พอเห็นผมหน้าซีดแล้ว ลิลิธจังก็ยิ้งยิ้มกว้างมาขึ้นไปอีก
และเสียงจากเมจิคไอเทมนั้นก็ยังคงถูกเล่นต่อไปไม่หยุด
[มะ ไม่ใช่นะครับ! ครั้งนี้ผมกับคุณซิลเวียน่ะแค่แต่งงานกันหลอกๆเพื่อรับมรดกเฉยๆเท่านั้นแหละครับ! ไม่ได้จะแต่งงานกันจริงๆนะครับ!]
[เอ๊ะ? ที่ฉันได้ยินมาจากเมย์ฟามาคือเงื่อนไขในการรับมรดกคือต้องพาคู่หมั้นมาแต่งงาน แล้วก็เรื่องที่ซิลเวียกับเรียวจะแต่งงานกันแค่นั้นน่ะนะ…..]
[ผมกับคุณซิลเวียน่ะไม่ได้จะแต่งงานกันจริงๆหรอกครับ]
พอลิลิธจังใช้เมจิคไอเทมอีกครั้ง และเสียงนั้นก็หยุดลง
ถ้างั้นก็แปลว่าเสียงที่ผมทำกับคุณคาร์ล่าก็ต้องถูกบันทึกไว้ด้วยน่ะสิ
“อะฮิฮิ….♡ คุณพี่ชาย ถึงหน้าตาจะดูเป็นผู้ใหญ่ก็เถอะ แต่การไปเป็นชู้กับสาวผู้คุ้มกันแบบนี้ มันจะไม่แย่เอาเหรอ?”
“……”
งานหยาบแล้วไง
ไม่คิดเลยว่าลิลิธจังจะคอยจับตาอยู่แบบนี้…
แถมยังมีเสียงที่บันทึกไว้เป็นหลักฐานอีก ประมาทไปแฮะ
แต่อย่างน้อยก็ยังมีเมย์ฟาตามมาอยู่ล่ะนะ
เมื่อวานเธอก็รู้ว่าผม 3P กับคุณคาร์ล่าและคุณซึกิคาเงะด้วย
งั้นก็แปลว่าตอนนี้เธอก็น่าจะกำลังฟังบทสนทนานี้อยู่ด้วยแน่ๆ
ถ้าเป็นเมย์ฟาล่ะก็
เธอคงจะไม่น่าจะทำแค่จับลิลิธจังไว้แล้วก็ขโมยเมจิคไอเทมนั้นไปแน่ๆ
พอถึงเวลานั้นเมย์ฟาคงจะพยายามฆ่าลิลิธจังแน่นอน
ต้องระวังไม่ให้เป็นแบบนั้นซะแล้วสิ
พอคิดแบบนั้นได้แล้ว เราคงต้องพยายามอย่าตื่นตระหนกเลยจะดีกว่า
ถ้างั้น ก่อนอื่นก็ลองหาจุดประสงค์ของลิลิธจังดูก่อนก็แล้วกัน
ถ้าเธอแอบฟังสิ่งที่ผมทำกับคุณคาร์ล่าในวันนั้นอยู่ล่ะก็
แปลว่าเธอต้องแอบตามพวกเรามาแน่ๆ
แถมเธอยังมีเมจิคไอเทมอยู่ในมือและยังตามมาอีก
นั่นก็แปลว่าเธอมีสิ่งที่เล็งไว้ตั้งแต่แรกแล้วแน่ๆ
“แล้วลิลิธจังคิดจะทำอะไรกันแน่ล่ะ?”
พอลิลิธจังได้ยินคำพูดของผม เธอก็กระพริบตาและทำหน้าดูหน้าสงสัย
“….ตกใจเลยนะ ดูใจเย็นผิดคาดเลยนี่? นึกว่าจะพูดแก้ตัวว่า [มีหลักฐานมั้ยล่ะว่านั่นเป็นเสียงของผมน่ะ!] อะไรแบบนี้ออกมาซะอีก ทั้งที่คิดว่าน่าจะพยายามแก้ตัวน้ำขุ่นๆ ให้เห็นแล้วเชียวนะ”
“ที่เธอเรียกผมมาแบบนี้ก็แปลว่าเธอเตรียมตัวพร้อมมาดีและมีความมั่นใจอยู่เต็มเปี่ยมอยู่แล้วว่าผมจะแก้ตัวไม่ได้ไม่ใช่รึไง? แล้วเธอต้องการอะไรจากผมกันล่ะ?”
“……”
ลิลิธจังหน้าบึ้งตึงและเงียบไปซักพัก
หลังจากผ่านไปได้ซักพัก เธอก็เปิดปากพูดขึ้นมา
“เลิกกับซิลเวียซะ”
ลิลิธจังมองมาที่ผมด้วยดวงตาที่มีไฟอันร้อนแรง
“คุณพี่น่ะ คงไม่ชอบหรือไม่อะไรกับซิลเวียเลยใช่มั้ยล่ะ? ผู้หญิงคนคุ้มกันคนนั้นเป็นตัวจริง ส่วนซิลเวียก็แต่งงานไปเพื่อมรดกเฉยๆสินะ เห็นบอกว่ามันเป็นการแต่งงานปลอมๆด้วยนี่~?”
ลิลิธจังยังคงยิ้มกว้างพร้อมยักไหล่
“ก็นะ ไม่มีทางที่จะมีผู้ชายหน้าไหนจะอยากมาแต่งงานกับดาร์กเอลฟ์อย่างจริงจังหรอกนะ ถึงฉันจะคิดแบบนั้นมาตั้งแต่แรกแล้วก็เถอะนะ”
“เธอคิดจะแย่งมรดกของคุณซิลเวียไปงั้นเหรอ?”
ถ้าผมเลิกกับคุณซิลเวียล่ะก็
คุณซิลเวียก็จะหลุดเงื่อนไขในการรับมรดกนี้ได้ไปโดยอัตโนมัติ
จุดประสงค์ของเธอก็คือเรื่องนั้นเองงั้นเหรอ
“ก็น้า ยังไงซิลเวียก็เป็นนักผจญภัยแรงค์ S อยู่แล้วนี่นา ต่อให้ไม่ได้มรดกไปก็ไม่น่ามีปัญหาอะไรอยู่แล้วใช่มั้ยล่ะ? จะอนุรักษ์ซากโบราณสถานของไฮเอลฟ์ไว้ต่อไปแบบนี้ไปก็คงไม่มีความหมายอะไรอยู่ดี แต่ถ้าเป็นลิลิธล่ะก็ ลิลิธก็จะสามารถใช้มันให้เกิดประโยชน์ได้ยังไงล่ะ”
“ไม่มีความหมาย?”
ผมเอียงคอด้วยความสงสัย
คุณซิลเวียเคยบอกไว้ว่าถ้าซากโบราณสถานของไฮเอลฟ์ถูกเปิดเผยต่อสาธารณะล่ะก็
ซากโบราณก็อาจจะถูกทำลายเพื่อทำการขุดค้นก็ได้
แล้วก็ที่เธออยากจะปกป้องซากโบราณสถานนั่น
ก็ไม่ใช่ความประสงค์ของท่านทวดด้วย
แต่เธออยากจะปกป้องด้วยตัวเองต่างหาก
แล้วการที่บอกว่ามันไม่มีความหมายนี่มันหมายความว่ายังไงกันแน่นะ
“ถ้าเปิดเผยถึงการมีอยู่ของซากโบราณสถานของไฮเอลฟ์ล่ะก็ ทางประเทศก็จะเข้ามายึดครองมันนะ ในกรณีที่แย่ที่สุดก็อาจจะถูกรื้อถอนทิ้งเพราะเป็นสถานที่อันตรายด้วยนี่ ถ้าเป็นอย่างงั้นล่ะก็ท่านทวดจะไม่เสียใจเอาหรอกเหรอ?”
แล้วลิลิธจังก็ได้หัวเราะเยาะเย้ยให้กับคำถามของผม
“คุณพี่นี่เป็นพวกบ้าล่ะสิน้า♡ เอาเถอะ ก็เป็นเผ่าที่อายุสั้นนี่เนอะ มันช่วยไม่ได้หรอก”
ลิลิธจังเอานิ้วชี้ที่หน้าตัวเองด้วยรอยยิ้มที่ดูภาคภูมิใจ
“ถ้าซากโบราณสถานของไฮเอลฟ์ถูกเปิดเผยล่ะก็ ทางประเทศก็จะพยายามหาทางยึดซากโบราณสถานนั้นมาให้ได้ไม่ว่ายังไงก็ตามใช่มั้ยล่ะ? ซึ่งนั่นแหละดีแล้ว!”
“ดีแล้ว?”
“ตอนนี้น่ะดาร์กเอลฟ์ถือว่ามีสถานะที่ต่ำต้อยมากในประเทศนี้…แต่ถ้ามีการเปิดเผยถึงการมีอยู่ของซากโบราณสถานของไฮเอลฟ์แล้ว ก็จะไม่มีใครเพิกเฉยต่อลิลิธได้ใช่มั้ยล่ะ? ถ้าใช้การมีอยู่ของซากโบราณสถานไปใช้เป็นข้อต่อรองกับประเทศแล้วล่ะก็ ดาร์กเอลฟ์จะต้องได้รับสถานะสูงขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ในตอนนี้อย่างแน่นอน!”
ผมแอบรู้สึกประหลาดใจนิดหน่อยกับการที่ลิลิธจังยืดอกอย่างภาคภูมิใจ
แต่เหตุผลที่ทำผมประหลาดใจนั่น
ไม่ใช่การที่ผมเห็นหน้าอกของเธอจากชุดบางๆนั่นหรอกนะ
สาเหตุที่ผมประหลาดใจน่ะมันคือ
เรื่องที่ลิลิธจังพยายามจะเปิดเผยการมีอยู่ของซากโบราณสถาน
เพื่อผลประโยชน์ของเผ่าและหมู่บ้านต่างหาก
ตอนแรกผมก็คิดว่าทำไปเพราะผลประโยชน์ส่วนตัวซะอีกนะ
ทันใดนั้นผมเองก็นึกอะไรขึ้นมาได้
ก่อนหน้านี้ตอนที่ลิลิธจังบอกให้ผมเลิกกับคุณซิลเวียนั้น
น้ำเสียงเธอดูหนักแน่นเอามากๆ
บางทีแล้ว…เหตุผลที่เธออยากให้ผมเลิกกับคุณซิลเวียนั้นอาจจะไม่ใช่การ
แย่งมรดกไปก็ได้ อาจจะเป็นเหตุผลอะไรที่ง่ายกว่านั้น
อย่างเช่น–
“หรือว่าเธอจะเป็นห่วงคุณซิลเวีย ก็เลยแอบตามผมมาอย่างงั้นเหรอ?”
“…หา!? จะ จะไปใช่แบบนั้นได้ยังไงกัน!”
ลิลิธจังหน้าแดงและพูดเสียงดังให้กับคำถามของผม
จากนั้นเธอก็พูดต่อไปเพื่อซ่อนความอับอายไว้
“พูดเรื่องอะไรน่ะ บ้ารึเปล่า! ละ ลิลิธน่ะไม่มีทางที่จะไปสนใจยายแก่แบบนั้นอยู่แล้วไม่ใช่รึไง!?”
หน้าของเธอที่แดงก่ำไปจนถึงหูนั่น
ก็เหมือนเป็นการสารภาพออกมาแล้วว่า[ถูกพูดแทงใจดำ]ยังไงยังงั้นเลยนะ
นั่นมันทำให้ผมถึงกับยิ้มออกมาเลย
ผมมองไปที่ลิลิธจังด้วยความรู้สึกอ่อนโยน
แต่เธอมองมาที่ผมด้วยแววตาที่ดูไม่ค่อยชอบใจซักเท่าไหร่
“ทำหน้าแบบนั้นคืออะไร…..! เป็นแค่เผ่าอายุสั้นแท้ๆ แต่กล้ามาทำกับลิลิธแบบนี้งั้นเหรอ!?”
จู่ๆลิลิธจังที่กำลังมองมาที่หน้าของผมพร้อมกับไหล่สั่นก็เปลี่ยนสีหน้าไป
หลังจากนั้นเธอก็ทำหน้าเหมือนกับว่าคิดอะไรออกแล้วเธอก็ย่นระยะห่างเข้ามา
ในตอนที่ผมกำลังสงสัยว่าเธอจะทำอะไรนั่นเอง
จู่ๆเธอก็เอามือมาจับที่หว่างขาของผม
แล้วเธอก็ใช้ปลายนิ้วลูบที่หว่างขาของผมผ่านผ้าของกางเกง
“ฮิฮิ คิดอะไรดีๆออกแล้วล่ะ♡”
ในตอนที่ผมคิดว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้นลิลิธจังก็พูดต่อไปด้วยรอยยิ้ม
และเธอก็เอานิ้วเรียวๆเล็กๆของเธอมาแตะที่เข็มขัดกางเกงของผม
“ก็คิดอยู่หรอกว่าถ้ายอมเลิกกับซิลเวียก็จะยกโทษให้น่ะ แต่เปลี่ยนใจแล้วล่ะ♡ คุณพี่ชาย…ลิลิธจะเปลี่ยนให้คุณพี่กลายมาเป็นสัตว์เลี้ยงของลิลิธก็แล้วกันนะ♡”
“สัตว์เลี้….!”
มะ มีข้อเสนอที่ดูน่าสนุกโผล่มาซะแล้วแฮะ–!
“หมายความว่ายังไงน่ะ?”
“พ่อแม่ของซิลเวียน่ะเอ็นดูซิลเวียมากเลยล่ะนะ~♡ ถ้าปล่อยให้พวกเขาได้ยินเสียงนี้เข้าล่ะก็ คุณพี่คงออกจากหมู่บ้านนี้อย่างปลอดภัยไม่ได้แน่ๆเลยใช่ม้า~? หรือบางทีแล้วควรจะขังคุณพี่ไว้ให้เป็นแท่งเนื้อสั่นได้ดีนะ♡”
เอ่อ คุณพ่อคุณแม่ของคุณวิลเวียก็รู้เรื่องตั้งแต่แรกแล้วนะ
ว่าพวกเราแต่งงานกันปลอมๆน่ะ…
แต่เพราะว่าลิลิธจังไม่รู้เรื่องนั้น
เธอก็เลยคิดว่าตัวเองมีข้อได้เปรียบเป็นอย่างมากและยังคงพูดต่อไปเรื่อยๆ
“ถ้าไม่อยากให้เป็นแบบนั้นล่ะก็ เลิกกับซิลเวียแล้วกลายมาเป็นน้องหมาส่วนตัวสุดพิเศษของลิลิธซะนะ♡ ถือเป็นบทลงโทษที่เป็นแค่เผ่าอายุสั้น แต่มาพูดจาไม่ดีกับลิลิธก็แล้วกันนะ♡”
“น้องหมาส่วนตัว….!”
…หวั่นไหวเลยแฮะ เอาไงดีเนี่ย
“ฮึฮึ ถ้างั้นก็ทำให้ซิลเวียเห็นว่าคุณพี่กับลิลิธกำลังทำกันอยู่ดีมั้ยน้า♡? จากที่เห็นที่งานเลี้ยงมื้อค่ำนั่น ดูเหมือนว่ายัยนั่นจะรักพี่ชายจริงๆซะด้วย คงจะไม่ใช่ว่าพอได้เห็นแล้วจะกลายเป็นบ้าไปซะก่อนหรอกนะ?”
“……”
ถ้าเทียบกับที่คุณซิลเวียเคยเห็นมาแล้วล่ะก็ แค่การมีเซ็กส์กับลิลิธจังน่ะ
มันเทียบไม่ได้กับตอนที่ผมมีเซ็กส์กับซึสึต่อหน้าเธอและอดีตสามีของเธอเลยด้วยซ้ำ
แถมผมยังเคยมีเซ็กส์กันแบบ 3P
กับคุณไอริสและคุณซิลเวียมาพร้อมกันแล้วด้วย
มันดูห่างไกลจากคำว่าจะกลายเป็นบ้าไปไกลโขเลย
เผลอๆคุณซิลเวียจะแปลกใจและสงสัยว่าทำอะไรกันมากกว่าล่ะมั้ง
ไม่สิ บางทีคงจะไม่แปลกใจเลยหรอกมั้ง?
“อะฮึฮึ ทำไมถึงเงียบไปล่า♡? กลัวการเป็นสัตว์เลี้ยงส่วนตัวของดาร์กเอลฟ์ซะจนพูดอะไรไม่ออกเลยงั้นเหรอ♡?”
เปล่าหรอก หัวใจของผมน่ะมันถูกครอบงำ
ด้วยข้อเสนอที่ดูน่าสนใจนั่นไปจนพูดอะไรไม่ออกเลยต่างหากล่ะ
แต่ผมจะตอบไปแบบนั้นก็ไม่ได้
ในขณะที่ผมกำลังคิดว่าจะทำไงดี ลิลิธจังก็ได้ยื่นมือมาจับมือซ้ายของผม
“แหวนที่นิ้วนางวงนี้นี่ ซิลเวียมอบให้เป็นของขวัญรึเปล่าน้า♡?”
“อ๊ะ นั่นมัน….”
“ก่อนอื่นก็เอาแหวนที่อยู่ที่นิ้วนี่มาก่อนเลยดีมั้ยน้า~♡ ฮิฮิ คุณพี่….”
ลิลิธจังหยุดชะงักไป แต่ที่หยุดไปนั่นเธอไม่ได้ตั้งใจหยุดพูดเอง
แหวนทองที่ลิลิธจังพยายามจะจับน่ะ–เป็นแหวนที่ผมเคยได้รับมาจากภูติ
เป็นของอันตรายที่สามารถทำให้เป้าหมายติดพิษหรือเป็นอัมพาตได้–
และลิลิธจังก็ถูกเข็มที่โผล่ออกมาจากแหวนนั้นแทงเข้า
เหมือนว่าเพราะลิลิธจังไปยุ่งกับมันแหวนมันก็เลยเปิดใช้งานเอง
เข็มพุ่งออกมาจากแหวนก็จริง แต่นั่นก็เพราะผมเล็งไปที่ลิลิธจังด้วยแหละนะ
ลิลิธจังที่ถูกเข็มแทง ถูกทำให้กลายเป็นอัมพาตและล้มลงไปกับพื้น
เมจิคไอเทมสีดำนั้นก็หล่นออกไปจากมือของเธอ
ผมก็เลยหยิบมันขึ้นมาจากพื้น
“เอ๊ะ เอ๊ะ? อะไรเนี่ย?”
ลิลิธจังถูกทำให้เป็นอัมพาตเฉยๆ ไม่ได้ถูกทำให้สลบ เพราะงั้นเธอเลยยังมีสติดีอยู่
แต่ดูเหมือนว่าเธอจะยังไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ
ดวงตาของเธอเบิกกว้าง แล้วเธอก็ส่งเสียงออกมาด้วยความรู้สึกงุนงง
ผมสำรวจเมจิคไอเทมที่ผมหยิบขึ้นมาด้วยความระมัดระวัง
หลังจากนั้นผมก็เข้าใจว่ามันมีปุ่มหนึ่งไว้ใช้สำหรับบันทึก
และอีกปุ่มนึงมีไว้สำหรับเล่นเสียง
จะว่าทำความเข้าใจก็ไม่เชิงซะทีเดียว
นั่นก็เพราะว่ามันมีอักษรกลมที่เขียนด้วยลายมือที่ดูน่ารักไว้อยู่ว่า
[<–เล่นเสียง]
[บันทึกเสียง–>]
[สูงสุดได้ 30 นาที]
ดูๆแล้วน่าจะเป็นลายมือของลิลิธจังแน่ๆ
เด็กคนนี้นี่ เป็นพวกที่จดรหัสเปิดตู้เซฟไว้ที่ตู้เซฟรึไงเนี่ย?
“หื้ม เจ้านี้มันใช้บันทึกเสียงได้ด้วยสินะ….น่าสนใจจังแฮะ”
“เอ๊ะ เอ๊ะ? ดะ เดี๋ยวสิ จะทำอะไรน่ะ!?”
ลิลิธจังพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูสับสนขณะที่นอนหงายอยู่บนพรม
ผมเดินเข้าไปใกล้ตัวเธอ
และผมก็เอาเมจิคไอเทมบันทึกเสียงนั่นวางไว้ข้างหัวของเธอ
หลังจากนั้นผมก็จับขาเธอแยกออกจากกัน
ซึ่งขาที่อ่อนแรงของเธอนั้นก็อ้าออกกว้างในทันที
ทันใดนั้นเองกระโปรงตัวเล็กของเธอก็ม้วนย้อนกลับไปจนถึงสะดือของเธอ
“เดี๋ยวสิ จะทำอะไรน่ะ!? อย่ามัวแต่อืดอาดยืดยาด แล้วก็รีบมาพยุงลิลิธขึ้นไปซักทีสิ! เจ้าคนเผ่าอายุสั้นนี่!”
“อย่าโกรธขนาดนั้นสิ จะรีบทำเดี๋ยวนี้แหละ เอ่อ ทำอะไรดีนะ ก่อนอื่นก็คงอยากจะให้ใช้นิ้วให้ล่ะสินะ?”
“…เอ๊ะ?”