ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 67 ถึงเวลาโชว์ฝีมือ

บทที่ 67 ถึงเวลาโชว์ฝีมือ
โดย
Ink Stone_Fantasy

ชายร่างใหญ่ที่มีรอยสักรูปลูกไฟอยู่กลางอกมองหน้าฉินสือโอวอย่างไม่ไยดีแล้วพูดออกมาว่า “เพื่อน นายอย่ามายุ่งไม่เข้าเรื่อง ฟาร์มปลานี้เป็นของนายก็จริง แต่นายไม่ได้เลี้ยงเต่าทะเลนี้นี่ ใช่ไหม?”
การที่เขาพูดประโยคนี้นั้นก็เท่ากับเขายอมรับว่าเขาคือคนที่เคยมาจับเต่าบึงจุดก่อนหน้านี้ ฉินสือโอวขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “พวกนายน่าจะรู้ว่าเต่าบึงจุดเป็นสัตว์สงวน ได้รับการคุ้มครองตาม ’พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า’ ถ้าฉันเป็นพวกนาย ฉันจะปล่อยมันกลับสู่ทะเล”
ชายร่างใหญ่อีกคนหัวเราะฮ่าฮ่า พูดว่า “นายนี่เป็นคนเอเชียที่น่าขันจริงๆ นายจะให้พวกเราเอาเงินที่อยู่ในมือแล้วโยนลงทะเลไปหรือ? โอ เพื่อน นายล้อพวกเราเล่นใช่ไหม?”
ชายร่างใหญ่ที่มีรอยสักลูกไฟผลักเพื่อนในกลุ่มออก พูดว่า “ช่างเถอะ อย่าพูดพร่ำทำเพลงกับเขาเลย พวกเราไปกันเถอะ”
การกระทำของหมอนี่ยังถือว่าฉลาด ไม่ต้องสงสัยเลยว่า พวกเขารู้ว่าสิ่งที่พวกเขาทำอยู่ตอนนี้นั้นผิดกฎหมาย
ฉินสือโอวจะปล่อยให้พวกเขานำเต่าบึงจุดกลับไปได้อย่างไร? ไม่ใช่เพราะเต่าบึงจุดพวกนี้เป็นของฟาร์มปลา หากพวกเขาเพียงแค่มาตกปลา ฉินสือโอวก็ไม่ว่าอะไร แต่เต่าประเภทนี้เป็นสัตว์สงวน บริเวณรอบๆฟาร์มปลาก็มีอยู่หลายตัว ฉินสือโอวเองยังเคยใช้พลังแห่งท้องทะเลทำให้พวกมันแข็งแรงขึ้น ก็เพราะหวังว่าพวกมันจะสามารถดำรงชีวิตอยู่ในฟาร์มปลาได้
ดังนั้น เขาจึงเข้าไปห้ามสองคนนั้นไว้ แล้วพูดว่า “พวกนายสองคนวางเต่าทะเลลงแล้วกลับไปแต่ตัวเถอะ นี่คือความหวังดีที่ฉันมีให้นะ”
ขณะพูด เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นว่า ทำทีว่าจะโทรศัพท์แจ้งความ
หู่จือกับเป้าจือขนลุกซู่ขึ้นมา หันหัวไปทางสองคนนั้น ร้อง“โฮ่งโฮ่ง”อย่างบ้าคลั่ง ไม่คิดว่าตาดวงเล็กคุู่นั้นก็สามารถแผ่รังสีดุดันได้เหมือนกัน
ชายร่างใหญ่สองคนมองหน้าฉินสือโอวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม ฉินสือโอวไม่ใช่คนที่เที่ยวหาเรื่องใครก่อนแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาเป็นคนขี้ขลาด มีเออร์บักเป็นทนายให้ หากมีเรื่องถึงขั้นขึ้นโรงขึ้นศาลเขาก็ไม่กลัวใครอยู่แล้ว
หากว่าลงไม้ลงมือจริง เรื่องยิ่งง่ายขึ้นอีก ทั้งพลัง ความเร็ว และความแรงของเขาตอนนี้นั้นในเกาะแฟร์เวลไม่มีใครเทียบได้ ชายร่างใหญ่สองคนนี้ถึงแม้จะรูปร่างสูงใหญ่บึกบึน แต่เขามีความมั่นใจว่าตัวเขาไม่เสียเปรียบแน่นอน
แต่เขาคิดไม่ถึงว่า หลังจากที่เขาเข้าไปขวางสองคนนั้น ชายร่างใหญ่ที่มีรอยสักรูปขวากหนามบนตัวกลับควักปืนออกมาจากเอว พร้อมเล็งปืนมาที่ฉินสือโอว
เมื่อได้เห็นปืนกระบอกนี้ ม่านตาฉินสือโอวหดไปชั่วครู่หนึ่ง
เขารู้จักปืนรุ่นนี้ดี เป็นปืนเบเร็ตต้า92F ก่อนหน้าฉินสือโอวเคยคิดจะซื้อปืนกระบอกนี้จากร้านขายปืนของนีลเซ็นด้วย แต่ว่าดันไม่มีของ นี่คือปืนพกสำหรับประชาชนที่มีคุณสมบัติเหมือนกับปืนM9ที่ใช้ประจำการในกองทัพสหรัฐ มีพลังทำลายสูงมาก
 “มา นายพูดอีกทีสิ นายจะหวังดีเรื่องอะไร?” ชายร่างใหญ่คนนั้นพูดอย่างเกรี้ยวกราด
เมื่อโดนปืนจ่อ ฉินสือโอวเริ่มรู้สึกกลัว ตอนนี้เขารู้สึกตำหนิกฎหมายการครอบครองปืนในแคนาดา ทำไมถึงออกกฎให้ใครก็สามารถซื้อปืนได้ อย่างนี้ใครจะรู้สึกปลอดภัยอีก?
เขาในตอนนี้ลืมไปเสียสนิทแล้วว่า ก่อนหน้าตอนอยู่ในร้านขายปืนของนีลเซ็นเขายังรู้สึกปลาบปลื้มกับจักรวรรดินิยมอเมริกากับแคนาดาและความเปิดกว้างของประเทศอยู่เลย
ฉินสือโอวชูมือสองข้างขึ้น พร้อมพูดเสียงดังว่า “เฮ้ เพื่อน ใจเย็น นายใจเย็นก่อน นายแน่ใจว่าจะจ่อปืนมาที่เจ้าของฟาร์มปลาจริงเหรอ? ที่นี่คือฟาร์มปลาของฉัน ห่างจากที่พักของฉันเพียงสี่ร้อยเมตร ด้านหลังฉันก็เป็นป่าไม้กับภูเขา นายคิดว่าฉันจะไม่มีปืนเลยเหรอ?”
ก่อนจะยกมือขึ้น ฉินสือโอวใส่มือถือไว้ตรงกระเป๋าอกเสื้อ แต่ก่อนหน้านั้นเขาได้กดโทรศัพท์ไปหานีลเซ็นอย่างรวดเร็ว นี่ก็คือเหตุผลที่เขาตะโกนบอกที่อยู่ของตัวเองเสียงดัง
เมื่อเห็นฉินสือโอวเริ่มกลัว ชายร่างใหญ่ถือปืนก็ได้ใจขึ้นมา พูดว่า “ไอ้เอเชีย นายอย่าคิดตุกติกเป็นดีที่สุด อย่าคิดว่าแค่มาซื้อฟาร์มปลาที่นี่แล้วก็ได้ใจ พวกแกก็แค่ชาวประมงงี่เง่า เข้าใจที่ฉันพูดไหม? พวกแกมันไร้ค่า!”
ฉินสือโอวผายมือบอกพร้อมกับรอยยิ้มขืนๆ แล้วพูดว่า “โอเค เพื่อน พวกเรามันไร้ค่า นายพอใจหรือยัง? วางปืนลงก่อนดีไหม?”
ชายร่างใหญ่รอยสักรูปลูกไฟที่ค่อนข้างสงบลงแล้วเอามือผลักชายถือปืน แล้วพูดเสียงเบาว่า “เพียร์ซ ไอ้โง่! อย่าสุ่มสี่สุ่มห้าชักปืนที่นี่ นายอยากขึ้นศาลหรือไง? นายอยากจะมีเรื่องจริงๆเหรอ?”
พูดเสร็จ เขาก็เข้าไปผลักฉินสือโอว พูดว่า “รีบไป ไอ้เลว อย่ามาให้พวกเราเห็นหน้าแกอีก”
ฉินสือโอวถอยหลังหนึ่งก้าว มืออีกข้างก็อุ้มหมาตัวหนึ่งแล้วรีบวิ่งกลับไปทางเดิมที่เขามา
ชายคนถือปืนเบะปาก พูด “ไมเคิล นายจะกลัวอะไร? นายคิดว่าไอ้เอเชียที่ปวกเปียกเหมือนมักกะโรนีคนนี้มันจะกล้าแจ้งความเหรอ? ถ้ามันกล้าแจ้งความจริง งั้นฉันได้ยิงมันตายทั้งครอบครัวแน่!”
ประโยคสุดท้ายเขาตั้งใจตะโกนเสียงดังออกมาเพื่อขู่ฉินสือโอว เพราะเขาก็กลัวฉินสือโอวจะแจ้งความเหมือนกัน ทั้งเรื่องการถือปืนมาก่อเรื่องและการล่าเต่าบึงจุดที่เป็นสัตว์สงวน ทั้งสองล้วนแต่เป็นปัญหาใหญ่ทั้งนั้น
ฉินสือโอวไม่พูดอะไร ได้แต่รีบหนี มองไปก็ดูเป็นคนไม่ได้เรื่องจริงๆ แต่เหตุผลที่เขาทำอย่างนี้ เป็นเพราะเขาเห็นเจ็ทสกีเทพเจ้าสายฟ้ามืดสองคันกำลังขับมาทางชายฝั่งแล้ว
ความเร็วของเทพเจ้าสายฟ้ามืดเร็วจนน่าตกใจ นับจากระยะที่ฉินสือโอวมองเห็นครั้งแรกกับระยะที่เห็นในตอนนี้ถือมันเข้ามาใกล้มาก ซึ่งทั้งหมดใช้เวลาเพียงสิบกว่าวินาทีเท่านั้น
มีคนสามคนนั่งอยู่บนเจ็ทสกีสองคัน นีลเซ็นขับเจ็ทสกีมาคนเดียวนำหน้ามาก่อน พร้อมแบกปืนไรเฟิลSIG_556มาด้วย ห่างจากชายนักเลงสองคนนั้นเพียงสองร้อยกว่าเมตรเท่านั้น เขาเร่งความเร็วขับเจ็ทสกีพุ่งขึ้นมาบนชายหาด กระโดดลงทิ้งเจ็ทสกีไว้ข้างหลัง ยกปืนขึ้นมาแล้วตะโกนว่า “ไอ้สารเลว ทิ้งปืนพวกแกซะ แล้วนอนลงไปบนพื้น!”
ชาร์คกับซีมอนสเตอร์ตามหลังมาติดๆ ชาร์คแบกปืนAR-15ของฉินสือโอว ส่วนซีมอนสเตอร์ถือปืนเรมิงตันM870 พร้อมกระสุนปืนลูกซองเต็มถุงผ้าที่มัดไว้ตามตัว ใบหน้าเต็มไปด้วยท่าทีหาเรื่อง ป่าเถื่อนดุดันที่สุด!
ชายสองคนที่ก่อนหน้านี้ยังเต็มไปด้วยท่าทีได้ใจที่ข่มฉินสือโอวได้นั้นตอนนี้กลับกลัวจนฉี่ราดออกมา ให้ตายเถอะไอ้พวกนี้ ฉินสือโอวคิด ในมือถืออาวุธร้ายแรงอยู่ในมือแท้ๆ นี่ฉันไปมีเรื่องกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของเกาะแฟร์เวลหรือไง?
เมื่อเห็นทั้งสองคนไม่ขยับ นีลเซ็นนึกว่าพวกเขาคงไม่ใส่ใจคำพูดของเขาเป็นแน่ จึงปลดเซฟตี้ปืน เหนี่ยวไกและยิง!
 ‘ปังปังปัง ปังปังปัง….’ เสียงรัวของลูกปืนที่ยิงออกมาส่งเสียงชัดแจ๋ว ลูกปืนถูกยิงไปที่ชายหาด ทำให้ทรายกระจายฟุ้งไปทั่ว ยิ่งไปกว่านั้นปืนพวกนี้ยังถูกยิงในจุดที่ห่างจากชายสองคนนั้นไม่ถึงหนึ่งเมตร!
คราวนี้ชายสองคนนั้นตกใจจนฉี่ราดออกมา ชายคนที่ถือปืนทิ้งปืนลงพื้นทันที ทั้งสองคนเข่าอ่อน ทรุดลงบนพื้น
ก่อนหน้านี้ที่ฉินสือโอววิ่งหนีไป เพราะกลัวนักเลงสองคนนั้นจะเจอกับสถานการณ์จนตรอกแล้วจับเขาเป็นตัวประกัน เขาในตอนนี้มีทั้งจิตสำนึกพลังเทพแห่งท้องทะเล ในบัตรธนาคารก็มีเงินจำนวนมากมายอีก เป็นธรรมดาที่เขาจะไม่อยากเสี่ยง
ตอนนี้เมื่อควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว เขาจึงหยุด โทรศัพท์หาเออร์บัก แล้วเล่าเรื่องให้ฟังตั้งแต่ต้นจนจบ จากนั้นก็โทรศัพท์ไปสถานีตำรวจบนเกาะ ให้พวกเขามาจัดการเรื่องนี้
เออร์บักกับตำรวจมาถึงพร้อมกัน เพราะมีการยิงกันแล้ว ทางสถานีจึงส่งรถตำรวจมาสองคันพร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกหกคน อาจดูเหมือนน้อยแต่เท่านี้ก็แทบจะเป็นกำลังทั้งหมดที่มีของสถานีตำรวจนี้แล้ว
ฉินสือโอวอุ้มหมาสองตัวไปให้ปากคำด้วย เขาไม่ต้องรับผิดชอบอะไรอยู่แล้ว ชายสองคนนี้มาที่ฟาร์มปลาของเขาแอบจับสัตว์สงวน แล้วยังถือปืนข่มขู่เขาอีก แค่นี้ก็เท่ากับทำผิดกฎหมายอาญาแล้ว
นายตำรวจคนหนึ่งเก็บปืนขึ้นมาจากชายหาดใส่ลงในถุงพลาสติก จากนั้นก็เก็บลายนิ้วมือของชายสองคนนั้น ทำการวิเคราะห์รูปการณ์ จากนั้นก็พาทุกคนไปที่สถานีตำรวจ
ถึงแม้ว่าจะโดนเรียกตัวไปสถานีตำรวจกันหมด แต่การดูแลนั้นต่างกันอย่างสิ้นเชิง กลุ่มฉินสือโอวได้นั่งบนโซฟาพร้อมกับกาแฟกลิ่นหอมกันคนละแก้ว แต่ชายนักเลงสองคนนั้นกลับได้นั่งอยู่ตรงพื้นมุมห้อง
เมื่อเปิดกระเป๋าออก ก็มีเต่าบึงจุดสีดำฟ้าหลายตัวคลานออกมา ในกระเป๋ายังมีไข่เต่าด้วย แต่น่าเสียดายที่แตกไปแล้ว เต่าบึงจุดพวกนี้คงจะถูกจับตอนกำลังวางไข่พอดีเป็นแน่
เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีอย่างยุติธรรม นอกจากไต่สวนชายขโมยเต่าสองคนนั้นแล้ว ยังมีตำรวจอีกคนมาถามคำถามกับนีลเซ็น ว่า “คุณนีลเซ็น รบกวนสอบถามครับว่าทำไมคุณถึงมีปืนไรเฟิลระบบอัตโนมัติได้?”
ประเทศในอเมริกาเหนือมีกฎหมายการครอบครองปืนอย่างชัดเจน ประชาชนสามารถครอบครองปืนไรเฟิลได้เฉพาะระบบกึ่งอัตโนมัติเท่านั้น แบบนี้ทางฉินสือโอวเองก็มีปัญหาเช่นกัน ปืนSIG-556ของนีลเซ็นเป็นแบบระบบอัตโนมัติ รวมถึงปืนAR-15ของฉินสือโอวก็ถูกดัดแปลงเป็นระบบอัตโนมัติเช่นกัน
นีลเซ็นหยิบใบอนุญาตครอบครองปืนกับใบอนุญาตให้มีปืนติดตัวออกมาอย่างใจเย็น พูดว่า “ตอนผมเกษียณจากองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ ได้ทำเรื่องขออนุญาตครอบครองอาวุธปืนของราชการทหาร ผมสามารถใช้ปืนระบบอัตโนมัติได้”
 “อย่างนั้นใบอนุญาตครอบครองปืนคุณฉิน คงเป็นสำหรับประชาชนใช่ไหมครับ? แล้วปืนAR-15คันนี้เป็นของใครครับ? มันก็เป็นปืนกึ่งอัตโนมัติเหมือนกัน” เจ้าหน้าที่ตำรวจคนนั้นถามอย่างละเอียด
ฉินสือโอวแอบก่นด่าในใจ นายตำรวจคนนี้เข้มงวดในกฎหมายเกินไปหรือเปล่า? คราวนี้แย่แล้ว เขาเองที่เป็นคนให้นีลเซ็นดัดแปลงปืนให้เป็นแบบระบบอัตโนมัติ ตอนนั้นก็ไม่ได้คาดคิดเลยว่าจะมีวันที่ตำรวจจะมาตรวจเจอ
AR-15เป็นปืนไรเฟิลที่ขายดีที่สุดในท้องตลาดของอเมริกาเหนือ ที่เป็นอย่างนี้ เพราะปืนลำนี้เป็นปืนที่สามารถดัดแปลงจากระบบกึ่งอัตโนมัติเป็นระบบอัตโนมัติได้ง่าย แฟนปืนหลายๆคนล้วนก็ทำการดัดแปลงกัน ตำรวจเองก็เอาหูไปนาเอาตาไปไร่กับเรื่องนี้ ขอแค่อย่าไปก่อเรื่องจนโดนจับได้ก็เป็นพอ
เออร์บักลุกขึ้นมา พูดว่า “คุณครับ ผมไม่คิดว่าลูกความผมจะมีความผิดที่ใช้ปืนระบบอัตโนมัตินะครับ จริงอยู่ ใบอนุญาตครอบครองปืนของเขาเพิ่งได้มาไม่นาน แต่เขากำลังอยู่ในช่วงดำเนินเรื่องขอครอบครองปืนเก่าของคุณปู่ อีกอย่างใบอนุญาตก็น่าจะเสร็จสิ้นในเร็วๆนี้ เขาเพียงแค่เตรียมปืนไว้ล่วงหน้าเท่านั้น”
ใบอนุญาตครอบครองปืนเก่าหรืออีกชื่อคือใบอนุญาตรุ่นคุณปู่ (grandfathered) ในตลาดปืนสำหรับประชาชนนั้น ปืนไรเฟิลอัตโนมัติถูกจัดให้เป็นอาวุธประเภทต้องห้าม กฎข้อนี้มีบัญญัติขึ้นในปี1995 แต่ก่อนหน้าปี1995 การซื้อปืนในแคนาดานั้นง่ายเหมือนซื้อบุหรี่อย่างไรอย่างนั้น ไม่ว่าจะซื้อAK-47 หรือM4 เพียงแค่เดินเข้าร้านค้าก็สามารถซื้อกลับบ้านได้แล้ว
ในปี1995 แคนาดาได้รับอิทธิพลพรบ.การครอบครองปืนของคลินตันจากสหรัฐอเมริกา กรมควบคุมอาวุธปืนของแคนาดาตระหนักว่าไม่ควรให้มีปืนระบบอัตโนมัติวางขายตามท้องตลาดได้อีกต่อไป จึงได้มีการออกรายการประเภทอาวุธต้องห้าม และอาวุธระบบอัตโนมัติทุกชนิดถือว่าเป็นอาวุธประเภทต้องห้ามทั้งหมด
แต่ว่า การออกกฎในครั้งนั้นมีช่องโหว่อยู่ นั่นก็คือรัฐบาลไม่ได้มีการยึดอาวุธประเภทต้องห้ามนี้จากประชาชนที่ครอบครองอยู่ก่อนหน้านั้น จึงได้มีการคิดค้นใบอนุญาตรุ่นคุณปู่นี้ขึ้น
คือพูดได้ว่า หากประชาชนซื้ออาวุธประเภทต้องห้ามก่อนปี1995 ถึงแม้จะมีการเริ่มใช้กฎหมายใหม่แล้ว ก็ยังสามารถครอบครองอาวุธประเภทนี้ได้ และหากผู้ครอบครองเสียชีวิตแล้ว สิทธิ์การครอบครองอาวุธนี้ก็จะตกเป็นของบุคคลในครอบครัว ลูกหลานเพียงนำใบอนุญาตคุณปู่นี้ทำเรื่องขอโอนย้ายผู้ถือครอง เท่านี้ก็สามารถซื้ออาวุธประเภทต้องห้ามได้แล้ว
แน่นอนว่าคุณปู่ของฉินสือโอวนั้นก็มีใบอนุญาตรุ่นคุณปู่เช่นกัน
…………………………………………………….

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset