ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 68 ของขวัญ

บทที่ 68 ของขวัญ
โดย
Ink Stone_Fantasy

ผลสุดท้ายชี้ให้เห็นว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจแคนาดาก็ไม่ได้เข้มงวดมากมายอย่างที่ฉินสือโอวคิด
หลังจากเออร์บักหยิบใบอนุญาตครอบครองปืนของฉินหงเต๋อออกมา เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบสักพัก ก็ประกาศว่าฉินสือโอวไม่มีความผิดและสามารถออกจาสถานีตำรวจได้
 “แล้วชายสองคนนั้นล่ะ?” ฉินสือโอวถาม
ตำรวจยักไหล่แล้วพูดว่า “งานใหญ่เข้าพวกเขาแล้วล่ะ พวกเขาคงไม่ได้รับการต้อนรับที่ดีเหมือนกับคุณหรอก ทั้งถือปืนบุกรุกเข้าพื้นที่ส่วนบุคคล แล้วยังขโมยจับสัตว์สงวนที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์อีก หากไม่ให้พวกเขานอนในคุกสักพัก ก็ไม่รู้จะมีกฎหมายไว้ทำไม?”
หลังจากพรรคพวกของฉินสือโอวออกจากสถานีตำรวจ คนหนุ่มผมดำเงาทรงเนี้ยบคนหนึ่งมือถือกระเป๋าหนังเดินเข้าไป เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็พูดว่า “ฮาย ผมคือเจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมายจากโรงงานผลิตพลาสติกสตีฟชื่อฮัตเชอร์ โบลตัน สวัสดีทุกคนครับ ผมมาเพื่อประกันตัวลูกความของผมทั้งสองคนเพียร์ซและไมเคิลครับ”
เจ้าหน้าที่ตำรวจคนหนึ่งพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ขอโทษด้วยครับ ตามกฎหมายแล้ว ผมคิดว่าคุณไม่สามารถประกันตัวคนสารเลวสองคนนั้นได้นะครับ”
ฮัตเชอร์พูดด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ว่า “ไม่ครับ สหาย ประกันตัวได้ พวกเขาไม่ได้ขโมยจับเต่าบึงจุดนี่ครับ เท่าที่ผมทราบมา เพียร์ซกับไมเคิลเพียงไปเพื่อสำรวจดูแหล่งที่อยู่อาศัยของเต่าบึงจุดเท่านั้น แต่สุดท้ายดันพบว่าจุดที่เต่าพวกนั้นอาศัยอยู่มีมลภาวะในน้ำถึงขั้นรุนแรง จึงอยากจะเปลี่ยนที่อยู่ให้พวกนั้นเท่านั้น”
เจ้าหน้าที่ตำรวจคนนั้นครางเสียงแข็งตอบว่า “อย่างนั้นแล้วเรื่องถือปืนบุกรุกไปที่ฟาร์มปลาส่วนบุคคลล่ะ?”
 “เรื่องนั้นยิ่งง่ายเลยครับ ขอเพียงคุณเจ้าของฟาร์มปลาที่น่ารักท่านนั้นไม่เอาเรื่องลูกความผมก็จบเรื่องใช่ไหมครับ?” ฮัตเชอร์พูดอย่างไม่กังวล
ตำรวจยักไหล่แล้วพูดว่า “คุณไปไกล่เกลี่ยกับเจ้าของฟาร์มปลาก่อนแล้วกัน ให้เขาถอนฟ้องเสีย”
ไม่รอให้ฮัตเชอร์ตอบ เจ้าหน้าที่ตำรวจชี้ไปที่กลุ่มฉินสือโอวที่อยู่ข้างหลัง แล้วพูดว่า “นั่น คนนั้นแหละคือเจ้าของฟาร์มปลา”
ฮัตเชอร์เมื่อเห็นว่าฟาร์มปลามีเจ้าของเป็นเพียงคนหนุ่มชาวเอเชียคนหนึ่ง ก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย แต่เมื่อเห็นคุณเออร์บักที่อยู่ข้างๆแล้ว เขาก็หน้าซีดขึ้นมาทันที แต่เขาก็ยังคงเดินเข้าไปทักทาย “คุณครับ ผมคิดว่าระหว่างคุณกับผมน่าจะเกิดการเข้าใจผิดกันนิดหน่อยนะครับ”
 “F*** You เข้าใจผิดอะไรกัน!” ชาร์คโชว์นิ้วกลางใส่ฮัตเชอร์ ซีมอนสเตอร์เองก็จ้องมองเขาด้วยความโกรธ
ฉินสือโอวถามเออร์บักเสียงเบาว่า “มีอะไรเหรอ?”
ชาร์คและซีมอนสเตอร์ต่างก็มีหน้าตาที่ดุดันโหดร้าย แต่ความจริงลึกๆแล้วพวกเขาเป็นชาวประมงที่ทั้งซื่อ และซื่อสัตย์ และยังมีชื่อเสียงที่ดี เป็นไปไม่ได้ที่จะปฏิบัติต่อคนแปลกหน้าคนหนึ่งอย่างโกรธแค้นแบบนี้
เออร์บักอธิบายว่า “โรงงานเคมีสตีฟ หนึ่งในโรงงานเคมีใหญ่บนเกาะแฟร์เวล พวกเขาผลิตวัตถุดิบCPL ที่ไม่เพียงทำลายทะเลสาบ ยังสร้างมลภาวะให้กับอากาศ ผู้คนในเมืองต่างก็รังเกียจพวกเขา”
CPLก็คือคาโปรแลคตัม คุณสมบัติหลักคือหลังผ่านกระบวนการโพลิเมอร์ไรเซชั่นแล้วก็จะได้โพลิเอมายด์แผ่น สามารถนำไปปฏิรูปออกมาเป็นเส้นใยไนลอน พลาสติกวิศวกรรม และแผ่นฟิล์มพลาสติก
ของพวกนี้เต็มไปด้วยสารพิษ สามารถทำให้ผู้ที่สัมผัสเป็นเวลานานเกิดภาวะสารพิษสะสมในร่างกาย ทำให้เลือดออกจมูก จมูกอักเสบ โรคทางเดินหายใจอักเสบ หากถึงขั้นรุนแรงสามารถทำลายอวัยวะภายในได้ ดังนั้น รัฐบาลอเมริกาเหนือมีกำหนด โรงงานผลิตCPLต้องตั้งอยู่ห่างจากเขตเมืองห้าสิบกิโลเมตร
เมื่อฟังจบ ฉินสือโอวก็พูดกับฮัตเชอร์ว่า “อย่าเสียเวลาเลย ไม่มีการยอมความใดๆทั้งนั้น นอกเสียจากโรงงานของคุณจะออกจากเกาะแฟร์เวลไป แล้วก็ ก่อนหน้านี้ผมลืมบอกไป สองคนนั้นไม่เพียงถือปืนข่มขู่ผม แต่ยังพูดจาเหยียดชนชาติกับผมอีกด้วย!”
ไม่ว่าจะเป็นที่อเมริกาหรือแคนาดา การเหยียดชนชาติก็ยังคงเป็นเรื่องใหญ่เสมอมา
ออกจากสถานีตำรวจ ฉินสือโอวเห็นวินนี่ที่ยืนรออยู่ข้างนอก แอร์สาวคนนี้สวมเพียงเสื้อลำลอง ทรงผมมัดเป็นหางม้าอย่างลวกๆ ดูออกว่าคงรีบตรงมาที่ฟาร์มปลาโดยยังไม่ทันได้แต่งตัวแต่งหน้าด้วยซ้ำ
 “พระเจ้าคุ้มครอง” เมื่อเห็นฉินสือโอว วินนี่ก็โผเข้าไปกอดเขาแน่น “ฉิน ดีจริงที่คุณไม่เป็นอะไร ฉันได้ข่าวจากนีลเซ็นว่าคุณโดนคนถือปืนข่มขู่ ช่างน่าตกใจจริงๆ!”
 “ผมสบายดี สบายมาก” ร่างกายของฉินสือโอวแข็งทื่อไปชั่วขณะหนึ่ง จากนั้นมือเขาที่กันการโผเข้ากอดของวินนี่ก็ได้สัมผัสกับเรือนร่างบอบบางของเธอ ทำให้ใจเขาสงบลง
ฉินสือโอวนำเต่าบึงจุดไปแม่น้ำตรงปากทะเล ปล่อยพวกมันลงน้ำ เจ้าพวกนี้รีบมุดลงน้ำไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็โผล่หัวขึ้นมามองฉินสือโอวและพรรคพวก ไม่ได้แลดูเหมือนกลัว แต่เหมือนกับรู้ว่าตัวเองถูกคนพวกนี้ช่วยเอาไว้มากกว่า
ชาร์คเอาอาหารปลามาถุงหนึ่งเทลงในน้ำ เต่าบ่อจุดที่มีสีกระดองหลังที่สวยสดงดงามเหล่านี้ก็เริ่มยื้อแย่งกันกินอาหาร
 “ดูเหมือนพวกมันไม่ได้ตกใจจนเสียขวัญแฮะ” ฉินสือโอวพูดด้วยรอยยิ้มเบาๆ เขานั่งลงยื่นมือไปในน้ำสะบัดไปมา มีเต่าบึงจุดตัวเล็กตัวหนึ่งที่อยู่ใกล้ที่สุดเอียงตัวไปมาค่อยๆคลานขึ้นมาบนหลังมือของเขา
วินนี่ก็อยากที่จะลองลูบสัตว์สงวนเหล่านี้ ปรากฏว่าพวกเต่าบึงจุดกลับไม่เล่นด้วย ต่างก็ทยอยพากันดำหลบลงไปในน้ำ ไม่ไว้หน้าแอร์สาวสวยคนนี้เลยสักนิด
ฉินสือโอวหัวเราะร่าขึ้นมา วินนี่พูดว่า “เป็นเรื่องปกติน่า คุณอย่าได้ใจไปเลย พวกนี้เป็นเต่าตัวเมีย จึงไม่แปลกที่จะรู้สึกดีกับเพศตรงข้าม”
ชาร์คและซีมอนสเตอร์หัวเราะขึ้นมา
เมื่อเห็นพวกเจ้านายต่างพากันหัวเราะลั่น หู่จือกับเป้าจือที่ไม่รู้เรื่องอะไรกับเขาด้วยก็กระโดดโลดเต้นไปมาอยู่ข้างๆอย่างมีความสุข
ฉินสือโอวผิวปากชี้นิ้วไปในน้ำ หู่จือกับเป้าจือร้องครางหนึ่งคำ แล้วกระโดดลงน้ำไปเหมือนลูกธนูที่ถูกยิงออกไป
ว่ายวนอยู่ในน้ำหนึ่งรอบอย่างทุลักทะเล เป้าจือก็ว่ายถึงฝั่ง วินนี่กวักมือเรียก มันก็วิ่งหูตั้งขึ้นฝั่งมา ออกแรงสะบัดน้ำออกจากตัว จนมาโดนวินนี่เปียกไปทั้งตัว
 “คุณอยู่เล่นกับพวกมันที่นี่สักพักแล้วกัน ผมว่าดูเหมือนเจ้าสองตัวนี้จะรู้จักคุ้นเคยกับเต่าบึงจุด ผมจะออกทะเลแล้ว” ฉินสือโอวพูดอย่างมีความสุข
หลังจากหู่จือลงไปในน้ำแล้ว ก็มีเต่าบึงจุดสองตัวว่ายมาข้างๆมัน ทั้งสามตัวพากันเล่นตีน้ำไปมา
นี่คือผลพวงของพลังแห่งท้องทะเล เต่าบึงจุดและสุนัขพันธุ์แลบราดอร์รีทรีฟเวอร์ต่างก็เคยได้รับพลังจากเทพแห่งท้องทะเล จึงทำให้มีความสนิทสนมกันข้ามสายพันธุ์ได้
เรือหัวกว้างและเรือหาปลาที่สั่งทำจากเซนต์จอห์นก่อนหน้านี้ได้ส่งมาถึงแล้ว การออกทะเลครั้งนี้ของฉินสือโอวก็นั่งเรือหัวกว้างสไตล์ของตะวันตกเฉียงใต้ นีลเซ็นเป็นคนบังคับเรือ
ฉินสือโอวนั่งอยู่หน้าสุดของเรือ พิงตัวไว้กับกระจกบังลม เบื้องหน้าก็คือคลื่นน้ำที่ถูกเรือซัดจนกระเด็นออกข้างๆ ลมทะเลพัดโฮกมาโดนหน้า ทั้งอบอุ่นทั้งสดชื่น
 “บอส คุณจะลองเรียนขับเรือไหมครับ? เรือยอชต์ลำเล็กแบบนี้ขับง่ายมากเลยนะครับ” นีลเซ็นพูดขณะพิงตัวไว้ที่พวงมาลัยแล้วหัวเราะ
ฉินสือโอวหรี่ตาแล้วพูดว่า “วันนี้ขอผ่านก่อนแล้วกัน รอวันไหนฉันว่างค่อยเรียนอย่างจริงจัง”
ฉินสือโอวในฐานะบอสสามารถยืนชื่นชมลมทะเลได้เต็มที่ ชาร์คกับซีมอนสเตอร์กลับไม่ใช่อย่างนั้น พวกเขาสองคนนั่งอยู่เบาะหลังของเรือฝั่งซ้ายคนขวาคน มีกล้องส่องทางไกลคล้องคอไว้ ไม่หยุดสำรวจดูน้ำทะเล
เมื่อเรือยอชต์ขับผ่านพื้นที่ปะการัง เจ้าบอลหิมะปลาวาฬเบลูกาตัวน้อยที่สัมผัสได้ถึงพลังแห่งเทพเจ้าท้องทะเล อดไม่ได้ที่กระดิกหางว่ายตามเรือมา
หลังจากออกมาถึงผิวน้ำแล้ว บอลหิมะก็ตีลังกาไปมาเหมือนกับปลาโลมา สักพัก ภายใต้แสงอาทิตย์ที่สาดส่องลงมา ก็มีร่างสีเงินวาวปรากฏตัวต่อหน้าทุกคน ชาร์คพูดอย่างตกใจว่า “ว้าว พระเจ้าช่วย สวยงามจริงๆ สวยอย่างกับนางเงือกก็ไม่ปาน!”
ซีมอนสเตอร์ที่มีประสบการณ์ที่มากกว่ายังต้องเบิกตากว้าง พูดว่า “ฉันก็เพิ่งเคยเห็นปลาวาฬที่กระโดดไปมาบนผิวน้ำได้อย่างปลาโลมาเป็นครั้งแรก! ช่างน่าตกใจจริงๆ เจ้าตัวนี้ต้องเป็นสัตว์ข้างกายของเทพแห่งท้องทะเลแน่!”
หลังดำลงไปในน้ำ เจ้าบอลหิมะยื่นปลาออกมา แล้วส่งเสียงร้อง ‘บรี้น บรี้น’ ผลจากการได้รับพลังจากเทพแห่งทะเล ทำให้วาฬเบลูกาตัวนี้เลียนเสียงได้เก่งขึ้น เสียงที่มันร้องออกมาเสียงเหมือนอย่างกับเสียงเครื่องยนต์ของเจ็ตสกีอย่างไงอย่างงั้น
ฉินสือโอวลุกขึ้นมายื่นมือลงไปในน้ำ นีลเซ็นดึงเบรก ความเร็วของเรือยอชต์ค่อยๆลดลง บอลหิมะว่ายตามมา ใช้ปากที่กว้างของมันตอดมือของฉินสือโอวอย่างเบาๆ
ขณะกำลังเล่นหยอกล้อกับบอลหิมะอยู่นั้น ชาร์คก็ตะโกนขึ้นอย่างกะทันหันว่า “บอส เก็บมือของคุณเร็ว ระวัง!”
อาจเพราะผิวน้ำถูกรบกวนโดยเรือยอชต์ ทำให้แมงกะพรุนตัวหนึ่งโผล่ขึ้นมาจากในน้ำ
แมงกะพรุนตัวนี้มีสีฟ้าอมเขียว รูปลำตัวที่อยู่หลังร่มที่ครอบหัวของมันปรากฏเป็นวงกลมอย่างชัดเจน ร่างกายที่สมมาตรรัศมีสยายหนวดออกไปรอบข้าง ดูสวยงามมาก
แต่ว่าของที่ยิ่งสวยนั้นมักจะยิ่งอันตราย ส่วนมากแมงกะพรุนทุกตัวมักจะมีพิษ ดังนั้นเมื่อคนเห็นแมงกะพรุนจึงมักจะอยู่ห่างมัน
 “อ้อ แมงกะพรุนกระดุมสีฟ้า!” ชาร์คพูดพร้อมหัวเราะ “อันนี้ไม่เป็นอันตรายครับ”
ฉินสือโอวเพิ่งเคยเห็นแมงกะพรุนที่ถูกขนานนามว่าเป็นหนึ่งในสิบห้าแมงกะพรุนที่สวยที่สุดในทะเลสาบเป็นครั้งแรก แต่ว่าก่อนหน้านี้เขาก็เคยศึกษาสัตว์ประเภทนี้มาก่อนบ้าง
ถึงแม้จะมีชื่อว่าแมงกะพรุนสีฟ้า แต่ความจริงแล้วพวกมันไม่ถือว่าเป็นแมงกะพรุน ชื่อทางวิทยาศาสตร์ของพวกมันเรียกว่ากระดุมสีฟ้า สิ่งมีชีวิตชนิดนี้อาศัยอยู่บนผิวน้ำทะเล ส่วนที่ลอยน้ำบนตัวของมันมีสีน้ำตาลทอง ส่วนหนวดของมันประกอบไปด้วยไฮโดรซัว(สัตว์น้ำไม่มีกระดูกสันหลัง)หลายตัวรวมกลุ่มกัน ไม่มีพิษ
แต่ว่า แมงกะพรุนกระดุมสีฟ้าส่วนมากจะอาศัยอยู่ในน่านน้ำเขตร้อน เช่นอ่าวเม็กซิโกหรือน่านน้ำแอฟริกา
เมื่อเห็นแมงกะพรุนกระดุมสีฟ้า ซีมอนสเตอร์หัวเราะขึ้นมา พูดว่า “บังเอิญจริงๆ พวกเราเพิ่งพูดไปว่าวาฬเบลูกาเป็นสัตว์ข้างกายของเทพเจ้าแห่งท้องทะเล สุดท้ายตอนนี้เทพเจ้าแห่งท้องทะเลมาปรากฏตัวให้เห็นแล้ว”
ฉินสือโอวถาม “แมงกะพรุนกระดุมสีฟ้าถูกเรียกให้เป็นเทพเจ้าแห่งท้องทะเลเหรอ? มีเรื่องเล่าอย่างไรบ้าง?”
ซีมอนสเตอร์ส่ายหัวแล้วพูดว่า “ไม่ครับ แมงกะพรุนกระดุมสีฟ้าไม่ใช่เทพเจ้าแห่งท้องทะเล แต่เป็นพาหนะของเทพเจ้าครับ ปกติแล้ว บนตัวของแมงกะพรุนกระดุมสีฟ้าจะมีเทพเจ้าแห่งท้องทะเลอยู่ด้วยเสมอ”
นีลเซ็นพูด “ซีมอนสเตอร์ นายอธิบายได้งงมาก บอสฟังไม่เข้าใจหรอก ให้ฉันอธิบายแล้วกัน บอส เทพเจ้าแห่งท้องทะเลที่ซีมอนสเตอร์พูดถึงเป็นสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่ง สวยงามมาก ผมจับแมงกะพรุนขึ้นมาให้คุณดูแล้วกัน หากโชคดี เราอาจได้เห็นพวกมัน”
……………………………………………………..

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset