ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 72 สาหร่ายสีน้ำตาล

บทที่ 72 สาหร่ายสีน้ำตาล
โดย
Ink Stone_Fantasy

“ท่อปล่อยน้ำเสียอยู่แถวนี้แหละ พวกเราเคยใส่ชุดดำน้ำลงมาดูก่อนแล้ว โรงงานเคมีสตีฟมีท่อปล่อยน้ำเสียอยู่ทั้งหมดสิบสองท่อ เส้นผ่าศูนย์กลางยาวครึ่งเมตร ช่วงฤดูใบไม้ผลิโรงงานเคมีใช้ถึงสิบท่อ แถมเส้นผ่าศูนย์กลางยังยาวกว่าเดิมอีก!” ชาร์คพูดทั้งสีหน้าหม่นหมอง
ท่อระบายน้ำเสียว่าหนาแล้ว ยังใช้ปั๊มน้ำแรงดันปล่อยน้ำเสียลงใต้น้ำโดยตรงอีก พวกเขาไม่มีทางเลือกนัก ถึงอยากแอบไปอุดเองก็คงไม่ได้ ต่อให้ทำได้แล้วอย่างไรล่ะ? การที่พวกเขาไปอุดท่อระบายน้ำของโรงงานเคมีคนอื่นโดยพลการ ก็ผิดกฎหมายอยู่ดี
จิตสำนึกโพไซดอนเข้าควบคุมทะเลโดยรอบ เกาะแฟร์เวลฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือนั้นไม่มีทราย มีแค่ผาชัน และโรงงานที่ตั้งอยู่ด้านบน หลุมตรงพื้นด้านล่างสามารถสร้างท่อส่งลงไปใต้ทะเลได้โดยตรง
ดูท่าการประท้วงเมื่อกลางวันจะส่งผลต่อการผลิตของโรงงานไม่น้อย ตกกลางคืนยามนี้ โรงงานจึงยิ่งเร่งทำงานล่วงเวลา สิ่งที่ยืนยันเรื่องนี้คือ ท่อระบายน้ำเสียสิบสองท่อใต้น้ำที่ฉินสือโอวเห็น มีหกท่อที่กำลังระบายน้ำจากโรงงานอย่างบ้าคลั่ง!
จิตสำนึกแห่งโพไซดอนเหมือนจะไม่ถูกกับน้ำเสียโรงงาน เมื่อไปโดนมัน ฉินสือโอวก็พลันรู้สึกไม่สบายตัว แต่โพไซดอนมีความสามารถในการฟื้นฟูน้ำทะเล ซึ่งเขาเองก็เพิ่งรู้ว่าตัวเองมีความสามารถนี้อยู่ด้วย
พอน้ำเสียเข้ามาในอาณาเขตควบคุมของโพไซดอน สารพิษก็ถูกขับออกอย่างรวดเร็ว แต่โพไซดอนก็เสียพลังไปมากทีเดียว
ฉินสือโอวไม่อยากคอยชำระล้างทั้งสองโรงงาน ตอนเขาอยู่ประเทศตัวเองก็ไม่ได้เป็นเหลยเฟิง[1]ถึงมาแคนาดาคงจะเป็นบุคคลแบบอย่างไม่ไหว
ส่วนกรณีโรงงานสองแห่งนี้ เขาเตรียมแผนไว้แล้ว
เขายื่นมือไปดึงถุงด้านหลังเจ็ทสกีออกมา ข้างในคือหญ้ากล่องเล็กๆ
ฉินสือโอวดับเครื่องเจ็ทสกี เปลี่ยนเป็นชุดดำน้ำที่ได้มาเป็นของแถมตอนซื้อเรือยอชต์ พูดกับชาร์คว่า “ลงมือเลย เอากล่องใส่เมล็ดสาหร่ายลงไปวางด้านล่าง”
ชาร์คพูดขึ้นอย่างอดไม่ได้ “บอส คุณคงไม่ได้คิดจะปลูกสาหร่ายมากำจัดสารพิษที่นี่หรอกใช่ไหม? ไม่ได้ผลหรอก สาหร่ายอยู่ที่นี่ไม่รอดแน่ หรือต่อให้รอด ไอ้โรงงานเวรนั่นก็จะมากวาดล้างพวกมันอยู่ดี เพื่อไม่ให้มันขยายพันธุ์จนอุดตันท่อ”
นีลเซ็นเคยเป็นทหารมาก่อน จึงเชื่อฟังคำสั่งโดยธรรมชาติ เอ่ยว่า “บอสให้นายทำอะไรนายก็ทำตามนั้นเถอะ คิดหรือว่าเขาจะไม่นึกถึงตรงนี้ด้วย?”
ทั้งสองหยิบเมล็ดสาหร่ายออกมาเพิ่มจากหลังเจ็ทสกี ถุงสี่ใบมีกล่องเล็กทั้งหมดยี่สิบสี่กล่อง รวมกันได้ราวห้าสิบกิโลกรัม
ทั้งสามกระโดดลงน้ำ ต่างคนต่างหาท่อระบายน้ำก่อน วางกล่องเมล็ดสาหร่ายลงบริเวณปากท่อ
น้ำเสียที่ไหลออกจากท่อระบายอย่างบ้าคลั่ง ดูเหมือนภายในคลื่นใต้น้ำ กลิ่นเหม็นของสารเคมี ที่แม้จะสวมหน้ากากไว้ ฉินสือโอวก็ยังได้กลิ่น
เมื่อจัดการเรื่องเมล็ดเสร็จ ทั้งสามก็กลับไปยังเจ็ทสกี ฉินสือโอวหยิบขวดไอซ์ไวน์ที่เตรียมไว้ก่อนหน้าออกมา กล่าวยิ้มๆกับอีกสองคน “รู้ไหมว่านี่คืออะไร?”
ชาร์คและนีลเซ็นส่ายหน้าพร้อมกัน ฉินสือโอวทำประหนึ่งว่าชีวิตนั้นคือการแสดง และนี่ถือเป็นบททดสอบการแสดงของเขา เขากระแอมทีหนึ่ง แล้วพูดเสียงเข้มจริงจัง “นี่คือฮอร์โมนพืชที่จะช่วยเร่งการเจริญเติบโตของพืชอย่างรวดเร็ว ที่ฉันได้มาจากการกลับประเทศครั้งนี้ไงล่ะ!”
“อย่าดูถูกฮอร์โมนพืชเชียว แค่มิลลิลิตรเดียวก็มีผลทำให้น้ำทะเล ตะไคร่น้ำ และสาหร่ายในหนึ่งตารางเมตรเจริญเติบโตไวขึ้น จนพวกนายต้องไม่เชื่อแน่!”
“มีของแบบนี้อยู่ด้วยหรือ?” ชาร์คทั้งซื่อ ทั้งบื้อ
นีลเซ็นตอบ “มันคือพลังของเทคโนโลยี ตอนผมอยู่ในกองทัพก็เคยเห็นของน่าเหลือเชื่อมาเหมือนกัน”
ว่าไปฉินสือโอวก็ก่อร่างสร้างตัวมานานพอสมควร พลังโพไซดอนสามารถเร่งการเติบโตของตะไคร่ สาหร่ายและปลา และยังช่วยพัฒนาเรื่องการขยายพันธุ์ได้ด้วย หลังจากที่เขาใช้พลังโพไซดอนกับสิ่งมีชีวิตในฟาร์มปลา ชาร์คที่เป็นชาวประมงเก่าย่อมสังเกตเห็นความผิดปกติบางอย่าง
ดังนั้น เมื่อฉินสือโอวบอกว่าจะใช้เจ้าสิ่งที่เรียกว่า ‘เทคโนโลยีเร่งฮอร์โมนพืชขั้นสูง’ ก็พอช่วยอธิบายเหตุผลการเปลี่ยนแปลงที่ผ่านมาของฟาร์มปลาได้ แต่ไม่นึกว่าเหตุผลมันจะเกินคาดขนาดนี้
ถึงชาร์คจะซื่อ แต่ก็ไม่ได้โง่ เขาถามอย่างไม่แน่ใจ “บอส คุณเอาของเหลวขึ้นเครื่องบินไม่ได้ไม่ใช่เหรอ? แล้วคุณเอามาได้ยังไง?”
ฉินสือโอวจำต้องอธิบาย “ฉันไม่ได้เอาขึ้นเครื่องบินมา แต่ให้ไปรษณีย์ส่งมาให้ต่างหาก เมื่อวานตอนฉันไปส่งวินนี่ มันก็มาถึงเซนต์จอห์นพอดี”
ชาร์คกับนีลเซ็นกระจ่างทันที แล้วมอง ‘เทคโนโลยีเร่งฮอร์โมนพืชขั้นสูง’ ไม่ต่างจากเด็กที่ได้ของเล่นใหม่
เขายังคงทำประหนึ่งว่าชีวิตคือการแสดงต่อไป หยิบขวดไอซ์ไวน์เทกระจายลงไปในทะเลอย่างเคร่งขรึม
โพไซดอนอัดพลังเข้าไปยังบรรดากล่องตรงปากท่ออย่างดุเดือด เมล็ดหญ้าดูดซับพลังเอาไว้แล้วแตกหน่อด้วยความรวดเร็ว สักพักก็ผุดขึ้นมาจากกล่องที่อ่อนยวบพร้อมฟองอากาศ พันเกี่ยวเข้าด้วยกัน จนเริ่มเลื้อยไปตามความยาวของท่อ
เมล็ดสาหร่ายพวกนี้ก็คือเมล็ดสาหร่ายสีน้ำตาลชื่อก้องโลกนั่นเอง ฉินสือโอวซื้อมาเยอะเป็นพิเศษ จุดประสงค์เดิมไม่ใช่เพื่อเอามาจัดการกับโรงงานสองแห่งนี้ แต่เพื่อเตรียมเอามาทำป่าใต้ทะเลที่ฟาร์มปลาต่างหาก
สาหร่ายสีน้ำตาลเรียกได้ว่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่ยอดเยี่ยมในทะเลอันลี้ลับ พวกมันเติบโตได้อย่างรวดเร็ว ถ้าอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม สาหร่ายสีน้ำตาลหนึ่งต้นสามารถเติบโตได้วันละ 30-60 เซนติเมตร โดยยังสามารถโตได้เรื่อยๆทั้งปี จนสูง 60 กว่าเมตรได้สบายๆ
ช่วงฤดูใบไม้ผลิร้อน ขอแค่อุณหภูมิน้ำเหมาะสม สาหร่ายสีน้ำตาลจะสามารถโตได้วันละ 2 เมตรโดยประมาณ ทุกๆ 16-20 วันแทบใหญ่ขึ้นเป็นเท่าตัว
สิ่งมีชีวิตนี้พบเห็นได้ทั่วไปในทวีปอเมริกาชายฝั่งทะเลแปซิฟิก ประเภทสาหร่ายน้ำเย็น ที่แคนาดาก็มีเยอะเช่นกัน แต่ไม่ได้อยู่ในทะเลแอตแลนติกที่ฟาร์มปลานิวฟันด์แลนด์
แน่นอนว่า เมื่อมีพลังจากโพไซดอน สาหร่ายสีน้ำตาลก็สามารถอยู่ในดินแอลคาไล(ดินเค็ม)ได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงที่ฟาร์มปลาต้าฉิน
ด้วยยีนที่เติบโตอย่างรวดเร็วบวกกับพลังที่เร่งการเจริญเติบโตขั้นสูงสุด จนรวมกันกลายเป็นความน่าสะพรึงกลัว
หากมีคนอยู่ในน้ำ คงจะมองเห็นฉากดังนี้ เวลาในน้ำราวกับดำเนินไปอย่างรวดเร็ว ไม่ต่างจากการลากเมาส์ในคอมพิวเตอร์ สาหร่ายสีน้ำตาลโตขึ้นอย่างบ้าคลั่ง จากเมล็ดเล็กๆไม่กี่วินาทีก็แตกหน่อออกมา แล้วโตขึ้นทุกๆวินาที แทบมองเห็นความเร็วเหล่านั้นได้ด้วยตาเปล่า!
โพไซดอนยังส่งพลังต่อไม่หยุด แก่นของลำต้นสาหร่ายสีน้ำตาลแตกหน่อนับไม่ถ้วน ตามลำต้น เริ่มออกกิ่งก้านเล็กๆกว่าร้อยก้าน และแตกใบน้อยๆ เมื่อใบเริ่มใหญ่ขึ้น จะมีความยาว 1 เมตรกว่า และความกว้าง 10 กว่าเซนติเมตร
ตามใบของสาหร่ายสีน้ำตาลมีถุงอากาศอยู่ เมื่อสร้างถุงอากาศจนเพียงพอก็สามารถพาใบหรือแม้แต่ทั้งต้นของมันลอยไปได้ พวกมันจึงดูเหมือนงูทะเลที่พันกันยุ่งเหยิง ด้วยการนำของจิตสำนึกโพไซดอน ทำให้มันเติบโตไปจนถึงภายในท่อ
แน่นอนว่า ด้านนอกท่อที่มีสาหร่ายขึ้นมากมาย ได้ถูกปกคลุมไปทั่วแล้ว
“นี่ไม่ใช่พลังของเทคโนโลยีแล้ว แต่เป็นพลังของพระเจ้า!” ฉินสือโอวตะลึงกับการเติบโตของสาหร่ายสีน้ำตาลทั้งหมดนี้ เขาไม่คิดมาก่อนว่า ที่แท้พลังของตัวเองจะน่ากลัวขนาดนี้
เขาเตรียมเมล็ดมาเยอะเกินไป ที่จริงถ้าเขารู้ว่าสาหร่ายสีน้ำตาลจะเพิ่มจำนวนได้จนน่าสะพรึงเช่นนี้ เอาเมล็ดไปแค่กล่องเดียว ก็แทบอุดท่อได้ทั้งโรงงานแล้ว
แม้จะยังอุดท่อไม่หมด แต่ถ้าสาหร่ายยังต่อไปโตเรื่อยๆ ก็ขึ้นอยู่กับเวลาแล้ว
“ไปกันเถอะ ไปโรงงานเคมีชุนเทียนต่อกัน!” ฉินสือโอวโบกมือนำ
“แบบนี้ได้ผลใช่ไหมครับ บอส?” ชาร์คถามด้วยความกังวล
ฉินสือโอวพูดอย่างมั่นใจว่า “เชื่อฉันเถอะ ชาร์ค โรงงานนี่มันจบเห่แล้ว!”
จิตสำนึกโพไซดอนพุ่งออกไปได้ราวสิบไมล์ มีงูทะเลหลากสีกลุ่มหนึ่งคอยอยู่ตรงนอกแนวปะการัง ราวกับกองทัพที่รอเตรียมออกรบ
งูทะเลพวกนี้ ก็คืองูแสมรังเหลืองลายคราม ที่ฉินสือโอวเคยเจอมาก่อนนั่นเอง ตอนแรกมีแค่ยี่สิบกว่าตัว แต่หลายวันก่อนฉินสือโอวลองหาดูรอบๆทะเลแล้ว ก็พบอีกสี่สิบห้าสิบตัว
เขาใช้พลังโพไซดอนเพิ่มพลังกับให้งูทะเล กลายเป็นว่าตอนนี้พวกมันดูน่ากลัวกว่าเดิม ทำเอาต้องแก้ความเข้าใจของผู้คนที่มีต่อพวกมันเรื่อง งูทะเลปกติจะมีความยาวไม่เกินสองเมตร ตอนนี้แม่งูตัวหนึ่งที่อยู่หัวแถวทัพ มีขนาดถึงห้าเมตรได้ จะตัวใหญ่เกินไปแล้ว!
จิตสำนึกของฉินสือโอวลอยผ่านไป พวกงูทะเลต่างว่ายสะบัดหางงุนงง จุดหมายคือที่ตั้งท่อระบายน้ำเสียของโรงงานเคมี
เมื่อมาถึงบริเวณโรงงานเคมีชุนเทียน ก็ใช้วิธีเดิม นำเมล็ดสาหร่ายไปวางแถวปากท่อระบายน้ำ แล้วสำแดงพลังโพไซดอน
คราวนี้ดำเนินไปอย่างราบรื่นกว่า เพราะโรงงานเคมีชุนเทียนไม่ได้รับผลกระทบจากการประท้วง จึงเลิกงานตอนเย็น ท่อระบายน้ำก็ไม่ได้ปล่อยน้ำเสียออกมา
ท่อระบายน้ำโรงงานนี้เจ้าเล่ห์ยิ่งกว่า พวกเขาวางท่อไว้ใต้พื้นทะเล หากมีคนมาหาคงหาเจอได้ยากมาก ด้วยเหตุนี้ ทำให้ง่ายต่อการเพิ่มจำนวนท่อ
สำหรับท่อระบายน้ำเสีย สาหร่ายสีน้ำตาลก็เปรียบเสมือนศัตรูตามธรรมชาติโดยกำเนิด พวกมันชอบเกิดตามโขดหินใต้ทะเลลึกที่มีกระแสน้ำเชี่ยว ซึ่งท่อน้ำที่มีปั๊มแรงดันกับโขดหินใต้ทะเลกระแสน้ำเชี่ยวนั้นมีความคล้ายกันมาก
นอกจากนี้ ถิ่นอาศัยของสาหร่ายสีน้ำตาลปกติจะกระจายอยู่ตามระดับน้ำ 5 ถึง 20 เมตร และท่อระบายน้ำก็อยู่ที่ความลึกประมาณสิบกว่าเมตรของพื้นทะเล…
พูดง่ายๆคือ ไม่ต่างจากการลงทัณฑ์ของพระเจ้า ที่แม้แต่พระองค์ยังไม่อยากเห็นสวนของตัวเองโดนโรงงานเคมีพวกนี้ทำลายไป
                ………………………………………………..

[1] ชื่อทหารชาวจีนคนหนึ่งที่อุทิศตนจนเสียชีวิตในช่วงสงคราม แล้วได้รับการยกย่อง

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset