ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 73 ไม่ทำมันแล้ว

บทที่ 73 ไม่ทำมันแล้ว
โดย
Ink Stone_Fantasy

รุ่งเช้า เจ้าของโรงงานเคมีชุนเทียน คาคา ซันนี่สาวเท้าไปยังคฤหาสน์หลังเล็กที่ตั้งอยู่ในโรงงานของตัวเอง
เพิ่งถึงหน้าประตู โทรศัพท์ก็แผดเสียงขึ้น เขาเห็นว่าเป็นเบอร์เพื่อนเก่าอย่างเคลวิน สตีฟจึงรับสาย
“ไงเพื่อนยาก เคลวิน นึกยังไงถึงโทรมาหาฉันเนี่ย? จะมาอวดรายชื่อของชิ้นใหญ่อะไรที่นายได้มาอีกเหรอ? ฮ่าๆ เพื่อน ฉันรู้น่า ฉันไม่อิจฉาหรอก…อะไรนะ?”
“เวรแล้วไง เคลวิน เงียบก่อน! ฟังนะ ฉันขอถามหน่อย ท่อระบายน้ำเสียที่โรงงานเคมีนายไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหม? ท่อน้ำฉันโดนอุดหมดแล้ว!” เสียงตะโกนเจ้าของโรงงานสตีฟดังทะลุโทรศัพท์เข้าเต็มหู
คาคาชะงัก ก่อนเอ่ยอย่างกระวนกระวาย “ท่อนายโดนอุดหมดเลยเหรอ? งั้นคงต้องขุดลอกท่อแล้วล่ะ ว่าแต่นายโทรมาหาฉันทำไมเนี่ย?”
“ท่อระบายทั้งสิบสองท่อโดนอุดหมดเลยไงเล่า ไม่ได้เกิดจากธรรมชาติแน่ เว้นแต่จะเกิดแผ่นดินไหวใต้ทะเล! ฉันโทรหานาย ก็เพื่อจะถามว่านายมีปัญหาอะไรหรือเปล่าเท่านั้น”
คาคาตอบ “ไม่ๆ ทางฉันไม่มีปัญหาอะไร ถ้ามี ผู้จัดการโรงงานคงรายงานให้ฉันรู้ไปแล้ว ไม่ต้องคิดมาก เพื่อน หรือใต้ทะเลจะแผ่นดินไหวจริงๆกันนะ ฮ่าๆ ไปขุดลอกท่อเถอะ ขอให้วันนี้เป็นวันที่ดี”
แม้เบื้องหน้าจะเป็นเพื่อนกัน แต่เบื้องหลัง คาคากับเคลวินก็ถือเป็นคู่แข่ง ถึงอย่างไรบนเกาะแฟร์เวลก็มีโรงงานเคมีตั้งสองแห่ง ที่หนึ่งคือโรงงานเคมีชุนเทียนของเขา อีกที่คือโรงงานเคมีสตีฟของเคลวิน เทคโนโลยีการผลิตไม่ต่างกันมาก ลึกๆแล้วความสัมพันธ์ไม่ค่อยดีเท่าไร
พอได้รู้ว่าโรงงานคู่แข่งเกิดเรื่องวุ่นขึ้น คาคาก็อารมณ์ดีมีความสุขมากทีเดียว แต่ความรู้สึกนี้ก็อยู่ได้ไม่นาน เมื่อมาถึงห้องทำงาน เขาเห็นเดวิสผู้จัดการโรงงานของตัวเองกำลังยืนรอด้วยความร้อนรน
“มีอะไร?” คาคารู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดี
“บอส ผมไม่รู้ว่าควรพูดยังไงดี ดูเหมือนท่อระบายน้ำเสียเราจะโดนอุดครับ ทั้งสิบท่อเลย!” เดวิสกล่าว
คาคาร้อนใจทันที เขาโมโหพูดว่า “ในเมื่อมันตัน แกยังไม่รีบไปจัดการอีก มารออะไรตรงนี้? อยากโดนด่าหรือไง? ไอ้โง่!”
เดวิสจำต้องอธิบาย “ผมใช้ปั๊มแรงดันขั้นสุดแล้ว แต่ก็ยังล้างไม่ได้เลยครับ รอบนี้คงต้องจัดให้คนไปทำความสะอาดใต้ทะเลแล้ว”
ได้ฟังดังนั้น คาคาก็สบถเสียงดัง “บ้าเอ๊ย เกิดอะไรขึ้นเนี่ย? จัดให้คนไปทำความสะอาดใต้ทะเลเหรอ? แกไม่รู้เหรอว่ามันแพงแค่ไหน! ดี ดูเหมือนชาวเมืองแฟร์เวลจะเริ่มลงมือกันแล้วสินะ ไอ้พวกหมูตอน ฉันคงต้องสั่งสอนพวกเขาเสียหน่อย ฉันจะจัดการพวกมันแน่!”
เดวิสรอจนหัวหน้าระบายความโกรธเสร็จ จึงอธิบายต่อว่า “บอส ผมเกรงว่ามันจะไม่ใช่กรณีนั้น จากการตักของที่ตันในท่อออกมาดูกองหนึ่ง สิ่งที่ตันท่อระบายน้ำอยู่มันคือสาหร่ายครับ…”
“นี่แกล้อฉันเล่นหรือไง? ท่อระบายน้ำโดนสาหร่ายอุดเนี่ยนะ? สาหร่ายบ้าอะไรจะอยู่รอดในน้ำเสียโรงงานได้?!” คาคาคำรวมด้วยความโกรธ “ไป เอามาให้ฉันดูซิ ว่ามันเป็นอะไรกันแน่!”
เมื่อมาดูศูนย์บำบัดน้ำเสียของโรงงาน ความเดือดดาลของคาคาก็ถูกแทนที่ด้วยความตกตะลึง ที่แท้ สิ่งที่อุดตันท่อไว้ก็คือสาหร่ายจริงๆ เพราะยามนี้มีใบสาหร่ายโผล่ขึ้นมาจากปากท่อบำบัดน้ำ
ใบสาหร่ายสีเขียวเข้มมีชีวิตชีวา ดูมีความสดใสกว่าเมื่อเทียบกับสีเทาดำของน้ำเสีย ตัวใบพลิ้วไหวราวกับกำลังทักทายเยาะเย้ยคาคา
พอเห็นใบสาหร่ายพวกนี้ เดวิสก็ยิ่งตกใจ “พระเจ้า นี่มันเรื่องอะไรกัน? ทำไมพวกมันถึงโตเร็วขนาดนี้! เมื่อเช้าตอนผมไปตรวจสอบดู ใบมันยังไม่ขึ้นมาด้วยซ้ำ!”
คาคาอดหงุดหงิดไม่ได้ กล่าวว่า “รีบส่งคนลงน้ำไปดูที่ปากท่อสิ”
คนงานในชุดประดาน้ำกลุ่มหนึ่งลงน้ำไป แล้วกลับมาพร้อมข่าวที่ทำให้คาคาต้องอ้าปากค้าง ไม่สามารถหาตัวท่อเจอได้ เพราะทะเลทั่วบริเวณนั้นถูกสาหร่ายสีน้ำตาลกลืนไปหมดแล้ว!
“สาหร่ายสีน้ำตาล? สาหร่ายสีน้ำตาลมาจากไหนกัน?” คาคาพึมพำ “เมื่อวานตอนเลิกงานก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรแท้ๆ ทำไมจู่ๆในน้ำถึงมีสาหร่ายสีน้ำตาลมากมายขนาดนี้ได้ เป็นไปไม่ได้ ไม่เป็นวิทยาศาสตร์เอาเสียเลย…”
พึมพำสักพัก โทรศัพท์เขาก็ดังขึ้นอีกครั้ง เป็นเบอร์ของเคลวิน สตีฟเช่นเดิม เขารับสาย เสียงปลายสายของเคลวินไม่ค่อยสู้ดีนัก
“เพื่อน นายพอจะรู้จักบริษัทที่รับจัดการสาหร่ายบ้างหรือเปล่า? ฉันจะให้พวกเขามาช่วยจัดการไอ้พวกสาหร่ายสีน้ำตาลเวรนี่ ท่อระบายน้ำในทะเลฉันโดนสาหร่ายอุดหมดแล้ว!”
“ของฉันก็โดนเหมือนกัน เคลวิน” คาคาพูดอย่างหดหู่
“อะไรนะ? นี่มันเรื่องอะไรกัน? หรือพวกเราโดนคนปั่นหัวเข้าแล้ว?”
“แน่นอนเลย แต่เกิดอะไรขึ้นกับสาหร่ายสีน้ำตาลพวกนี้? เกาะแฟร์เวลมีสาหร่ายตั้งแต่เมื่อไร? แล้วก็ ทำไมมันถึงโตเร็วขนาดนั้น? ต้องสืบ ยังไงก็ต้องตามสืบเรื่องนี้ให้ได้! ฉันจะให้ไอ้ตัวการเบื้องหลังได้ชดใช้!”
“ตอนนี้สิ่งสำคัญคือการเปิดท่อระบายน้ำให้ได้ เวรเอ๊ย ฉันเพิ่งเซ็นสัญญาไปฉบับหนึ่ง PCV ห้าสิบตัน สิ้นเดือนนี้ต้องส่งแล้ว ถ้าเกิดส่งไม่ได้ขึ้นมา ได้ขาดทุนย่อยยับแน่!”
ใช่ สิ่งสำคัญที่สุดตอนนี้คือกำจัดสาหร่ายสีน้ำตาลออกจากท่อระบายน้ำเสียก่อน คาคาอับจนหนทาง เครื่องปั๊มแรงดันก็ไร้ประโยชน์ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงแรงงานคน แถมยังเข้าไปในปากท่อได้จำกัดอีก ต้องหาเครื่องมือมาช่วยกำจัด แต่ไม่น่าไหว ท่อตั้งยาว…
“บอส ผมคิดวิธีได้อย่างหนึ่ง ถ้าสิ่งที่อุดตันท่อคือสาหร่ายสีน้ำตาล งั้นเราแค่ตัดรากมันออกก็ได้นี่ครับ แบบนี้ก็น่าจะแก้ปัญหาได้ทั้งหมดแล้ว?” เดวิสเสนอแนะ
คาคาได้ฟังตาก็เป็นประกาย เขายื่นมือไปตบบ่าเดวิสแรงๆทีหนึ่ง เอ่ยว่า “พูดได้ดี เดวิส พ่อคนฉลาด! รู้อยู่แล้วว่า ฉันเลือกผู้จัดการโรงงานอย่างนายได้ไม่ผิดจริงๆ เร็ว พาคนไป…ไม่สิ ฉันจะพาคนไปถอนรากถอนโคนไอ้พวกสาหร่ายเวรนั่นเอง!”
การลงไปใต้น้ำสิบเมตรสำหรับกะลาสีเก่าบอกได้เลยว่าโซอีซี่ คาคาสวมชุดประดาน้ำ ถือเครื่องตัดใต้น้ำแล้วลงไปในน้ำ พร้อมคนงานแข็งแรงที่เขาเลือกมาอีกสิบกว่าคน
หลังลงน้ำมา คาคาว่ายไปพลางมองผ่านแว่น แล้วก็ต้องตื่นตะลึง
ใต้ทะเลก่อนหน้านี้ยังเป็นที่รกร้างเหมือนทะเลทรายซาฮาร่า มาตอนนี้กลับกลายเป็นเหมือนป่าอเมซอนไปแล้ว ถ้าตัดท่อระบายน้ำตามเส้นฝั่งทะเลออก ทะเลก็จะสะพรั่งไปด้วยสาหร่ายสีน้ำตาล แกนของสาหร่ายทั้งหมดมีความหนา 20 กว่าเซนติเมตร พูดง่ายๆคือเหมือนต้นไม้หนาๆต้นหนึ่ง หนาจนน่าตกใจ
กิ่งก้านสาหร่ายเกี่ยวพันเข้าด้วยกัน ราวกับแหขนาดใหญ่ ล้อมรอบป้องกันใต้ทะเล อย่าว่าแต่ท่อระบายน้ำเลย ทางผ่านก็โดนมันปิดตายไปหมด!
“บ้าเอ๊ย!” คาคาพึมพำ “เป็นไปได้ยังไง แค่คืนเดียวทำไมถึงงอกออกมาเยอะขนาดนี้? คงไม่ใช่ว่าเมื่อวานโรงงานปล่อยปุ๋ยเคมีออกมาหรอกนะ?”
พึมพำสักพัก คาคาก็ปลุกใจตัวเอง แกว่งเครื่องตัดใต้น้ำเข้าไปใกล้สาหร่ายเริ่มตัดแกนพวกมัน แค่ตัดรากมันเท่านั้น พวกมันก็ตายแล้ว
แกนสาหร่ายสีน้ำตาลเต็มไปด้วยความหนา และความเหนียว เครื่องตัดใต้น้ำก็ไม่คมพอจะตัดเข้า ดังนั้นจึงต้องใช้แรงในการตัดมาก
ขณะที่คาคากำลังกัดฟันตัด ทันใดสาหร่ายยาวๆเส้นหนึ่งก็ลอยมาทางเขา เขาใจชื้นขึ้น พึมพำว่า “เจ้าหนุ่มคนไหนตัดได้เร็วขนาดนี้กัน?”
เขาตัดไปมองไป ก็รู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง จึงเพ่งมองดีๆอีกครั้ง จนเห็นหางของงูแสมรังเหลืองลายครามตัวหนึ่งเต็มๆ “อ๊าก!! พระเจ้า งูทะเล! แม่งเอ๊ย เวร! แม่งเป็นงูทะเลนี่หว่า!!”
เมื่อเห็นตัวที่ยาวถึงสี่ห้าเมตร ตัวใหญ่หนา และลายขาวดำสวยงามบนร่างของงูยักษ์ คาคาก็รู้สึกร้อนๆในกางเกง เขากลัวจนฉี่แตกแล้วนั่นเอง!
ขณะเดียวกัน มีงูทะเลอีกสิบกว่าตัวว่ายโผล่ออกมาจากจุดต่างๆ คนงานที่กำลังทำงานต่างหวาดผวา โยนเครื่องตัดในมือทิ้งขึ้นน้ำหนีเอาตัวรอดกัน ใช้ทั้งมือทั้งเท้าว่าย ขอบารมีพ่อแม่ช่วยมอบกำลังให้แก่มือเท้าสองคู่
แม้ผู้เชี่ยวชาญจะรายงานว่าไม่มีงูทะเลในทะเลแอตแลนติก แต่ชาวประมงในพื้นที่ล้วนรู้ดีว่ามันไร้สาระ ผู้เชี่ยวชาญพวกนั้นก็แค่พูดพล่อยๆ ชาวประมงเกาะแฟร์เวลรู้ว่า ต้องระวังงูทะเลช่วงฤดูร้อน โดยเฉพาะตามโขดหินแถวชายฝั่ง มักมีงูทะเลซ่อนอยู่
ทว่า ถ้าว่ากันตามปกติงูทะเลไม่ได้ดุร้าย ตราบใดที่ไม่ไปรบกวนพวกมันก่อน มันก็จะไม่กัด ต่อให้ว่ายผ่านพวกมันไป ก็ไม่ทำอันตรายอะไร
แต่ว่ายามนี้ พวกงูทะเลที่กำลังว่ายไปมานั้นสำหรับมนุษย์มันเกินจะรับไหวจริงๆ มาบอกว่าไม่ดุร้าย ใครเชื่อก็โง่แล้ว!
คนส่วนใหญ่รู้ดีทั้งนั้น ว่างูทะเลมีพิษ และยังร้ายแรงมากด้วย
เหล่าผู้ช่วยรีบว่ายตาลีตาเหลือก ซึ่งคนที่โดนทิ้งท้ายสุดก็คือหัวหน้าที่ไม่ค่อยออกกำลังกายนั่นเอง งูทะเลไล่ตามมาอย่างรวดเร็ว ไม่นานก็เข้ารัดตัวคาคา
คาคายกมือยอมแพ้ เจอแบบนี้ไม่ใช่แค่กลัวจนฉี่ราดแล้ว แต่แทบอึราดตามเลยทีเดียว!
เมื่องูทะเลยักษ์รัดตัวคาคาได้ ก็อ้าปากกว้างน่ากลัว แล้วกัดคอเขาอย่างโหดร้าย จากนั้นพอเห็นว่าเขาตายแล้ว มันจึงปล่อยแล้วว่ายต่อ ไล่ตามคนอื่นๆ
คาคาก็คิดว่าตัวเองคงตายแน่ พิษงูทะเลเลยนะ แต่หลังจากที่เขาโดนกัด กลับไม่รู้สึกเจ็บปวด แต่สัมผัสได้ถึงหยดเมือกเหนียวเย็นๆตรงคอ
ในเมื่อไม่ตายก็หนีต่อ คาคาตะเกียกตะกายมือเท้าจนในที่สุดก็ว่ายถึงผิวน้ำ พอขึ้นหาดมาได้ เขาก็ทนไม่ไหว ปล่อยโฮเสียงดัง…
เดวิสที่กำลังรอรีบเข้ามาช่วยเขาถอดชุดดำน้ำออก กลิ่นของเสียลอยเข้าหน้าเต็มๆ แทบทำคนที่เดินผ่านอาเจียน
คาคาคว้าเดวิส ลากคอมาถามไปร้องไห้ไป “รีบดูเร็ว รีบดูที ฉันโดนงูพิษกัดไปหรือยัง!”
เดวิสตรวจดูอย่างละเอียด ก่อนเอ่ยยืนยัน “ไม่มีครับ บอส คุณยังไม่โดนงูกัดครับ!”
“โกหก!” คาคาทั้งโล่งใจทั้งโมโห เขาลากชุดดำน้ำมา มองหารอยกัดตรงคอ ก็ดันปรากฏรอยฟันเล็กๆสี่ซี่
เดวิสกระจ่างทันที เอ่ยว่า “บอส พระเจ้าทรงคุ้มครอง งูพิษนั่นกัดโดนแค่ชุดประดาน้ำของคุณ มันเข้าใจว่าปล่อยพิษใส่ร่างคุณไปแล้ว แต่ที่จริงไม่ใช่ มันกัดแค่ชุดดำน้ำคุณไปเท่านั้นเอง…”
คาคาปล่อยโฮเสียงดังอีกรอบ ครั้งนี้เขาหนีจากความตายมาได้ เขาเพิ่งรอดจากเงื้อมมือซาตานมา ร้องจนพอใจแล้ว เขาก็ยันตัวขึ้นกล่าวว่า “ช่างโรงงานมันแล้ว ไม่ทำแม่งแล้ว! พ่อจะหนีไปจากไอ้โลกนรกนี่!”
ณ ท่าเรือฟาร์มปลาต้าฉิน ฉินสือโอวควบคุมให้งูทะเลกลับไปซ่อนในส่วนลึกของป่าสาหร่ายสีน้ำตาล ตอนนี้เขาเหนื่อยมากทีเดียว เขาต้องควบคุมงูทะเลให้หลอกคนพวกนั้นจนกลัว และแกล้งกัดชุดประดาน้ำผ่านๆโดยไม่ทำให้พวกเขาบาดเจ็บอีก งานที่ต้องละเอียดขนาดนี้จะเหนื่อยเกินไปแล้ว…
                ……………………………………………….

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset