายที่สุดแล้วก็ไม่มีใครสามารถคาดเดาความคิดของหลี่เฮยทั่นได้  

 

 

ดังนั้น หลี่ว์ซู่จึงบอกหลี่เฮยทั่นเป็นการเฉพาะว่า “อย่าฆ่าใคร พวกเขาจ่ายเงินพวกเราแล้ว”  

 

 

 

 

 

หลี่เฮยทั่นพลันตอบกลับว่า “เข้าใจแล้ว!”  

 

 

ดังนั้นตั้งแต่ต้นจนจบ ในระหว่างการโจมตีทั้งสามครั้ง หลี่เฮยทั่นจึงไม่ได้ทำร้ายและฆ่าใครเลย…  

 

 

และเมื่อกองทัพอู่เว่ยเข้าโจมตีเป็นครั้งแรก เมื่อเขาได้รับรู้ว่ากองทัพของเขาไม่มีใครตายเลยหลี่เหลียงก็ตระหนักได้ในทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น…  

 

 

หลี่เหลียงพลันถอนหายใจ กองทัพอู่เว่ยทำเงินได้ง่ายดายจริงๆ… ทำไมเขาถึงไม่คิดที่จะทำเงินแบบนั้นเมื่อก่อนหน้านี้นะ?!   

 

 

อย่างไรก็ตาม กองทัพอู่เว่ยมีความสามารถพิเศษในการทำเงินจริงๆ หากพวกเขาไม่โด่งดังหลังจากที่คว้าชัยชนะได้ทั้งที่เป็นกองกำลังที่อ่อนแอแต่กลับเหนือผู้ที่แข็งแกร่งกว่า บรรดาลูกหลานชนชั้นสูงและเจ้าของบ่อนพนันก็คงจะไม่มีใครรู้ว่ากองทัพอู่เว่ยเป็นใครกัน?  

 

 

ดังนั้นจึงไม่ใช่ทุกคนที่จะทำเงินได้แบบนี้  

ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ

ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ

Status: Ongoing
หลี่ว์ซู่ เป็นเด็กกำพร้าที่หาเลี้ยงตัวเองมาโดยตลอด และก็คงจะหาเลี้ยงตัวเองเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ ถ้าเขาไม่ได้ประสบอุบัติเหตุรถชนเข้าเสียก่อน… แต่เฮ้ย! เขาไม่เป็นอะไรเลยนี่ ไม่เจ็บ ไม่ปวด และไม่ตาย แถมวิญญาณไม่ได้หลุดออกจากร่างด้วย! จะมีก็แต่สัญลักษณ์รูปต้นไม้ที่จู่ๆ ก็ปรากฏขึ้นมาบนฝ่ามือและพลังพิเศษในตัวที่ตื่นขึ้นมาเท่านั้น! ทว่าเขาไม่ได้เป็นเพียงคนเดียวที่ได้รับพลังพิเศษนี้มา เพราะคนอื่นๆ เองก็เริ่มกลายเป็นผู้มีพลังแล้วเหมือนกัน นี่มันเรื่องบ้าอะไร เกิดอะไรขึ้นกับโลกใบนี้กันแน่ นี่เรากำลังจะก้าวเข้าสู่ยุคของผู้มีพลังพิเศษกันแล้วงั้นเหรอ หลี่ว์ซู่ได้แต่คิดแล้วก็สงสัย ว่าแต่พลังที่ได้มานี่มันฝึกยังไงกันล่ะ เอ๊ะ ต้องสะสมแต้มอารมณ์ด้านลบงั้นเหรอ แค่กวนโมโหคนอื่นก็เพิ่มพลังได้แล้วงั้นเหรอ แบบนี้ก็เข้าทางหลี่ว์ซู่สุดๆ ไปเลยน่ะสิ!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset