ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 85 หมีน้อยในป่า

บทที่ 85 หมีน้อยในป่า
โดย
Ink Stone_Fantasy

“บนนั้นมีอะไรน่าดูกัน? ไม่มีสัตว์หรอก แล้วก็ไม่มีผักป่าด้วย นอกจากต้นไม้ไม่กี่ต้นก็เป็นโคลนตะกอน ผมแนะนำว่าอย่าขึ้นไปดีกว่า” ซีมอนสเตอร์พูดอย่างไม่เห็นด้วย
ชาร์คเห็นด้วยอย่างมาก เขาพูดยิ้มๆ “ตอนเด็กๆ เกาะนี้ยังใหญ่กว่านี้อีกหน่อย เราขึ้นไปเล่นบ่อยๆ เหมือนเป็นการสำรวจแล้วเรียกเกาะกลางทะเลสาบเหล่านี้ว่า ‘รังโจรสลัด’ แต่ทุกครั้งนอกจากคลุกจนตัวเปื้อนโคลนหมดก็ไม่เคยได้อะไรกลับมา”
“เราอาจจะหาสมบัติที่ถูกฝังซ่อนไว้ในปีนั้นเจอบนเกาะก็ได้” ฉินสือโอวพูด เขาเทียบเรือเข้าฝั่งแล้วลองเหยียบพื้นดูซึ่งก็แห้งดีจึงกระโดดลงจากเรือขึ้นไปบนเกาะ
ชาร์คกับซีมอนสเตอร์มองหน้ากันเองพร้อมความอยากที่ถูกจุดประกาย นั่นสิ ถ้าหา ‘สมบัติ’ ที่ตอนเด็กเอาไปฝังไว้บนนั้นเจอล่ะ?
ส่วนมากที่มีชีวิตรอดบนเกาะเล็กนั้นก็จะเป็นพวกเรดวู้ด ไซปรัสหนองน้ำ แล้วก็ต้นหลิว รากของต้นไม้ยึดอยู่ใต้โคลน ลำต้นมีทั้งที่ตรงและเอียง บางต้นก็รูปร่างบิดพลิ้วแปลกดูสวยแบบนามธรรม
ที่ฉินสือโอวแปลกใจก็คือ ต้นไม้พวกนี้ใช้ชีวิตใต้น้ำเป็นเวลานานจนมีหลายจุดเปลี่ยนแปลงไป อย่างรากของพวกมันที่กลายเป็นสีชมพูแดงสด!
ที่นี่ไม่ได้ไม่มีอะไรอย่างที่ชาร์คกับซีมอนสเตอร์บอก อย่างน้อยที่ริมน้ำก็มีปลา กุ้ง ปูน้ำจืดซ่อนตัวอยู่ไม่น้อย ใบไม้และรากที่ทับถมเป็นเวลานานเกิดเป็นสารอาหารให้กับสัตว์น้ำตัวเล็ก ดึงดูดให้พวกมันมาพัก
นอกจากนั้นเกาะเล็กๆแห่งนี้ยังเป็นจุดพักของนก พวกมันมาจับปลาในทะเลสาบ เหนื่อยก็สามารถหยุดพักที่นี่ได้ ต้นไม้เป็นร้อยบนบกแทบจะมีรังนกมากกว่าหนึ่งรังทุกต้น
พอนกถ่ายรอบๆเกาะก็สามารถเป็นอาหารที่มีสารอาหารสูงให้พวกปลาได้ ปลารอบเกาะก็จะเยอะขึ้น
ฉินสือโอวหยิบใบไม้เน่าริมเกาะออกก็เจอกับปลาไพค์อเมริกาเหนือสองสามตัว ปลาแฮร์ริ่งแม่น้ำกับปลาซัคเกอร์กำลังว่ายหนีอย่างตื่นตกใจ
จะว่าไปก็น่าสงสาร ปลาพวกนี้เคยเป็นเจ้าของทะเลสาบเฉินเป่า ตอนนี้โดนปลาไนเอเชียบีบจนได้แต่หาที่ริมน้ำอยู่เพื่อเอาชีวิตรอด
“เฮ้อ พืชน้ำในทะเลสาบน้อยลงไปมากเลย  ปลาไนเอเชียตะกละมาก ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป คงไม่มีพืชน้ำในทะเลสาบอีก ถึงตอนนั้นก็คงไม่มีปลาแล้ว” ชาร์คมองริมน้ำครู่หนึ่งแล้วพูดขึ้นอย่างเศร้าสร้อย
ฉินสือโอวยักไหล่แล้วพูดขึ้น “ถ้างั้นเราทำกิจกรรมรับบริจาคในเมืองดีไหม แล้วซื้อเมล็ดพืชน้ำ เอามาปลูกที่ทะเลสาบ เหมือนที่เราปลูกสาหร่ายที่พื้นที่ประมงไง”
พวกเมล็ดพืชน้ำกับสาหร่ายที่เขาซื้อมาคราวที่แล้วเยอะมาก แต่นั่นก็เอาไว้สำหรับทะเลเท่านั้น มันโตไม่ได้ในเขตน้ำจืด
ในแถบอเมริกาเหนือ การรักษาสิ่งแวดล้อมกับเพิ่มพื้นที่สีเขียวเป็นหัวข้อที่นิยม ทำอันนี้ค่อนข้างจะเปลืองเงิน พื้นที่ของทะเลสาบเฉินเป่ากว้างถึงแปดเก้าสิบตารางกิโลเมตร ถ้าจะปลูกพืชน้ำอย่างน้อยต้องใช้เมล็ดห้าหมื่นดอลลาร์ถึงจะพอ
สถานะทางการเงินของชาวเมืองแฟร์เวลก็ไม่ค่อยดี แค่ส่วนหนึ่งของห้าหมื่นก็เป็นการกดดันมาก ไอเดียนี้ทำจริงไม่ได้แน่ เพราะคนแคนาดามีอะไรก็จะไปหารัฐบาล ยิ่งโดยเฉพาะทะเลสาบเฉินเป่าที่ถือเป็นที่สาธารณะ
เดินวนไปรอบเกาะเล็ก ดูๆแล้วบนเกาะน่าจะไม่ค่อยมีใครมา นกที่มาพักบนเกาะสร้างรังนกค่อนข้างตามสบาย ฉินสือโอวเดินไปถึงข้างต้นหลิวที่ลำต้นโค้งเอียง มีรังนกอันหนึ่งที่สูงกว่าหัวเขานิดเดียว
พอฉินสือโอวเข้าไปใกล้ก็มีนกตัวหนึ่งบินพึ่บพั่บออกมาจากรัง ขนสีเทาดำ เป็นนกมุดน้ำอเมริกาเหนือที่เจอได้บ่อยในแคนาดา
นกบินหนีไปแล้ว ในรังยังมีไข่นกขนาดประมาณไข่ไก่อีกสี่ฟอง ฉินสือโอวถือขึ้นมาดูในมือก็พบว่าไข่นกยังอุ่นอยู่
พอเห็นลูกตัวเองโดนแตะต้อง นกมุดน้ำอเมริกาเหนือก็บินวนอยู่ด้านบนพลางส่งเสียงร้องไปด้วย คงกำลังด่าฉินสือโอวว่าใช้ไม่ได้อยู่
ฉินสือโอวกลับคิดจริงจังว่าอยากจะทำไข่นกผัดกุยช่าย ทั้งอร่อยและมีประโยชน์ แต่นี่ก็แต่ความคิด เขาดูๆอีกก่อนจะเอาไข่วางกลับไปไว้ที่เดิม
ที่ขึ้นเกาะมาครั้งนี้ก็ใช่ว่าจะไม่ได้อะไรกลับไปเลย เพราะความชื้นโดยเฉพาะในตอนกลางคืน ทะเลสาบเฉินเป่าจึงมีหมอกลง บนเกาะจึงมีพืชตระกูลราขึ้นอยู่มาก ฉินสือโอวเห็นเห็ดที่มีดอกสีเทาและก้านสีเหลืองน้ำตาล เห็ดนี้มีชื่อมากที่บ้านเกิดเขาเรียกว่าเห็ดหอมภูเขา
สำหรับฉินสือโอวแล้วเห็ดชนิดนี้เต็มไปด้วยความทรงจำ ตอนเด็กๆบ้านเขาฐานะไม่ค่อยดี ปกติไม่มีเนื้อกิน หลังฝนตก แม่เขามักจะหาเห็ดหอมภูเขาแบบนี้ตามซอกไม้บริเวณบ้าน หลังจากผัดน้ำมันแล้วจะหอมมาก อร่อยกว่าเนื้อเสียอีก
ในป่ายังมีเห็ดประเภทอื่นอีกซึ่งฉินสือโอวไม่รู้จัก แต่ชาร์คกับซีมอนสเตอร์ต่างรู้จัก และแนะนำให้เขาฟังไม่หยุด “นี่คือเห็ดบราซิล กินได้ อันนี้คือเห็ดฟางนิวฟันด์แลนด์ รสก็ใช้ได้ อ้อ เมื่อก่อนยังเคยเจอเห็ดแดงออนแทริโอด้วย รสดีกว่าอีก…..”
ฉินสือโอวถอดเสื้อ เก็บพวกเห็ดที่มั่นใจว่ากินได้มาส่วนหนึ่งอย่างระมัดระวังโดยเฉพาะเห็ดหอมภูเขาที่หาได้เยอะกว่า รวมๆกันน่าจะมีถึงสามสี่กรัม
“เรากินไม่ได้เยอะขนาดนี้มั้ง?” ชาร์คถาม คนแคนาดาเก็บของจากป่าไม่ว่าจะเป็นเห็ดหรือเบอร์รีก็จะเก็บแค่พอดี เพราะพวกเขาได้รับการสั่งสอนมาแบบนี้ตั้งแต่เด็กๆ
ฉินสือโอวพูด “อันที่สดก็ผัดกิน ส่วนที่เหลือก็ราดน้ำมันแล้วตากแห้ง อร่อยกว่าเยอะ”
พวกเห็ดไม่จำเป็นต้องคุ้มครอง ขอแค่เหลือไฮฟีไว้ก็เหมือนทิ้งเมล็ดไว้ ถ้าความชื้น อุณหภูมิ และแสงเหมาะสมพวกมันก็งอกขึ้นมาได้อีก เห็ดพวกนี้เน่าไว ถ้าฉินสือโอวไม่เก็บอีกไม่กี่วันก็จะเน่าไปเอง
ชาร์คกับซีมอนสเตอร์นับถือในฝีมือทำครัวของฉินสือโอวมาก พอได้ยินว่าเห็ดนี่สามารถทำเป็นอาหารโอชะได้สองคนก็เก็บกันไวกว่าฉินสือโอวเสียอีก แยกกันเป็นสองทางแล้วไล่เก็บเห็ดหอมเท่าที่หาได้
ยิงปลาอีกพักหนึ่ง ทั้งสามคนยิงปลาไนเอเชียได้สี่สิบกว่าตัวจนเริ่มเหนื่อยเตรียมจะกลับ และเจอดอนกับแฮมเล็ตพอดี บนเรือสำหรับสองคนมีอุปกรณ์สำหรับดำน้ำและเครื่องตรวจมากมาย ฉินสือโอวทักทายแล้วเอ่ยถาม “จะไปทำอะไรกันเหรอ?”
ดอนโบกมืออย่างกระตือรือร้นพลางอธิบาย “เราจะไปดูในน้ำหน่อย ดูสิว่าจะหาฟอสซิลเจอบ้างไหม ใช่สิ ฉิน คราวที่แล้วนายเจอฟอสซิลฟันฉลามกินซูที่นั่นใช่ไหม?”
ฉินสือโอวเกาหัวแล้วยิ้มขมขื่น “ทำเอาผมตอบไม่ถูกเลย เพื่อน ตอนนั้นผมมัวแต่วุ่นอยู่กับการยิงปลา ไม่ได้สนใจเรื่องนั้น”
แฮมเล็ตกับดอนถอนใจอย่างเสียดาย แบบนี้พวกเขาก็ได้แต่งมเข็มในมหาสมุทรแล้ว
ใช่ งมเข็มในมหาสมุทร สำหรับทะเลสาบเฉินเป่าที่มีเนื้อที่ราวแปดเก้าสิบตารางกิโลเมตร เส้นทางแห่งการตามหาฟอสซิลของพวกเขามันเป็นการงมเข็มในมหาสมุทรดีๆนี่เอง
ฉินสือโอวถาม “การหาฟอสซิลพวกนั้นให้เจอสำคัญมากเลยเหรอ?”
ถ้าสำคัญจริง เขาจะได้หาโอกาสใช้จิตสำนึกโพไซดอนหาในทะเลสาบดู
แฮมเล็ตพยักหน้าแล้วพูดขึ้น “ใช่ ถ้าหาฟอสซิลพวกนั้นเจอ รัฐบาลก็จะให้รางวัลกับเรา ถ้าหาเจอเยอะ เราทำได้แม้กระทั่งจัดนิทรรศการในเมือง พอได้เงินมาก็สามารถพัฒนาพื้นฐานของเมือง อย่างการซื้อเมล็ดพืชน้ำมาปลูกในทะเลสาบ”
ได้ยินแฮมเล็ตพูดแบบนั้นฉินสือโอวก็แอบนับถือเขา นายกเทศมนตรีคนนี้ทำหน้าที่เต็มที่จริงๆ เขาพยายามใช้สมองคิดอย่างหนักมาตลอดเพื่อที่จะพัฒนาเมืองนี้ ตอนที่เขาอยู่จีนไม่เคยเห็นนายกเทศมนตรีคนไหนที่จะดำลงไปหาฟอสซิลที่อาจจะมีอยู่ใต้ทะเลสาบเพื่อที่จะพัฒนาชีวิตของชาวเมืองเลย
ฉินสือโอวพยายามนึก เขากระจายจิตสำนึกโพไซดอนลงไปในทะเลสาบ หาบริเวณที่เขาเคยเจอฟันฉลามกินซูครั้งที่แล้ว เขานำทางทั้งสองแล้วค่อยจากไป
ถึงเวลากินข้าวกลางวัน ชาร์คกับซีมอนสเตอร์ก็ย่างขนมปังรอฉินสือโอวทำเห็ดหอมภูเขาผัด
กับข้าวนี้ทำง่ายมาก เน้นที่รสของเห็ด รอน้ำมันเดือดแล้วก็เอาเห็ดที่ฉีกแล้วใส่ลงไป สุดท้ายก็ใส่เกลือกับซีอิ๊วเล็กน้อยก็เสร็จแล้ว
กับข้าวจานนี้ต้องใช้เกลือหยาบไม่ใช่เกลือละเอียด เพราะเกลือหยาบกระจายตัวไม่ดี แบบนี้พอกัดลงไปได้รสอร่อยของเห็ดเคล้ากับความเค็มจากเม็ดเกลือรสชาติดีสุดๆ
ชาร์คกับซีมอนสเตอร์กินกับขนมปัง ส่วนฉินสือโอวต้มเส้นสปาเกตตีแล้วใช้น้ำมันที่ผัดคลุกซึ่งหอมมาก
“น่าเสียดายที่ไม่มีน้ำมันหมูแล้ว ไม่งั้นถ้าใช้น้ำมันหมูผัดจะอร่อยกว่านี้อีก” ฉินสือโอวโซ้ยเส้นพลางพูดไปด้วย
ชาร์คกินขนมปังแจ๊บๆพลางพูดอู้อี้ “บ่ายนี้เราเริ่มขุดแบ่งน้ำสายย่อยมาจากแม่น้ำ แล้วย้ายเป็ดไก่หมูไป ให้พวกมันโตไวๆหน่อยแบบนั้นจะได้กินเร็วๆดีไหม?”
อารมณ์จะทำก็ทำทันที พอกินอิ่มชาร์คก็เข้าเมืองไปหาเครื่องขุดขนาดเล็กเครื่องหนึ่งแล้วขับเข้าพื้นที่ประมงเสียงกระหึ่ม หาจุดโล่งๆท่ามกลางป่าแล้วเริ่มขุดร่องน้ำ
พวกเขาหาทางเป็นเส้นตรง แพลนจะขุดสายน้ำแบ่งกว้างประมาณหนึ่งเมตร ลึกครึ่งเมตร แบบนี้ก็เท่ากับเปลี่ยนเส้นทางน้ำของแม่น้ำเขาสูง
เออร์บักมาเยี่ยมพอดี ฉินสือโอวพูดกับเขาอย่างภูมิใจ “เป็นไงลุง งานที่เราทำเรียกได้ว่าอลังการไหม?”
เออร์บักมองเขาแปลกๆแล้วถาม “พวกนายอยากให้น้ำไหลผ่านโรงเลี้ยงใช่ไหม? ถ้าแบบนั้นทำไมไม่สร้างโรงเลี้ยงที่ต้นน้ำปากอ่าวไปเลยละ? คร่อมกลางสองฝั่งก็ได้แล้วนี่?”
ฉินสือโอวฟังคำพูดเขาแล้วกะพริบตาปริบๆ ซีมอนสเตอร์ที่อยู่ข้างๆก็กะพริบตาเช่นกัน ชาร์คเห็นพวกเขาเงียบเลยกระโดดลงมาจากเครื่องขุดแล้วถามว่าเกิดอะไรขึ้น
ได้ยินคำแนะนำของเออร์บัก ชาร์คก็ได้แต่กะพริบตา ไม่มีใครพูดอะไรอีก
ถึงตอนนั้นฉินสือโอวถึงได้รู้ว่าอยู่กับคนโง่นานๆไอคิวของคนก็ลดลงได้…..
“ตอนนี้ทำไง?” ชาร์คมองรั้วที่ปักเสร็จเรียบร้อยแล้วถาม
ฉินสือโอวมองทางน้ำที่ขุดไปได้ครึ่งหนึ่งแล้วโบกมืออย่างไร้เรี่ยวแรง “ช่างเถอะ เพื่อน ขุดต่อเถอะ แต่ขุดตื้นหน่อยนะ ลึกยี่สิบเซนติเมตรก็พอ เราอย่าเปลี่ยนเส้นทางน้ำ แบ่งมาสายหนึ่งก็พอ”
ชาร์คทำงานต่อ ขึ้นไปบนเครื่องขุดกำลังจะจุดไฟ ทันใดนั้นก็ร้องขึ้นมา “เฮ้ย หมี ผมเห็นหมีน้อยสีน้ำตาล!”
ฉินสือโอวรีบวิ่งไป ซีมอนสเตอร์ร้องตะโกนขึ้น “กลับมาก่อนบอส เราต้องเตรียมปืน! เราต้องการปืน!”
ชาร์คยืนอยู่บนรถแล้วชี้ไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ ฉินสือโอวมองตามก็เห็นหมีสีน้ำตาลเทาหมอบอยู่บนต้นไม้หลังต้นสปรูซต้นใหญ่ต้นหนึ่งกำลังแอบโผล่หัวออกมามองพวกเขา
………………………………………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset