ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ – ตอนที่ 578 ลูกพี่ลูกน้องมาเยี่ยม

ตอนที่ 578 ลูกพี่ลูกน้องมาเยี่ยม

 

 

เมื่อสิ้นปีใกล้เข้ามา หลี่ว์ซู่ก็ไม่คิดจะไปทะเลาะกับไห่กงจื่อที่มาจากหุบเหวแห่งความโกลาหลอีกแล้ว ไห่กงจื่อเองก็ทรมานเหมือนกัน ไม่ใช่เพราะว่าเขาติดอยู่ในหุบเหวแห่งความโกลาหลหรอกนะ มันไม่ได้ส่งผลอะไรมากเท่าไหร่หรอก แต่ที่รู้สึกแบบนี้ก็เป็นเพราะเขาไม่มีภาชนะอะไรมาใส่ถั่วแขกนี่ต่างหาก! จะอย่างไรก็ตามเขาก็เป็นแค่วิญญาณเท่านั้น

 

 

ตอนแรกเขาก็กะจะใช้เสื้อคลุมสีขาวของตัวเองมาใส่ถั่วแขก แต่พอเอามาใส่จริงๆ แล้วก็เพิ่งคิดได้ว่าเขาดูถูกหลี่ว์ซู่เกินไป จริงๆ ถั่วแขกแค่ห้าสิบกิโลกรัมไม่ได้หนักไปสำหรับเขาหรอก แต่มันเยอะมากต่างหาก เสื้อผ้าของเขาห่อถั่วแขกพวกนี้ไว้ไม่หมดหรอก!

 

 

หมิงเย่ว์เยี่ยรู้สึกราวกับกำลังดูหนังอยู่ ยังไงเขาก็ต้องติดแหงกอยู่ในนี้อยู่แล้ว ก็เลยสนุกดีที่ได้นั่งมองคนก้มเก็บถั่วแขกต่อหน้าเขา

 

 

จากนั้นหมิงเย่ว์เยี่ยก็หยุดยิ้ม เขาเพิ่งรู้ตัวว่าไห่กงจื่อแอบมองมาที่กางเกงของเขาอยู่บ่อยๆ “กางเกงข้ามีแต่รอยขาด ถ้าเอาไปใส่ถั่วแขกต้องหล่นออกมาหมดแน่!”

 

 

ไห่กงจื่อพยักหน้าเห็นด้วย “ไม่ค่อยเจอคนที่ถูกข่มเหงเอาเปรียบมากเช่นเจ้ามาก่อนเลยจริงๆ”

 

 

“เจ้าช่วยปรับคำพูดให้มันฟังดูดีกว่านี้ได้ไหม” หมิงเย่ว์เยี่ยอารมณ์เสีย เขาได้แต่มองไปที่ไก่อบที่เริ่มบูดเสียและกินไม่ได้ นี่ยังมีไห่กงจื่อมาเยาะเย้ยอีกเหรอ เขาพูดเสียงรียบ

 

 

“เจ้าเองก็ไม่ได้ดีไปกว่ากันหรอก เจ้าถูกขังไว้ในนี้ได้ยังไง เมื่อก่อนน่ะมีคนตั้งหลายคนพยายามแทบตายที่จะขังข้าไว้ในนี้ แล้วเจ้าล่ะ ถูกขังเหมือนกันพร้อมกับถั่วแขกไม่กี่กิโลกรัม อยากจะออกไปก็ออกไม่ได้”

 

 

ไห่กงจื่อเหลือบมองหมิงเย่ว์เยี่ยแล้วตอบ “ไม่ใช่ไม่กี่กิโลกรัม นี่มันห้าสิบกิโลกรัมต่างหาก”

 

 

“…มันต่างกันด้วยหรือ”

 

 

“ข้าชอบเลขกลมๆ”

 

 

“…ทำไมไม่มีคนปกติมาที่นี่เลยนะ”

 

 

[ได้แต้มอารมณ์จากหมิงเย่ว์เยี่ย +666!]

 

 

หลี่ว์ซู่ใส่หน้ากากและแว่นตากันแดดออกไปซื้อของรับตรุษจีน เขาเดินไปตามถนน บนถนนนั้นรถติดมาก มีของสีแดงสำหรับตรุษจีนตั้งโชว์อยู่ตามร้านต่างๆ บนถนนของเมืองลั่วและมีคนขายยืนอยู่

 

 

รู้สึกได้ถึงบรรยากาศของตรุษจีนจริงๆ พอมีของตรุษจีนขายเต็มข้างทาง ช่วงเวลานี้ไม่ใช่เรื่องแปลกเลยถ้าบังเอิญเห็นข่าวว่ามีคนทักทายเหล่าชาวนา คนทำงาน หรือคนที่รอรถไฟกลับบ้าน และบางทีก็มีข่าวว่าเด็กปาประทัดลงไปที่ฝาท่อระบายน้ำ…

 

 

ตอนที่หลี่ว์ซู่ไปเห็นข่าวแบบนี้ เขาดีใจมาก เพราะตอนที่เขาเด็กกว่านี้ เขาชอบพาเสี่ยวอวี๋ไปปาประทัดลงท่อระบายน้ำเหมือนกัน พวกเขาเคยเป็นเด็กกำพร้าที่แสบที่สุดในสถานรับเลี้ยง คุณครูมักจะให้เงินเด็กคนละ ห้าเหรียญเพื่อไปซื้อประทัดเล่น สุดท้ายแล้วเด็กๆ ก็จะซื้อประทัดกล่องใหญ่มา จากนั้นก็จะไปหาท่อระบายน้ำกัน เขาชอบซุกประทัดไว้บนฝาท่อสองอัน

 

 

เมื่อเดินผ่านได้ครึ่งทาง เขาก็เจอท่อระบายน้ำที่ไม่มีฝากั้น! ได้ไงกัน! เด็กๆ ไม่มีทางรับเรื่องแบบนี้ได้หรอก! ถึงแม้ว่ามันจะไม่มีฝาปิด เขาก็หย่อนประทัดลงไปอยู่ดี!

 

 

แล้วจากนั้นไม่นานก็มีเสียงคนซ่อมท่อตะโกนด่าขึ้นมาจากใต้ดิน “เด็กบ้าที่ไหนมันปาประทัดลงมาข้างล่างเนี่ย เห็นไหมว่ามีคนอยู่ข้างใต้!”

 

 

ขณะที่หลี่ว์ซู่รำลึกความหลังอยู่นั้น เขาก็เดินไปถึงคฤหาสน์หลังหนึ่ง เขาเคาะประตูและมีผู้หญิงวัยกลางคนที่ใส่ผ้ากันเปื้อนอยู่เดินออกมา “คุณคือ…”

 

 

“ผมเป็นเพื่อนร่วมชั้นของหลิวหลี่ครับ” หลี่ว์ซู่หัวเราะ “หลิวหลี่คงไปค่ายฝึกฝนอยู่ แต่ว่าผมอยากจะมาเยี่ยมเนื่องในวันตรุษจีน แล้วก็เอาของตรุษจีนมาฝาก”

 

 

ผู้หญิงคนนั้นตะลึงแล้วหันไปตะโกนเรียก “คุณท่านคะ เพื่อนร่วมชั้นของคุณหนูหลิวหลี่มาหา มาทักทายเขาหน่อยสิคะ”

 

 

เมื่อหลิวเจี้ยนกว๋อเดินมาถึงและเห็นหลี่ว์ซู่ เขาก็เริ่มอยู่ไม่สุข เขาจะจำหลี่ว์ซู่ไม่ได้ได้อย่างไรกัน เขาไม่คิดเลยว่าหลี่ว์ซู่จะมาหาพวกเขาได้

 

 

“มาที่นี่ทำไม” หลิวเจี้ยนกว๋อถามด้วยความประหลาดใจ เขาต้องไม่ได้มาดีแน่

 

 

“สวัสดีครับคุณลุง ผมเป็นสหายร่วมรบของหลิวซิว การที่หลิวซิวยอมตายเพราะผมนั้นทำร้ายจิตใจผมมาก ผมก็เลยบอกหลิวหลี่ว่าจะเป็นลูกพี่ลูกน้องให้เขาแทน ในอนาคตถ้าคุณลุงมีปัญหาอะไร ติดต่อผมมาได้เลยนะครับ นี่ครับเบอร์ของผม 158…”

 

 

[ได้แต้มอารมณ์จากหลิวเจี้ยนกว๋อ +199…]

 

 

คำพูดของหลี่ว์ซู่ทำให้หลิวเจี้ยนกว๋อตกใจ เหมือนกับว่าหลี่ว์ซู่ได้กลายมาเป็นสมาชิกในครอบครัวแล้ว แต่หลิวหลี่ไม่เคยพูดเรื่องนี้ให้ฟังเลยนี่นา

 

 

ตกกลางคืน หลิวเจี้ยนกว๋อก็เลยโทรหาหลิวหลี่ ระหว่างการฝึกฝน พวกนักเรียนจะอนุญาตให้รับโทรศัพท์ได้ในช่วงสองทุ่มถึงสามทุ่มเท่านั้น ทั้งค่ายฝึกฝนทหารนั้นจะแยกออกมากจากความเจริญโดยสิ้นเชิง

 

 

หลิวเจี้ยนกว๋อถาม “ลูกชาย ฝึกเหนื่อยไหม”

 

 

หลิวหลี่ตอบสบายๆ [ไม่ครับ มันเหมือนเติมเต็มมากกว่า ผมว่าการฝึกทหารนี่ทำให้ผมแกร่งขึ้นได้และทำให้ผมมีควมคิดที่ถูกต้องด้วย]

 

 

“ฮ่าๆ ดีแล้วล่ะ” หลิวเจี้ยนกว๋ออยากจะเห็นลูกชายโตขึ้นเร็วๆ ดูเหมือนว่าค่ายฝึกทหารของเครือข่ายฟ้าดินจะไม่แย่เสียทีเดียวนะ เขาเลยถามต่อ “หลี่ว์ซู่บอกว่าอยากจะเป็นลูกพี่ลูกน้องของลูก เขามาเยี่ยมวันตรุษจีนแล้วเอาของตรุษจีนมาฝากด้วยนะ ลูกรู้เรื่องนี้หรือเปล่า”

 

 

หลิวหลี่พูดอะไรไม่ออก

 

 

[ได้แต้มอารมณ์จากหลิวหลี่ +666!]

 

 

หลังจากที่หลี่ว์ซู่จัดการเรื่องทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว เขาก็มองไปที่ของของเขา เขาไม่ได้ซื้อของตรุษจีนเข้าบ้านตัวเองหรอก เขายัดเสื้อผ้าสองชุดลงตราแผนดินแล้วเดินออกไป

 

 

 

 

บ้านบนถนนหลิวไห่ที่เมืองหลวง

 

 

สือเสวจิ้นอยู่ในครัวและกำลังทอดมีตบอลเนื้ออยู่ เนี่ยถิงนั่งอยู่ในสวนและอ่านเอกสารผ่านๆ ตรงหน้ามีจานมีตบอลเนื้อทอดอยู่ มันทั้งดูกรอบและส่งกลิ่นหอมตอนยังร้อนๆ

 

 

“พวกเด็กนักเรียนที่กำลังฝึกอยู่กลับบ้านกันไม่ได้สินะครับ คุณอยากจะส่งคำทักทายไปให้พวกเขาหรือเปล่า” สือเสวจิ้นตะโกนถามออกมาจากในครัว

 

 

เนี่ยถิงตอบอย่างเย็นชา “ทำไปทำไม ไม่เห็นมีประโยชน์ พวกทหารคนอื่นๆ ที่ไปเสี่ยงชีวิตในต่างประเทศก็ยังไม่ได้ฉลองตรุษจีนกันเลย คนพวกนั้นต่างหากที่เราควรจะส่งคำทักทายไปให้”

 

 

“นั่นมันไม่เหมือนกันนี่ครับ…” สือเสวจิ้นหยุดพูด

 

 

แต่แล้วจู่ๆ ประตูที่สวนก็ถูกเตะให้เปิดออก ลมพัดเอาฝุ่นเข้ามาในสวนด้วยทันที หลี่ว์ซู่ปรากฏตัวขึ้น เนื้อตัวเต็มไปด้วยร่องรอยถูกทำร้าย

 

 

หลี่ว์ซู่ไม่สนใจสีหน้าประหลาดใจนั้นหรอก เขาเดินช้าไปที่เนี่ยถิงและนั่งลงต่อหน้าเขา เขาหยิบจานมีตบอลเนื้อทอดขึ้นมาแล้วเริ่มกินมันเข้าไปด้วยความหิวโหย

 

 

[ได้แต้มอารมณ์จากเนี่ยถิง +666!]

 

 

[ได้แต้มอารมณ์จาสือเสวจิ้น +666!]

 

 

“ข้อโจ๊กลูกเดือยสักถ้วยได้ไหมครับ พอดีคอแห้ง” หลี่ว์ซู่กวัดมือเรียกสือเสวจิ้น

 

 

“…ได้สิ”

 

 

“ไม่คิดว่าตัวเองเป็นคนนอกบ้างเลยหรือไง หือ” เนี่ยถิงมองมาที่หลี่ว์ซู่อย่างเย็นชา

 

 

“แล้วจะให้ผมไปไหนล่ะ ครั้งที่แล้วผมนอนฟื้นตัวที่ไหนน้า” หลี่ว์ซู่ถาม “ให้ผมบอกอะไรคุณหน่อย ไอ้เจ้าไห่กงจื่อน่ะบกพร่องในหน้าที่ สำหรับผมแล้ว ผมอยากใช้เวลาวันตรุษจีนกับพวกคุณสองคนมากกว่า ไว้แผลหายดีเมื่อไหร่ผมค่อยไปแล้วกัน”

 

 

เนี่ยถิงเงียบ

 

 

เนี่ยถิงและสือเสวจิ้นเพิ่งคิดได้ว่าหลี่ว์ซู่จะมากินฟรีในช่วงตรุษจีนต่างหาก! หลี่ว์ซู่กินมีตบอลเนื้อทอดเสร็จอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ใช้เอกสารของเนี่ยถิงเช็ดมือ

 

 

“โจ๊ะลูกเดือยของผมอยู่ไหนกันครับ ทำไมนานจัง”

 

 

[ได้แต้มอารมณ์จากเนี่ยถิง +666!]

 

 

[ได้แต้มอารมณ์จาสือเสวจิ้น +666!]

ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ

ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ

หลี่ว์ซู่ เป็นเด็กกำพร้าที่หาเลี้ยงตัวเองมาโดยตลอด และก็คงจะหาเลี้ยงตัวเองเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ ถ้าเขาไม่ได้ประสบอุบัติเหตุรถชนเข้าเสียก่อน… แต่เฮ้ย! เขาไม่เป็นอะไรเลยนี่ ไม่เจ็บ ไม่ปวด และไม่ตาย แถมวิญญาณไม่ได้หลุดออกจากร่างด้วย! จะมีก็แต่สัญลักษณ์รูปต้นไม้ที่จู่ๆ ก็ปรากฏขึ้นมาบนฝ่ามือและพลังพิเศษในตัวที่ตื่นขึ้นมาเท่านั้น! ทว่าเขาไม่ได้เป็นเพียงคนเดียวที่ได้รับพลังพิเศษนี้มา เพราะคนอื่นๆ เองก็เริ่มกลายเป็นผู้มีพลังแล้วเหมือนกัน นี่มันเรื่องบ้าอะไร เกิดอะไรขึ้นกับโลกใบนี้กันแน่ นี่เรากำลังจะก้าวเข้าสู่ยุคของผู้มีพลังพิเศษกันแล้วงั้นเหรอ หลี่ว์ซู่ได้แต่คิดแล้วก็สงสัย ว่าแต่พลังที่ได้มานี่มันฝึกยังไงกันล่ะ เอ๊ะ ต้องสะสมแต้มอารมณ์ด้านลบงั้นเหรอ แค่กวนโมโหคนอื่นก็เพิ่มพลังได้แล้วงั้นเหรอ แบบนี้ก็เข้าทางหลี่ว์ซู่สุดๆ ไปเลยน่ะสิ!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset