บทที่ 540 ปัญหาคู่ครอง

บทที่ 540 ปัญหาคู่ครอง

หลินชิงเหอกับโจวชิงไป๋ไม่สนใจตระกูลหลินให้มากความ ครั้งนี้เงินที่ควรให้เธอก็ให้ไปอย่างไม่ขาดสักหยวนแล้ว แต่เรื่องอื่นที่ไม่สมควรทำ หลินชิงเหอก็จะไม่ทำมากไปกว่านั้น

ส่วนใครที่เจ้ากี้เจ้าการนัก ก็ให้คนคนนั้นไปจัดการเองเถอะ

เมื่อกลับมาถึงบ้านตระกูลโจว หลินชิงเหอกับโจวชิงไป๋ก็เตรียมตัวกลับเข้าตัวอำเภอ และเตรียมตัวกลับปักกิ่งเช่นเดียวกัน

เพราะว่าล่าช้าขนาดนี้ พอกลับไปถึงปักกิ่งก็คงจะใกล้ถึงวันปีใหม่แล้ว

สะใภ้ใหญ่โจวจัดเตรียมไข่เค็มไว้สองกล่องและห่อไว้ให้อย่างดี สำหรับโจวชิงไป๋แล้วเขาไม่ได้รู้สึกหนักอะไรจึงเป็นคนถือให้ ซึ่งหลินชิงเหอก็ยอมรับในเรื่องนี้

“พี่สะใภ้ใหญ่ไม่ต้องเป็นห่วงเอ้อร์นีกับซื่อนีนะคะ พวกหล่อนสบายดี แต่จะว่าไปแล้ว ปีนี้หยางหยางจะกลับมาไหมคะ?” หลินชิงเหอถาม

“หยางหยางอยู่ที่นั่นแล้ว เขาโทรศัพท์กลับมาบอกว่ารับงานไว้งานหนึ่ง ปีนี้จึงไม่กลับแล้วล่ะจ้ะ” สะใภ้ใหญ่โจวพูด

หลินชิงเหอก็ไม่ก็พูดอะไรต่อ และรีบไปตัวอำเภอกับโจวชิงไป๋

พวกเขาตรงไปหาพี่ชายสามและสะใภ้สามโจวที่อยู่ที่นี่

พอกลับมาถึง คนทั้งคู่ก็รู้ว่าพวกเขาจัดการเรื่องนั้นเสร็จแล้ว

“อาสะใภ้สี่ หนูคิดว่าจะกลับมาเรียนหนังสือที่อำเภอนี้น่ะค่ะ” โจวอู่นีรินน้ำชาให้แล้วขณะพูดกับอาสะใภ้สี่ของหล่อน

“ที่อำเภอก็ไม่เลวเหมือนกัน แต่หนูไม่คิดอยากไปเรียนที่ปักกิ่งหรือจ๊ะ?” หลินชิงเหอถาม เธอชอบในตัวของหลานสาวคนนี้มาก หล่อนมีนิสัยคล้ายคลึงกับพ่อแม่หล่อน และทำอะไรคล่องแคล่วมากด้วย

“หนูยังไม่มั่นใจที่จะไปที่นั่นน่ะค่ะ รอปิดเทอมฤดูร้อนแล้วเดี๋ยวหนูจะไปหานะคะ” โจวอู่นีพูดด้วยรอยยิ้ม

“ได้จ๊ะ” หลินชิงเหอไม่ได้บังคับ เธอดูที่การตัดสินใจของแต่ละคน ถ้าอยากไปเรียนหนังสือที่ปักกิ่ง เธอจะช่วยจัดการให้ แต่หากอยากอยู่ที่อำเภอนี้เธอก็คิดว่าไม่เลวเหมือนกัน

อย่างน้อยพ่อกับแม่ของหล่อนก็อยู่ที่นี่ด้วย

“ที่จริงพี่ก็อยากให้หล่อนไปปักกิ่ง หาแฟนที่ปักกิ่งสักคนเหมือนกันนะ” สะใภ้สามโจวเอ่ยพลางหัวเราะ

“คนรักไม่แยกแยะว่าต้องอยู่ในเมืองหรือเปล่าหรอกนะคะ ที่สำคัญคือหล่อนต้องชอบเขา และเขาก็ทำดีกับหล่อนน่ะค่ะ” หลินชิงเหอยิ้ม

โจวอู่นีพูดขึ้นบ้าง “หนูชอบความคิดของอาสะใภ้สี่นะคะ แม่ของหนูเองก็เหมือนกัน หล่อนคงโดนป้าสะใภ้ใหญ่กล่อมสมองไปแล้ว ถึงได้คิดอยากให้หนูไปหาคู่ครองที่ปักกิ่ง”

ตัวเด็กสาวเองไม่ได้คิดแบบนั้น หล่อนคิดว่าอยู่ที่อำเภอนี้ก็ดีแล้ว ในเมื่อที่นี่มีหมดทุกอย่างแล้วทำไมต้องไปที่ปักกิ่งด้วยล่ะ? ทั้งยังต้องไปหาคู่ครองไกลถึงขนาดนั้นอีก นี่ออกจะเกินไปหน่อยแล้ว

“หนูเห็นหยางหยางไปหาแฟนที่ในเมืองด้วยค่ะ” โจวอู่นีเอ่ยประโยคที่ชวนให้คนตกใจออกมา

“หา?” หลินชิงเหอกับโจวชิงไป๋ไม่มีปฏิกิริยาตอบโต้ แต่สะใภ้สามโจวกลับตกใจมาก “ตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมแม่ไม่เคยได้ยินลูกพูดเลย”

“หนูเห็นมาสองครั้งแล้ว เขาสองคนไปหอสมุดด้วยกันครั้งหนึ่ง ครั้งที่สองคือออกไปซื้อของข้างนอก หนูเดาได้เลยว่าหล่อนน่าจะเป็นแฟนของเขา ปีนี้ที่เขาไม่ยอมกลับมาหนูก็ยิ่งมั่นใจว่าต้องใช่แน่ ๆ ค่ะ” โจวอู่นีพูดพร้อมยิ้ม

“แม่ได้ยินว่าหยางหยางเขาจะกลับมาเรียนหนังสือที่อำเภอนี้นะ” สะใภ้สามโจวพูด

“ก็พาสาวคนนั้นมาด้วยไงคะ อำเภอของเราก็ไม่แย่เหมือนกัน ออกจะครึกครื้น” โจวอู่นีพูดอย่างไม่ใส่ใจ

“นั้นก็แล้วแต่ความสมัครใจของคนด้วยนะจ๊ะ” สะใภ้สามโจวพูด

“หยางหยางก็ไม่ได้แย่ ถ้าไม่เต็มใจล่ะก็ งั้นก็ไม่มีวิธีแล้วค่ะ หนูคิดว่าหยางหยางน่าจะมีหล่อนอยู่ในใจไม่น้อย ขนาดปีใหม่ยังไม่กลับมาเลย” โจวอู่นีพูด

หลินชิงเหอหัวเราะ “ป้าสะใภ้ใหญ่คงยังไม่รู้สินะ”

“ป้าสะใภ้ใหญ่น่าจะยังไม่รู้ค่ะ” โจวอู่นีพยักหน้า

“ฉันได้ยินมาว่าเซี่ยเซี่ยกำลังคบหาอยู่กับลูกสาวของอาจารย์เขาหรือคะ” หลินชิงเหอพูด

สะใภ้สามโจวทำเสียงจุ๊ปากแล้วพูด “นิสัยแม่สาวคนนั้นของเซี่ยเซี่ยรุนแรงมากทีเดียว ครั้งก่อนตอนที่เขาพามาที่นี่แล้วให้หล่อนนั่งเก้าอี้เล็ก ๆ หล่อนก็ยังไม่เต็มใจจะนั่ง”

โจวชิงไป๋มุ่นคิ้ว หลินชิงเหอก็พูดกับเขา “เดี๋ยวฉันจะคุยกับพี่สะใภ้สามก่อน คุณไปเดินเล่นดูที่ร้านเฟอร์นิเจอร์ได้นะคะ”

โจวชิงไป๋จึงขี่จักรยานมาที่ร้านเฟอร์นิเจอร์

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเห็นเขาเดินเข้ามาก็เข้าไปตะโกนเรียกคนทันที โจวเซี่ยเดินออกมาอย่างรวดเร็ว โดยที่ด้านหลังมีหญิงสาวคนหนึ่งเดินตามมาด้วย

“คุณอาสี่!” โจวเซี่ยรู้สึกดีใจมากที่เห็นเขา

โจวชิงไป๋ก็พยักหน้ารับหลานชายตัวเองเช่นกัน หลังจากนั้นสายตาก็พุ่งไปที่ร่างของหญิงสาวด้านหลังเขา

“ลุงสี่ นี่เมียวเมียวแฟนผมเองครับ” โจวเซี่ยพูดแนะนำหม่าเมียวเมียวให้กับคุณอาสี่ของเขา

แต่หม่าเมียวเมียวกลับไม่ขานรับ ซ้ำยังผินหน้ามองไปทางอื่น

โจวเซี่ยพลันมีสีหน้ากระอักกระอ่วนทันที โจวชิงไป๋ก็ไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่ลอบส่ายหน้าอยู่ในใจเท่านั้น

“เธอกลับไปก่อนเถอะ ฉันจะพูดกับคุณอาสี่ของฉัน” โจวเซี่ยพูด

หม่าเมียวเมียวหมุนตัวจากไป

“อาสี่ครับ นิสัยของเมียวเมียวก็เป็นอย่างนี้แหละ อย่าถือสาหล่อนเลยนะครับ” โจวเซี่ยเอ่ยขอโทษ

โจวชิงไป๋ไม่พูดถึงเรื่องนี้ เพียงเอ่ยว่า “ตั้งใจทำงาน แล้วพยายามออกมาตั้งตัวเองเร็ว ๆ นะ”

“ออกมาทำเองมันไม่ง่ายขนาดนั้นน่ะสิครับ” โจวเซี่ยถอนหายใจ

การผันตัวออกมาเป็นผู้ประกอบการเองจำเป็นต้องใช้เงินไม่น้อย แม้ตอนนี้เขาจะมีฝีมือพอที่จะออกมาทำด้วยตัวเองได้แล้ว แต่เขายังไม่มีเงิน ทางพ่อแม่ของเขายังขาดเงินที่จะสร้างบ้านใหม่อยู่เลย

“ถึงไม่ง่ายแต่ก็ต้องวางแผนเอาไว้ เธอทำงานอยู่ที่นี่ตลอดไปไม่ได้หรอก” โจวชิงไป๋พูด

“ผมรู้ครับ แต่เรื่องนี้ค่อยเป็นค่อยไปเถอะครับ” โจวเซี่ยพยักหน้ารับ

โจวชิงไป๋พูดกับเขาสักพักถึงค่อยกลับมา พอเห็นเขากลับมาแล้ว หลินชิงเหอจึงเอ่ยทัก “ทำไมกลับมาเร็วขนาดนี้ล่ะคะ? ฉันนึกว่าพวกคุณมีเรื่องให้พูดเยอะเสียอีก”

“เขาโตแล้ว ไม่ต้องให้คนอื่นเป็นห่วงแล้ว” โจวชิงไป๋พยักหน้าพูด

“ได้เจอแฟนเขาไหมคะ?” หลินชิงเหอพูด

“อืม” โจวชิงไป๋ขานรับหนึ่งเสียง

เท่านี้หลินชิงเหอก็เข้าใจทันที ดูเหมือนเขาจะไม่พอใจมาก แต่หลินชิงเหอก็ไม่ได้รู้สึกอะไร นั่นเป็นเรื่องของโจวเซี่ยกับผู้หญิงคนนั้นแล้ว ไม่เกี่ยวอะไรกับคนรอบข้าง จึงไม่ต้องไปวิพากษ์วิจารณ์อะไร

หากพวกเขาไม่ได้ชอบพอกัน โจวเซี่ยคงไม่คบกับหล่อน และหล่อนก็คงไม่คบกับโจวเซี่ยเช่นกัน จะว่าไปแล้วหญิงสาวคนนั้นก็น่าจะชอบโจวเซี่ย เพราะนิสัยของโจวเซี่ยนั้นเหมือนกับพี่ชายรองที่เป็นคนโอนอ่อนตาม ผู้หญิงที่มองหาคู่ครองสักคนล้วนชอบคนแบบนั้น

แต่หลินชิงเหอรู้สึกว่าหญิงสาวคนนั้นคงไม่ค่อยชื่นชอบตระกูลโจวอย่างแน่นอน

“หล่อนคงคิดว่าคุณเป็นญาติที่ยากจนมั้งคะ หล่อนได้ไว้หน้าคุณบ้างไหม?” หลินชิงเหอถาม

“ไม่” โจวชิงไป๋ส่ายหน้า

หลินชิงเหอได้ยินย่อมต้องมีสีหน้าไม่พอใจ หากเธอไม่ต้องรีบกลับไปให้ตรงเวลาล่ะก็ เธอคงจะเอาคืนกลับไปบ้างแล้ว แต่ไม่ได้เอาคืนกลับไปก็ไม่เป็นไร หลังจากนี้โอกาสที่จะได้เจอกันก็คงจะน้อยมาก

“ไปที่บ้านน้องชายสามของฉันเถอะค่ะ พวกเราควรจะเตรียมตัวกลับกันได้แล้ว” หลินชิงเหอพูด

โจวชิงไป๋พยักหน้า สองสามีภรรยาจึงไปที่บ้านของน้องชายสามหลิน ซึ่งตอนนี้เขาและสะใภ้สามหลินก็ได้กลับมาถึงแล้ว

“พี่สาวสาม พี่เขย มากินข้าวก่อนสิคะ กินเสร็จแล้วอยู่พักสักคืนพรุ่งนี้ค่อยไป ตอนนี้มืดค่ำขนาดนี้แล้ว” น้องสะใภ้สามหลินพูด

หลินชิงเหอพยักหน้าและเอ่ยตอบ “งั้นพรุ่งนี้เช้าพวกเราค่อยนั่งรถไปแล้วกัน”

“ตอนที่พวกพี่สาวสามไป คุณพ่อยังพูดไม่จบ…”

“คุณจะบอกพี่สาวสามทำไม?” น้องชายสามหลินพูดขัดหล่อน

“แล้วมันไม่ควรพูดหรือคะ เขาพูดกับญาติ ๆ ราวกับว่าฉันทำผิดต่อเขา เงินก็ส่งกลับไปให้ไม่น้อย สิ่งของก็ส่งกลับไม่น้อยเหมือนกัน ทั้งวันเขายังสงสัยนั่นสงสัยนี่ ฉันขอบอกคุณเลยนะว่าฉันไม่มีทางตอบตกลงให้คุณพ่อมาอยู่ที่นี่กับพวกเราแน่!” สะใภ้สามหลินพูด

……………………………………………………………………………………………………………………………..

สารจากผู้แปล

หยางหยางติดแฟนแล้วไม่อยากกลับบ้านเหรอคะ พี่สาวรู้นะคะ

โจวเซี่ยนี่มีชะตาคู่รักเหมือนพี่ชายรองที่เป็นพ่อเลยค่ะ รู้สึกเห็นใจขึ้นมาแล้ว

ภาระมาเยือนน้องชายสามหลินแล้ว อยู่ที่จะตอบรับหรือปฏิเสธนี่แหละค่ะ

ไหหม่า(海馬)

ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม

ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม

*นิยายเรื่องนี้อยู่ในยุค 1960 เทียบกับ พ.ศ. คือ 2503 เป็นยุคที่ประเทศจีนอยู่ในช่วงปฏิรูปการปกครองโดยมีพรรคคอมมิวนิสต์จีนเป็นผู้นำ ดังนั้นสรรพนาม ฉากเรื่อง ตัวละคร จะไม่เหมือนกับภาพในนิยายจอมยุทธ์กำลังภายใน จู่ ๆ ก็ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูกสามในยุคปฏิรูปการปกครองปี 60 … ใครจะไปคิดว่าชีวิตธรรมดาของ หลินชิงเหอ ผู้จัดการฝ่ายขายสาวจะเผชิญกับความไม่ธรรมดา หลังทะลุมิติเข้าไปเป็นตัวประกอบในนิยายที่เธออ่าน ซึ่งต้องเผชิญกับความยากลำบากของสถานการณ์ในช่วงเวลานั้น ไม่มีอะไรจะกินและไม่มีแม้แต่เสื้อผ้าจะสวมใส่ แต่โชคยังดีที่เธอได้พื้นที่มิติส่วนตัวไว้เก็บของ ทำให้เธอรอดตายไปได้ชั่วคราว แต่สิ่งที่น่ากังวลมากกว่านั้นก็คือ บุตรชายทั้งสามของเธอดันเป็นตัวร้ายในอนาคตของนิยายเรื่องนี้น่ะสิ แถมสามีในมิตินี้ของเธอยังต้องพบกับจุดจบน่าอนาถอีกด้วย ตัวประกอบแม่ลูกสามอย่างเธอจะเปลี่ยนแปลงเนื้อเรื่องและเอาตัวให้รอดอย่างไรดีเนี่ย…

Comment

Options

not work with dark mode
Reset