นักผจญภัยหญิงแรงค์ S ขึ้นคาน ในโลกคู่ขนาน – ตอนที่ 101

 

พอเห็นผมหน้าซีดแล้ว ลิลิธจังก็ยิ้งยิ้มกว้างมาขึ้นไปอีก

และเสียงจากเมจิคไอเทมนั้นก็ยังคงถูกเล่นต่อไปไม่หยุด

 

[มะ ไม่ใช่นะครับ! ครั้งนี้ผมกับคุณซิลเวียน่ะแค่แต่งงานกันหลอกๆเพื่อรับมรดกเฉยๆเท่านั้นแหละครับ! ไม่ได้จะแต่งงานกันจริงๆนะครับ!]

 

[เอ๊ะ? ที่ฉันได้ยินมาจากเมย์ฟามาคือเงื่อนไขในการรับมรดกคือต้องพาคู่หมั้นมาแต่งงาน แล้วก็เรื่องที่ซิลเวียกับเรียวจะแต่งงานกันแค่นั้นน่ะนะ…..]

 

[ผมกับคุณซิลเวียน่ะไม่ได้จะแต่งงานกันจริงๆหรอกครับ]

 

พอลิลิธจังใช้เมจิคไอเทมอีกครั้ง และเสียงนั้นก็หยุดลง

ถ้างั้นก็แปลว่าเสียงที่ผมทำกับคุณคาร์ล่าก็ต้องถูกบันทึกไว้ด้วยน่ะสิ

 

“อะฮิฮิ….♡ คุณพี่ชาย ถึงหน้าตาจะดูเป็นผู้ใหญ่ก็เถอะ แต่การไปเป็นชู้กับสาวผู้คุ้มกันแบบนี้ มันจะไม่แย่เอาเหรอ?”

 

“……”

 

งานหยาบแล้วไง

ไม่คิดเลยว่าลิลิธจังจะคอยจับตาอยู่แบบนี้…

แถมยังมีเสียงที่บันทึกไว้เป็นหลักฐานอีก ประมาทไปแฮะ

 

แต่อย่างน้อยก็ยังมีเมย์ฟาตามมาอยู่ล่ะนะ

เมื่อวานเธอก็รู้ว่าผม 3P กับคุณคาร์ล่าและคุณซึกิคาเงะด้วย

งั้นก็แปลว่าตอนนี้เธอก็น่าจะกำลังฟังบทสนทนานี้อยู่ด้วยแน่ๆ

 

ถ้าเป็นเมย์ฟาล่ะก็ 

เธอคงจะไม่น่าจะทำแค่จับลิลิธจังไว้แล้วก็ขโมยเมจิคไอเทมนั้นไปแน่ๆ

พอถึงเวลานั้นเมย์ฟาคงจะพยายามฆ่าลิลิธจังแน่นอน 

ต้องระวังไม่ให้เป็นแบบนั้นซะแล้วสิ

 

พอคิดแบบนั้นได้แล้ว เราคงต้องพยายามอย่าตื่นตระหนกเลยจะดีกว่า

 

ถ้างั้น ก่อนอื่นก็ลองหาจุดประสงค์ของลิลิธจังดูก่อนก็แล้วกัน

ถ้าเธอแอบฟังสิ่งที่ผมทำกับคุณคาร์ล่าในวันนั้นอยู่ล่ะก็

แปลว่าเธอต้องแอบตามพวกเรามาแน่ๆ

 

แถมเธอยังมีเมจิคไอเทมอยู่ในมือและยังตามมาอีก

นั่นก็แปลว่าเธอมีสิ่งที่เล็งไว้ตั้งแต่แรกแล้วแน่ๆ

 

“แล้วลิลิธจังคิดจะทำอะไรกันแน่ล่ะ?”

 

พอลิลิธจังได้ยินคำพูดของผม เธอก็กระพริบตาและทำหน้าดูหน้าสงสัย

 

“….ตกใจเลยนะ ดูใจเย็นผิดคาดเลยนี่? นึกว่าจะพูดแก้ตัวว่า [มีหลักฐานมั้ยล่ะว่านั่นเป็นเสียงของผมน่ะ!] อะไรแบบนี้ออกมาซะอีก ทั้งที่คิดว่าน่าจะพยายามแก้ตัวน้ำขุ่นๆ ให้เห็นแล้วเชียวนะ”

 

“ที่เธอเรียกผมมาแบบนี้ก็แปลว่าเธอเตรียมตัวพร้อมมาดีและมีความมั่นใจอยู่เต็มเปี่ยมอยู่แล้วว่าผมจะแก้ตัวไม่ได้ไม่ใช่รึไง? แล้วเธอต้องการอะไรจากผมกันล่ะ?”

 

“……”

 

ลิลิธจังหน้าบึ้งตึงและเงียบไปซักพัก

หลังจากผ่านไปได้ซักพัก เธอก็เปิดปากพูดขึ้นมา

 

“เลิกกับซิลเวียซะ”

 

ลิลิธจังมองมาที่ผมด้วยดวงตาที่มีไฟอันร้อนแรง

 

“คุณพี่น่ะ คงไม่ชอบหรือไม่อะไรกับซิลเวียเลยใช่มั้ยล่ะ? ผู้หญิงคนคุ้มกันคนนั้นเป็นตัวจริง ส่วนซิลเวียก็แต่งงานไปเพื่อมรดกเฉยๆสินะ เห็นบอกว่ามันเป็นการแต่งงานปลอมๆด้วยนี่~?”

 

ลิลิธจังยังคงยิ้มกว้างพร้อมยักไหล่

 

“ก็นะ ไม่มีทางที่จะมีผู้ชายหน้าไหนจะอยากมาแต่งงานกับดาร์กเอลฟ์อย่างจริงจังหรอกนะ ถึงฉันจะคิดแบบนั้นมาตั้งแต่แรกแล้วก็เถอะนะ”

 

“เธอคิดจะแย่งมรดกของคุณซิลเวียไปงั้นเหรอ?”

 

ถ้าผมเลิกกับคุณซิลเวียล่ะก็  

คุณซิลเวียก็จะหลุดเงื่อนไขในการรับมรดกนี้ได้ไปโดยอัตโนมัติ

จุดประสงค์ของเธอก็คือเรื่องนั้นเองงั้นเหรอ

 

“ก็น้า ยังไงซิลเวียก็เป็นนักผจญภัยแรงค์ S อยู่แล้วนี่นา ต่อให้ไม่ได้มรดกไปก็ไม่น่ามีปัญหาอะไรอยู่แล้วใช่มั้ยล่ะ? จะอนุรักษ์ซากโบราณสถานของไฮเอลฟ์ไว้ต่อไปแบบนี้ไปก็คงไม่มีความหมายอะไรอยู่ดี แต่ถ้าเป็นลิลิธล่ะก็ ลิลิธก็จะสามารถใช้มันให้เกิดประโยชน์ได้ยังไงล่ะ”

 

“ไม่มีความหมาย?”

 

ผมเอียงคอด้วยความสงสัย

คุณซิลเวียเคยบอกไว้ว่าถ้าซากโบราณสถานของไฮเอลฟ์ถูกเปิดเผยต่อสาธารณะล่ะก็

ซากโบราณก็อาจจะถูกทำลายเพื่อทำการขุดค้นก็ได้

 

แล้วก็ที่เธออยากจะปกป้องซากโบราณสถานนั่น

ก็ไม่ใช่ความประสงค์ของท่านทวดด้วย 

แต่เธออยากจะปกป้องด้วยตัวเองต่างหาก

 

แล้วการที่บอกว่ามันไม่มีความหมายนี่มันหมายความว่ายังไงกันแน่นะ

 

“ถ้าเปิดเผยถึงการมีอยู่ของซากโบราณสถานของไฮเอลฟ์ล่ะก็ ทางประเทศก็จะเข้ามายึดครองมันนะ ในกรณีที่แย่ที่สุดก็อาจจะถูกรื้อถอนทิ้งเพราะเป็นสถานที่อันตรายด้วยนี่ ถ้าเป็นอย่างงั้นล่ะก็ท่านทวดจะไม่เสียใจเอาหรอกเหรอ?”

 

แล้วลิลิธจังก็ได้หัวเราะเยาะเย้ยให้กับคำถามของผม

 

“คุณพี่นี่เป็นพวกบ้าล่ะสิน้า♡ เอาเถอะ ก็เป็นเผ่าที่อายุสั้นนี่เนอะ มันช่วยไม่ได้หรอก”

 

ลิลิธจังเอานิ้วชี้ที่หน้าตัวเองด้วยรอยยิ้มที่ดูภาคภูมิใจ

 

“ถ้าซากโบราณสถานของไฮเอลฟ์ถูกเปิดเผยล่ะก็ ทางประเทศก็จะพยายามหาทางยึดซากโบราณสถานนั้นมาให้ได้ไม่ว่ายังไงก็ตามใช่มั้ยล่ะ? ซึ่งนั่นแหละดีแล้ว!”

 

“ดีแล้ว?”

 

“ตอนนี้น่ะดาร์กเอลฟ์ถือว่ามีสถานะที่ต่ำต้อยมากในประเทศนี้…แต่ถ้ามีการเปิดเผยถึงการมีอยู่ของซากโบราณสถานของไฮเอลฟ์แล้ว ก็จะไม่มีใครเพิกเฉยต่อลิลิธได้ใช่มั้ยล่ะ? ถ้าใช้การมีอยู่ของซากโบราณสถานไปใช้เป็นข้อต่อรองกับประเทศแล้วล่ะก็ ดาร์กเอลฟ์จะต้องได้รับสถานะสูงขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ในตอนนี้อย่างแน่นอน!”

 

ผมแอบรู้สึกประหลาดใจนิดหน่อยกับการที่ลิลิธจังยืดอกอย่างภาคภูมิใจ

 

แต่เหตุผลที่ทำผมประหลาดใจนั่น

ไม่ใช่การที่ผมเห็นหน้าอกของเธอจากชุดบางๆนั่นหรอกนะ

 

สาเหตุที่ผมประหลาดใจน่ะมันคือ

เรื่องที่ลิลิธจังพยายามจะเปิดเผยการมีอยู่ของซากโบราณสถาน

เพื่อผลประโยชน์ของเผ่าและหมู่บ้านต่างหาก

 

ตอนแรกผมก็คิดว่าทำไปเพราะผลประโยชน์ส่วนตัวซะอีกนะ

 

ทันใดนั้นผมเองก็นึกอะไรขึ้นมาได้

ก่อนหน้านี้ตอนที่ลิลิธจังบอกให้ผมเลิกกับคุณซิลเวียนั้น

น้ำเสียงเธอดูหนักแน่นเอามากๆ

 

บางทีแล้ว…เหตุผลที่เธออยากให้ผมเลิกกับคุณซิลเวียนั้นอาจจะไม่ใช่การ

แย่งมรดกไปก็ได้ อาจจะเป็นเหตุผลอะไรที่ง่ายกว่านั้น

อย่างเช่น–

 

“หรือว่าเธอจะเป็นห่วงคุณซิลเวีย ก็เลยแอบตามผมมาอย่างงั้นเหรอ?”

 

“…หา!? จะ จะไปใช่แบบนั้นได้ยังไงกัน!”

 

ลิลิธจังหน้าแดงและพูดเสียงดังให้กับคำถามของผม

จากนั้นเธอก็พูดต่อไปเพื่อซ่อนความอับอายไว้

 

“พูดเรื่องอะไรน่ะ บ้ารึเปล่า! ละ ลิลิธน่ะไม่มีทางที่จะไปสนใจยายแก่แบบนั้นอยู่แล้วไม่ใช่รึไง!?”

 

หน้าของเธอที่แดงก่ำไปจนถึงหูนั่น

ก็เหมือนเป็นการสารภาพออกมาแล้วว่า[ถูกพูดแทงใจดำ]ยังไงยังงั้นเลยนะ

 

นั่นมันทำให้ผมถึงกับยิ้มออกมาเลย

 

ผมมองไปที่ลิลิธจังด้วยความรู้สึกอ่อนโยน

แต่เธอมองมาที่ผมด้วยแววตาที่ดูไม่ค่อยชอบใจซักเท่าไหร่

 

“ทำหน้าแบบนั้นคืออะไร…..! เป็นแค่เผ่าอายุสั้นแท้ๆ แต่กล้ามาทำกับลิลิธแบบนี้งั้นเหรอ!?”

 

จู่ๆลิลิธจังที่กำลังมองมาที่หน้าของผมพร้อมกับไหล่สั่นก็เปลี่ยนสีหน้าไป

หลังจากนั้นเธอก็ทำหน้าเหมือนกับว่าคิดอะไรออกแล้วเธอก็ย่นระยะห่างเข้ามา

 

ในตอนที่ผมกำลังสงสัยว่าเธอจะทำอะไรนั่นเอง

จู่ๆเธอก็เอามือมาจับที่หว่างขาของผม

แล้วเธอก็ใช้ปลายนิ้วลูบที่หว่างขาของผมผ่านผ้าของกางเกง

 

“ฮิฮิ คิดอะไรดีๆออกแล้วล่ะ♡”

 

ในตอนที่ผมคิดว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้นลิลิธจังก็พูดต่อไปด้วยรอยยิ้ม

และเธอก็เอานิ้วเรียวๆเล็กๆของเธอมาแตะที่เข็มขัดกางเกงของผม

 

“ก็คิดอยู่หรอกว่าถ้ายอมเลิกกับซิลเวียก็จะยกโทษให้น่ะ แต่เปลี่ยนใจแล้วล่ะ♡ คุณพี่ชาย…ลิลิธจะเปลี่ยนให้คุณพี่กลายมาเป็นสัตว์เลี้ยงของลิลิธก็แล้วกันนะ♡”

 

“สัตว์เลี้….!”

 

มะ มีข้อเสนอที่ดูน่าสนุกโผล่มาซะแล้วแฮะ–!

 

“หมายความว่ายังไงน่ะ?”

 

“พ่อแม่ของซิลเวียน่ะเอ็นดูซิลเวียมากเลยล่ะนะ~♡ ถ้าปล่อยให้พวกเขาได้ยินเสียงนี้เข้าล่ะก็ คุณพี่คงออกจากหมู่บ้านนี้อย่างปลอดภัยไม่ได้แน่ๆเลยใช่ม้า~? หรือบางทีแล้วควรจะขังคุณพี่ไว้ให้เป็นแท่งเนื้อสั่นได้ดีนะ♡”

 

เอ่อ คุณพ่อคุณแม่ของคุณวิลเวียก็รู้เรื่องตั้งแต่แรกแล้วนะ

ว่าพวกเราแต่งงานกันปลอมๆน่ะ…

 

แต่เพราะว่าลิลิธจังไม่รู้เรื่องนั้น  

เธอก็เลยคิดว่าตัวเองมีข้อได้เปรียบเป็นอย่างมากและยังคงพูดต่อไปเรื่อยๆ

 

“ถ้าไม่อยากให้เป็นแบบนั้นล่ะก็ เลิกกับซิลเวียแล้วกลายมาเป็นน้องหมาส่วนตัวสุดพิเศษของลิลิธซะนะ♡ ถือเป็นบทลงโทษที่เป็นแค่เผ่าอายุสั้น แต่มาพูดจาไม่ดีกับลิลิธก็แล้วกันนะ♡”

 

“น้องหมาส่วนตัว….!”

 

…หวั่นไหวเลยแฮะ เอาไงดีเนี่ย

 

“ฮึฮึ ถ้างั้นก็ทำให้ซิลเวียเห็นว่าคุณพี่กับลิลิธกำลังทำกันอยู่ดีมั้ยน้า♡? จากที่เห็นที่งานเลี้ยงมื้อค่ำนั่น ดูเหมือนว่ายัยนั่นจะรักพี่ชายจริงๆซะด้วย คงจะไม่ใช่ว่าพอได้เห็นแล้วจะกลายเป็นบ้าไปซะก่อนหรอกนะ?”

 

“……”

 

ถ้าเทียบกับที่คุณซิลเวียเคยเห็นมาแล้วล่ะก็ แค่การมีเซ็กส์กับลิลิธจังน่ะ

มันเทียบไม่ได้กับตอนที่ผมมีเซ็กส์กับซึสึต่อหน้าเธอและอดีตสามีของเธอเลยด้วยซ้ำ

 

แถมผมยังเคยมีเซ็กส์กันแบบ 3P 

กับคุณไอริสและคุณซิลเวียมาพร้อมกันแล้วด้วย

 

มันดูห่างไกลจากคำว่าจะกลายเป็นบ้าไปไกลโขเลย

เผลอๆคุณซิลเวียจะแปลกใจและสงสัยว่าทำอะไรกันมากกว่าล่ะมั้ง

ไม่สิ บางทีคงจะไม่แปลกใจเลยหรอกมั้ง?

 

“อะฮึฮึ ทำไมถึงเงียบไปล่า♡? กลัวการเป็นสัตว์เลี้ยงส่วนตัวของดาร์กเอลฟ์ซะจนพูดอะไรไม่ออกเลยงั้นเหรอ♡?”

 

เปล่าหรอก หัวใจของผมน่ะมันถูกครอบงำ

ด้วยข้อเสนอที่ดูน่าสนใจนั่นไปจนพูดอะไรไม่ออกเลยต่างหากล่ะ

แต่ผมจะตอบไปแบบนั้นก็ไม่ได้

 

ในขณะที่ผมกำลังคิดว่าจะทำไงดี ลิลิธจังก็ได้ยื่นมือมาจับมือซ้ายของผม

 

“แหวนที่นิ้วนางวงนี้นี่ ซิลเวียมอบให้เป็นของขวัญรึเปล่าน้า♡?”

 

“อ๊ะ นั่นมัน….”

 

“ก่อนอื่นก็เอาแหวนที่อยู่ที่นิ้วนี่มาก่อนเลยดีมั้ยน้า~♡ ฮิฮิ คุณพี่….”

 

ลิลิธจังหยุดชะงักไป แต่ที่หยุดไปนั่นเธอไม่ได้ตั้งใจหยุดพูดเอง

 

แหวนทองที่ลิลิธจังพยายามจะจับน่ะ–เป็นแหวนที่ผมเคยได้รับมาจากภูติ

เป็นของอันตรายที่สามารถทำให้เป้าหมายติดพิษหรือเป็นอัมพาตได้–

และลิลิธจังก็ถูกเข็มที่โผล่ออกมาจากแหวนนั้นแทงเข้า

 

เหมือนว่าเพราะลิลิธจังไปยุ่งกับมันแหวนมันก็เลยเปิดใช้งานเอง

เข็มพุ่งออกมาจากแหวนก็จริง แต่นั่นก็เพราะผมเล็งไปที่ลิลิธจังด้วยแหละนะ

ลิลิธจังที่ถูกเข็มแทง ถูกทำให้กลายเป็นอัมพาตและล้มลงไปกับพื้น

 

เมจิคไอเทมสีดำนั้นก็หล่นออกไปจากมือของเธอ

ผมก็เลยหยิบมันขึ้นมาจากพื้น

 

“เอ๊ะ เอ๊ะ? อะไรเนี่ย?”

 

ลิลิธจังถูกทำให้เป็นอัมพาตเฉยๆ ไม่ได้ถูกทำให้สลบ เพราะงั้นเธอเลยยังมีสติดีอยู่

แต่ดูเหมือนว่าเธอจะยังไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ

ดวงตาของเธอเบิกกว้าง แล้วเธอก็ส่งเสียงออกมาด้วยความรู้สึกงุนงง

 

ผมสำรวจเมจิคไอเทมที่ผมหยิบขึ้นมาด้วยความระมัดระวัง

หลังจากนั้นผมก็เข้าใจว่ามันมีปุ่มหนึ่งไว้ใช้สำหรับบันทึก

และอีกปุ่มนึงมีไว้สำหรับเล่นเสียง

 

จะว่าทำความเข้าใจก็ไม่เชิงซะทีเดียว  

นั่นก็เพราะว่ามันมีอักษรกลมที่เขียนด้วยลายมือที่ดูน่ารักไว้อยู่ว่า

[<–เล่นเสียง]

[บันทึกเสียง–>]

[สูงสุดได้ 30 นาที]

ดูๆแล้วน่าจะเป็นลายมือของลิลิธจังแน่ๆ

 

เด็กคนนี้นี่ เป็นพวกที่จดรหัสเปิดตู้เซฟไว้ที่ตู้เซฟรึไงเนี่ย?

 

“หื้ม เจ้านี้มันใช้บันทึกเสียงได้ด้วยสินะ….น่าสนใจจังแฮะ”

 

“เอ๊ะ เอ๊ะ? ดะ เดี๋ยวสิ จะทำอะไรน่ะ!?”

 

ลิลิธจังพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูสับสนขณะที่นอนหงายอยู่บนพรม

 

ผมเดินเข้าไปใกล้ตัวเธอ

และผมก็เอาเมจิคไอเทมบันทึกเสียงนั่นวางไว้ข้างหัวของเธอ

 

หลังจากนั้นผมก็จับขาเธอแยกออกจากกัน

 ซึ่งขาที่อ่อนแรงของเธอนั้นก็อ้าออกกว้างในทันที

 

ทันใดนั้นเองกระโปรงตัวเล็กของเธอก็ม้วนย้อนกลับไปจนถึงสะดือของเธอ

 

“เดี๋ยวสิ จะทำอะไรน่ะ!? อย่ามัวแต่อืดอาดยืดยาด แล้วก็รีบมาพยุงลิลิธขึ้นไปซักทีสิ! เจ้าคนเผ่าอายุสั้นนี่!”

 

“อย่าโกรธขนาดนั้นสิ จะรีบทำเดี๋ยวนี้แหละ เอ่อ ทำอะไรดีนะ ก่อนอื่นก็คงอยากจะให้ใช้นิ้วให้ล่ะสินะ?”

 

“…เอ๊ะ?”

 

 

นักผจญภัยหญิงแรงค์ S ขึ้นคาน ในโลกคู่ขนาน

นักผจญภัยหญิงแรงค์ S ขึ้นคาน ในโลกคู่ขนาน

Status: Ongoing
อ่านนิยาย นักผจญภัยหญิงแรงค์ S ขึ้นคาน ในโลกคู่ขนานผมทำตามที่กิลด์มาสเตอร์สั่งและเดินตรงไปยังห้องประเมินของกิลด์ ในตอนที่ผมเปิดประตูเข้าไป สินค้าก็ได้วางอยู่ในห้องไว้อยู่แล้ว และเมจิคไอเทมที่กิลด์มาสเตอร์อยากให้ผมประเมินนั้นวางอยู่บนโต๊ะ ผมเดินไปหยิบคริสตัลประเมินออกมาจากตู้และเปิดใช้งานมันด้วยพลังเวทย์ คริสตัลประเมินนี่ถือว่าเป็นของมีค่ามากเลยทีเดียว ในแต่ละกิลด์ภายในอาณาจักรจะต้องคริสตัลนี้สาขาละ1อัน ก็ตามชื่อน่ะนะ คริสตัลอันนี้ มีไว้เพื่อใช้ประเมินค่าของเมจิคไอเทม ผมบอกตัวเองว่า ถ้าผมทำคริสตัลอันนี้แตกขึ้นมาล่ะก็ ต่อให้ผมจะเกิดใหม่ซัก 3 รอบก็คงไม่มีทางทำงานหาเงินมาจ่ายได้แน่ๆ จะว่าไปแล้ว คริสตัลอันนี้มันจำทำให้เราคิดมากจนเกินไปหน่อยแล้วมั้ง? หรือนี่มันจะเป็นชะตากรรมของผมกันนะ? ในตอนนั้นเองที่ผมกำลังหยิบคริสตัลประเมินผมไม่ได้สังเกตเห็นเลยว่า ชายเสื้อของผมมันไปเกี่ยวกับไอเทมเวทย์มนต์บนโต๊ะและตอนที่ผมขยับออกมา เมจิคไอเทมอันหนึ่ง–ขวดแก้วเล็กๆ ตกลงไปที่พื้นและแตกเป็นเสี่ยงๆ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset