ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 82 สัตว์ร้ายบนเขาเคอร์บัล

บทที่ 82 สัตว์ร้ายบนเขาเคอร์บัล
โดย
Ink Stone_Fantasy

ผลที่ออกมาทำให้ฉินสือโอวยิ้มมุมปากโค้ง
พื้นที่ประมงมีบ่อน้ำพุร้อนจริงด้วย!
เครื่องเจาะเจาะลึกลงไปอีก น้ำเดือดในบ่อผุดขึ้นแล้วกระจายตัวออก ที่แท้ที่ความลึกใต้ดินราวหนึ่งเมตรของบริเวณนี้มีชั้นหินหนาแน่นชั้นหนึ่งทำให้น้ำพุร้อนถูกขังไว้ข้างใน พอชั้นหินถูกเจาะออก น้ำพุร้อนใต้ดินก็ผุดขึ้นพร้อมความร้อนที่พวยพุ่งออกมา
ฉินสือโอวให้ทีมงานก่อสร้างขยายไปอีกและสำรวจเพิ่ม ยึดเอากึ่งกลางของบ่อน้ำพุร้อนบ่อแรกเป็นศูนย์กลาง แล้วขุดบ่ออื่นๆที่ต่างกันอีกในบริเวณรอบข้างในรัศมีราวหนึ่งตารางกิโลเมตร นี่ถือว่าเป็นขอบเขตที่กว้างมาก จะสร้างเป็นรีสอร์ทก็เหลือใช้!
พอแบบนั้น โรงเลี้ยงสัตว์จึงต้องย้ายออกไป เขาตั้งใจจะสร้างโถงน้ำพุร้องแบบในร่มและกลางแจ้ง พอเป็นแบบนั้นโรงเลี้ยงสัตว์จึงขวางทาง
ทีมขุดเจาะทำได้แค่ขุดบ่อ แต่ทำงานบ่อน้ำพุร้อนไม่ได้ ต่อให้งานบ่อน้ำพุร้อนจะง่ายกว่างานเจาะบ่อบาดาลมากก็ตาม แต่พวกเขาไม่มีอุปกรณ์
ฉินสือโอวจ่ายทีมขุดเจาะไปสองพันดอลลาร์ ถือเสียว่าเป็นเงินค่าผิดสัญญา เพราะเขาไม่อยากขุดบ่อบาดาลแล้ว ในเมื่อจะย้ายโรงเลี้ยงสัตว์ก็ย้ายไปข้างป่าไปเลยแล้วก็ขุดแบ่งแม่น้ำสายย่อยมาจากแม่น้ำบนภูเขาสูง
ทีมขุดเจาะทำงานนิดๆหน่อยๆก็ได้เงิน ฉินสือโอวเจอว่ามีน้ำพุร้อนในพื้นที่ประมง ทั้งสองฝ่ายต่างดีอกดีใจ
พอส่งทีมขุดเจาะกลับ ฉินสือโอวก็หาทีมงามก่อสร้างมาทำบ่อน้ำพุร้อน แต่เรื่องด่วนก็คือต้องย้ายโรงเลี้ยงสัตว์ออกไป
เขากับซีมอนสเตอร์ นีลเซ็น ชาร์คจึงร่วมมือกันสร้างรั้ว ครั้งนี้พวกเขาเลือกที่ข้างๆป่าตรงตะวันออกเฉียงเหนือของพื้นที่ประมง หาจุดที่มีต้นเมเปิ้ลกับสนเรดวูดล้อมรอบ และในขณะเดียวกับก็สั่งคอกสัตว์และคอกหมูมาจากเซนต์จอห์น เพื่อนำมาใส่ในโรงเลี้ยง ให้หลบลมหลบฝนได้
“บนเขานี้อาจมีพวกหมูป่ากับหมาป่าเทาอเมริกาเหนือ ฉะนั้นผมแนะนำว่าอย่าทำโรงเลี้ยงตรงนี้ดีกว่า เกิดพวกนั้นลงมาทำอะไรพวกเป็ดไก่หมูจะทำไง?”ชาร์คถามด้วยความเป็นห่วง
ฉินสือโอวอึ้งไปก่อนจะถาม “บนเขามีหมาป่าก็พอว่านะ แต่มีหมูป่าด้วยเหรอ?”
ชาร์คพยักหน้าแล้วตอบ “แม้ว่าหมูป่าที่นี่จะไม่ได้ระห่ำอย่างพวกที่แถวรัฐตะวันตก แต่บนเขาเคอร์บัลมีแน่นอน และมีไม่น้อยด้วย หมูป่ายังพอว่า แต่ประเด็นคือหมาป่าเทาอเมริกาเหนือ เจ้าพวกนี้น่ะโหดมาก!”
หมาป่าเป็นสัตว์กินเนื้อ เพื่ออยู่รอดกินแกะที่ชาวเมืองเลี้ยงสักตัวสองตัวหรือไม่ก็พวกเป็ดไก่ก็ไม่เป็นไร ยังให้อภัยได้
แต่หมาป่าเทาอเมริกาเหนือน่ากลัวตรงที่มันไม่แค่กัดเหยื่อของตัวเองจนตาย แต่ยังใช้ฟันแหลมฉีกท้องของสัตว์อื่นที่มันหาได้จนไส้ไหลแล้วตายอย่างทรมาน
ข้อนี้ทำให้คนเกลียด ฉะนั้นที่แคนาดาขอแค่มีคนเจอหมาป่าก็จะเรียกพรรคพวกมาไล่ล่าแล้วฆ่ามันให้ตาย กฎหมายคุ้มครองสัตว์ป่าไม่ได้คุ้มครองหมาป่าเทา
แต่ไม่ต้องห่วงว่าหมาป่าจะสูญพันธุ์ พื้นที่ของแคนาดากว้างมาก ประชากรก็น้อย ต้องมีที่ที่คนไม่ได้ย่างเข้าไป มีหมาป่าที่มีชีวิตรอดมากพอ
“ทำรั้วให้แข็งแรงหน่อย รอถึงช่วงที่บริษัทก่อสร้างวิลมาสร้างท่าเรือแล้วให้พวกเขาเทปูนกับคอนกรีตมาโบกรอบนอกของโรงเลี้ยงสักหน่อย หมาป่ากับหมูป่าคงจะกระโดดข้ามรั้วสองเมตรไม่ได้หรอกนะ?” ฉินสือโอวพูด
ชาร์คพยักหน้าแล้วพูดต่อ “เป็นวิธีที่ดีครับ แค่เปลืองเงินไปหน่อย”
ฉินสือโอวไม่สนใจ เขายินดีทุ่มเงินเพื่อที่จะสร้างพื้นที่ประมง
“จริงสิ นายว่าบนเขามีหมูป่า? วันไหนเราขึ้นเขาไปล่าหมูป่ากันเป็นไง?” ฉินสือโอวพูดอย่างตื่นเต้น เขาไม่เคยล่าสัตว์เลย
ชาร์คหัวเราะ “ถ้าคุณยินดีก็รอฤดูใบไม้ร่วงก็แล้วกัน หมูป่าอ้วนที่สุดตอนฤดูใบไม้ร่วง เราก็ไปล่ากัน”
ฉินสือโอวถามอย่างสงสัย “ในเมื่อบนเขามีหมูป่าทำไมชาวเมืองไม่ไปล่ากันละ? ล่าหมูป่าดีออก สนุกแล้วยังได้กินเนื้อด้วย”
นีลเซ็นพูด “ทุกปีก็มีขึ้นเขาล่าสัตว์ แต่ล่าไม่หมดหรอก หมูป่าตัวเมียปีหนึ่งออกลูกสองคอก คอกละหกตัวหรือมากกว่านั้น และหมูป่าไม่มีศัตรูธรรมชาติบนเขาเลย แล้วพวกมันก็ไม่ได้กลัวสภาพอากาศหนาว เพราะหมูป่าขายาว พวกมันเลยสามารถวิ่งได้ในพื้นหิมะตามใจชอบ”
ตามธรรมชาติแล้ว ศัตรูธรรมชาติของหมูป่าคือสิงโต เสือดาว หมาใน และคน แต่ไม่ว่าจะเป็นสิงโตหรือเสือดาวก็ล้วนเป็นสัตว์ที่อาศัยอยู่ทุ่งหญ้าทวีปแอฟริกา ที่แคนาดาไม่มี ส่วนมนุษย์ในฐานะที่อยู่สูงสุดของห่วงโซ่อาหารส่วนมากที่แคนาดาก็ไม่กินเนื้อหมูป่า เพราะคิดว่าเนื้อแข็งคาวกระด้างเลยเหมือนกับปลาไนเอเชียที่ไม่ได้เอามาทำเป็นอาหาร
ฉินสือโอวทำความเข้าใจประเด็นนี้เสร็จ ในใจก็ตื่นเต้นขึ้นมา
พื้นที่ประมงของเขามีหาด เดี๋ยวจะมีบ่อน้ำพุร้อน ด้านหลังมีภูเขาสูง บนเขามีหมูป่า กระต่ายป่า และไก่ฟ้า ทะเลสาบเฉินเป่าที่ไม่ไกลออกไปก็ยิงปลาได้ แบบนี้ถ้าทำรีสอร์ทหรือจุดท่องเที่ยวงก็ทำเงินได้เป็นกอบเป็นกำเลยสิ?
กลุ่มเป้าหมายของฉินสือโอวไม่ใช่คนแคนาดา แต่คือนักท่องเที่ยวจีน ที่จีนน่ะอย่าว่าแต่หมูป่า ปลาไนตามธรรมชาติ ปลาหัวโตก็หายาก
เขาเล่าแนวคิดออกมา นีลเซ็นจึงพูดเสริม “ถ้าคุณชอบล่าสัตว์ ก็ขึ้นเขาไปล่ากวางได้ บนเขามีพวกกวางมูส กวางเรนเดียร์แล้วก็กวางแดง ฤดูใบไม้ร่วงทุกปีที่เมืองก็จะจัดคนขึ้นไปล่ากวาง เพราะพอถึงฤดูหนาวพวกมันไม่มีอาหารก็จะลงเขาไปกินพืชผักผลไม้ที่ชาวเมืองปลูกไว้”
“ใช่ บนเขามีอะไรให้ล่าเยอะ ห่านอเมริกาเหนือ ห่านหิมะ ไก่ป่า ล่าได้ตามใจหมด!” ชาร์คพูด
ได้ยินทั้งสองเล่า ใจของฉินสือโอวก็เต้น ‘ตึกๆ’ เขานึกไม่ถึงมาก่อนเลยว่าเขานี้จะเป็นขุมสมบัติ ต้องรู้ก่อนว่าที่บ้านเกิดเขาก็มีภูเขา แต่บนเขานั้นไม่มีแม้แต่กระต่าย!
ฉินสือโอวสงสัยอีกครั้งจึงเอ่ยถาม “ในเมื่อบนเขามีสัตว์ให้ล่าเยอะไปหมด จับปลาที่พื้นที่ประมงไม่ได้ทำไมไม่ขึ้นเขาไปล่าสัตว์ขายล่ะ?”
ชาร์คตอบพร้อมเสียงหัวเราะ “ใครจะซื้อล่ะ? ไม่มีใครโง่หรอก อยากกินก็หาเวลาขึ้นเขาไปล่าเอง สนุกด้วย จะซื้อทำไม? อีกอย่างสัตว์ที่ล่าเองกินเองก็ไม่มีอะไร แต่ถ้าอยากขายก็ต้องมีใบอนุญาตตรวจสอบโรคจากกรมควบคุมโรค ยุ่งยากเกินไป”
เขตอเมริกาเหนือจริงจังกับการตรวจโรคระบาดในสัตว์ป่ามาก ที่ควิเบกปีที่แล้วเกิดการระบาดของโรคติดเชื้ออีโคไล ตอนนั้นทำให้มีผู้เสียชีวิตสามคน ผู้ป่วยกว่าสองร้อยคน กว่าพันคนมีเชื้อในร่างกาย ทำเอาแคนาดาระส่ำระสายไปช่วงหนึ่ง
ถือโอกาสแทรกด้วยว่าต้นเหตุของโรคระบาดอีโคไลก็คือหมูป่า
คนแคนาดาไม่ค่อยกล้ากันเท่าไร หลายๆครั้งที่ล่าสัตว์มาได้ก็ไม่กล้ากิน เพราะกลัวจะติดโรคอะไรเข้า แบคทีเรีย ไวรัส พยาธิอะไรเทือกนั้น เพราะฉะนั้น คนที่ไปล่าสัตว์ทุกปีนอกจากนักท่องเที่ยวแล้วก็เป็นเจ้าของฟาร์ม พวกเขาต้องการป้องกันการขยายพันธุ์ที่มากเกินจนคุกคามฟาร์มของตัวเอง
ฉินสือโอวไม่ได้มีความคิดแบบนั้น ถ้ารู้ว่าบนเขามีหมูป่าแล้วเขาจะเอาหมูพื้นเมืองมาทำไม แค่คิดๆดูแล้ว หมูป่ากับหมูพื้นเมืองก็รสชาติไม่เหมือนกัน พอคิดได้แบบนี้ใจเขาก็สงบลงอีกครั้ง
ทำบ่อน้ำพุร้อนต้องใช้เวลา ส่วนจะขุดแบ่งน้ำสายหนึ่งให้ผ่านตรงกลางโรงเลี้ยงสัตว์ก็ต้องการเวลา ฉะนั้นฉินสือโอวพาพวกชาร์คสามคนล้อมรั้วเสร็จก็หยุด ยังไม่ได้ย้ายสัตว์มาในทันที
พอกลับไปถึงคฤหาสน์เขาก็หาข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันของสัตว์ป่า พอหาดูก็ต้องตกใจ สถานการณ์สัตว์ป่าของแคนาดากับปลาหิมะของพื้นที่ประมงนิวฟันด์แลนด์ต่างกันคนละขั้ว ปลาหิมะในพื้นที่ประมงนิวฟันด์แลนด์ถูกจับจนไม่เหลือ ส่วนสัตว์ป่ากลับขยายพันธุ์มากเกินจนรัฐบาลปวดหัว
โดยเฉพาะหมูป่า หลายปีมานี้กลายเป็นปัญหาใหญ่ที่รัฐบาลแคนาดาคิดไม่ตก
พื้นที่เขตนิวฟันด์แลนด์ยังพอว่า แต่รัฐซัสแคตเชวันที่ถูกขนานนามว่า ‘ยุ้งฉางของแคนาดา’ เจอหมูป่าคุกคามแล้ว
รัฐซัสแคตเชวันเป็นรัฐการเกษตร หมูป่าที่นี่รบกวนปศุสัตว์ ขโมยกินพืชผล ทำลายแปลงผัก แพร่กระจายโรคระบาด
มหาวิทยาลัยอาร์ฮุสจากเดนมาร์กทำการสำรวจ โดยเห็นว่าหากไม่สามารถควบคุมจำนวนที่เพิ่มขึ้นของหมูป่าในรัฐซัสแคตเชวัน อย่างมากเพียงห้าปีประชากรหมูก็จะมีจำนวนมากกว่าประชากรคน
มหาวิทยาลัยนี้สำรวจเขตชุมชนที่ห่างไกล296ที่ และได้ผลว่ามี70ชุมชนที่มีหมูป่าปรากฏ แสดงถึงการเคลื่อนไหวของหมูป่ากับขอบเขตถิ่นที่อยู่ที่เกินมาจากการคาดการณ์อย่างมาก
นอกจากรัฐซัสแคตเชวัน รัฐซัสคาเซวานก็เผชิญหน้ากับภัยหมูป่าเหมือนกัน เริ่มจากเมื่อปีก่อนรัฐนั้นกำลังตัดสินใจจะใช้นโยบายให้ประชาชนที่มีปืนยาวล่าหมูป่าปีละสองตัวซึ่งได้รับการโต้แย้งจากประชาชน เราซื้อปืนมาไม่ได้เอามาไว้ล่าหมูซะหน่อย รัฐบาลไม่ทำอะไรก็อย่ามาให้ประชาชนทำ!
หมูป่าที่คุกคามแคนาดาในตอนนี้ไม่ใช่หมูป่าที่เกิดในพื้นที่ แต่เป็นถูกนำเข้ามาเลี้ยงเป็นสัตว์ฟาร์มในปี1990
แต่หมูป่าบางส่วนหนีไปและปรับตัวกับฤดูหนาวอันหนาวเหน็บของแคนาดาจึงขยายพันธุ์จำนวนมากและขยายอาณาเขตอย่างรวดเร็วจนกลายเป็น “ภัยหมู”
จากการสำรวจพบว่าผลจากการแพร่พันธุ์จำนวนมากของหมูป่าทั้งแคนาดาร้ายแรงมาก โรคระบาดแพร่ พืชผลเสียหาย ปศุสัตว์ถูกรบกวน โครงสร้างระบบนิเวศทางธรรมชาติเสียหาย บางครั้งยังมีเคสหมูป่าโจมตีคน รวมๆแล้วหมูป่าสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจแคนาดาสูงถึงปีละสี่พันล้านเหรียญ!
ฉินสือโอวแชร์ข่าวนี้ในQQ เหล่าเพื่อนๆก็มาตอบอย่างรวดเร็ว
“ข่าวปลอมหรือเปล่า หมูป่าก็กลายเป็นภัยได้? แค่กินซะก็สิ้นเรื่อง”
“ต่อให้กินไม่ได้ แคนาดาก็ทำบริษัทล่าหมูป่ามาขายที่จีนก็ได้ ถ้าตามที่ข่าวว่าล่ะก็กำไรเห็นๆ!”
“เฮ้ย ฉันจะไปแคนาดา ฉันจะไปอาศัยฉินโซ่ว ฉันจะไปล่าหมูป่ากิน”
“ฉินโซ่วไปล่าหมูป่าเถอะ ทำเบคอนเยอะๆ เอามาให้เพื่อนๆกินหน่อย”
“……”
ฉินสือโอวกวาดตาอ่านคอมเมนต์คร่าวๆ ตอบบ้างเป็นบางอัน เขาคิดๆดูแล้วเปลี่ยนแคปชั่น ใครยินดีมาเที่ยวนิวฟันด์แลนด์ ขอแค่ออกค่าเดินทางเอง ฉันดูเรื่องกินดื่ม ที่อยู่ เที่ยว ตกปลาล่าสัตว์สนุกแน่นอน!
พอเปลี่ยนได้ไม่เท่าไร เหมาเหว่ยหลงก็โทรมา “ฉินโซ่ว แกไม่ได้ล้อเล่นใช่ไหม? ที่โน่นล่าสัตว์ได้ตามใจเหรอ?”
……………………………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset